ตคอนที่ 138 ไม่ ต้องเป็นเธอที่โกหกฉันแน่ๆ พวกเธอพากันโกหกฉัน   1/    
已经是第一章了
ตคอนที่ 138 ไม่ ต้องเป็นเธอที่โกหกฉันแน่ๆ พวกเธอพากันโกหกฉัน
ตไอนที่ 138 ไม่ ต้องเป็นเธอที่โกหกฉันแน่ๆ พวกเธอพากันโกหกฉัน “ณิชา”จิณณาดึงมือฉัน และถามอย่างจริงใจ“เธอบอกฉันได้ไหม เกิดอะไรในช่วงสามปีที่ผ่านมา?” “อยากรู้เหรอ?” ฉันมองเธออย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเธอจริงใจ หรือจะเป็นอย่างที่ฉันคุ้นชิน… “อื้ม อยากรู้!”จิณณาดึงมือของฉัน และตรงหน้าก็ยังทำราวกับเป็นพี่สาวที่ดี“ฉันถามคุณแม่ ถามคุณพ่อแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่ยอมบอกฉัน พูดเพียงแค่ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณดนุนัย…” อันที่จริงตอนนี้จิณณาก็ดูเหมือนเป็นพี่สาวที่ดีจริงๆ หรือเธอจะความจำเสื่อมไปแล้วจริงๆ หรือเธอแสดงละครได้เก่งกว่าเมื่อก่อน ฉันคิดแล้วคิดอีก และถามเธอ“ถ้าอย่างนั้นบอกฉันหน่อย ทำไมเธอถึงคิดว่าเธอกับดนุนัยแต่งงานกัน? ในเมื่อก่อนที่จะแต่งพวกเธอเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน” “พวกเรา…พวกเรารู้จักกันตั้งแต่ยังเล็กนะ!” จิณามองฉันอย่างไร้เดียงสา “รู้จักกันตั้งแต่ยังเล็ก? ทำไมฉันถึงไม่รู้? เธอเล่ามาสิ” ฉันต้องรู้ว่า จริงๆแล้วดนุนัยกับจิณณามีสาเหตุอะไรที่ไม่สามารถจะเกี่ยวข้องกันได้ จิณณาถูกคำถามของฉันทำให้มึนงง มองดูฉัน ด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับใช้ความคิด แต่ในไม่ช้าเธอก็ล้มลงอย่างเจ็บปวด “ฉันปวดหัวเหลือเกิน…ปวดมาก…” “ไม่เป็นไรนะ?” ฉันย่อตัวลง อยากจะดูว่าเธอเสแสร้งหรือเปล่า ดวงตาของจิณณาเต็มไปด้วยน้ำตา มือกุมบนหัว ร่างกายยังคงสั่นเทาราวกับว่าเจ็บปวดมาก ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง ฉันก็กดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ในตอนที่รอรถพยาบาล ชวารีก็ออกมา พอมองเห็นจิณณา ก็ถามเลยว่า“ณิชา นี่คือพี่สาวของเธอคนที่เป็นภรรยาของประธานฯใช่ไหม?” “อ่า?” ทันทีที่เธอพูด ทันใดนั้นจิณณาที่ยังคงเจ็บปวดอยู่เมื่อวินาทีก่อนหน้าก็เงยหน้าขึ้น คว้าเธอไว้ “เธอพูดว่าอะไรนะ? ฉันเป็นภรรยาของใคร?” ดวงตาของเธอยังเต็มไปด้วยน้ำตา โดนคว้าหมับเข้าเช่นนี้ ทำให้ชวารีตกใจ มองฉันราวกับเห็นผี แล้วก็มองไปที่เธอ “ประธาน ประธานบริษัทน่ะสิ…” “คนไหน?” “ดนุนัยยังไงล่ะ” ชวารีพูดจบ ก็กลัวและวิ่งหนีไป จิณณายังคงใช้มือข้างหนึ่งจับที่หัว แล้วสายตาก็กลับมามองที่ฉัน “เธอเธอเพิ่งจะพูดว่า ฉันเป็นภรรยาของคุณดนุนัยนะ แล้วทำไมพวกเธอถึงโกหกฉัน?” “เธอโกหกเธอนะ” ฉันพูดอย่างใจเย็น “ไม่…ไม่ ต้องเป็นเธอที่โกหกฉันแน่ๆ พวกเธอพากันโกหกฉัน! ทำไมถึงต้องโกหกฉันด้วย!” นอกจากน้ำตาแล้ว ดวงตาของจิณณาก็มีความไม่สบายใจ และยังมีความสงสัย แบบนี้แล้วไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ใช่การเสแสร้ง ในเวลาเดียวกันนั้นเองฉันก็เกิดความสับสน ตอนที่เธอจับฉันไว้ มือยังไม่หยุดสั่น ท่าทีเจ็บปวด เหมือนกับว่ายังคงปวดหัวอยู่ ตอนนี้เองรถพยาบาลก็มาถึง หมอลงจากรถมาถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันบอกที่อยู่ของโรงพยาบาลทนุธรรมแล้วก็ออกมาทันที ฉันไปยังไซต์งานก่อสร้าง พอตอนเย็นดนุนัยพร้อมกับคนขับรถมารับฉัน เมื่ออยู่บนรถ ฉันก็ทนไม่ไหวเล่าเรื่องเหตุการณ์ตอนบ่ายให้ฟัง ดนุนัยฟังแล้ว เงียบไปสักพัก จึงพูดว่า “เรื่องนี้ ทำได้เพียงแค่เฝ้าดูไปเงียบๆสักระยะ ผมเองก็ถามกับจิตแพทย์แล้ว พวกเขาบอกว่าอาการของจิณณาคือสภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วน” หลังจากนั้น ดนุนัยก็บอกฉันว่าจิตแพทย์พูดอะไรบ้าง อาจจะเป็นไปได้ว่า จิณณาไม่เพียงแต่สูญเสียความทรงจำ ยิ่งไปกว่านั้นเธอเอาความผิดพลาดของตัวเองเก็บเอาไว้ทั้งหมด แล้วเปลี่ยนแปลงไปตามที่เธอคิด สร้างความทรงจำใหม่ขึ้นมา ฉันฟังจบ ในเวลานั้นรู้สึกทึ่ง “สามารถเป็นแบบนี้ได้เหรอคะ?”ฉันมองดนุนัยอย่างสงสัย“ถ้าอย่างนั้นพฤติกรรมที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้เสแสร้งใช่ไหมคะ?” “ไม่รู้สินะ หมอบอกว่าบางทีก็มีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพหลังความจำเสื่อม” คำพูดของดนุนัยทำให้ฉันสับสนเล็กน้อย แต่ฉันกลับรู้สึกว่า บุคลิกที่จิณณาเป็นอยู่ตอนนี้ เป็นบุคลิกที่ตัวเธอมักจะแสดงละครมาตลอด เป็นไปได้หรือไม่ว่าเธอก็ต้องการให้ตัวเองมีลักษณะท่าทางแบบนี้มาตลอด ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะการสูญเสียความทรงจำ เลยเปลี่ยนบุคลิกภาพนี้ด้วย? พวกเรากลับบ้านด้วยกัน วันนี้เป็นวันศุกร์ เมื่อวานนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของดนุนัย เมื่อกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันจะกินข้าว ก็เหมือนกับเป็นหมาป่าที่หิวโหย เป็นคำจำกัดความที่สวยงาม------ ก่อนกินข้าว ก็กินฉันก่อน อาการบาดเจ็บที่มือซ้ายของเขา ไม่ได้ส่งผลถึงกิจกรรมของเขาเลย พวกเราออกกำลังกายกันก่อน จากนั้นถึงจะกินข้าว หลังกินข้าวเย็น ฉันก็เอาคอมพิวเตอร์มาทำงานออกแบบ ครั้งนี้หัวข้อคือโรงพยาบาล ทำให้ฉันนึกตอนที่อยู่บ้านเด็กกำพร้า เพื่อนคนหนึ่งบอกฉันว่า ถ้าโรงพยาบาลมีขนมหวานมากมาย ก็จะไม่กลัวที่จะไปโรงพยาบาลแล้ว ครั้งนี้ ฉันคิดจะทำโรงพยาบาลที่น่ารัก โรงพยาบาลของเด็กๆ ถึงแม้ว่าที่อยู่ข้างในจะไม่ใช่ขนมจริงๆ แต่จะสร้างเป็นรูปร่างของขนม ฉันออกแบบพื้นที่ แล้วต้องการตรวจสอบข้อมูล จึงเปิดเวบเพจ ฉันเลื่อนดูเว่ยป๋ออย่างรวดเร็ว ผลสุดท้ายข้อมูลที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ทำให้ฉันใจสั่น! เกิดอะไรขึ้น ทำไมเรื่องของจิณณากลับมามีกระแสอีกครั้ง! ฉันต้องปิดทิ้งหลายครั้ง ทุกครั้งจะต้องมีวิดีโอที่หลังจากจิณณาถูกพวกอันธพาลข่มขืมวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ฉันเปิดความคิดเห็นด้านล่าง เต็มไปด้วยถ้อยคำหยาบคาย มีคนต้องการทำร้ายจิณณา! หรือจะใช้จิณณาเป็นเครื่องมือทำร้ายฉัน! เมื่อฉันรับรู้ถึงสิ่งนี้ ฉันก็ยกคอมพิวเตอร์ไปหาเขาที่ห้องหนังสือ ตอนที่ฉันเข้าไป ก็เห็นว่าคอมพิวเตอร์ของชายหนุ่มกำลังมีเสียงดังออกมา“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย…” ฉันบอกได้ทันทีว่านี่คือเสียงจากวิดีโอของจิณณา ดนุนัยที่กำลังดูหน้าจอตรงหน้า สีหน้าของเขามีแวววิตกกังวล แม้กระทั่งเมื่อฉันเข้าไปแล้ว เขายังไม่รู้ตัว “ดนุนัยคะ…” ฉันเรียกชื่อเขา ผ่านไปหลายวินาที ดนุนัยถึงจะรู้ตัว หันมาทางฉัน“อ๊ะ?” ฉันยกคอมพิวเตอร์ขึ้น แล้วก็ชี้ไปที่วิดีโอที่อยู่ในนั้น ฉันขมวดคิ้วและพูดว่า“ฉันเองก็ได้ดูค่ะ เรื่องนี้ใครเป็นคนทำเหรอคะ?” ดนุนัยส่ายหน้า ท่าทีเคร่งขรึม “ฉันให้ปรวันหาคนลบมันออกไปแล้ว”ดนุนัยหยุดไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า“แต่ว่าเขารายงานว่า ครั้งนี้มีเป็นการทำแบบเป็นระบบ หมายเลขที่ส่งวิดีโอนี้ก็เป็นแบบที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ พวกเราลบทิ้งอยู่ทางนี้ ทางนั้นก็อัพใหม่อย่างรวดเร็ว” “พอจะรู้ไหมคะว่าใครเป็นคนทำ?” ฉันมองไปทางดนุนัย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฉันรู้สึกถึงวิกฤตการณ์อยู่ลึกๆ ในตอนที่ฉันกำลังคุยกับดนุนัย โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ฉันมองเข้าไป ถึงแม้ว่าเบอร์โทรนี้จะไม่มีแล้ว แต่ฉันก็จำได้ว่าเป็นหมายเลขของชวลัย เขามองมาที่ฉัน แล้วก็รับสาย ทันที่รับสายฉันก็ได้ยินเสียงชวลัยร่ำไห้และตะโกนว่า“คุณดนุนัยคะ คุณรีบมาดูหนฺจิณด้วยเถอะค่ะ เธอกำลังทำร้ายตัวเอง…” ดนุนัยคิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเผยอออก คิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่พูด ชวลัยไม่ใช่คนโง่ ดูเหมือนจะรับรู้ได้ รีบพูดว่า“คุณดนุนัย ฉันรู้ว่าณิชาอยู่ที่นั่นกับคุณด้วย พวกคุณมาด้วยกันเถอะค่ะ รีบมาเถอะ ไม่อย่างนั้นหนูจิณของเราคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว” “ครับ” ดนุนัยตอบเสียงอยู่ในลำคอ ในตอนที่พวกเราไปถึง รถตำรวจ รถพยาบาลต่างจอดอยู่หน้าบ้านจันทร์ พวกเราเข้าไปในบ้าน มองเห็นตำรวจ และหมออยู่ในห้องรับแขก ชวลัยขวางอยู่ระหว่างประตูห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน ไม่ยอมให้ใครเข้าไป ปณัยที่มีสีหน้าวิตกกงัวลยืนอยู่อีกด้าน 
已经是最新一章了
加载中