ตอนที่ 148 ตลอดชั่วชีวิตนี้ อย่าลืมว่าเธอเป็นคนฆ่านภทีป์!   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 148 ตลอดชั่วชีวิตนี้ อย่าลืมว่าเธอเป็นคนฆ่านภทีป์!
ต๭นที่ 148 ตลอดชั่วชีวิตนี้ อย่าลืมว่าเธอเป็นคนฆ่านภทีป์! อาจจะเป็นเพราะได้รับยาระงับประสาท ในตอนที่วิ่งอย่างเร่งรีบสมองของฉันเลยมีความมึนงงเล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจแล้ว เพิ่งมาถึงปากประตู ก็เห็นรถตู้คันใหญ่จอดอยู่ที่นั่น ข้างๆมีคนยืนอยู่เจ็ดแปดคน แค่มองแว้บเดียวฉันจำพ่อแม่ของนภทีป์ได้ทันที พวกท่านเองก็มองเห็นฉัน ฉันเดินไปข้างหน้า พ่อแม่ของนภทีป์ก็เข้ามา แล้วผลักฉันออกไป “เธอไม่ต้องตามลูกชายของเราไปอีกแล้ว! ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ! เธอมันดวงกินผัว! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ลูกชายของเราจะตายได้ยังไง!” “คุณป้า คุณป้า ช่างมันเถอะ อย่าโกรธจนทำร้ายตัวเองเลย” มีคนข้างๆเข้ามาพยุงเธอไว้ “คุณป้าคะ ฉันผิดเองค่ะ” ฉันมองร่างของนภทีป์ที่อยู่บนรถ แล้วขอร้องเธอ “ฉันอยากจะขอดูรุ่นพี่สักครั้งได้ไหมคะ?” “ไม่ได้!” แม่ของนภทีป์เข้ามาขวางไว้ และผลักฉันไม่หยุด “เธอมันดวงกินผัว เธอดู เธอดูแล้วเธอเอาชีวิตลูกชายของฉันกลับมาได้ไหม?” แม่ของนภทีป์ร่ำไห้อย่างเจ็บปวด เธอผลักฉันออกตลอด ทำให้ฉันแยกจากนภทีป์ ฉันรู้ว่า ถ้าร่างถูกนำไปแล้ว ฉันก็จะไม่ได้เจอนภทีป์อีกเลย “คุณป้าคะ ฉัน…” ในตอนที่ฉันจะร้องขอเธอต่อ ก็มีคนๆหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มคนด้านหลัง ในตอนที่ฉันไม่ยังทันที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง คนๆนั้นก็ยกมือขึ้น แล้วฝ่ามือก็ตบลงบนหน้าฉันอย่างแรง ดัง “เพี้ยะ”! ฉันรู้สึกเพียงในหูมีเสียงหึ่งหึ่ง เงยหน้าขึ้น คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือ ดวิษี เธอมองฉันด้วงดวงตาแดงก่ำ “ณิชา เธอไปให้พ้นได้ไหม ก่อนหน้านี้เธอก็ทำร้ายนภทีป์อย่างทารุณขนาดนั้น ยังไม่คิดจะสำนึกผิด ตอนนี้ก็เอาชีวิตเขาไปแล้ว เธอก็ยังไม่ยอมไป คิดจะทำอะไรกันแน่!” “ฉัน…” ฉันถูกเธอตบ แต่ก็ไม่เกลียดเธอเลยแม้แต่น้อย กระทั่งตอนนี้ในใจยังคงตำหนิตัวเอง ใช่แล้วล่ะ เป็นฉันที่เป็นคนทำร้าย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น นภทีป์จะรีบมาที่เมืองดรัลได้อย่างไร ถ้าหากไม่มา ก็ไม่ต้องกลับไป ก็จะไม่มีอุบัติเหตุ ทั้งหมดเป็นคาวมผิดของฉัน เป็นฉันที่ฆ่าเขา “ไสหัวเธอไปไกลๆเลย แต่ขอให้เธอ อย่าลืมไปตลอดชั่วชีวิตนี้ ว่าเธอเป็นคนฆ่านภทีป์!” ดวิษีพูดแล้วยกมือตรงไปเอื้อมปิดประตูรถตู้ และพยุงแม่ของนภทีป์ขึ้นไปบนรถ ฉันยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองดูพวกเขาขึ้นรถไป มองดูรถตู้ที่บรรทุกนภทีป์ไกลออกจากฉันไปมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองไม่เห็นรถแล้ว สุดท้ายแล้วฉันก็ทรุดตัวลงบนพื้น แล้วเอาหัวซุกเข้าไปในหัวเข่า แล้วพูดว่า “รุ่นพี่คะ…ขอโทษด้วยค่ะ…” ขอโทษ ถ้าหากเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ฉันก็อยากจะเป็นคนที่ตายแทน วันต่อมา ฉันกลับไปที่เมืองดรัล ไปแจ้งลาหยุดที่บริษัท หยิบเงินแล้ว เข้าพักห้องที่นภทีป์จองไว้ให้ฉันก่อนหน้านี้ แล้วฉันก็อาศัยอยู่ในนั้น ไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพียงแต่นั่งนิ่งบนเตียง จ้องไปที่บานประตู รอให้ที่ประตูมีเสียงเคาะดังขึ้น หวังว่าประตูจะเปิดออก แล้วเป็นนภทีป์ที่เดินเข้ามา แต่ว่า ฉันก็ผิดหวังทุกครั้ง เพราะที่มาเคาะตลอดคือพนักงานรูมเซอร์วิส ฉันอยู่ในนั้นมาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉันไปเปิดประตูด้วยความยินดี พอเปิดประตู ติณณายืนอยู่ที่ปากประตู เจอฉันแล้ว ก็เหวี่ยงหมัดเข้ามา “เธอบ้าพอหรือยัง!” “…” ฉันมองดูเธอ แล้วพึมพำว่า “พี่รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?” “เธอไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น” ติณณาเหลียวมองมาที่ฉัน แล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า “เธอทำอะไร? รอให้ตัวเองมีพลังวิเศษ เดินทางข้ามเวลาข้ามภพได้หรือไง?” “ฉัน…” จริงด้วยสินะ ฉันกำลังเฝ้ารอคอยอะไร นภทีป์ตายไปแล้ว เขาไม่สามารถหวนกลับมาได้อีกแล้ว “เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” ติณณานั่งลงบนเตียง แล้วมองฉัน ฉันเริ่มเล่าให้เธอฟังตั้งแต่เรื่องลอกเลียนแบบงานในรอบรองชนะเลิศ จนไปถึงเรื่องการตายของนภทีป์ เล่าจบ ฉันพึมพำว่า “เรื่องทั้งหมดตำหนิฉันได้เลยค่ะ เป็นเพราะฉันไม่มีความสามารถ ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องให้เขามาช่วย ดังนั้นเขาจะได้ไม่ต้องมาที่ดรัล ไม่ต้องขับรถด้วยความเร็วสูง ไม่ต้องตาย—“ “ตื่นตื่นได้แล้ว! ทั้งหมดมันเป็นอุบัติเหตุนะ!” “ไม่ใช่อุบัติเหตุค่ะ ไม่ใช่เพราะฉันเขาก็ไม่ต้องมาที่ดรัล” ฉันพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างหนักแน่น “ถ้าเขาไม่มาที่เมืองดรัล ก็ไม่ต้องขับกลับไปด้วยความเร็วสูง…” ติณณานั่งบนเตียงมองดูฉันเป็นอย่างนี้ แล้วก็ดึงฉันข้าไปกอดไว้ “เอาเถอะ ทุกอย่างเป็นความตั้งใจของนภทีป์นะ ถึงแม้เขาจะรู้ว่ามันจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาย่อมต้องมาแน่นอน มันเป็นสิ่งที่เขาเลือก” “แต่ว่า…” “มี คำว่า แต่ว่า มากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน เขาไม่เสียใจแน่ๆ เพื่อคนที่ตัวเองรัก เขาไม่มีอะไรต้องเสียใจหรอกนะ” คำพูดของติณณาทำให้ฉันอดเงียบไปไม่ได้ เพื่อคนที่ตัวเองรัก เขารักฉัน ฉันก็รู้ดี ตอนที่เขาใกล้จะตายเขาส่งข้อความให้แก่ฉันมากมาย บอกว่าเขานั้น รักฉัน แต่ว่าฉันไม่สมควรที่จะได้รับมันเลย… ติณณาเป็นเพื่อนฉันไปทำการเช็คเอาท์ แล้วกลับบ้าน ตอนที่ฉันอยู่ที่บ้าน ก็ได้รับสายจากเวทน เขาบอกฉันว่า หัวข้อของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศออกมาแล้ว จะต้องร่วมเดินทางไปประชุมใหญ่ด้วยกันสามวันหลังจากนี้ แล้วถามฉันถึงสถานการณ์ทางนี้ ว่าจะลาหยุดจนถึงเมื่อไหร่ “ขอโทษด้วยค่ะ ผู้จัดการเวทน ฉันจะไม่เข้าแข่งรอบชิงชนะเลิศแล้ว” ฉันตอบราบเรียบ ตอนที่ฉันได้ยินเวทนพูด ฉันก็ย้อนกลับไปอีก ว่าถ้าไม่มีการแข่งขันครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องบ้าบอของปัณฑา ก็จะไม่มีเรื่องตามมาภายหลัง! “อะไรนะ?” เวทนที่อยู่ปลายสายอีกด้านตะลึง จากนั้นรีบใช้ถ้อยคำที่ดีพูดขึ้นทันทีว่า “ณิชา เราไม่ได้ทำเล่นๆนะ คุณเองก็ยากลำบากในการพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ลอกเลียนแบบงาน มาถึงรอบชิงฯแล้ว ตอนนี้มาพูดว่าจะไม่เข้าร่วมแปลว่าอะไร?” “ผู้จัดการคะ คนที่ช่วยฉันพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้ลอกเลียนแบบผลงาน ตายแล้วค่ะ เป็นฉันที่ทำให้เขาตาย” ฉันถือโทรศัพท์ แล้วพูดเสียงสั่นเครือ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ น้ำตาก็ไหลรินออกมาจากดวงตา ในใจของฉันปวดร้าวหาใดเปรียบ “ตายแล้ว?” เวทนที่อยู่ปลายสายตกตะลึง “ทำไม…กะทันหันขนาดนี้” “ใช่ค่ะ ดังนั้นฉันจะไม่เข้าแข่งแล้วค่ะ” พูดจบ ก็วางสาย ฉันในตอนนี้ รู้สึกสูญเสียทุกคนที่ฉันรักไปหมดแล้ว ติณณาได้ยินฉันคุยโทรศัพท์ ออกมาถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” “ไม่มีอะไรค่ะ แค่จะไม่เข้าแข่งรอบชิงฯแล้ว” ฉันตอบเรียบๆ ติณณาได้ยินแล้ว ยืนตะลึงอยู่ที่เดิม แล้ววินาทีต่อมาก็เดินเข้ามา แล้วตบแก้มของฉัน “น้องสาวของฉัน เธอเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม? รอบชิงฯนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ลอกเลียนแบบงาน นภทีป์ใช้ชีวิตของเขาเข้าแลกนะ เขาตายไปแล้ว แต่เธอกลับจะไม่เข้าร่วมแล้ว เธอไม่ละอายใจต่อเขาเหรอ?” “ฉัน…” เดิมทีสมองของฉันเป็นแบบนี้มาหลายวัน คิดแบบนี้จนเป็นปกติ แต่คำพูดของติณณา ทำให้ฉันตื่นทันทีทันใด ใช้แล้วล่ะ ความบริสุทธิ์ครั้งนี้เป็นนภทีป์ใช้ชีวิตเอาหลักฐานมาให้ฉัน ฉันจะไม่เข้าร่วมได้อย่างไร? ฉันหยิบโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ตอนที่คิดว่าจะโทรไปหาเวทน เขาก็โทรกลับมาหาฉันพอดี ฉันรับสายแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยค่ะ ผู้จัดการ เมื่อกี้นี้สมองของฉันยังไม่ชัดเจน ฉันเข้าแข่งค่ะ ฉันเข้าแข่งรอบชิงชนะเลิศ!” เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน เวทนที่อยู่ปลายสายก็ถอนใจด้วยความโล่งอก “โธ่เอ๋ย ณิชา คุณทำฉันตกใจแทบตาย” “ฉันจะเข้าแข่งค่ะ” ฉันพูดซ้ำ “ดีแล้วดีแล้ว ประกาศรอบชิงชนะเลิศจะถูดส่งเป็นแบบส่วนตัวนะ ตอนนี้ฉันส่งอีเมลไปให้คุณแล้ว คุณลองดูแล้วกัน” เวทนพูดจบก็วางสาย ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที อีเมลของฉันก็ได้รับเมลที่เวทนส่งมา เป็นเมลเกี่บวกับรอบชิงชนะเลิศ
已经是最新一章了
加载中