ตอนที่102 ที่คิดอยู่ในหัวสมอง ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งดีๆที่เขาทำให้ฉัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่102 ที่คิดอยู่ในหัวสมอง ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งดีๆที่เขาทำให้ฉัน
ต๭นที่102 ที่คิดอยู่ในหัวสมอง ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งดีๆที่เขาทำให้ฉัน ฉันไม่อยากใส่ แต่ว่าเสื้อผ้าในตอนนี้ของฉันไม่เหมาะที่จะหมกตัวอยู่บนเกาะจริงๆ ทำได้เพียงหาเสื้อผ้าที่ผ้าเยอะที่สุดตัวหนึ่งมาสวม จนกระทั่งฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ตอนที่ออกไปข้างนอกผิวกายก็ทาครีมกันแดด ดนุนัยก็เปลี่ยนกางเกง ชายหาดเสร็จแล้ว เส้นโค้งกล้ามอกที่สมบูรณ์แบบ กล้ามท้องแปดลูกที่สวยงามกำยำปรากฏออกสู่ภายนอกอย่างสมบูรณ์ ช่างเป็นอาหารตาจริงๆ ชายหนุ่มเหมือนจะเห็นว่าสายตาของฉันล่องลอยเล็กน้อย เดินเข้ามาหนึ่งก้าวจับมือฉันไว้ พูดว่า“ไปกันเถอะ พาคุณไปเดินเล่น” พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นทะเล ตอนเด็กๆฉันโตที่บ้านเด็กกำพร้า ไม่มีโอกาสออกไปเที่ยวเล่นอะไร พอโตขึ้น ฉันก็สาละวนอยู่กับการทำงาน หาเงิน ยิ่งไม่อยากออกไปเที่ยว แม้ว่าฉันจะยับยั้งอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่หลังจากที่มาถึง ฉันก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งไล่ตามน้ำทะเลที่ มีคลื่นขึ้นลง อดไม่ได้ที่จะเขียนชื่อตัวเองลงบนชายหาด ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ฉันเหนื่อยล้าหมดแรง นอนพักบนเก้าอี้นอนริมทะเล คนดูแลเกาะส่งน้ำมะพร้าวปักหลอดดูดมาให้ ฉันเพิ่งดื่มได้คำเดียว ก็ได้ยินดนุนัยพูดว่า“กลับไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องเข้ามาแล้ว” ฉันตกใจจนมือสั่น น้ำมะพร้าวหยดลงบนร่าง ตอนที่ฉันจะเอื้อมมือไปเช็ด ฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มก็ครอบมือฉันไว้ ก้มหน้าลง ใช้ลิ้นเช็ดน้ำมะพร้าว หลังจาก นั้นข้ามมานั่งบนเก้าอี้ชายหาด ดวงตาสีหมึกอยู่ท่ามกลางอาทิตย์อัสดงสีทองเหมือนระยิบระยับไปด้วยสีแห่ง อารมณ์ปรารถนา ฉันหดตัวไปด้านหลังอย่างควบคุมไม่ได้ ชายหนุ่มกลับยังตามมากดอยู่ ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งโอบเอวฉันไว้ อีกมือหนึ่งถือน้ำมะพร้าวขึ้น พอเอียง นำน้ำมะพร้าวเกินครึ่งล้วนเทลงบนเรือน ร่างของฉัน! “กรี๊ด!” ฉันตกใจ ชายหนุ่มก็กัดสายบิกินีของฉันแล้ว ก็วิ่งหนีไม่ทัน... ใช้เสียงแหบพร่าขอร้องฉันว่า“ที่รัก ผมอยาก” หลังจากนั้น ไม่รอให้ฉันตอบ ก็เริ่มการกระทำขั้นต่อไป หาดทรายสีทอง น้ำทะเลสีน้ำเงิน ลมทะเลน่าหลงใหล แต่การกระทำของชายหนุ่มกลับเป็นดั่งลมคลั่งฝนกระหน่ำ กลืนกินฉันอย่างบ้าคลั่ง ฉันหมกตัวอยู่บนเกาะกับดนุนัยเป็นเวลาทั้งหมดสามวัน จึงกลับถึงเมืองดรัล เพราะสามวันนี้ความบ้าคลั่งของชายหนุ่มระบายออกมา แม้ฉันจะเดินบนถนนสักครั้งก็ลำบากเล็กน้อย วันสุดท้าย ดนุนัยอุ้มฉันขึ้นสปีดโบ๊ท สุดท้ายพวกเรากลับถึงเมืองดรัล ถึงลานจอดรถใต้ดินของหมู่บ้านกรีนเฮ้าส์แล้ว เขาก็ลงมาจากที่นั่งคนขับ จะอุ้ม ฉัน ฉันปฏิเสธทันควัน“ฉันตัวหนักเกินไปแล้ว ไม่ต้องแล้ว” “ไม่ได้” ดนุนัยอุ้มฉันขึ้นมา ใช้เท้าปิดประตูรถเดินไปยังลิฟต์ เดินไปพลางพูดไปพลาง“ผมพบว่าผมอุ้มคุณ จึงจะยิ่ง รู้สึกได้ว่าคุณอยู่ข้างกายผมจริงๆ” คำพูดของเขาทำให้ฉันตะลึงงัน คำพูดของเขา มักจะทำให้ฉันเข้าใจผิด คิดว่าเขารักฉันมาก ถึงในบ้านแล้ว ในที่สุดเขายอมวางฉันลง ฉันหยิบมือถือออกมากลับพบว่าในนั้นมีหลายสายที่ไม่ได้รับ ล้วนมาจา กดวิษี หรือว่านภทีป์จะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว? ฉันมองดนุนัยเดินเข้าห้องอาบน้ำสักพัก หยิบมือถือเดินไปที่ห้องรับแขกก็กดโทร.ออกหาดวิษี “ณิชา วันนี้ฉันโทร.มาเพียงแค่ต้องการจะขอร้องเรื่องหนึ่ง ขอร้องคุณให้อยู่ห่างจากนภทีป์ตลอดไป อย่าทำร้าย เขาอีกเลย” พอโทร.ติด ดวิษีก็พูดกับฉันรอบหนึ่งอย่างเหี้ยมโหด ตอนนั้นครู่ต่อมาจิตใจของฉันก็แน่นตึงขึ้นมา“เกิดอะไรขึ้น? คุณแม่ของรุ่นพี่ตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า? ครั้งที่ แล้วหมอพูดว่าไม่มีอะไรแล้วไม่ใช่หรือ?” “ไม่มีอะไร? ”ดวิษีหัวเราะเย็นชา“คุณรู้มั้ยว่าทำไมแม่ของเขาถึงฆ่าตัวตาย? ยิ่งกว่าลูกชายตัวเองจะจากไป คนแก่คนหนึ่งทำงานหนักมาทั้งชีวิต ก็รอวันนั้นที่จะเกษียณอย่างมีศักดิ์ศรี สุดท้ายได้รับแจ้งกะทันหันว่าถูก ไล่ ออกแล้ว คุณว่าท่านจะรู้สึกยังไง” “ห๊ะ?” ฉันนิ่งอึ้งไป “เป็นอะไรไป? ประหลาดใจหรือ? เธอทำเรื่องแบบนี้ได้ ยังรู้สึกประหลาดใจ?”ดวิษีพูดอย่างจริงจัง“ฉันจะ บอกให้นะ ณิชา ฉันตรวจสอบแล้ว บริษัทของคุณแม่นภทีป์ได้รับเงินก้อนหนึ่ง ก็มาจากบริษัทนภากรุ๊ปจำกัด นี่ เป็นครั้งสุดท้าย! ถ้าคุณยังกล้าทำเรื่องที่ทำร้ายนภทีป์อีก ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่” พูดจบ ก็วางสายไปแล้ว ฉันมองโต๊ะที่วางโทรศัพท์นิ่งอึ้งไปอย่างควบคุมไม่ได้ ตกลงเป็นใครกันแน่? ตกลงเป็นใครกันแน่ที่ทำแบบนี้? “เป็นอะไรไป?” ตอนที่ฉันกำลังลังเล เสียงของดนุนัยก็แว่วมาจากด้านหลัง ฉันหันหน้าไป ชายหนุ่มสวมสูทเรียบร้อยแล้ว มองดูท่าทางเฉื่อยชาของฉัน มุมปากโค้งรอยยิ้ม“เป็นอะไรไป? หรือว่าจะเหนื่อยจนทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าเหนื่อยจนทำอะไรไม่ได้แล้วก็พักผ่อนเสียหน่อย ผมจะไปบริษัทรอบหนึ่ง ตอนกลางคืนจะกลับมาอยู่กับคุณ” เขาเหมือนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของฉัน พูดจบก็จะออกประตูไป “เดี๋ยวก่อน!” ฉันลังเลสักพักก็เรียกเขาไว้ “มีอะไรหรือ?”ดนุนัยมองฉัน ฉันมองเขา ลังเลสักพัก ส่ายหน้า“ไม่มีอะไรค่ะ ” ดนุนัยยิ้มให้ฉันก็จากไป เหมือนไม่ได้ปิดบังอำพรางอะไร เห็นว่าชายหนุ่มจากไป ฉันพลันตกสู่ภวังค์แห่งความสับสน หรือว่าฉันจะทำผิดอีกแล้ว? ฉันหลับตาลง ที่สะท้อนในหัวสมองยังเป็นเรื่องราวบนเกาะทะเล เป็นสิ่งดีๆที่ดนุนัยทำให้ฉัน เป็นตอนที่เขาอุ้มฉันเดินไปเดินมา เป็นตอนที่ฉันจะเล่นทราย เขาก็อยู่เป็นเพื่อนฉัน เป็น... ไม่ใช่สิ ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันลืมตาขึ้น มองบ้านหลังใหญ่โต คิดถึงโทรศัพท์ของดวิษี ดนุนัยเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง นักธุรกิจสนใจเพียงแผนการเท่านั้น เขาเคยรับปากฉันว่าจะไม่ใช้เงินกับบริษัทเตชิตออกแบบ หรือว่าจะทำไปแล้ว? ทำไมฉันถึงรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขา ยิ่งไปกว่านั้น ดวิษีพูดว่า บริษัทแห่งนั้นได้รับเงินก้อนหนึ่งจากบริษัทนภากรุ๊ปจำกัด ฉันรู้สึกกลัดกลุ้ม อุณหภูมิในห้องต่ำลงมาแล้ว ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปนั่งในสวนดอกไม้ด้านล่าง ตอนที่ฉันกำลังเหม่อลอยกับอากาศ เห็นจรณ์เดินเข้ามาจากที่ไกลๆ เขาเหมือนจะมาจากอีกทาง เดินเข้าไปใน บ้านตัวเอง ขณะที่ฉันกำลังลังเลว่าจะเอ่ยทักดีหรือไม่ เขาหันหน้ามา มองเห็นฉันพอดี ตอนแรก ในสายตาดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นพอใจแล้ว เข้ามาทักทายฉันหรือ“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” “เปล่าค่ะ ออกมานั่งสักพัก” ฉันโกหก จรณ์เหมือนว่าแว็บเดียวก็มองทะลุได้ว่าฉันมีเรื่องในใจ นั่งลงข้างฉัน ถามฉันทันทีเหมือนคุณอาคนสนิทคนหนึ่ง “คุณโกหกไม่เก่งเลย พูดมาเถอะ มีเรื่องกังวลใจอะไรหรือ? บางทีผมสามารถช่วยเธอได้” ไม่รู้เป็นเพราะอะไร จรณ์มักจะให้ความรู้สึกมั่นคงพึ่งพาได้ประเภทหนึ่งแก่ฉัน แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้ว ฉันมักจะรู้สึกว่าเขากับฉันเป็นคนประเภทเดียวกัน ฉันมองเขา ลังเลสักพัก ก็ถามว่า“บอกฉันหน่อยได้มั้ย ดนุนัยเป็นคนยังไง?” “เขาหรือ?”จรณ์มองฉัน หัวเราะน้อยๆ“คุณไม่ได้อยู่กับเขาทุกวันหรือ ถามผมทำไม?” ฉันสั่นศีรษะ“ฉันไม่เข้าใจเขา” จรณ์ยิ้มให้ฉัน“ดนุนัยนิสัยดี พึ่งพาได้มาก ทำธุรกิจล้วนเปิดอกคุยกันไม่เคยมีเรื่องปิดบังเลย ไม่ว่าจะเป็นแฟน หนุ่มหรือสามี ล้วนเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว” “จริงหรือคะ?” “จริงสิ” บางทีที่ฉันถามเขา ก็แค่อยากมีสักคนทำให้ฉันแน่ใจ บอกฉันว่าดนุนัยจะไม่ทำเรื่องแบบนั้น จรณ์พูดจบ ฉันก็เชื่อแล้ว ภาระในใจเหมือนจะเบาลงไม่น้อย แต่ทว่า คืนนี้ดนุนัยกลับมา หลังจากทานข้าว ฉันไปอาบน้ำ จนกระทั่งตอนที่ฉันออกมา กลับได้ยินเขาคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง บางทีอาจเป็นความสงสัยหลังออกจากคุก ฉันรวมร่างเข้าไป เพียงได้ยินชายหนุ่มพูดว่า“ตายหรือยัง?” ใจฉันพลันหล่นลงถึงตาตุ่ม การเคลื่อนไหวอ่อนแรงลงแล้ว “ผมรู้แล้ว ปิดกั้นข่าวสาร เรื่องนี้อย่าให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะเธอ” พูดจบ ดนุนัยก็วางสายไป ตอนที่เขาหันหน้ามาฉันยังเหม่อลอยอยู่ หลบไม่ทัน
已经是最新一章了
加载中