ตอนที่ 147 รุ่นน้อง หลังจากนี้เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 147 รุ่นน้อง หลังจากนี้เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ
ต๭นที่ 147 รุ่นน้อง หลังจากนี้เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ “หมายความว่าอย่างไรคะ?” ฉันสะดุ้งตกใจยืนอยู่ที่เดิม เห็นหมอจะเดินไปแล้ว ฉันรีบไล่ตามไป “หมายความว่ายังไง! คนเพิ่งจะถูกส่งมาไม่กี่ชั่วโมง ก็มาบอกฉันว่าเสียใจด้วย! ตอนเช้าเขายังนั่งกินข้าวกับฉันอยู่เลย เขายังไปส่งฉันทำงาน และยังพูดว่า…” “มากับผมสิ” หมอขัดจังหวะคำพูดของฉัน ฉันตะลึงงัน เมื่อเข้าใจแล้วว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ ส่ายหน้าอย่างแรง “ฉันไม่ไป! คุณหลอกฉัน! เขา เขาจะตายได้ยังไง!” มันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลย ฉันไม่เชื่อ! จะให้ฉันเชื่อได้ยังไง? ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านภทีป์ยังสบายดีอยู่เลย ตอนนี้โรงพยาบาลกลับบอกว่าเขาตายแล้ว? ฉันไม่อยากไปดู ฉันไม่อยากเชื่อ ฉันหมุนตัวเดินออกมา หมอตะโกนตามหลังฉันว่า “คุณณิชา ถึงแม้ว่าตอนที่มาถึงโรงพยาบาลคุณนภทีป์จะไม่ได้สติ แต่หลังจากที่พวกเราทำการช่วยชีวิต ได้ตื่นขึ้นมาในระหว่างนั้นอยู่ครั้งหนึ่ง” ฉันหันหน้าไป “แล้วจากนั้นล่ะคะ? ทำไมเรียกว่าได้สติมาหนึ่งครั้ง ทำไมพวกคุณไม่ช่วยชีวิตเขาตั้งแต่ที่เขาตื่นขึ้นมา!” ฉันตั้งคำถาม ถ้าหากฟื้นขึ้นมาแล้ว ทำไมถึงยังตายล่ะ! “ตอนที่เขาตื่นขึ้นมา ก็พูดว่า คุณจะต้องมา ถ้าคุณมาแล้ว ให้ผมบอกคำพูดเหล่านี้กับคุณ” หมอมองฉัน แล้วหยุดไปชั่วครู่ “เขาพูดว่าเขารักคุณ ถ้าหากชีวิตหลังความตายมีจริง ขอให้เขาได้พบกับคุณไวขึ้นกว่าเดิมด้วย” “...” “...” “...” ฉันมองไปที่หมออยู่เช่นนี้ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา หัวใจของฉันราวกับถูกบีบ เจ็บปวดเหลือเกิน “มากับผมเถอะ” หมอตรงเข้ามาโบกมือเรียก ฉันก้าวเท้า เดินตามหลังเขาลงไปที่ชั้นล่าง เห็นได้ชัดว่าด้านในนี้เย็นกว่าข้างบนอย่างมาก หมอพาฉันไปยังห้องเก็บศพ เปิดประตูออกแล้วตรงมากวักมือเรียกฉัน ฉันยืนนิ่งและมองเข้าไปข้างใน บางทีอาจเป็นเพราะโรงพยาบาลมีขนาดเล็ก จึงมีเพียงเตียงเดียวที่อยู่ที่นั่น มีคนนอนอยู่บนเตียงนั้น ร่างเหยียดยาวนั้นดูเหมือนว่าจะเตี้ยกว่านภทีป์ไปนิดหน่อย นภทีป์สูงกว่านี้ ถูกแล้ว นภทีป์สูงกว่าคนนี้ นี่ไม่ใช่นภทีป์ ฉันแกล้งทำให้ตัวเองพูดอย่างผ่อนคลายว่า “ทำให้ฉันกลัวแทบแย่ นี่ไม่ใช่รุ่นพี่ของฉันค่ะ รุ่นพี่ตัวสูงกว่านี้” พูดแล้วก็คิดจะเดินไป หมอที่อยู่ด้านหลังฉันพูดขึ้นว่า “หลอกตัวเองหรือหลบเลี่ยงไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ” “นี่ไม่ใช่รุ่นพี่ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ!” ฉันก้มหน้าลง แม้แต่ตัวเองยังพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “อย่างนั้นคุณก็ไปดูหน่อยสิครับ” ร่างนั้นปกคลุมด้วยผ้าขาว ฉันมองไม่เห็นใบหน้าของเขา “ดูเถอะครับ” ฉันทำเป็นโล่งใจ แล้วไปในห้องดับจิตสามสี่ก้าว เดินไปจนถึงตำแหน่งที่ห่างจากเตียงไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นเท้าก็หมือนถ่วงไว้ด้วยตะกั่ว ขยับไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว หมอตามเข้ามา เดินไปถึงข้างเตียง แล้วถามฉันว่า “อยากให้ผมช่วยเปิดผ้าไหมครับ?” “ไม่ต้องค่ะ! อย่าแตะ!” ฉันขัดขวางเขา ฉันกลัวสุดๆแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ฉันคิดจะหันกลับไป แต่ว่าเท้าฉันไม่ขยับแล้ว หมอเห็นว่าเป็นเช่นนี้ ก็ยกมือขึ้นตบไหล่ฉัน “ดูเถอะนะครับ ผมคิดว่า เขาเองก็หวังให้คุณมาเจอเขาด้วย” เขาอยากให้ฉันมาเห็นงั้นเหรอ? เป็นไปได้เหรอ? คำพูดของหมอ ราวกับเป็นแรงสนับสนุน ในที่สุดฉันก็ปลุกเร้าความกล้าก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยืนอยู่ตรงหน้าเตียง วางมือลงบนผ้าคลุมสีขาวตรงหน้าเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเปิดผ้าขาวออก เพียงแค่ยกขึ้นมุมเดียว ฉันก็มองเห็นใบหน้าของนภทีป์ ดวงตาของเขาปิดสนิท สีหน้าขาวซีดไปบ้าง แต่ยังไม่ซีดเผือดมาก มันเหมือนกับเขากำลังหลับอยู่ “รุ่นพี่...” น้ำตาที่เดิมทีกักเก็บเอาไว้ ได้ไหลออกมาจากดวงตาของฉันอีกครั้ง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย รุ่นพี่ที่เพิ่งจะไปส่งฉัน ตอนนี้กลับนอนอยู่ที่นี่ ฉันเอื้อมมือไปแตะมือของเขา แม้ว่ามันจะค่อนข้างแข็ง แต่ว่า ยังมีอุณหภูมิ! ยังคงมีอุณหภูมิ! “เขา เขายังมีชีวิตอยู่ค่ะ! เขายังไม่ตาย!” ฉันหันไปทางหมอ ดึงมือหมอมาแตะมือของนภทีป์ คุณดูสิคะ มือของเขายังอุ่นอยู่เลย เขายังไม่ตาย!” ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนพูดหรอกเหรอว่าคนตายนั้นร่างกายจะเย็น แต่ร่างกายของนภทีป์ยังร้อนอยู่เลย เขาอาจจะยังไม่ตาย! หมอดึงมือของเขาออก มองฉันอย่างเห็นอกเห็นใจ “คนที่ตายแล้ว การไหลเวียนของเลือดจะหยุดชะงัก แต่ศพผู้เสียชีวิตจะไม่เย็นลงในทันที...” “ไม่จริง คุณ พวกคุณไม่ได้ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่! เขายังไม่ตายนะคะ! เขายังไม่ตาย! พวกคุณต้องลองอีกครั้ง!” ฉันคุกเข่าลงพื้นจนเกิดเสียงกระแทกลงตรงหน้าหมอ มือทั้งสองข้างประสานบนหน้าอกแล้วขอร้องเขา “ขอร้องเถอะค่ะคุณ ช่วยเขาด้วย ลองอีกครั้งเถอะนะคะ เขายังไม่ตายจริงๆ” หมอมองดูฉัน และถอนใจยาว “คุณณิชาครับ คนตายไม่อาจฟื้นคืนได้ ผมอยากให้คุณให้ข้อมูลของเขาโดยเร็วที่สุดเพื่อที่เราจะได้ติดต่อครอบครัวเขาได้” พูดก็หมุนตัวเดินออกไปด้านนอก ฉันไล่ตามออกไป เพราะฉันวิ่งอย่างรีบร้อนเกินไป จึงล้มลงบนพื้น มือจึงฟาดลงแทบหัก แต่ฉันไม่สามารถที่จะไปจัดการอะไรได้มากนัก ฉันไล่ตามหมอ “ขอร้องเถอะค่ะ เขายังไม่ตายจริงๆ คุณช่วยเขาเถอะนะคะ!” หมอไม่สนใจฉัน เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างต่อเนื่อง ฉันไล่ตามขึ้นไปชั้นบน จนไปถึงห้องทำงานของหมอ ในตอนนี้เอง มีพยาบาลก้าวเข้ามา ทันใดนั้นก็เอาเข็มแทงเข้ามาในตัวฉัน ฉันมองดูเธอ คิดจะขัดขืน แต่ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที ฉันก็รู้สึกหนักที่เปลือกตา แล้วสติของฉันก็ห่างไกลออกไป เมื่อฉัน “ตื่นขึ้นมา” อีกครั้ง ก็รู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ มันคือ โรงแรม ฉันได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น พอเปิดประตู ก็มองเห็นรถเข็นคันหนึ่งที่ปากประตู ในขณะที่เปิดประตู กลิ่นโจ๊กหอมกรุ่นก็ลอยเข้ามา ฉันเงยหน้าขึ้น เห็นนภทีป์ยืนที่ปากประตู พูดกับฉันว่า “รุ่นน้อง อรุณสวัสดิ์” “รุ่นพี่...” ฉันมองเขาอย่างเงียบงัน ในหัวรู้สึกสับสน แต่ฉันก็ถอยหนึ่งก้าว ให้เขาเข้ามาในห้อง เขาจัดอาหารเช้าให้ฉัน แล้วนั่งลงข้างๆฉัน กินข้าวเช้าด้วยกัน จากนั้น ฉันก็เข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ ตอนที่ออกมา มองเห็นเขายืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้วมองมาที่ฉัน แสงอาทิตย์ส่องแสงลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่ม ดวงตาเป็นทรงโค้งอย่างเห็นได้ชัด มุมปากมีรอยยิ้มจางๆที่สวยงาม กำลังมองฉัน อย่างอบอุ่น และสวยงาม แสงอาทิตย์ที่ส่องกระจายอยู่บนตัวของเขา ราวกับแสงศักดิ์สิทธิ์ก็มิปาน เขาพูดกับฉันว่า “รุ่นน้อง หลังจากนี้เธอต้องดูแลตัวเองดีๆนะ” รุ่นพี่... ฉันมองเขา อยากจะพูดบางอย่าง แต่คำพูดนั้นติดอยู่ในลำคอของฉัน ฉันอยากจะตรงเข้าไปรั้งเขาเอาไว้ แต่เท้ากับไม่สามารถขยับได้ จากนั้น แสงอาทิตย์ก็จ้าขึ้นเรื่อยๆ แรงจ้าจนฉันมองไม่เห็นเขา... “รุ่นพี่ รุ่นพี่ รุ่นพี่!” ในตอนที่ฉันสามารถตะโกนกรีดร้องได้แล้วนั้นเอง— ก็ลืมตา ตรงหน้าเป็นแผ่นสีขาว แล้วฉันก็จำได้อย่างรวดเร็วว่าที่นี่คือโรงพยาบาล ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อกี๊นี้เป็นเพียงความฝันทั้งหมด เวลานี้เอง พยาบาลก็เข้ามา มองฉันแล้วพูดว่า “คุณตื่นแล้วเหรอคะ?” “ฉัน...ฉันเป็นอะไรไปคะ?” ฉันย้อนคิดอย่างละเอียดรอบคอบ เมื่อวานฉันไล่ตามหมอคนนั้น ขอให้เขาตรวจดูนภทีป์อีกครั้ง ต่อมาฉันถูกฉีดยา “เมื่อวานคุณดูตื่นเต้นมากเกินไป พวกเราจึงให้ยาระงับประสาทกับคุณค่ะ” พยาบาลอธิบายมาทางฉัน ฉันค่อยมองเธอ แล้วคิดถึงนภทีป์”รุ่นพี่ล่ะ? รุ่นพี่ของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?” “คุณพ่อคุณแม่ของเขามาแล้วค่ะ กำลังเตรียมตัวนำศพกลับไปที่บ้านเกิดของเขา บางทีอาจจะยังตามทันนะคะ” พยาบาลเอ่ย จะนำกลับไปแล้ว? ฉันไม่คิดอะไรเลย เพียงแค่สวมรองเท้าแล้ววิ่งออกไป 
已经是最新一章了
加载中