ตอนที่ 139 อดีตที่จะไม่คาดหวังถึงอีกต่อไป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 139 อดีตที่จะไม่คาดหวังถึงอีกต่อไป
ต๭นที่ 139 อดีตที่จะไม่คาดหวังถึงอีกต่อไป ชวลัยมองเห็นพวกเรา แววตาก็สดใสขึ้นมา “คุณดนุนัย พวกคุณมาแล้ว! พวกคุณรีบมาช่วยจิณณาเร็ว” พูดแล้วก็เปิดทางให้เข้า ดนุนัยเข้าไปเปิดประตูห้องน้ำ แต่ว่าภายในล๊อคกลอนไว้ มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่นอกประตู ชวลัยพูดอ้ำๆอึ้งๆว่า “หนูจิณไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแน่นอนเลยค่ะ ฉัน ฉันไม่กล้าให้พวกเขาเข้าไป” “ภาพเปลือย หรือ ชีวิต ของลูกสาวที่สำคัญกว่ากัน?” ฉันตรงเข้าไปเปิดอย่างไม่พอใจ ไม่ใช่ว่าฉันสงสารจิณณา แต่เพราะฉันสัมผัสได้ถึงแนวความคิดของชวลัย อย่างไรก็ตาม ฉันตระหนักว่าสิ่งต่างๆที่อยู่ในประตูนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ ชวลัย จิณณา ปณัย คนของครอบครัวนี้เตรียมไว้ให้เรา ข้างในคือสิ่งที่พวกเขาอยากจะให้พวกเราได้เห็น ดนุนัยผลักประตู “กุญแจล่ะ?” “ประตูนี้ไม่มีกุญแจ ข้างในประตูมีตัวล๊อคอยู่ ด้านในล๊อคแล้วยิ่งแข็งมากเปิดออกยาก” ฉันเอ่ยขึ้น เหตุที่ฉันเข้าใจขนาดนี้ เป็นเพราะห้องนี้เป็นห้องของฉันมาก่อน กุญแจใช้ไม่ได้แล้ว และไม่เคยมีใครซ่อม ชวลัยพนักหน้าอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พวกเรายืนอยู่ด้านนอก สามารถได้ยินเสียงกรอบแกรบ และเสียงร้องไห้แผ่วเบา อธิบายได้ว่าจิณณายังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่แปลกใจที่ชวลัยจะไม่รีบร้อน “รีบเปิดประตูสิคะ พวกเราร้อนใจจะตายอยู่แล้ว พวกเราบอกให้หนูจิณปิดประตู เธอก็ไม่ยอม!” ชวลัยเร่งให้ดนุนัยเปิดประตู ดนุนัยเหลือบมองดูเธอ แล้วพูดอย่างสงบว่า “ฉันคิดว่า ด้านในน่าจะมีสถานการณ์ที่พวกคุณเองก็รู้ดีอยู่แล้วเพราะพวกคุณก็แสดงกันมานานมาก ฉันจะไม่กระแทกประตูเข้าไปก็คงจะไม่ได้แล้ว” ทันทีที่เขาพูด ใบหน้าของชวลัยก็ซีดเผือด เอามือลูบผมตัวเองอย่างไม่รู้ตัว นี่คือท่างทางของคนที่อับอายอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่พูดอะไร ดนุนัยตะโกนออกมาข้างนอกว่า “ผมจะกระแทกประตูแล้วนะ!” ว่าแล้วก็ก้าวถอยหลัง ก่อนจะใช้เท้ากระแทกลงไปบนประตู ประตูส่งเสียดัง “ปึง” แล้วล้มลง แล้วภาพด้านในก็ปรากฏออกมา ฉันเหลือบไปมอง แล้วก็แทบจะเป็นลม ที่ฉันมองเห็นนั้นมีแต่เลือด จิณณาดูเหมือนจะเปลือยเปล่า แต่ก็เหมือนไม่ใช่ เพราะบนตัวของเธอ บนแขนของเธอ และหน้าอก ผิวหนังส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยสีแดง หรือบางทีอาจจะไม่สามารถเรียกว่าเป็นผิวหนังแล้วก็ได้ ในมือของเธอถือฝอยขัดหม้อ กำลังขัดร่างกายตัวเองอย่างสุดชีวิต… ดวงตาจับจ้องแต่บนร่างกายของตัวเอง ถึงแม้ประตูจะถูกกระแทกออกแต่ดูเหมือนจะไม่มีพลังสามารถเปลี่ยนความสนใจของเธอได้ “หนูจิณ!” ชวลัยมองเห็นภาพนี้ ก็เป็นลมไปเลย! ฉันเข้าไปคว้ามือของจิณณาไว้ “อย่าเช็ดอีกเลยนะ!” ดูเหมือนจิณณาจะรู้ตัวแล้วว่ามีคนเข้ามา มองฉันแล้วไม่พูดอะไร ก่อนจะเงยหน้ามองดนุนัยแล้วยิ้ม “คุณดนุนัย ฉันรู้แล้วว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมรับการแต่งงานของเรา ไม่ต้องกังวลใจนะคะ ฉันขูดเอาผิวหนังพวกนี้ออกแล้ว ฉันก็จะกลับมาสะอาดอีกครั้ง” เธอพูดแล้วทำต่อไปโดยไม่สนใจฉันที่กำลังห้ามเธอ ฉันมองเห็นเส้นลวดของฝอยขัดหม้อที่ถูบนผิวหนังนั้นมีเลือด มีผิวหนัง แล้วก็มีเนื้อ! “อย่าขัดอีกเลยนะ” ฉันต้องการจะหยุดเธอ แต่เรี่ยวแรงของเธอก็เยอะเหลือเกิน ดนุนัยทนดูต่อไปไม่ไหว เขาถอดสูทออกแล้วเอนตัวลง หยิบฝอยขัดหม้อออกจากมือของเธอโยนลงบนพื้น แล้วคลุมชุดสูทลงบนตัวเธอ ตระกองกอดเธอลุกขึ้น แล้วพูดว่า “อย่าเช็ดอีกเลยนะ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล” “ฉันไม่…” จิณณามองดูดนุนัย หยดน้ำตาร่วงพรู“ฉันไม่สะอาดแล้ว ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องการฉัน ใช่ไหมคะ? ฉันเห็นในอินเตอร์เนตแล้ว” “ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย…” ดนุนัยมองดูจิณณา ภายในดวงตาดำขลับมีความเจ็บปวดอยู่เปี่ยมล้ม ยากที่จะซ่อนเอาไว้ได้ ฉันยืนอยู่ที่เดิม ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกราวกับถูกเจาะเป็นโพรง ทุกสิ่งที่วางแผนมาอย่างสวยงามก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะหายไปในทันที ฉันยืนอยู่เช่นนั้น มองดูดนุนัยพาจิณณาออกไป ภายในใจรู้สึกเหมือนคราวก่อนที่อยู่บนระเบียง ฉันมองดูดนุนัยกอดจิณณาลงมาจากชั้นดาดฟ้า เพียงแต่ว่าครั้งนี้ ฉันสิ้นหวังยิ่งกว่า ปณัยหันมามองฉัน และไม่พูดอะไร ดนุนัยกอดจิณณาลงไปจนถึงรถพยาบาล ตั้งแต่ต้นจนจบไม่หันมามองฉันเลยสักครั้ง ในดวงตาของเขามีแต่จิณณา นี่คือการเสแสร้งเหรอ? เป็นแผนการทำร้ายตัวเองเหรอ? ฉันไม่รู้ ถ้าหากเป็นการเสแสร้ง เป็นแผนการทำร้ายตัวเอง ถ้าอย่างนั้นจิณณาก็น่ากลัวเกินไปแล้ว ลงมือกับตัวเองได้อย่างโหดร้าย แต่ว่า แล้วมันจะอย่างไรล่ะ? ดนุนัยจะต้องถูกเธอเอาไปเหรอ? หมอให้ชวลัยนั่งไปกับรถพยาบาล ปณัยก็ไปด้วย ปากประตูที่เพิ่งจะวุ่นวายอยู่เมื่อกี้นี้ ในเวลานี้เหลือฉันเพียงคนเดียว ฉันรู้สึกเจ็บปวดใจจริงๆ ฉันคิดว่า ครั้งนี้จิณณาทำสำเร็จแล้ว ฉันกลับไปเอาคอมพิวเตอร์ที่บ้านของดนุนัย คนรับใช้เห็นฉันเข้า ก็เรียกว่า “คุณผู้หญิง” ฉันยิ้มให้กับเธอ “ฉันไม่ใช่คุณผู้หญิงหรอกค่ะ เรียกฉันว่าคุณณิเถอะนะ คุณผู้หญิงเป็นคนอื่นไปแล้ว” ฉันพูดจบก็หยิบคอมพิวเตอร์ และข้าวของของตัวเองออกมา หลังจากวันนั้น ฉันก็ไม่ได้ข่าวของจิณณาและก็ไม่ได้ข่าวของดนุนัยด้วย ชยพลบอกฉันว่า คดีของชยานีก็มีการถอนฟ้องแล้ว ทันใดนั้นก็เหมือนกับว่าฉันไม่อะไรต้องทำอีก นอกเหนือจากงานแล้ว ก็มีเพียงแค่เรื่องการเข้าแข่งขันเท่านั้น ฉันมีเวลาว่างอย่งาที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คิดถึงความเกี่ยวพันกับดนุนัยก่อนหน้านี้ก็ทำให้เกิดวคามทุกข์ทรมานใจ เป็นภาระอันแสนหวาน และเป็นอดีตที่จะไม่คาดหวังถึงอีกต่อไป ฉันจดจ่ออยู่กับงานออกแบบของตัวเอง ในวันสุดท้ายของการออกแบบ ฉันก็ส่งผลงาน หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ตอนที่มีการประกาศผลการแข่งขัน ทุกคนต่างรออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เวลามาถึง ทุกคนต่างกดรีเฟรช สุดท้ายแล้วไม่ใช่การประกาศผลการแข่งขัน แต่เป็นการประกาศแจ้ง ฉันกดเปิดดู สิ่งแรกที่เห็นคือชื่อของฉัน ประกาศเขียนถึง เรื่องฉันลอกเลียนแบบงานออกแบบของปัณฑา ปัณฑา เธอทำงานอยู่สตูดิโอออกแบบในเครือของบริษัทนภากรุ๊ปฯ ในประเทศนับว่ามีชื่อไม่น้อย ผู้ที่คาดว่าจะชนะในการแข่งขันครั้งนี้ หนึ่งในนั้นจะต้องเป็นเธอ ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นนักออกแบบอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า ถัง รั่ว เพราะทั้งคู่ต่างได้รับการยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุด ทันทีที่มีประกาศออกมา ทุกคนในออฟฟิศ ต่างมีสายตาจับจ้องมาที่ฉัน ฉันได้ยินเสียงคนซุบซิบกันว่า “ลอกเลียนแบบงานสินะ ครั้งก่อนก็มีคนทำแล้วโดนตัดออกไป คราวนี้ก็ยังจะทำอีก?” “ครั้งก่อนถ้าไม่มีคนลอกงาน เธอก็ไม่ได้แม้แต่จะเข้ารอบหรอก ไม่น่าส้มหล่นมีโชคได้ลย” “ใช่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังลอกเลียนแบบงานของปัณฑาอีก เป็นคนที่จิตใจกล้าหาญมากเลยนะนั่น” พูดจบทุกคนในกลุ่มก็หัวเราะ ในเวบไซต์นั้นมีไฟล์แบนมาสองไฟล์ ได้แก่งานของฉัน และผลงานของปัณฑา ฉันดาวน์โหลดทั้งสองไฟล์ และเปิดดูอีกครั้ง เพราะว่าเป็นงานที่ตัวเองออกแบบเอง ฉันจึงสามารถมองอกอ่างรวดเร็วว่า งานของปัณฑาคืองานแบบร่างสุดท้ายของฉัน ในตอนนั้นฉันจะตัดสินใจจะส่งงานไป แต่ต่อมาฉันก็ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนตัวโคมไฟ งานของฉันกับเธอมีตรงโคมไฟที่ไม่เหมือนกัน “ณิชามาที่ห้องทำงานหน่อย!” ในขณะที่ฉันกำลังเปรียบเทียบงานสองงานนี้ เวทนก็ปรากฏตัวออกมาที่ประตู ท่าทางเขาดูซีเรียส และมีความโกรธปนอยู่ และเพื่อนร่วมงานที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ต่างก็มองดูภาพที่เกิดขึ้นด้วยท่าทีที่มีความยินดี
已经是最新一章了
加载中