ตอนที่90 ฉันจะประกาศสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเสียหน่อย
1/
ตอนที่90 ฉันจะประกาศสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเสียหน่อย
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่90 ฉันจะประกาศสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเสียหน่อย
ตนที่90 ฉันจะประกาศสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเสียหน่อย ฉันได้ยินดนุนัยกดลิฟต์ซ้ำ ไม่นานประตูลิฟต์ก็มาแล้ว เขาเข้าลิฟต์แล้ว ตอนที่ประตูลิฟต์ปิดตัวลงสักพัก ฉันแน่ใจว่าเขาไปแล้ว จึงจะหันไปขอโทษจรณ์ที่อยู่ด้านหลังว่า “ พี่จรณ์ ขอโทษค่ะ เขาเผลอโมโหใส่คุณเพราะฉัน ” “ ไม่เป็นไร ” จรณ์ว่า ฉันเงยหน้ามองเขา ชายหนุ่มมองมาที่ฉันผ่านแผ่นกระจกใส สายตาอ่อนโยน เขาเหมือนจะมองเห็นน้ำตาที่ขอบตาของฉัน เสียงอ่อนโยนลงมาแล้ว “ ดนุนัยอาจเป็นห่วงเธอมากจริงๆ ดังนั้นเขาจึงเผลอทำตัวไม่มีมารยาทแบบนี้ได้ อย่างน้อยฉันอยู่บ้านสุทรรศน์รังสสีมาหลายปีแบบนี้ ไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้กับใครมาก่อน ” “ มีอย่างที่ว่าจริงหรือ ” ฉันสั่นศีรษะยิ้มขมขื่น “ เขาอยู่บ้านสุทรรศน์รังสสีตั้งแต่เล็กจนโตอยากได้อะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ ไม่มีใครปฏิเสธได้ ก็ไม่มีใครขัดคำสั่งเขาได้ ” “ ไม่ใช่แค่เขา คนที่บ้านสุทรรศน์รังสสีล้วนเป็นแบบนี้ ที่จริงแล้วเกิดในครอบครัวแบบนี้... ” จรณ์พูดไปเรื่อยๆ หลุบขนตาลงเล็กน้อย ฉันสามารถมองออกถึงความสูญเสียในดวงตาของเขา ฉันอยากปลอบเขา ดังนั้นจึงพูดว่า “ พี่จรณ์ คุณอย่าเศร้าไปเลย ฉันก็เหมือนคุณ ตั้งแต่เล็กไม่ได้โตที่บ้านจันทร์พานิชย์ หลังจากนั้นตอนเรียนมหาวิทยาลัยสอบติดมหาวิทยาลัยที่เดียวกันกับจิณณา เพราะมีหน้าตาเหมือนกัน จึงถูกสนใจ สุดท้ายฉันจึงรู้ว่าฉันไม่ได้เกิดมาคนเดียว... ” ฉันเล่าเรื่องตัวเองส่วนหนึ่งอย่างวกไปวนมา จรณ์ตั้งใจฟังอย่างมาก จบแล้ว จึงพูดว่า “ ขอบคุณที่เล่าเรื่องส่วนตัวของเธอให้ฉันฟัง ดนุนัยไม่ถนอมเธอ เป็นการสูญเสียของเขา ” ดึกมากแล้ว ฉันบอกลาจรณ์กลับถึงในบ้าน วันนั้น ฉันก็นอนไม่หลับอีกคราว วันที่สอง ฉันฝืนถ่างตาแพนด้าไปทำงาน พอเข้าไปในห้องทำงาน ก็เห็นพวกเพื่อนร่วมงานล้อมวง ซุบซิบกันอยู่ตรงกัน ฉันไม่อยากฟัง ก็กลับไปนั่งบนที่นั่งของตัวเอง แต่หลังจากที่ฉันนั่งลง ดวงตาของพวกเธอทุกคนมองมาที่ฉันอย่างพร้อมเพรียง ฉันรู้สึกถึงสายตาจึงมองเข้าไป พวกเธอเปลี่ยนไปส่งสายตาอีกแบบ ครู่ต่อมาล้อมขึ้นมา คนหนึ่งในนั้นชิงถามฉันขึ้นก่อนว่า “ ณิชา เธอมีพี่น้องหรือเปล่า? ” “ ฉัน... ” ตามจิตใต้สำนึกฉันอยากพูดว่าไม่มี แต่ลังเลอยู่สักพัก ก็พูดว่า “ มี ” พอเพื่อนร่วมงานไม่กี่คนนั้นได้ฟัง ดวงตาล้วนเป็นประกายแล้ว ถามฉันต่อไปว่า “ แล้วพี่สาวของเธอต้องแต่งงานกับประธานดนุนัยของบริษัทนภากรุ๊ปจำกัดหรือเปล่า? ” ใจฉันแน่นตึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ยังแสร้งพยักหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเธอมองมาก็พูดว่า “ ว๊าว ณิชาดูไม่ออก เธอก็เป็นทายาทเศรษฐี ” “ใช่แล้วใช่แล้ว งั้นเธอจะไม่กลายเป็นน้องภรรยาของดนุนัยหรือ? ” “ถึงเวลาเธอให้ดนุนัยแนะนำหนุ่มโสดทายาทเศรษฐีแถวๆนั้นให้พวกเราหน่อยได้มั้ย? ” “ใช่ๆ ฉันก็ด้วย! ” พวกเธอพูดเหมือนนกกระจอกแตกรังอยู่ข้างหูฉัน ฉันรอให้พวกเธอพูดจบ จึงพูดว่า “ ขอโทษนะ ฉันมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับคนที่บ้านจันทร์พานิชย์ ” แต่ พวกเธอไม่เชื่อคำพูดของฉัน คิดว่าฉันหาข้ออ้างไม่ช่วยพวกเธอ ทยอยกันบ่นต่อว่า พูดว่า “ พวกเราก็ไม่แย่งรองประธานนภทีป์กับเธอแล้ว เธอแนะนำไม่กี่คนให้พวกเราจะเป็นไรไป เธอกลัวว่าพวกเราแต่งงานแล้วจะได้ดีกว่าเธอใช่มั้ยล่ะ? ” ฟังการคาดเดาที่ประหลาดพิกลของทุกคน ฉันเงียบไปสักพักจึงพูดว่า “ ถ้าฉันเป็นทายาทเศรษฐี อย่างนั้นแล้วฉันจะมา ทำงานที่นี่ทำไมล่ะ? ” พอฉันพูดจบ ไม่กี่คนเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก พึมพำไม่กี่ประโยคก็แยกย้ายสลายโต๋ไปแล้ว พอพวกเธอออกไป ฉันจึงเปิดหน้าเว็บเพจ เสิร์ชหาข้อมูลสักพัก พบว่าบ้านจันทร์พานิชย์เหมือนจะแพร่งพรายเรื่องนี้ให้สื่อรับรู้ตั้งนานแล้ว ก็เพราะเหตุนี้ ทำให้หุ้นจันทร์พานิชย์กรุ๊ปที่ตกมาตลอดกลับไปพุ่งขึ้นอีกครั้ง แต่ฉันก็มองแค่แว็บเดียว สองครอบครัวนี้ คนพวกนี้ นอกจากชยานีแล้ว คนอื่นก็ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับฉันแล้ว ชีวิตยังดำเนินต่อ เผลอแปปเดียวก็ถึงงานเลี้ยงประจำปีของบริษัท ก่อนที่วันนี้จะมาถึง ทุกคนในบริษัทล้วนนับวันตั้งตารอ มีแค่ฉันรับออเดอร์อยู่หลายงาน แค่ร่างแบบ และติดต่อลูกค้า ก็ถือว่าได้ใช้ทักษะความสามารถทั้งหมดของฉันแล้ว ที่จริงแล้วลืมเรื่องงานเลี้ยงประจำปีไปได้แล้ว จนถึงช่วงสายของวันนั้น ทุกคนล้วนต้องไปเอาชุดราตรี นภทีป์ถามฉัน ฉันจึงนึกเรื่องนี้ขึ้นได้ กิจกรรมสำคัญแบบนี้ ควรสวมชุดราตรี... แต่ตอนนี้ฉันเตรียมตัวอีกก็ไม่ทันแล้ว ฉันเหลือบมองงานที่กองสะสมเท่าภูเขาบนโต๊ะทำงาน พูดอย่างอึดอัดใจเล็กน้อย “ หรือไม่ก็ฉันไม่ไปแล้ว ” “ ได้ยังไงล่ะ บริษัทกำหนดมา ทุกคนต้องไป ไม่ไปปรับเงิน ” นภทีป์พูดอย่างจริงจัง ฉันขมวดคิ้ว ตอนนี้ฉันใช้ชีวิตด้วยการพึ่งเงินเดือนตัวเองทั้งสิ้น ไม่ได้แตะเงินปันผลของจันทร์พานิชย์กรุ๊ป ปลายปีเพิ่งจะจ่ายค่าส่วนกลางของบ้าน จ่ายไปแล้วหลายหมื่น ฉันปวดใจจนใกล้จะร้องไห้แล้ว ตอนนี้พอพูดเรื่องปรับเงิน ฉันก็สับสนแล้ว มองสูทเรียบๆชุดนี้ที่สวมอยู่บนตัว กัดฟันสักพัก “ งั้นฉันก็ไปแบบนี้เถอะ ” “ พอแล้ว ” นภทีป์มองการแต่งกายของฉัน ยิ้มขึ้นมาแล้ว “ ก็รู้ว่าเธอลืมแล้ว ฉันเตรียมแทนเธอเรียบร้อยแล้ว ” “ ห๊ะ! ” ขณะที่ฉันประหลาดใจอยู่นั้น นภทีป์ก็พาฉันออกจากห้องไป ขับรถมุ่งหน้าพาฉันไปถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เข้าไปในร้านร้านหนึ่งที่อยู่กลางชั้นหนึ่งพอดี พนักงานในร้านเห็นนภทีป์ เข้ามาพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ คุณผู้ชายสวัสดีค่ะ ชุดราตรีที่คุณสั่งไปแก้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ส่งเข้ามาแล้ว ” ขณะที่ฉันกำลังสงสัยอยู่นั้น ฉันก็เห็นพนักงานในร้านหยิบชุดราตรีสีน้ำเงินปักเพชรตัวหนึ่งออกมาจากไม้แขวนเสื้อ ชุดราตรีตัวนี้เก๋เป็นอย่างมาก ชายกระโปรงยาวมาก แม้จะดูอนุรักษ์นิยมเล็กน้อย แต่ข้างขาขวาเปิดออกเป็นร่องสูง ก็มีความเซ็กซี่เล็กๆอยู่บ้าง พนักงานในร้านหยิบรองเท้าส้นเข็มคู่หนึ่งออกมา เข้ากันกับชุดนี้ ฉันมองรองเท้าส้นสูงคู่นั้น ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง “ รองเท้านี้ส้นสูงเกินไปแล้วมั้ง ” “ ไม่เป็นไร วันนี้ฉันจะประคองเธอไปตลอดทาง รับรองว่าจะไม่ให้เธอล้มลงกองพื้น ” นภทีป์มองฉัน ยิ้มอย่างอ่อนโยน ฉันรู้ว่า นี่เป็นสิ่งที่เขาเตรียมเสร็จก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อไม่ขัดความคาดหวังของเขา ฉันก็ทำได้เพียงกัดฟันสวมขึ้นมา ต้องพูดว่า เสื้อผ้าตัวนี้ใส่พอดีตัวยิ่ง นำรูปร่างของฉันปรากฏออกสู่สายตาจนหมดเปลือก ตำแหน่งขอบเสื้อชั้นในถึงหน้าอกที่ซ้อนกันเป็นชั้นเล็กน้อย เผยให้เห็นตะขอเล็กๆเส้นหนึ่ง “ เท่าไรคะ? ” หลังจากที่ฉันสวมแล้วอยากจ่ายเงิน “ ฉันซื้อให้เธอ เธอคงจะไม่ทำให้ฉันเสียหน้าใช่มั้ย? ” นภทีป์ดูจะโกรธนิดๆ แม้ฉันจะรู้ว่าเป็นการเสแสร้ง กลับแค่กล่าวขอบคุณเขา เขาพาฉันขึ้นไปชั้นบน ชั้นบนมีร้านขายเครื่องประดับศีรษะ เครื่องประดับเพชรพลอยร้านหนึ่ง หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้ว พนักงานในร้านยังสามารถช่วยทำผมให้ฟรีได้ด้วย พนักงานในร้านช่วยฉันเลือกกิ๊บตัวหนึ่ง เพราะฉันผมสั้น ก็แค่นำส่วนที่เป็นผมหน้าม้าด้านหน้าของฉันจัดวางเสียหน่อย แต่ทั้งตัวคนดูมีความเป็นตะวันตกไม่น้อย พนักงานในร้านก็ช่วยฉันแต่งหน้า ยังจับคู่กับสร้อยคอเพชรสีน้ำเงินสวยเส้นหนึ่ง แต่ก็แค่งานศิลปะ ราคาก็ไม่แพง ฉันจัดการเสร็จทั้งหมดแล้ว เป็นเวลาห้าโมงกว่าแล้ว เขาพาฉันเดินออกจากห้างสรรพสินค้า แม้บนตัวฉันสวมชุดตัวใหญ่ แต่ยังคงรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มข้างกายทอดสายตา‘ชื่นชม’มา นภทีป์ก็เหมือนจะรู้สึกได้แล้ว วางมือบนไหล่ฉัน ฉันตกใจ เพียงได้ยินเขาพูดเบาๆว่า “ ไม่ได้ ฉันต้องประกาศสิทธิ์ความ เป็นเจ้าของเสียหน่อย ไม่อย่างนั้นผู้ชายคนอื่นเข้ามาชวนพูดคุย ฉันจะมีเรื่องกับเขาได้ ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่90 ฉันจะประกาศสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเสียหน่อย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A