ตอนที่ 130 ในใจอยากจะตอบตกลง แต่ปากกลับพูดคำโกหก
1/
ตอนที่ 130 ในใจอยากจะตอบตกลง แต่ปากกลับพูดคำโกหก
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 130 ในใจอยากจะตอบตกลง แต่ปากกลับพูดคำโกหก
ตนที่ 130 ในใจอยากจะตอบตกลง แต่ปากกลับพูดคำโกหก “…” ที่จริงแล้วรถคันนี้เป็นของดนุนัย แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้โกดังของเรือนหอที่ดนุนัยได้ซื้อไว้ตอนแต่งงานกับจิณณา มีรถสปอร์ตอยู่จำนวน มาก แต่ปกติแล้วแต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยขับ ปรานต์เห็นฉันไม่ขยับ จึงพูดว่า“เธอเองก็เป็นคนที่เดินถนน เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังหรือเปล่า รีบๆช่วยผมพูดเถอะ หรือช่วยขู่เธอก็ได้!” ฉันรู้สึกว่าปรานต์เป็นพวกวุฒิภาวะทางอารมณ์ติดลบเสียแล้ว ขอให้คนช่วย แต่พูดจาแบบนี้ ฉันหันไปมองเขาแบบเหยียดๆ แล้วพูดว่า“ไม่ช่วย” จากนั้นก็เตรียมจะเดินออกมา “อย่านะ อย่า! งั้นผมจะให้เงินเธอ! ห้าแสนเหรียญ! ว่ายังไง! เธอจะได้ไปเลยถ้าเธอตกลง ผมจะให้เธอห้า แสน!” ปรานต์ใช้มือข้างหนึ่งดึงฉันไว้ แล้วพูดไปด้วย ฝูงชนที่อยู่รอบข้างต่างพากันตกตะลึง “ห้าแสนเหรียญเลยนะ?” “พระเจ้า คนรวยเป็นอย่างนี้นี่เอง” และหญิงชราที่คิดจะหลอกลวงปรานต์คนนั้น ได้ยินว่าปรานต์จะให้ฉันห้าแสนเหรียญ เพื่อให้ฉันมาแก้ปัญหากับ เธอ ก็ร้องไห้ดังลั่นปานฟ้าจะถล่มขึ้นมาทันที“ไอ้หยา มาดูกันเร็ว ตรงนี้มีคนไม่มีเหตุผล! ชนขาคนแก่อย่างฉัน ไม่จ่ายเงินแล้วยังคิดจะหนี!” มือไม่ได้กอดปรานต์ไว้แล้ว ครั้งนี้ ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าเธอเป็นพวกแกล้งแอ๊บเอาผลประโยชน์ ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดปุ่มบันทึกไปด้วยและพูดกับปรานต์ไปด้วยว่า“ห้าแสนเหรียญ? แค่ตอนนี้คุณอยู่ บนรถแล้วเหยียบคันแร่งออกไป ก็ต้องเสียสองล้านแล้ว” “อะไรนะ?! นี่…” เห็นว่าปรานต์อยากจะพูดอย่างอื่น ฉันพุ่งเข้าไปกระพริบตาใส่เขา ถึงแม้ว่าปรานต์จะเป็นคนที่ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ แต่สมองนับว่ายังดี ใบหน้าที่ท่าทีเข้าใจขึ้นมาโดยฉับพลัน“เป็นอย่างนี้นี่เองผมเข้าใจแล้ว” พูดจบก็ตรงไปขึ้นรถ ฉันก้าวถอยหลัง และให้กลุ่มคนที่มุงดูค่อยๆถอยตาม ให้พวกเขาเปิดทางให้ปรานต์ออกมา หญิงชรานั่งอยู่ตรงหน้ารถ และมองตรงไปที่ด้านหน้าของรถ ชั่วขณะนั้นดูบื้อใบ้ไปเลย เสียงสตาร์ทรถสปอร์ตดังขึ้น หญิงชราอยากลุกขึ้นแต่ยังเป็นห่วงท่าทางของเธออยู่นิดหน่อย จากนั้นตามด้วยเสียง“เฮ้!”ถึงแม้ว่ารถจะไม่ขยับ แต่หญิงชราตกใจลุกขึ้น แล้ววิ่งหนีเอาตัวรอด! ฉันรีบหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็วถ่ายด้านหลังของหญิงชราเอาไว้ ปรานต์ดับเครื่องแล้วลงจากรถ แววตามองดูฉันด้วยความชื่นชม“ใช้ได้เลยนะ ณิ ณิชาใช่ไหมเนี่ย? คิดไม่ถึง เลยว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้!” “ห้าแสนเหรียญ” ฉันแบมือไปทางเขา “ให้ให้ให้”ปรานต์พูดอย่างร่าเริง วิ่งเข้าไปในรถแล้วหยิบสมุดเช็คอกมา เตรียมจะเขียน เดิมทีฉันแค่ล้อเล่น ไม่คิดว่าปรานต์จะให้ฉันจริงๆ โลกของคนรวย ฉันเข้าไม่ถึงจริงๆ เห็นเขาฉีกสมุดเช็คออกมาแล้วจะมอบให้ฉัน ฉันโบกมือ“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่จากนี้คุณไม่ไปกวนใจติณณาฉันก็ ขอบคุณแล้วค่ะ” ฉันพูดจบ ก็เดินปตามทิศทางของสำนักงานกฎหมาย เพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว ก็เห็นชยพล และจรณ์ ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่ที่ปากประตู มองพุ่งตรงมาที่ฉัน เมื่อฉันไปถึงตรงหน้า ชยพลก็ปรบมือ เอ่ยยิ้มๆว่า“นึกไม่ถึงว่าคุณณิชาจะเป็นคนกล้าหาญขนาดนี้” “ไม่ใช่หรอกค่ะ ไม่ใช่” ฉันเพิ่งจะใช้กลโกงจัดการกับพวกคนร้าย คิดไม่ถึงว่าชยพลและจรร์จะมาเห็นเข้า จรณ์พูดกับชยพลว่า“ณิชาคนนี้ ภายนอกดูแล้วเป็นเพียงแมวบ้าน แต่ที่จริงแล้วคือแมวป่า” “อืม ผมก็เห็นว่าแบบนั้น” ทั้งสองคนพูดซุบซิบถึงฉันพร้อมกับเดินขึ้นชั้นบน ที่ชั้นบนจรณ์พูดกับฉันว่า เขากำลังตรวจสอบระบบความปลอดภัยของโรงพยาบาลทนุธรรม ในวันที่จิณณาจะ กระโดดตึก หลังจากฉันออกมาจากหอผู้ป่วยแล้วก็มีพยาบาลคนนึ่งเข้ามา จากนั้นไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ออกไป พวกเขาได้ส่งมอบภาพเหตุการณ์นี้กับตำรวจแล้ว ดูจาก ณ เวลานี้แล้ว เพียงแค่ฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าบัตรของฉันถูกขโมยไปจริงๆ ฉันไม่ได้เป็นผู้โอนเงินก้อนนั้น ไป ข้อกล่าวหาของฉันก็จะหายไปโดยปริยาย ฉันฟังถึงตรงนี้ ทันใดนั้นนึกขึ้นได้ว่า“จากกล้องวงจรปิดมีดูออกไหมคะว่าใครมาเรียกคุณยายของฉัน แล้วยัง พยุงท่านไปจนถึงระเบียงดาดฟ้า?” “ข้อนี้…พวกเรายังไม่ได้ให้ความสนใจน่ะ”ชยพลส่ายหน้า “ช่วยดูให้ฉันได้ไหมคะ?” ฉันใช้สายตาขอร้องมองไปทางจรณ์ เขาลังเลอยู่สักครู่ แต่ก็รับปาก ฉันและชยพล รวมถึงจรณ์พูดคุยกันต่ออีกประมาณชั่วโมงกว่า พูดเรื่องการประชุมในครั้งถัดไปจบแล้วก็ลุกขึ้น ขอตัวกลับ จรณ์ไปส่งฉัน พวกเราสองคนเพิ่งจะเดินมาถึงประตูของสำนักงานกฎหมาย ก็มองเห็นรถที่เราคุ้นเคยจอดอยู่ และตัวเจ้าของรถ ดนุนัยก็ยืนอยู่ข้างๆ เขาเห็นฉันกับจรณ์อยู่ด้วยกัน ใบหน้าเรียบเฉยเปลี่ยนเป็นไม่พอใจอย่างรวดเร็ว เดินมาหาพวกเราอย่างรวดเร็ว ฉันมองดูสีหน้าของดนุนัยที่ยิ่งเดินเข้ามายิ่งเห็นว่ามีความโกรธอยู่ แต่เมื่อชายหนุ่มเดินมาจนห่างจากพวกเรา เพียงหนึ่งก้าว ก็หยุดเดินทันทีทันใด แล้วมองฉัน เหมือนกำลังหมักบ่มอารมณ์อะไรสักอย่าง เพียงชั่วครู่เอ่ยปากว่า“จะไปที่ไหน? ผมไปส่งเธอเอง” “อะไรนะคะ?” ฉันคิดว่าตัวเองฟังผิดไป น้ำเสียงของดนุนัยสงบนิ่ง และมีความนุ่มนวลปนอยู่ ดูไม่สอดคล้องกับอารมณ์รุนแรงตอนที่เดินเข้ามา “ตอนนี้เธอจะไปไหน? ผมจะไปส่งเธอ” ดนุนัยพูดคำพูเของตัวเองซ้ำอีกครั้ง “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉัน…” “พอดีเลย ผมเองก็มีธุระ งั้นผมไปก่อนนะ” ในขณะที่จิตใต้สำนึกของฉันกำลังจะปฏิเสธดนุนัย จรณ์ก็ขัดจังหวะคำพูดของฉัน เขาพูดจบก็เดินตรงออกไปเลย ไม่มีแม้แต่คำทักทายแม้แต่คำเดียว ฉันมองดูแผ่นลังของชายหนุ่ม แล้วหันมามองดนุนัย มีความรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง “ไปกันเถอะ”ดนุนัยหันมาทางฉัน ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของฉันหรือเปล่า ในแววตาที่เขามองฉัน เหมือนมีบางอย่างที่ไม่เปิดเผยอยู่ในนั้น หลายครั้งที่คนเรา ไม่มีทางต่อต้านหัวใจตัวเองได้จริงๆ ฉันมองดนุนัย เขาเดินไปที่รถ ฉันจึงเดินตามเขาไป เห็นแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของชายหนุ่มแล้ว แทบจะบังแสงอาทิตย์ได้ทั้งหมด ราวกับเป็นกำแพงเมือง ทุกครั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองหนีออกมาได้ ก็จะค้นพบว่า นั่นเป็นเพียงการคิดเข้าข้างตัวองว่าทำถูกแล้ว แต่ปรากฏว่าฉันยังคงยืนอยู่กลางเมือง จริงๆแล้วฉันไม่เคยจากไป จนสติฉันกลับมาอีกครั้ง ฉันก็อยู่บนรถแล้ว ดนุนัยเอนตัวเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือมารัดเข็มขัดนิรภัยให้ฉัน ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้ฉันมาก ดวงตาดำขลับนั้นจ้อง มองฉัน สีดำนั้นประกายจางๆ ราวกับเป็นน้ำใส ที่ตื้นจนสะท้อน แค่มองก็จะเข้าใจความคิดของเขา ในที่นั้นเป็นดนุนัยที่ฉันรู้จัก ได้ยินเสียงดัง“คลิก”รัดเข็มขัดแล้ว ชายหนุ่มหันด้านข้าง แล้วถามฉันว่า“หลังจากมื้อเย็นคุณคิดว่าจะไป ไหน? ผมจะไปเป็นเพื่อน” “?” ฉันมองดูดนุนัย ดวงตาของชายหนุ่มเทียบกับที่ฉันเพิ่งเมื่อกี๊นี้ ตอนนี้ข้างในไม่มีอะไรในนั้นเลย ราวกับเขาจะพูดว่า นี่คือสิ่งที่เขาคิด เห็นว่าฉันไม่ตอบ ดนุนัยจึงอ่ยอีกครั้ง“ณิชา ผมอยากจะไปกินข้าวกับเธอ กินข้าวเสร็จแล้ว ผมจะไปส่งเธอกลับ บ้าน” “ทำไมคะ?” ฉันโพล่งออกไป ฉันจำเสมอ ว่าฉันขอให้เขาแต่งงานกับจิณณา ฉันไม่สามารถกลับคำได้ “ก็ไม่ทำไม”ดนุนัยมองฉัน แล้วถามต่อว่า“เย็นนี้อยากจะกินอะไรล่ะ?” “ขอโทษด้วยค่ะ แต่ฉันอยากจะกลับไปที่บริษัทอีกรอบ บางทีฉันอาจจะไม่สามารถไปทานข้าวกับคุณได้แล้วล่ะค่ะ” ในใจของฉันอยากจะตอบตกลง แต่ปากกลับพูดคำโกหก “ตกลงผมจะไปส่งเธอที่บริษัท”ดนุนัยเองก็ไม่พูดอะไรอีก เขายืดตัวตรง เท้าเหยียบคันเร่ง แล้วก็มาถึงหน้าตึกของบริษัทอย่างรวดเร็ว เมื่อลงจากรถ ฉันไม่ลืมที่จะพูดกับเขาว่า“ฉันคงจะโอทีเป็นเวลานาน ผู้จัดการดนุนัยไม่ต้องรอฉันนะคะ” พูดจบแล้ว ก็เดินจากไปเลย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 130 ในใจอยากจะตอบตกลง แต่ปากกลับพูดคำโกหก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A