ตอนที่85 เธอในวันนี้น่ารักมาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่85 เธอในวันนี้น่ารักมาก
ต๭นที่85 เธอในวันนี้น่ารักมาก “ ใช่ค่ะ ฉันดื่มเหล้าแล้ว ฉันรู้สึกไม่สบายใจมาก คนอื่นล้วนพูดว่าใช้สุราดับกังวล แต่ฉันดื่มสุราแล้วก็ยังรู้สึกไม่สบายใจมากอยู่ ” ฉันพาดตัวบนโต๊ะน้ำชา ถือโทรศัพท์ พูดวกไปวนมา คนในปลายสายด้านนั้นเงียบไปสักพัก จึงพูดว่า “ ไม่ก็เล่าให้ฉันฟังเสียหน่อยเถอะ พูดออกมาก็อาจจะดีขึ้นอีกหน่อย ” “ ได้ค่ะ... ” ฉันสะลึมสะลือ ก็เริ่มถือโทรศัพท์พูดเรื่องต่างๆนานาระหว่างฉันกับดนุนัยอย่างไม่หยุดปาก ก็ไม่รู้ว่าพูดไปนานเท่าไรแล้ว หลังจากนั้นก็หลับไปแล้วโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอตื่นมาอีกทีก็ค่ำแล้ว ฉันปวดศีรษะเป็นอย่างมาก ลุกมาต้มบะหมี่ชามหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นเพื่อจะดูเวลา แต่พบว่าโทรศัพท์แบตหมดแล้ว เปิดโทรศัพท์ไม่ออกเลยสักนิด ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จำได้ว่าตอนเช้ายังดีๆอยู่เลย แค่โทร.เรียก120ให้ดนุนัยก็เท่านั้น ฉันชาร์ตแบตโทรศัพท์ ตัวเองไปกินบะหมี่ จนกระทั่งทานเสร็จ โทรศัพท์ก็เปิดออกแล้ว ฉันกดเปิดบันทึกการโทร พบว่าในนั้นมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้บันทึกไว้เบอร์หนึ่ง มองแว็บเดียวฉันก็จำได้ว่า นี่เป็นโทรศัพท์ของคนที่สงเคราะห์ทุนเรียนมหาวิทยาลัยแก่ฉัน! ฉันมองเวลาการโทร.แว็บหนึ่ง 132นาที “ แม่เจ้า ” ฉันตกใจแรง ทำไมฉันถึงได้คุยโทรศัพท์กับเขานานขนาดนี้! ฉันพยายามคิด ในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเหมือนกำลังร้องไห้บ่นว่าเรื่องบางอย่างกับเขา พลันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ที่จริงแล้วคนที่สงเคราะห์ทุนแก่ฉันคนนี้ ฉันไม่เคยเจอมาตลอด ในจินตนาการของฉันเขาก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ใส่ใจดูแลฉันเป็นอย่างมาก ปกติแล้วฉันส่งเอสเอ็มเอสหาเขาล้วนใช้ภาษาสุภาพ แต่โทรศัพท์เป็นเวลานานขนาดนี้อย่างไม่คาดคิด... ฉันกลัวจริงๆว่าตัวเองจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูด เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องที่กลัวนั้นเกิดขึ้น ฉันส่งข้อความไปขอโทษเขา พูดว่าตอนกลางวันตัวเองดื่มเยอะแล้ว ถ้าพูดอะไรไม่ดีออกไป ขอให้เขาโปรดเก็บความไม่พอใจนั้นไว้ พอส่งเสร็จแล้วใจฉันเป็นกังวลเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับจากเขา: ไม่มี เธอในวันนี้น่ารักมาก น่ารัก เขาพูดประโยคนี้ หัวสมองของฉันปรากฏภาพผู้ใหญ่อายุสี่สิบห้าสิบปีคนหนึ่ง พูดอย่างจริงใจและจริงจังกับรุ่นน้องคนหนึ่งว่า “ น่ารัก ” ฉันรู้สึกละอายใจเล็กน้อย ยังพูดขอโทษต่ออีกหน่อย หลังจากที่วางโทรศัพท์ไว้แล้ว ไปล้างหน้าในห้องอาบน้ำ ตอนที่เข้าไป เห็นแปรงสีฟันไฟฟ้ากับแก้วสำหรับใช้บ้วนปากของดนุนัยยังวางอยู่บนซิงค์น้ำ ใจฉันปวดแสบอยู่ครู่หนึ่ง หยิบของพวกนั้นก็โยนเข้าไปในถังขยะด้านข้าง หลังจากนั้น เห็นรองเท้าแตะของเขา โยนทิ้ง ปากกาที่เขาทิ้งไว้ที่นี่ โยนทิ้ง ฉันค้นในบ้านรอบหนึ่ง นำของที่เมื่อก่อนดนุนัยเอาเข้ามาใช้ทั้งหมดล้วนโยนทิ้งไป นั่งบนโซฟา เอียงศีรษะ เห็นว่าบนหนังโซฟามีผมสั้นเส้นหนึ่ง แม้ฉันก็ผมสั้น แต่เส้นนี้สั้นกว่าผมของฉันตั้งเยอะ เป็นของดนุนัย ฉันโยนผมเส้นนั้นทิ้งไป ทั้งร่างเหมือนตกอยู่ในอำนาจเวทย์มนต์ สวมถุงมือยาง เริ่มทำความสะอาดห้องน้ำ ฉันยกน้ำตุ่มหนึ่ง ด้านในหยดน้ำยาฆ่าเชื้อยี่ห้อ84ลงไปไม่กี่หยด เริ่มใช้เศษผ้านำทั้งห้องเช็ดทุกซอกทุกมุมหนึ่งรอบ จนกระทั่งฉันจัดการเสร็จหมดแล้ว ก็เป็นกลางดึกของอีกวันแล้ว ฉันเปิดไฟให้สว่างที่สุด ทุกห้องล้วนหาหนึ่งรอบ แน่ใจว่าไม่มีร่องรอยการเคยมีอยู่ใดๆของดนุนัยอีกฉันจึงยอมหยุดพักแต่โดยดี ตอนที่ฉันจัดเก็บเสร็จทั้งหมด ตอนที่กลับถึงบนเตียง จึงพบว่าในโทรศัพท์มีเอสเอ็มเอสฉบับหนึ่ง จากติณณา ตั้งแต่ที่เธอขึ้นตำแหน่ง งานก็ยุ่งเป็นอย่างมาก แทบจะไม่ได้อยู่ในประเทศ เวลาที่อยู่ที่เมืองดรัลก็น้อยลงแล้ว ในวีแชท เธอพูดว่าคืนนี้ตัวเองจะบินกลับประเทศ ถึงประมาณพรุ่งนี้เที่ยงวัน ตอนนี้อยู่บนเครื่องเรียบร้อยแล้ว ถึงตอนนั้นก็ทานข้าวด้วยกัน ด้านล่างเธอยังแนบรูปถ่ายมาใบหนึ่ง เนื่องจากเวลาต่างกัน ที่ที่เธออยู่นั้นยังเป็นเวลากลางวัน ฉันเหลือบมองเวลาแว็บหนึ่ง เป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว ฉันส่งข้อความตอบกลับหาติณณาฉบับหนึ่ง ก็นอนแล้ว ช่วงสายของวันที่สอง ฉันถูกสายโทรศัพท์ของติณณาส่งเสียงดังจนตื่น ฉันรับโทรศัพท์ ประโยคแรกของเธอก็คือ “ ตีสี่ไม่นอน เธอโต้รุ่งหรือ? ” เดิมทีฉันนอนหลับอย่างสะลึมสะลือ สุดท้ายถูกประโยคนี้ของเธอทำให้หัวเราะขบขัน “ เปล่านะ ทำความสะอาดห้องน้ำนี่แหละ ” ฉันตอบเธอ “ ทำความสะอาดห้องน้ำ? ตอนนี้เธออาศัยอยู่ที่ไหน ทำความสะอาดห้องน้ำห้องหนึ่งจนถึงตีสี่! ” ฉันกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็บอกกับเธอถึงเรื่องที่ตัวเองอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านกรีนเฮ้าส์ เสียงพูดเพิ่งตกลง ฉันก็ได้ยินปลายสายด้านนั้นแว่วเสียงร้องแหลมเล็ก “ อะไรนะ? เธออาศัยอยู่ที่นั่นแล้ว! เธอกับดนุนัยคืนดีกันแล้ว! ” เสียงนี้ของเธอ ทำให้ความง่วงของฉันหายเป็นปลิดทิ้ง ฉันลุกขึ้นนั่ง เล่าให้เธอฟังสักพักว่าได้บ้านหลังนี้มาได้อย่างไร ติณณาพลันพูดว่า “ เธอส่งที่อยู่ให้ฉัน รอฉันนะ ฉันเก็บ สัมภาระเสร็จก็จะรีบมา ” ฉันส่งที่อยู่ให้เธอ ตัวเองก็ลุกจากเตียง ล้างหน้าแปรงฟัน ก็ทานข้าวเที่ยงก่อนเวลาแล้ว ยังทานข้าวไม่เสร็จ เสียงเคาะประตูก็แว่วมาจากปากประตู ติณณามาถึงแล้ว พอเธอเข้ามา ก็พลันวิ่งพล่านไปทั่วทุกห้อง สุดท้ายจึงนั่งบนเก้าอี้กินข้าว พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ คุณย่าของเธอดีกับเธอเกินไปแล้ว สมแล้วที่เป็นหมู่บ้านกรีนเฮ้าส์ วิสัยทัศน์กว้างไกลยิ่ง ” “ อืม ” ฉันหลุบตาลง ที่จริงแล้วถ้าเลือกได้ ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ บ้านหลังนี้มีขนาดประมาณ130กว่าตารางเมตร กลับมีแค่สองห้องนอน หลังจากนั้นก็เพิ่มห้องแต่งตัว ห้องอาบน้ำสองห้องและห้องน้ำสองห้อง ห้องรับแขกใหญ่โต ก่อนหน้านี้ตอนที่ดนุนัยยังอยู่ฉันก็ไม่รู้สึก แต่ตอนนี้อยู่คนเดียว เพียงแค่ไม่กี่วัน ก็รู้สึกว่าบ้านหลังนี้โล่งขึ้น พอติณณานั่งลงแล้ว หยิบขนมปังปิ้งแผ่นหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันขึ้นมา กินไปพลางเริ่มบ่นว่าทำงานลำบากไปพลาง การกลับกันของความต่างของเวลาลำบากเกินไปแล้ว ผิวก็แย่ลงแล้ว แม้แต่แฟนหนุ่มก็ไม่รอ บางทีนานมากแล้วก็ไม่มีคนที่จะคุยด้วยได้คนหนึ่ง ฉันได้ยินติณณาพูดเรื่องพวกนี้ ครู่ต่อมาจิตใจก็ผ่อนคลายลงมาแล้ว พูดกับเธอว่า “ ฉันอิจฉาเธอมาก ” “ เธออิจฉาฉันเรื่องอะไร! ฉันควรจะอิจฉาเธอมากกว่า ” ติณณามองหน้าต่างจรดเพดานบานใหญ่ “ เฮ้อ ฉันอยากมีย่าคนหนึ่งให้บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้กับฉัน ฉันก็อยู่บ้านเป็นหนอนข้าวทุกวัน ไม่ออกไปต่อสู้ดิ้นรนแล้ว ” ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ฉันไม่ได้พูดประโยคที่ติดค้างอยู่เลย “ งั้นเธอมาอยู่กับฉันเถอะ จนกว่าเธอจะแต่งงานออกเรือนไปค่อยย้ายออกไป แต่ก่อนหน้านั้นพวกเราล้วนอาศัยอยู่ด้วยกัน ” “ ฉันไม่ต้องการ ” ติณณาสั่นศีรษะ “ ฉันถือสิทธิ์ครอบครองเธอแบบนี้ ดนุนัยต้องไม่ยอมแน่ๆล่ะมั้ง ” ดนุนัย พูดถึงเขา จิตใจของฉันห่อเหี่ยวเล็กน้อย เงียบอยู่นานจึงพูดว่า “ ฉันหย่ากับเขาแล้ว ก็จะไม่ข้องเกี่ยวสัมพันธ์ใดๆอีกแล้ว ” “ อะไรนะ? ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย ” ติณณามองฉัน ขยิบตา ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “ เรื่องจริง ” ฉันนำเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เล่าให้ติณณาฟังคร่าวๆหนึ่งรอบ รวมถึงเรื่องที่ฉันถูกโยนความผิด เดิมทีอีกนิดเดียวก็จะทำให้จิณณาไปนั่งในคุกได้แล้ว ติณณาฟังแล้ว อารมณ์ก็ไม่ผ่อนคลายแบบนั้นเหมือนเมื่อครู่นี้อีกแล้ว แต่เธอเห็นฉันหดหู่เช่นนี้ ก็ยกรอยยิ้มขึ้น “ ก็ได้ ฉันอยู่เมืองดรัลไม่กี่วันนี้อยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่ก็ได้ไม่ใช่หรือ ตอนกลางคืนฉันจัดปาร์ตี้คืนสู่ความโสดให้เธอรอบหนึ่ง! ” “ เธออยู่เป็นเพื่อนฉันก็พอแล้ว ปาร์ตี้ก็ไม่ต้องแล้ว ” “ ต้องสิ! ก็ไม่ใช่ปาร์ตี้อะไร ก็คือพวกเราไประบายอารมณ์สักพัก เธออย่าเศร้าไปเลย ” ติณณายัดขนมปังไว้ในปาก แต่ฉันก็ฟังถนัดอย่างไม่เต็มใจนักว่าเธอพูดอะไร 
已经是最新一章了
加载中