ตอนที่ 142 ประกาศความสัมพันธ์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 142 ประกาศความสัมพันธ์
๕อนที่ 142 ประกาศความสัมพันธ์ ปัณฑาแสดงอุปกรณ์ต่างๆไปด้วย และเริ่มพูดถึงแนวคิดการออกแบบของตัวเองไปด้วย ถึงแม้จะไม่เหมือนกับฉัน แต่ก็พูดได้อย่างมีเหตุมีผล แม้แต่ในส่วนเล็กๆน้อยๆที่ฉันออกแบบโดยไม่คิดอะไร เธอก็สามารถพูดได้อย่างที่มีมาที่ไป ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้เอ่ยปากพูด ก็รู้สึกว่าตัวเองแพ้แล้ว สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่าฉันจะเป็นเจ้าของงานจริงๆ แต่ความสามารถในการใช้ภาษา และทักษะการตอบสนองเมื่อต้องเข้าร่วมการ ทดสอบล้วนแต่เหนือกว่าฉัน ในตอนที่ปัณฑาอธิบายจบ ฉันก็หยิบสิ่งของต่างๆออกมาเพื่อเตรียมตัวจะพูดถึงไอเดียการออกแบบและแนวคิดของตัวเอง ฉันเพิ่งจะเปิดภาพแบบจำลอง ผู้คนด้านหน้าก็ถอนหายใจยาว ฉันคิดว่า ทุกคนคิดเหมือนฉัน ล้วนแต่มองออกว่า รูปแบบงานสองงานนี้เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน นี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ มันคือการก็อปปี้ ฉันพูดถึงไอเดียการออกแบบและ แนวความคิดของตัวเอง เพื่อที่จะชนะใจทุกคน ฉันหยิบเอาประสบการณ์วัยเด็กสมัยที่อยู่บ้านเด็กกำพร้าขึ้นมาพูด แต่ทั้งหมดที่ปัณฑาได้ชี้แจงอย่างสมบูรณ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้สิ่งที่ชั้นพูดมันซีดจางอย่างเห็นได้ชัด ในตอนที่ฉันพูดถึงความรู้สึกของตัวเองเสร็จแล้วนั้น ท่าทีของผู้ชมนั้นหลากหลาย มีทั้งขบขัน ทั้งดูถูกเหยียดหยาม ดูเหมือนทุกคนจะเชื่อมั่นในข้อที่ว่าฉันเป็นคนขโมยผลงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ตมิสา แม้ว่าเธอจะไม่หัวเราะออกมาดังๆ แต่มุมปากของเธอก็ยกขึ้นจนจะไปถึงใบหูแล้ว ในที่สุด ฉันก็พูดจบ ตอนที่ฉันกล่าวจบ “ที่กล่าวมาข้างต้นก็คือแนวคิดของผลงานทั้งหมดของดิฉัน ขอขอบคุณทุกท่านมากค่ะ” ตมิสาก็ลุกขึ้น มองไปคนโดยรอบ “ฉันคิดว่า ที่สุดแล้วผลงานนี้เป็นของใคร ทุกคนน่าจะเห็นชัดแล้วนะคะ” หลังจากที่เธอพูดจบ ทุกคนก็เริ่มกระซิบกระซาบ ปัณฑาที่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ กลับพูดว่า “เจ้านายคะ คุณก็ไม่น่าทำเช่นนี้เลย ที่จริงณิชาเองก็ต้องรวบรวมแนวคิดการออกแบบอย่างยากลำบากขนาดนี้” เธอพูดจบ ผู้คนโดยรอบก็กระซิบกระซาบกันอีก “ผลงานที่ดีขนาดนี้ จะเป็นของเธอได้ยังไง หน้าไม่อายจริงๆ” “ไม่ใช่แน่ๆ ยังไงฉันก็คิดว่าเป็นการลอกเลียนแบบ มองดูเธอตอนนี้แล้ว ยิ่งดูไร้ยางอายกว่าเดิม ทั้งๆที่จริงลอกงานของปัณฑาไปแล้วเพิ่มบางจุดลงไปในงานของตัวเองนิดหน่อยแล้วก็มาพูดว่าเป็นของตัวเอง” “คนแบบนี้ ฉันเห็นว่าสมควรไล่ออก” คำพูดของผู้คนรอบๆ เสียงไม่ดัง แต่ห้องประชุมเล็กขนาดนี้ ถ้าฉันคิดจะไม่ฟังมันก็ยากเต็มที สิ่งนี้ ทำให้เวทนเองก็นั่งไม่ติดแล้ว “เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันล่ะเนี่ย? หืม? ตอนนี้คุณยังคิดจะพูดว่ามันเป็นงานของคุณอยู่ไหม? ฉันไม่ควรจะมาขายหน้ากับคุณเลย!” เขาพูดจบก็ลุกขึ้นคิดจะไป ฉันรีบลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งตรงไปพูดกับปัณฑาว่า “งานชิ้นนี้เป็นของฉันตั้งแต่แรก ฉันไม่รู้ว่าคุณใช้วิธีไหนมาคัดลอกไป แต่ว่า ของฉันก็คือของฉัน ปลอมแปลงไม่ได้!” “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” พอฉันพูดจบ ปัณฑาก็หัวเราะ เดิมเธอก็เป็นคนอ้วน เมื่อหัวเราะ ร่างกายท่อนและเนื้อบนหน้าก็สั่น พอเธอหัวเราะ ตมิสาที่อยู่ข้างๆ และยังมีคนอื่นๆล้วนแต่หัวเราะด้วย เวทนที่ตอนแรกจะออกไปแล้ว ได้ยินทุกคนหัวเราะ ก็กลับมาตะโกนเรียกฉัน “พอได้แล้ว! ยังอับอายไม่พออีกเหรอไง? รีบไปกับฉันเร็ว!” “ฉันไม่ไปค่ะ” ในตอนนั้นความกล้าหาญของฉันก็อยู่ที่นั่นแล้ว ฉันยืนอยู่ที่เดมิ และพูดซ้ำอีกว่า “งานเป็นของฉัน คนที่ต้องอับอายไม่ใช่ฉัน!” ครั้งนี้ ทุกคนที่ได้ยินต่างก็หัวเราะทั้งหมด มือทั้งสองของฉันกำหมัดแน่น เล็บจิกที่กลางฝ่ามือ แผ่นหลังเหยียดตรง ไม่ยอมถอยแม้เพียงก้าวเดียว ฉันไม่ยอมถูกกล่าวหาว่าทำผิด! ไม่ยอมแบกรับความผิดนี้ “ผู้ช่วยปรวันคะ ผลลัพธ์ออกมาชัดเจนทุกอย่างแล้ว พวกเราขอกลับก่อนนะคะ” ตมิสาหันไปพูดกับปรวัน “ปัณฑาของพวกเรามีงานหลายโครงการอยู่ในมือ ลูกค้ากำลังรอค่ะ” ปรวันหันมามองฉัน แล้วก็มองปัณฑาอีก แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ประธานดนุนัยบอกว่า ให้รอเขามาสักครู่” เมื่อพูดคำนี้ ตมิสาและปัณฑาจึงนั่งลง เมื่อได้ยินว่าดนุนัยกำลังมา ทุกคนก็ไม่กล้าหัวเราะกันเกินเบอร์เช่นนั้นอีก เวทนหันมามองฉันแล้วกระซิบว่า “คุณลอกงานไม่พอยังจะดึงประธานดนุนัยมาช่วยคุณพูดอีกเหรอ?” “ฉันเปล่า…” ที่จริง ตอนนี้ความรู้สึกของฉันก็สลับซับซ้อนยากจะเข้าใจ หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอดนุนัยนานแล้ว ตอนนี้เขาจะมาพบฉันด้วยเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องคิดอย่างไรดี ผ่านไปครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ ดนุนัยมาถึงแล้ว ในตอนที่เขาเข้ามา หัวหน้าทุกคน โดยเฉพาะตมิสายื่นหน้าไปหน้าสุดและทักทายเขา ดนุนัยเข้ามาก็ถามถึงสถานการณ์โดยประมาณ เพราะทุกคนมีความเชื่อมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบงาน จึงเริ่มต้นพูดถึงฉันอย่างเดือดดาล ด้วยคำว่า “ไม่ซื่อตรง” “เป็นคนที่ทำให้บริษัทนภากรุ๊บฯต้องอับาย” “ความเสื่อมทรามในกลุ่มนักออกแบบ” เป็นต้น คำที่ไม่สามารถทนฟังได้ ต่างเอามาพูด เอามาใช้กับฉันทั้งหมด ดนุนัยฟังอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่หันมามองฉัน คิ้วนั้นขมวดแน่น สีหน้าเย็นชาน่ากลัว นัยน์ตาสีดำขลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ กลุ่มหัวหน้าที่อยู่อีกด้าน มองเห็นอารมณ์ของดนุนัยที่ดูไม่ค่อยจะดีนัก พูดไปไม่กี่คำ ก็ไม่กล้าพูดอีก ในที่สุดดนุนัยก็หันมาทางฉัน แล้วพูดว่า “คุณพูดเถอะ” “นี่คือสิ่งที่ฉันทำค่ะ” ไม่มีอะไรที่ดนุนัยจะเข้าใจได้มากไปกว่านี้แล้ว ในตอนที่เราอยู่ด้วยกัน เขาเห็นว่าฉันทำสิ่งนี้ แต่ว่า ในเวลานี้ฉันหวังว่าเขาจะไม่พูดความจริงออกมามากกว่า เมื่อพูดไปแล้ว ฉันก็คงไม่มีวิธีที่จะได้อยู่ในบริษัทอีก “เฮ้ มาถึงตอนนี้เธอยังมีหน้ามาพูดว่าเป็นของเธออยู่อีกเหรอ? เธอ…” “หุบปาก!” ปัณฑากำลังคิดจะเยาะเย้ยฉัน ดนุนัยก็พูดอย่างชิงชัง พูดเพียงแค่สองคำ ก็แผ่รัศมีทำให้คนหวาดกลัว ปัณฑาสั่นอย่างหวาดผวา นั่งหมอบลงบนเก้าอี้ สายตาของดนุนัยมองมาที่ฉัน ในแววตามีความสงสัย คล้ายกับกำลังถามฉันว่า หวังจะให้เขาทำอย่างไร ในตอนที่เกิดเหตุชะงักงันเช่นนี้ ทันใดนั้นตมิสาก็ลุกขึ้นมา “ประธานดนุนัยคะ ฉันมีอะไรอยากจะพูดค่ะ” “คุณพูดสิ” สายตาดนุนัยกวาดไปทางเธอ “ฉันได้ยินมาว่า ความสัมพันธ์ของคุณกับณิชานั้นไม่ปกติ แต่ว่าครั้งนี้เธอทำการลอกเลียนแบบงานคนของฉัน ฉันจำเป็นต้องพูดเพื่อคนของฉันค่ะ ถ้าหากว่าคุณเลือกปฏิบัติ พวกเราจะออกจากบริษัทนภากรุ๊ปฯ แล้วก็จะไปที่ๆสามารถพิสูจน์ว่าพวกเรานั้นบริสุทธิ์” น้ำเสียงของตมิสานั้นแข็งกระด้างมาก เห็นได้ชัดว่าต้องการจะทำให้จบ เมื่อเธอพูด สีหน้าของผู้คนรอบๆก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างมองมาที่ฉัน สายตาคือไม่อยากจะเชื่อถืออะไร “ตมิสา คุณอย่าพูดเหลวไหล!” ในที่สุดปรวันก็พูดออกมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้ชื่อของผู้จัดการตมิสา ว่าชื่อ ตมิสา “ฉันพูดเหลวไหล? เรื่องนี้น่ะ ในฐานะเลขาของประธานดนุนัย คุณเองก็ควรจะเป็นคนที่เห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดไม่ใช่รึไง” ตมิสาพูดอย่างไม่กลัวเกรง ยิ่งไปกว่านั้นดนุนัยเองก็ไม่พูดอะไร ที่จริงแล้วความจริงของเรื่องนี้ก็ชัดเจนมาก ดนุนัยมองดูเธอ แล้วเดินไปที่กลางห้องประชุม พูดย้ำทีละคำทีละประโยคว่า “ผมไม่ค่อยรู้เรื่องงานออกแบบมากนัก แต่ว่าผมรู้ว่างานนี้เธอเป็นคนทำ เพราะว่าช่วงเวลานั้นเราอยู่ด้วยกันทุกวัน” คำพูดสั้นๆไม่กี่คำเหมือนโยนระเบิดลงไปในน้ำลึก! สายตาของทุกคนล้วนหันมาทางฉัน สายตาของฉันกลับหันไปมองตมิสา เหงื่อบนใบหน้าเธอไหลออกมา ดูราวกับว่าจะคิดไม่ถึงว่าดนุนัยจะเป็นพยานให้กับฉัน! ฉันยินอยู่ที่เดิม ในตอนที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ ก็ได้ยินตมิสาพูดว่า “ประธานดนุนัยคะ ถึงอย่างไรคุณก็เป็นประธานของ บริษัทนภากรุ๊ปฯ แต่เพื่อผู้หญิงคนเดียวยอมพูดโกหกเชียวเหรอคะ” 
已经是最新一章了
加载中