ตอนที่ 135 หนูจิณเธอ…ความจำเสื่อมไปแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 135 หนูจิณเธอ…ความจำเสื่อมไปแล้ว
ต๭นที่ 135 หนูจิณเธอ…ความจำเสื่อมไปแล้ว อาบน้ำ คำพูดของดนุนัยชัดเจนมากแล้ว ฉันมองเขาอย่างสงสัย “คุณได้รับบาดเจ็บแบบนี้ ยังจะคิดถึงเรื่องแบบนั้นอยู่อีกเหรอคะ?” “ที่ไหนกัน” แขนของเขายังรั้งฉันไว้ แต่ท่าทีนั้นดูใสซื่อในตอนที่พูดว่า “ฉันเพียงแค่จะพูดว่าอยากให้เธอให้อาบน้ำให้…” “ไม่อาบค่ะ” ฉันโกรธขึ้นมา “คุณรอให้จิณณาตื่นขึ้นมาช่วยอาบให้ดีกว่าไหมคะ?” “จิณณา?” พูดถึงหล่อนขึ้นมา ฉันมองเห็นความทุกข์ใจในแววตาของดนุนัย แล้วพูดว่า “นอกจากแต่งงานกลับหล่อนแล้ว เรื่องอื่นฉันก็ไม่ทำหรอกนะ” “แล้วทำไมคุณถึงให้ปรวันไปถามอาการหล่อนล่ะคะ?” เรื่องนี้ ฉันอดทนไม่ไหวแล้ว ต้องพูดในเวลานี้ตอนนี้ออกมา พอฉันพูด ดนุนัยก็ขวมดคิ้วเล็กน้อย “ว่ายังไงนะ?” “คุณไม่ต้องมาแสร้งทำแล้วล่ะค่ะ ฉันรู้หมดแล้ว วันนี้ตอนที่คุณปู่มาหา ฉันเลยไปดูจิณณา ก็พบกับปรวันเข้าพอดี” ฉันเหลือบมองดนุนัย ภายในใจนั้นโกรธเคือง แต่ตอนนี้เขาอยู่ข้างกายฉัน อารมณ์ในใจดูเหมือนจะไม่รุนแรงมากแล้ว คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุด สุดท้ายแล้วก็คือฉัน ดนุนัยฟังคำพูดของฉันแล้ว เงียบไปชั่วขณะ เหมือนกับจะคิดอะไรบางอย่าง เห็นว่าฉันมองเขาอยู่ มุมปากของชายหนุ่มก็ยกขึ้น “ฉันไม่ได้สั่งเรื่องนี้นะ แต่คนข้างกายฉัน อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ฉันต้องถามรายละเอียดอย่างแน่นอนก็ได้” ด้วยเหตุผลข้อนี้ ฉันถูกบีบบังคับให้ยอมรับ ฉันกลับบ้านกับดนุนัย ตอนที่เปิดประตูบ้านแล้วคนรับใช้มองเห็นฉัน คนรับใช้ก็มีรู้ทันทีว่าต้องกลับไปที่ห้องแม่บ้าน ในห้องที่ว่างเปล่าเหลือเพียงฉันกับเขา ชายหนุ่มเดินเข้าไปข้างใน มือหนึ่งก็ปลดกระดุม ปลดไปได้เพียงครึ่ง ก็หันกลับมามองฉัน ด้วยใบหน้าไร้เดียงสาแล้วพูดว่า “ที่รัก ถอดเสื้อผ้าออกไม่ได้” “…” ดนุนัยที่เป็นเช่นนี้ตอนนี้ เป็นประธานบริษัทใหญ่ที่ไหนกัน ทำเหมือนกับลูกชายรอให้แม่มาช่วย! ฉันเหลือบมองดูเขา แล้วจงใจพูดว่า “ถอดเองสิคะ” “ก็ถอดออกไม่ได้นี่นา” ดนุนัยเดินเข้ามาหา มือขวาโอบกอดฉันเอาไว้ แล้วแกว่งแขนซ้ายตรงหน้าฉัน ฉันเหลียวมองแว้บหนึ่ง มือซ้ายของดนุนัยนั้นดามเฝือกไว้ แขนเสื้อของเสื้อเชิ้ตพับขึ้นด้านบน ถ้าปลดกระดุมออกก็จะถอดเสื้อออกได้ มองดูชายหนุ่มทำหน้าตาน่าสงสารแล้ว ไม่รู้ทำไมฉันถึงไม่โกรธ ให้เขานั่งลงบนเตียง แล้วฉันก็ช่วยเขาปลดกระดุมเสื้อข้างซ้ายอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ถอดเสื้อออกได้ เดิมทีฉันคิดว่ามันง่าย เมื่อฉันปลดกระดุมแล้วก็เริ่มถอดเสื้อ “เจ็บน่ะ” ฉันถอดไปได้เพียงครึ่ง ดนุนัยก็ร้องว่าเจ็บ ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นเพราะเขาถูกชนมา ฉันดึงเสื้ออีกนิดหน่อย มองเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเริ่มซีดเผือด ที่หน้าผากดูเหมือนจะมีเหงื่อซึมออกมา ฉันถึงได้ตระหนักว่า เขาไม่ได้หลอกฉัน “ปวด…” ดนุนัยเงยหน้าขึ้นมองฉัน ใบหน้านั้นดูไร้พิษภัยและเต็มไปด้วยความจริงใจ ฉันก้มหน้าลงตรวจเช็คดู ถึงจะพบว่าแม้จะปลดกระดุมออกแล้ว แต่ตรงกลางของแขนเสื้อยังติดอยู่ที่เฝือก เมื่อดึงก็จะกระทบกับเฝือกที่ดามไว้ ฉันรีบดึงแขนเสื้อกลับขึ้นมา ขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า “ทำได้แค่ต้องต้องตัดเสื้อตัวนี้แล้วล่ะค่ะ” พูดแล้วก็ไปหากรรไกร ในตอนที่ฉันโบกไม้โบกมือถือกรรไกรมานั้น ก็เห็นดนุนัยนั่งหลังตรง มือซ้ายก็เหยียดตรง สีหน้าเบื้องหน้าเหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง เหมือนกับว่าคราวนี้ทำให้มีความรู้สึกแย่และประหม่า เมื่อเห็นฉันถือกรรไกรโบกไปมา ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนเอ่ยว่า “ระวังหน่อยนะ ถ้าตัดออกไปแล้วมันจะทำลายความสุขที่เหลืออยู่ของเธอเลยนะ” “ของฉันเหรอคะ?” ฉันยิ้มมุมปากยกขึ้นและพูดอย่างจงใจว่า “ถ้าตรงนี้ของคุณเสียไปแล้ว ฉันก็เปลี่ยนคนสิคะ ตัดออกมันก็เป็นของตัวคุณ…อ้า!” คำพูดยังไม่ทันออกมา ก็ถูกชายหนุ่มกอดรัดด้วยแขนขวา เมื่อพลิกกลับมาก็ถูกกดลงบนเตียง การเคลื่อนไหวนั้นเร็วมาก กรรไกรในมือไม่ทันถือไว้ให้แน่นดี ปลิวไปมาสองสามรอบก็ร่วงลงพื้นดัง “กึกกัก” “เปลี่ยนเป็นคนอื่น?” ดนุนัยกดทับฉันเอาไว้ ความตึงเครียดตอนที่เห็นกรรไกรเมื่อกี้นี้หายไปหมดแล้ว เขามองดูฉัน ดวงตาดำขลับเต็มไปด้วยความหยอกล้อและสนุกสนาน “ขนาดที่ผ่านประสบการณ์มามากอย่างฉัน คนอื่นไม่สามรถทำให้เธอพอใจได้หรอก” พูดจบ ก็เริ่มต้นโน้มตัวลงมาจูบฉัน แต่ใจของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ “แต่มือซ้ายของคุณยังเจ็บอยู่นะคะ!” “ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มจูบที่ต้นคอของฉันพร้อมพูดว่า “ทำให้เธอเจ็บปวดน่ะไม่เพียงแค่ใช้มือหรอกนะ…” ค่ำคืนที่เย้ายวนและนุ่มนวล ฉันและดนุนัยเราจากห้องนอนไปยังห้องน้ำ แล้วกลับไปที่ห้องนอน ฉันไม่รู้ว่าเราอ้อยอิ่งกันอยู่กี่ชั่วโมง ในที่สุดก็หลับไปในอ้อมแขนเขา ดูเหมือนว่าฉันหลับไปได้ไม่นานฉันก็ถูกปลุกด้วยเสียงๆหนึ่ง ฉันกระพริบตาเบาๆ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน น่าจะเป็นเวลาราวๆห้าหรือหกโมงเช้า ดนุนัยอยู่ข้างๆกายฉัน รับโทรศัพท์อย่างไม่พอใจ ฉันยังคงเคล้าคลออยู่ในอ้อมกอดของเขา ภายในห้องเงียบสงบมาก โทรศัพท์เลยยิ่งแผดเสียงดัง ฉันได้ยินเสียงปลายสายเป็นเสียงชวลัยอย่างชัดเจน “คุณดนุนัยคะ หนูจิณฟื้นแล้ว ตอนนี้เธอสับสนมาก ขอร้องคุณ ช่วยมาหาเธอหน่อยเถอะนะคะ!” “เธอฟื้นแล้วก็ไปตามหมอสิ” ดนุนัยพูดอย่างราบเรียบ ท่าทีของเขาทำให้ฉันโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย “ไม่ใช่ค่ะ คุณดนุนัย ฉันขอร้องคุณล่ะค่ะ มาดูหน่อยเถอะค่ะ หนูจิณเธอ เธอ…ความจำเสื่อมไปแล้วค่ะ” คำพูดของชวลัยฉันก็ได้ยินชัดเจน ฉันที่อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม มองเห็นเขาขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยว่า “ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถช่วยแนะนำจิตแพทย์ให้ได้” “ไม่ต้องการค่ะ! คุณดนุนัย คุณเพียงแค่มาดูซักหน่อยเถอะ ทั้งหมดที่พูดมา หนูจิณกับคุณก็เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันนะคะ!” ชวลัยทำทุกทางที่จะเป็นไปได้ ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันหรือไม่ดนุนัยถึงได้ปฏิเสธ ฉันเห็นเขาไม่ยอมเปิดปาก เลยพูดออกไปว่า “ไปเถอะค่ะ ฉันก็จะไปพอดีเลย” ดนุนัยเหล่มองฉันชั่วขระ แล้วพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ตกลง” อันที่จริง ฉันแค่ต้องการไปดูว่าจิณณาความจำเสื่อมจริงๆหรือเปล่า หรือคิดจะทำอะไรไม่ดีอีก ฉันช่วยดนุนัยแต่งตัว ครั้งนี้พวกเราเลือกเสื้อเชิ้ตหลวมๆใส่สบาย สามารถถอดได้ด้วยตัวเอง พวกเราไปถึงโรงพยาบาลทนุธรรม ไปตามหมายเลขห้องที่ชวลัยบอกไว้ ก็ถึงประตูห้องผู้ป่วย ฉันอยู่ในลิฟท์ กอดแขนดนุนัยอย่างจงใจ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก ทันใดนั้นก้เห็นชวลัยยืนอยู่หน้าประตูลิฟท์ ตอนที่เธอเห็นดนุนัยนั้นสีหน้านั้นมีความสุข แต่อย่างรวดเร็วนั้นเองเมื่อเธอมองเห็นฉัน ความสุขเมื่อกี้นี้ ก็กลายเป็นตกใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ! ชี้หน้าด่าทอฉันว่า “ทำไมแกถึงมาด้วยได้!” “คุณป้าชวลัยคะ ฉันกับเขานอนหลับอยู่ด้วยกันนะคะ ถูกคุณป้าทำเสียงดังให้ตื่น ก็นอนไม่หลับแล้ว ก็ย่อมต้องมาเยี่ยมด้วยเป็นธรรมดานี่คะ” ฉันพูดอย่างผิดปกติไปจากเดิม ในตอนนี้ชวลัยกัดฟันกรอดๆ “ณิชา! นังคนสารเลว ถ้าไม่มีแก ครอบครัวของเราจิณณาของเราก็ไม่เป็นแบบนี้!” เธอพูดแล้วพุ่งตรงเข้ามาหาฉันทั้งตัว! ดนุนัยใช้มือขวาของเขาผลักออก ชวลัยเดินโซเซ ถอยหลังไปสองสามก้าว พิงเข้ากับกำแพงจึงไม่ล้มลงพื้น เธอมองดนุนัย ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “คุณดนุนัย จิณณารักคุณมากขนาดนั้น ทำไมคุณยอมให้นังปีศาจจิ้งจอกตัวนี้มาครอบงำวิณณาญของคุณได้!” นังปีศาจจิ้งจอก อ้อ นี่อาจจะเป็นชื่อเรียกของฉันที่บ้านของปณัยใช้ร่วมกัน
已经是最新一章了
加载中