ตอนที่ 97 ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไป
1/
ตอนที่ 97 ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไป
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 97 ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไป
ตนที่ 97 ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไป ฉันไม่รู้ว่าดนุนัยไปตอนไหน แต่ว่าในวันนั้น ฉันนั่งอยู่ปากประตูเป็นเวลานาน กระทั่งไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นมาที่ปากประตูห้องโถง สิ่งแรกที่ฉันทำคือเปิดประตู ด้านนอกประตูไม่มีอะไร ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหนึ่งคืนแล้ว แต่ฉันก็ยังได้กลิ่นไวน์จางๆ ดูแล้ว เมื่อวานนี้ดนุนัยคงจะเมาจริงๆ กลับเข้าห้อง ฉันคิดจะโทรหานภทีป์ แต่พบว่ามีข้อความอยู่ มันมาจากดนุนัย เขาพูดว่า [ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไป อย่าให้ฉันได้เห็นเธออีก] เมื่อฉันได้เห็นข้อความนี้ ใจของฉันก็ขมขื่นขึ้นมา ลังเลอยู่สักครู่ หรือว่าจะโทรหานภทีป์ดี เดิมทีคิดจะบอกเขาว่าเมื่อวานนี้ดนุนัยบอกว่าตัวเขารู้เรื่องอะไรบ้าง แต่อย่างก็ตามโทรศัพท์โทรไม่ติดเป็นเวลานาน ตอนที่เขาโทรกลับมาก็เป็นตอนบ่ายแล้ว ในโทรศัพท์ ฉันฟังออกว่าเสียงของนภทีป์นั้นเหนื่อยมาก ตอนที่ฉันบอกเขาเรื่องนี้ นภทีป์ฟังอย่างเหม่อลอย ส่งเสียงไป ก็ไม่มีเสียงสะท้อนกลับมาหาฉัน ฉันพูดไปอีกสักพัก ทันใดนั้นเขากลับถามฉันว่า “เมื่อกี้นี้เธอพูดว่าอะไรนะ?” ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามเขาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?” “ไม่มีหรอก ไม่มีอะไร เพียงแต่ก่อนเดินทางมีอะไรต้องทำเยอะมาก ไม่ได้พักเลยน่ะ” เสียงของนภทีป์นั้นแหบพร่าอย่างมาก ราวกับไม่ได้พักผ่อนเลยจริงๆ ฉันควรจะยอมเชื่อตามนั้น วางสายแล้ว ฉันกลับเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า นภทีป์จะต้องพบกับความยากลำบากมากๆอย่างแน่นอน แต่ว่าเขาไม่อยากที่จะเพิ่มภาระให้ฉัน ดังนั้นจึงไม่บอกอะไรแก่ฉัน ในตอนบ่ายฉันก็ได้รับสายจากหมายเลขแปลกๆ ระบุว่าอยู่ในเขตบ้านเกิดของนภทีป์ ฉันลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพียงแค่กดรับสาย ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้จากปลายสาย “ณิชาจ๊ะ ฉันมีนภทีป์เป็นลูกชายคนเดียว พวกเราเลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่ ไม่ได้คาดหวังว่าว่าเขาจะเลี้ยงดูจนแก่ เพียงแค่หวังว่าเขาจะกลับมาบ่อยๆเท่านั้น” ฉันรู้ได้ในชั่วพริบตาว่า นี่คือแม่ของนภทีป์ “คุณป้า…” ฉันรู้ว่าทำไมเธอถึงโทรมา ชั่วขณะนั้นไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี แม่ของนภทีป์พูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วยว่า “ฉันรู้ว่าพวกเธอกำลังจะไปที่ไหน สถานที่นั้นมันไกลมาก ไปกลับต้องนั่งเครื่องบินมากกว่าสิบชั่วโมง ระยะนี้สุขภาพของฉันและพ่อของเขาก็ไม่เหมือนกันเลยในแต่ละวัน หรือถ้าหากมันเกิดเหตุเภทภัยอะไรอย่างคาดไม่ถึง บางทีแค่จะกลับมาดูใจพวกเราก็อาจไม่ทัน” แม่ของนภทีป์พูดมาถึงตอนนี้ ก็ร้องไห้หนักมากขึ้น อันที่จริงฉันเองก็เข้าใจความรู้สึกแม่ของเขา ฉันเอ่ยออกไปอย่างทนไม่ไหวว่า “คุณป้าคะ หนูกับเขายังไม่ได้จอง…” “เธออย่าโกหกฉันเลย” แม่นภทีป์สะอื้น “นภทีป์บอกหมดแล้ว ตั๋วเครื่องบินพวกเธอก็จองแล้ว ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว พวกเราจะพยายามชักจูงอย่างไรก็ไม่ฟังหรอก! พวกเราเลี้ยงนภทีป์มาแต่เล็กจนโตเขาเป็นเด็กฉลาดและเชื่อฟัง เป็นเธอที่อยากออกไปสินะ? เธออยากไปก็พึ่งพาตัวเองสิ ทำไมต้องดึงนภทีป์ไปจากบ้านเราด้วย!” พอแม่นภทีป์พูดไปพูดมา ทัศนคติเริ่มที่จะไม่ดีแล้ว เธอยังคงโอดครวญ และตัดสินว่าฉันจ้องจะจับลูกชายของเธอไปต่างประเทศ และขอร้องให้ฉันปล่อยนภทีป์ อย่าล่อหลอกนภทีป์ แม้แต่จะขัดการสนทนาฉันยังไม่มีโอกาสทำ ในตอนท้าย แม่ของเขาก็ยกเอาเรื่องฆ่าตัวตายขึ้นมา ร้องไห้พูดกับฉันว่า “ณิชา จะบอกความจริงให้เธอฟังนะ ทางป้าเตรียมยาฆ่าแมลงไว้แล้ว ถ้าเธอกับนภทีป์ก้าวเท้าไปเมื่อไหร่ พวกเราก็จะก้าวเท้ามาหยิบยาฆ่าแมลงไปดื่ม!” ได้ยินถึงตรงนี้ ฉันกลัวมาก รีบพูดว่า “คุณป้าคะ อย่าหุนหันพลันแล่นนะคะ! ฉันจะไปโน้มน้าวนภทีป์ค่ะ!” “จริงเหรอ?” เมื่อแม่ของนภทีป์ได้ยิน ในที่สุดเสียงก็นุ่มขึ้นและเสียงร้องไห้ก็หยุดลง “โอเค ณิชา ถ้าเธอพานภทีป์ไป พวกเราก็จะฆ่าตัวตาย แล้วใจเธอก็จะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต!” คิ้วที่ขมวดอยู่เล็กน้อย มันค่อยๆคลายลง แม่ของนภทีป์ที่ฉันพูดคุยด้วยครั้งนี้ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ เหมือนจะแตกต่างกับคนที่ฉันได้เจอตอนปีใหม่โดยสิ้นเชิง แต่ว่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนนั้นสำคัญอย่างยิ่ง ฉันยังคงต่อสายหานภทีป์ เมื่อโทรติดแล้ว ฉันชิงพูดก่อนว่า “นภทีป์ พวกเราไม่ต้องไปต่างประเทศกันดีไหม พวกเราแค่เปลี่ยนเมืองกันเถอะ” “ มีอะไรเหรอ?” นภทีป์ได้ยินฉันพูดเช่นนี้น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นไม่ดีอย่างมาก ฉันไม่ต้องการที่จะผลักความรับผิดชอบไปให้แม่ของนภทีป์ ดังนั้นจึงพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่คุ้นเคยกับชีวิตการอยู่ต่างประเทศ ฉันเป็นนักเรียนศิลปะ ภาษาอังกฤษก็ไม่ดีนัก ถ้าไปต่างประเทศ…” “ดนุนัยพูดอะไรกับเธอเหรอ?” ฉันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกนภทีป์ขัดจังหวะ น้ำเสียงของเขามีความขัดเคืองใจปรากฏชัด ฉันเกิดความประหลาดใจ แต่ยังเอ่ยปฏิเสธว่า “ไม่ใช่ค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย” “ถ้าอย่างนั้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เว้นแต่ฉันจะตาย” หลังจากนภทีป์พูดอย่างแน่วแน่จบแล้ว เขาก็วางสาย ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะให้ฉันได้อธิบาย การโทรคุยกันครั้งนี้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้มาอย่างประหลาด ราวกับเขาได้เปลี่ยนไปเป็นอีกคน แต่เมื่อฉันคิดถึงแม่ของนภทีป์แล้ว ฉันก็โทรกลับไปหาเขา แต่ครั้งนี้นภทีป์ไม่รับสายแล้ว ฉันโทรอีกหลายครั้ง ก็โทรไม่ติด ด้วยความสิ้นหวัง ฉันจึงทำได้แค่ฝากข้อความบอกกับเขาเรื่องที่แม่ของเขาพูดว่าถ้าพวกเราไปต่างประเทศ ท่านก็จะฆ่าตัวตาย ที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ ฉันได้รับข้อความตอบกลับจากนภทีป์อย่างรวดเร็ว เขาตอบกลับมาแค่สี่คำว่า [ท่านไม่ทำหรอก] ไม่ทำจริงๆเหรอ? ฉันรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของแม่นภทีป์นั้น เธอได้ซื้อยาฆ่าแมลงไว้แล้วจริงๆ ฉันส่งข้อความไปอีกหลายข้อความเพื่อชักจูงเขา นภทีป์เริ่มตอบหลับเพียงคำสองคำ จากนั้นไม่ตอบอีกเลย สามวันหลังจากนั้น นภทีป์มารับฉันที่บ้านเพื่อไปสนามบินด้วยกัน ตลอดทางฉันถามเขาซ้ำๆ ว่าเขาได้คุยกับที่บ้านดีแล้วหรือยัง นภทีป์ตอบอย่างคลุมเครือ ฉันรู้ว่า เขาไม่ได้พูด เป็นเพราะเมื่อคิดถึงท่าทีอันแน่วแน่ก่อนหน้านี้ของแม่ของนภทีป์แล้ว ฉันก็ตะโกนบอกคนขับรถที่อยู่ด้านหน้าทันที “หยุดรถ!” คนขับรถจอดรถไว้ที่ริมถนน ฉันพูดกับนภทีป์ว่า “ถ้าหากเธอไม่พูดกับคุณพ่อคุณแม่ของเธอให้เข้าใจ ฉันก็จะไม่ไปกับเธอ” ตอนแรกนภทีป์มองตรงออกไปด้านนอกหน้าต่าง แต่ตอนที่เขาได้ยินฉันพูด ใบหน้าที่อ่อนโยนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาแทน เขาจับมือของฉันแล้วถามว่า “เธอเสียใจแล้วใช่ไหม? รู้สึกว่าฉันสู้ดนุนัยไม่ได้เลยใช่ไหม? ดังนั้นเลยไม่คิดจะไปกับฉัน!?” เขาใช้แรงอย่างมากจับมือฉันไว้ ฉันรู้สึกว่ามือของฉันถูกบีบจนเจ็บ สีหน้าของชายหนุ่มทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “เจ็บนะ!” ฉันขมวดคิ้วและร้องตะโกน “ขอโทษนะ” นถทีป์ได้ยินฉันร้องตะโกนว่าเจ็บ ก็ตกใจอละรีบคลายมืออก จากนั้นก็จับมือที่เขาเพิ่งคว้าไว้ แล้วพ่นลมหายใจใส่ โดยไม่หยุดถามฉันว่า “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?” ฉันเห็นเขาตื่นตระหนกอย่างนี้แล้ว เลยส่ายหัว ตอนที่คิดจะเกลี้ยกล่อมเขาต่อ นภทีป์ก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “อย่าโน้มน้าวฉันอีกเลย ฉันเองก็ไม่ได้ตัดสินใจง่ายๆ” “แต่ว่า…” “รู้หรือเปล่า? ว่าฉันทำเพื่อเธอ พูดได้เลยว่าฉันได้แยกตัวออกมาแล้ว ถ้าฉันกลับไปที่บ้าน พ่อแม่ไม่เห็นด้วย แม้กระทั่งจะขู่คุกคามชีวิต แต่ฉันก็ยังจะยืนอยู่ข้างเธอ ดังนั้นสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดในเวลานี้ก็คือเธอเองก็จะยอมแพ้” นภทีป์มองดูฉัน สายตาของเขานั้นราวกับจะแตกสลายได้ ฉันรู้ว่าเขาพูดจริง นภทีป์คว้ามือของฉันเอาไว้ และพูดขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “อย่ากังวลใจเรื่องพ่อแม่ของฉันเลย พวกท่านแค่ยังไม่สามารถยอมรับได้ในขณะนี้ ฉันเชื่อว่าหลังจากที่พวกเรากลับมาเยี่ยมพวกท่านในภายหลัง พวกท่านจะยอมรับได้แล้ว” เขาพูดเช่นนี้ ฉันจึงไม่สามารถปฏิเสธได้เลย เพียงแค่ว่า ขณะที่พวกเรามาถึงสนามบิน ทำการปลี่ยนบัตรผ่านขึ้นเครื่อง และเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบความปลอดภัย โทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น เป็นสายมาจากเขตพื้นที่บ้านเกิดของนภทีป์
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 97 ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไป
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A