ตอนที่95คุณมีภรรยา ฉันแต่งงาน เลิกกันด้วยดีแล้วนี่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่95คุณมีภรรยา ฉันแต่งงาน เลิกกันด้วยดีแล้วนี่
ต๭นที่95คุณมีภรรยา ฉันแต่งงาน เลิกกันด้วยดีแล้วนี่ “ไม่ใช่นะคะ” ฉันรู้สึกได้ว่าวันนี้นภทีป์แปลกไป จึงปลอบใจเขาก่อน “ฉันต้องการที่จะคิดให้ดีๆค่ะ เธอให้เวลาฉันหน่อยนะ” ปลายสายเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง หลังจากผ่านไปนานมาก ชายหนุ่มจึงพูดว่า “ตกลง” แล้ววางสาย ในตอนนั้นฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนภทีป์ถึงเป็นเช่นนี้ แต่เพียงแค่สามวัน ฉันก็เข้าใจแล้ว เพราะหลังจากนั้นสามวัน บริษัทของเราได้มีการเปลี่ยนมือ และมีเจ้านายคนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง ในวันนั้นฉันยังไม่ได้พบกับเจ้านายลึกลับ แต่ว่าข่าวลือเกี่ยวกับเขาก็ปลิวว่อนไปทั่วออฟฟิศแล้ว บ้างก็ว่าเขาเป็นคนแก่ บ้างก็ว่าเขาเป็นหนุ่มหล่อ ตอนเที่ยง ขณะที่ฉันไปกินข้าว ก็มองเห็นคนจากบริษัทเฟอร์นิเจอร์กำลังขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ที่จัดส่งมานั้นหรูหรามาก มีโซฟาหนังแท้ และโต๊ะไม้มะฮอกกานีขนาดใหญ่ มองเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วในหัวของฉันอดไม่ได้ที่จะปรากฏคนหนึ่งคน… แต่ฉันก็เลิกคิดอย่างรวดเร็ว จะเป็นดนุนัยไปได้อย่างไร เดิมทีบริษัทของเขาไม่ได้ทำเกี่ยวกับการงานออกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบตกแต่งภายใน ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องรวมหลายๆบริษัทขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีเงินให้เผาเล่นเสียหน่อย? ความจริงปรากฏชัดเจนว่า เขามีเงินให้เผาเล่น ในตอนบ่ายของการประชุม เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการประชุมของเหล่าผู้บริหารระดับกลางขึ้นไป แต่ฉันกลับถูกเรียกให้ไปร่วมประชุมอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่ฉันเข้าไปแล้วนั้น พบว่านภทีป์กลับไม่อยู่ที่นั่น ในการประชุม ผุสดีประกาศว่า ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วย CEO คนใหม่ “ฉัน? ผู้ช่วย CEO คนใหม่เหรอคะ?” ฉันเกิดความอึดอัดใจ ผุสดีพยักหน้า “ใช่แล้ว หลังจาก CEO คนใหม่ได้ดูข้อมูลพนักงานของบริษัทแล้ว คุณได้รับการคัดเลือก” “ยินดีด้วยนะ ณิชา” “ใช่แล้ว CEO คนใหม่นั้นเปี่ยมไปด้วยพลัง คุณอยู่กับเขาจะต้องมีอนาคตสดใสแน่นอน” “มีพนักงานผู้หญิงจำนวนมาก แล้วเลือกคุณ แสดงว่าคุณมีบางสิ่งที่พิเศษนะ” ผู้บริหารระดับกลางแสดงวคามยินดีเป็นอย่างมาก แต่บนใบหน้ามีความดูถูก ฉันรู้ดี ในความคิดของพวกเขา ฉันจะต้องใช้วิธีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสมเพื่อจะคว้าตำแหน่งนี้ การเป็นนักออกแบบคือความฝันของฉัน ความฝันของฉันคือเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่ยอดเยี่ยม! แต่ทว่าผู้ช่วยคืออะไร? ให้ทำงานเป็นผู้ช่วย CEO ร่วมไปด้วย ถึงแม้ว่าตามหลักการแล้วฉันจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้ แต่ว่าฉันไม่ต้องการที่จะละทิ้งความฝัน ใจของฉันเต้นแรงก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันไม่ทำงานผู้ช่วยค่ะ ฉันต้องการเป็นนักออกแบบ” ทันทีที่พูดออกมาทุกคนรอบตัวก็ใช้สายตาราวกับคนเสียสติมองมาที่ฉัน เพราะทุกคนรู้ว่างานผู้ช่วยนั้นสบายกว่าการเป็นนักออกแบบ ดูเหมือนว่าผุสดีจะไม่ได้แปลกใจกับข้อเสนอของฉัน เธอพูดกับฉันด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ CEOคนใหม่บอกมา ถ้าคุณจะปฏิเสธก็ไปบอกกับเขาด้วยตัวเองเถอะ” “เขาอยู่ที่ไหนคะ?” ฉันเอ่ยถาม เมื่อตัดสินใจที่จะพูด ฉันก็ไม่คิดจะถอยหลัง ผุสดีมองดูนาฬิกาข้อมือ “ห้าโมงเย็นเขาก็จะออกจากบริษัทแล้ว ตอนนี้คุณไปพบเขาได้เลย” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ตอนนี้สี่โมงครึ่งแล้ว หลังจากที่ฉันกล่าวขอบคุณผุสดีแล้ว ก็หันหลังเดินไปยังห้องทำงานของCEO ที่ชั้นบน ความจริงแล้วบริษัทไม่เคยมีห้องทำงาน CEO มาโดยตลอด เพราะ CEO คนก่อนเป็นพวกใช้คนอื่นทำงาน ดังนั้นห้องทำงานจึงว่างเปล่ามาตลอด คิดไม่ถึงเลยว่า CEO ใหม่คนนนี้จะนั่งลงทำงานด้วยตัวเอง ฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนตั้งใจทำงานและมีความรับผิดชอบ จะต้องเคารพความฝันของพนักงานอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ฉันมันไร้เดียงสาเกินไป ตอนที่ฉันเปิดประตูออกนั้น ประตูไม่ได้ล๊อคไว้ ฉันมองผ่านรอยแยกของประตูเขาไป มองเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นเคย ชายหนุ่มมองดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และไม่มีความคิดจะหันมาทางฉัน มองเห็นเขาแล้ว ชั่วขณะนั้นฉันก็เย็นเยียบไปทั่วทั้งตัว แล้วฉันก็เข้าใจว่าทำไมเมื่อวานนภทีป์ถึงพูดเช่นนั้น! ฉันผลักประตูออก เดินสองก้าวเข้าไปในห้องทำงาน แล้วถามว่า “ผู้จัดการดนุนัยคะ คุณปล่อยฉันไปไม่ได้เหรอคะ?” ดนุนัยเงยหน้าขึ้น มองดูฉัน ทันใดนั้นฉันมองเห็นความเจ็บปวดอยุ่ในดวงตาดำขลับนั่น แต่ถูกความเย็นชาปกคลุมไว้อย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “ในโลกใบนี้ สิ่งที่เป็นของฉัน ถึงฉันจะไม่ต้องการแล้ว แต่มันก็ยังต้องเป็นของๆฉัน เป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นของคนอื่น” “เหอๆ” ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกขบขันขึ้นมา “ผู้จัดการดนุนัยคะ คุณใช้เวลาคิดประโยคนี้นานไหมคะ?” บางทีอาจจะเป็นเพราะคำพูดของฉันครั้งที่แล้วว่าฉันเป็นเพียงขยะที่เขาไม่ต้องการ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องคิด” ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วมองดูฉัน “ครั้งแรกของเธอคือฉัน เธอก็ควรจะอยู่ข้างกายฉัน” คำพูดของเขา ทำให้ฉันรู้สึกตลกสิ้นดี! แต่ฉันไม่ได้หัวเราะ ฉันมองเขา พูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้จัดการดนุนัยคะ นี่ไม่ใช่ยุคโบราณนะคะ คุณเองก็ไม่ใช่องค์ฮ่องเต้ พวกเราเป็นแค่คู่นอนกันเท่านั้น ตอนนี้คุณมีภรรยาแล้ว และฉันก็แต่งงาน เลิกรากันด้วยดีแล้ว คุณยังยอมเสียไปไม่ได้อีกหรือ?” ฉันพูดจบก็คิดจะไป ชายหนุ่มกลับก้าวเข้ามาคว้าประตูได้ก่อน กดฉันลงกับโต๊ะกาแฟ บนโต๊ะกาแฟนั้นมีแจกันวางไว้อยู่ ฉันตกใจทำอะไรไม่ถูก ใช้มือข้างหนึ่งกวาดแจกันตกลงบนพื้น! แต่ฉันก็ข่มอารมณ์ไว้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วมองดนุนัย ถามเขาว่า “ผู้จัดการดนุนัย คุรชอบใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบนี้จริงๆสินะ?” ดนุนัยใช้กำลังกดฉันไว้ เอ่ยว่า “ใช่แล้ว เพราะว่าเป็นเธอไงล่ะ ไม่ว่าที่ไหนก็สามารถตอบรับความปรารถนาฉันได้ทุกที่” พูดพลางกดใบหน้าลงมา จุมพิตที่ใบหูของฉัน มือที่ไม่ซื่อสัตย์ ตอนแรกเหมือนจะต้องการแกะกระดุมเสื้อของฉัน แต่ว่า กระดุมเสื้อเชิ้ตนั้นแกะยากเกินไป เขาจึงกระชากออกทั้งแถว! กระดุมทั้งแถวปลิวออก และเสื้อเชิ้ตก็ไม่มีแล้ว! ฉันคิดจะใช้มือบัง แต่ก็ขยับมือไม่ได้ ชายหนุ่มยังคงเคลื่อนไหวต่อไป ฉันรู้ว่าทั้งชั้นนี้ไม่มีคนเลย ถ้าหากว่ายังคงทำเช่นนี้ต่อไป แล้วมีคนมาพบเข้า เห็นว่าฉันและเขาอยู่ในสถานการร์เช่นนี้ ก็คงไม่เข้ามาอยู่ดี ในตอนนี้เอง ทันใดนั้นในหัวของฉันปรากฏเป็นภาพของ นภทีป์ และยังมีคุณพ่อคุณแม่ของเขา ตั้งแต่แรกแล้วที่ในใจของฉันโหยหาความเมตตา และปรารถนาที่จะได้ร่วมเป็นครอบครัว ฉันพยายามขัดขืนให้แรงมากขึ้น และใช้แรงผลักชายหนุ่มออก ตะโกนเสียงดังว่า “ดนุนัย อย่าทำให้ฉันต้องเกลียดคุณเลย! ตอนนี้ฉันเป็นแฟนของนภทีป์แล้ว ขอร้องคุณด้วยเถอะ คุณอยากระบาย ก็ไปหาภรรยาของคุณสิ!” “ฉันต้องการแค่เธอ!” ดนุนัยไม่มีความคิดที่จะหยุดเลย! เสื้อผ้าบนตัวฉันเหลืออยู่ไม่กี่ชิ้นแล้ว ตอนที่ฉันกำลังหมดหวัง และโกรธแค้น ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก และมีกำปั้นตรงเข้ามา! “ผัวะ” เกิดเสียงนี้บนใบหน้าของดนุนัย! เขาหันหัวไป เดินเซไปสองก้าว ฉันยกหัวขึ้น มองเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า แล้วเอ่ยว่า “นภทีป์” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยชื่อเขา ตอนที่เอ่ยออกไปนั้น เหมือนมีแรงกระตุ้นให้ฉันต้องร้องไห้ ราวกับว่าเขาเป็นฮีโร่ของฉัน เขาจะมาปรากฏตัวในเวลาที่ฉันต้องการมากที่สุด นภทีป์มองฉันอย่างปวดใจ แล้วถอดเสื้อแจ๊กเก็ตออกมา หลังจากคลุมบนตัวฉันแล้ว ก็พูดกับดนุนัยว่า “ณิชาเป็นแฟนของฉัน” ดนุนัยเช็ดมุมปาก แล้วคำรามอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร บางทีอาจะเป็นเพราะแม้แต่เขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นน่าขัน ตัวเองไม่มีสถานะใดๆ นภทีป์ใช้มือโอบใต้เข่าของฉันแล้วอุ้มฉันขึ้น เดินออกมานอกประตู น่าแปลกใจก็คือ ดนุนัยไม่ไล่ตามมา จนฉันอยู่บนรถของนภทีป์แล้ว เขาจัดเสื้อแจ๊คเก็ตที่อยู่บนตัวฉัน ตรวจดูว่าฉันห่อหุ้มไว้อย่างเรียบร้อยดีแล้ว ก็พูดว่า “ขอโทษด้วยนะ เพราะฉันไม่มีความสามารถ ฉันไม่มีทางจะเอาชนะเขาได้ เธอเต็มใจจะไปอยู่ต่างประเทศกับฉันไหม?” “ฉันเต็มใจค่ะ” ในครั้งนี้ ฉันตอบโดยไม่ลังเลเลย 
已经是最新一章了
加载中