ตอนที่ 153 เขาเป็นเพียงแค่…พี่เขยของฉัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 153 เขาเป็นเพียงแค่…พี่เขยของฉัน
ฉันรู้ว่า ปัณฑาไม่ได้ขอโทษฉันหรือนภทีป์ แต่ว่ากลัวที่จะเป็นศัตรูกับดนุนัย ฉันเองก็ไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่นาน พอปล่อยมือจากเธอก็จะไปเลย รีสอร์ททั้งหมดถูกปิดในช่วงเวลาของการแข่งขันรอบชิงฯ กรรมการยังไม่มา นอกเหนือจากพนักงานที่ทำงานแล้ว แขกที่มาเข้าพักทั้งหมดก็คือพวกเราเจ็ดคน แล้วยังมีดนุนัยกับนิพิฑ ถ้าหากดนุนัยไปขวางฉันที่ห้อง ฉันย่อมไม่มีทางเผ่นหนีได้ แต่อีกกรณีหนึ่ง ฉันไม่ได้กลับห้อง แต่เดินอยู่รอบๆแทน ฉันต้องบอกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกของรีสอร์ทแห่งนี้ดีมาก มีสระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟขนาดเล็ก และสถานที่สำหรับคณะแสดงละครสัตว์ แต่เนื่องจากไม่มีใครเลย สถานที่แสดงละครสัตว์จึงถูกปิดไว้ ฉันเดินไปรอบๆ เหลือบมองดูนาฬิกา เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า ดนุนัยไม่น่าจะตามมาแล้วล่ะ… ในตอนที่กำลังเดินกลับ ไม่กี่นาทีก่อนหน้าท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยดวงดาว ทันใดนั้นก็เริ่มมีเม็ดฝนโปรย พริบตาเดียวฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ฉันพุ่งตรงกลับมา และเมื่อฉันกำลังตรงไปที่ประตูห้อง ก็มีกับคนๆหนึ่งพุ่งออกมาจากมุม! หัวของคนๆนั้นกระแทกเข้ากับข้อศอกของฉันพอดี! “อ้า!” คนๆนั้นล้มลงบนพื้น เสียงความเจ็บปวดดังลอดเสียงฝน “ขอโทษค่ะ” ฉันขอโทษและมองดูดีๆ ทันใดนั้นก็เห็นว่าเป็นเศวยา ฉันร้องเรียกชื่อเธอ “เศวยา” เศวยาเงยหน้าขึ้น มองเห็นฉัน ไม่พูดอะไรแล้วจะเดินไปเลย ฉันดึงเธอไว้ทันที “ฝนตกหนักขนาดนี้ ห้องของฉันอยู่ตรงนี้เอง เข้ามาหลบฝนก่อนเถอะค่ะ” เธอหันมามองฉัน ฝนกำลังตกหนัก ท้องฟ้ามืดสนิท ฉันมองไม่เห็นท่าทีของเธอ เพียงแค่ได้ยินเธอพูดว่า “ขอบคุณ” ดูเหมือนว่าจะตอบตกลงแล้ว ฉันกับเธอเข้าไปในห้องด้วยกัน ในช่วงเวลาที่ต้องมีมารยาท ฉันให้เธอใช้ห้องน้ำก่อน ห่อตัวเองด้วยผ้าขนหนูแล้วยืนรออยู่ตรงมุมห้อง รอจนเธออาบน้ำเสร็จ ฉันถึงจะเข้าไปอาบ ทุกห้องของรีสอร์ทนี้สามารถพักได้สองคน ดังนั้นในแต่ละห้องจึงมีชุดคลุมอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว และของใช้ในห้องน้ำไว้คอยบริการสำหรับจำนวนสองคน ตอนที่ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วและสวมชุดคลุมออกมา มองเห็นเศวยาสวมชุดคลุมอาบน้ำกำลังนั่งอยู่บนโซฟา เธอเห็นฉันแล้วก็พูดอย่างเขินอายนิดๆว่า “ขอบคุณนะ ตอนนี้ฝนน่าจะซาแล้ว อีกสักพักถ้าหยุดฉันจะไปเลย” “ไม่ต้อง ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่ต้องรีบ” ฉันเกรงใจ เศวยาคนนี้ดูเหมือนเป็นคนที่ดีมาก แต่ในความเป็นจริงเมื่อได้สัมผัสจะค้นพบว่า มีความรู้สึกปลีกตัวจากผู้อื่นอยู่ ด้านนอกฝนตกนานแล้ว ฉันยืนอยู่หน้าเตียง มองดูฝนข้างนอก เศวยานั่งอยู่บนโซฟา ทั้งห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ทำให้หายใจติดขัด “ติ๊งต่อง” ในเวลานี้เอง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น ฉันไม่ได้คิดมาก เดินไปเปิดประตูทันที เมื่อเปิดประตูแล้ว เป็นดนุนัยที่ยืนอยู่หน้าประตู มีร่มอยู่ในมือของเขา ผมแนบบนใบหน้า น้ำฝนทำให้ผมของเขาปรกลงมา ฉันก้มหน้าลง กางเกงของชายหนุ่มเปียกอย่างเห็นได้ชัด ฉันตกใจทันที คิดว่าจะพูดแต่ก็คิดได้ว่าเศวยาอยู่ในห้อง จึงพูดเพียงว่า “มีธุระเหรอคะ?” “ใครเหรอ?” ดนุนัยยังไม่ทันพูด เศวยาก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามา เมื่อเธอมองเห็นดนุนัยก็ตกใจ “ประธานดนุนัย” เมื่อกี๊นี้บรรยากาศห้องเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเพิ่มความแปลกใจเข้าไปอีก เศวยามองฉัน แล้วเอ่ยว่า “ฉันขอตัวก่อนนะ” “อย่า…” ด้านนอกฝนตกหนัก ถ้าหากเศวยาออกไปตอนนี้ กลัวว่าพรุ่งนี้จะเป็นหวัดได้ ดนุนัยก้าวมาอยู่ที่ปากประตู แล้วอธิบาย “ไม่ต้อง ข้างนอกฝนตกหนัก ผมเพียงแค่มาดูว่าเธอกลับมาหรือยัง กลัวว่าเธอจะยังอยู่ข้างนอกเท่านั้นเอง” คำอธิบายนี้มีต่อเศวยา แต่ว่า ใจของฉันยังคงสั่นเล็กน้อย เขาเป็นห่วงฉันเหรอ? ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น “อย่างนั้น อย่างนั้นฉันก็ควรจะไปได้แล้ว” ดูเหมือนเศวยาจะมีความไม่สบายใจ ดนุนัยยังคงอยู่ที่ประตู ขวางเธอไว้ “อย่าเลย คุณไปแล้ว เธอก็จะโทษผม ผมไปเอง ผมแค่กลัวว่าเธอจะเปียกฝน กลับมาก็ดีแล้ว ผมก็วางใจแล้ว” พูดจบ ก็หยิบร่ม หายไปท่ามกลางคืนฝนตก รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างอธิบายไม่ได้ ฉันยืนที่ปากประตู คิดถึงคำพูดของเขาเมื่อสักครู่นี้ มีไม่บ่อยนักที่จะได้ยินเขาพูดเยอะเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวจริงๆว่าฉันจะโกรธถ้าเศวยาไป จึงทำเพียงแค่อธิบายซ้ำๆ มีความรู้สึกในใจที่ฉันไม่สามารถอธิบายได้ อยากจะตะโกนหยุดเขาเอาไว้แต่คำพูดติดอยู่ที่ลำคอ พูดไม่ออก และกลืนกลับไปไม่ได้ เศวยายืนมองดูฉันอีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนจะอายเล็กน้อย “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันควรจะไปได้แล้ว รบกวนพวกเธอเสียแล้ว” คำพูดของเธอทำให้ฉันรู้ตัว ว่าเธอยังอยู่ จึงรีบส่ายหัว “ไม่ใช่ ไม่เลย ฉันกับเขา…” ฉันกับเขาเป็นอะไรกัน? ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง ทำได้เพียงแค่ปิดประตู แล้วชงชาสองแก้ว ส่งให้เศวยาหนึ่งแก้ว เศวยารับมาแล้วมองฉัน มุมปากมีรอยยิ้มจางๆ “อันที่จริงความสัมพันธ์ของพวกเธอ ทุกคนก็รู้หมดแล้ว พวกเราหลายคนได้รับคำสั่งกำชับเป็นพิเศษก่อนจะมา” “อะไรนะ?” “บอกว่าเธอกับประธานดนุนัยเป็นคนรักกัน ดังนั้นนักออกแบบชายสองคนที่เข้าชิงฯห้ามสนใจเธอ เว้นแต่ว่าไม่อยากจะทำงานที่บริษัทนภาฯแล้ว” ตอนที่เศวยาพูดนั้นหัวเราะอยู่ตลอด ทันใดนั้นฉันก็เกิดความอาย “ที่จริงฉันกับเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะ เขาแค่เป็นพี่เขย…ของฉัน” ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากจะยอมรับมันมากๆ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง “แต่ว่าเขาชอบเธอ” เศวยานั่งบนโซฟา มองมาทางฉัน แววตาสงบ “ไม่ใช่หรอก” ฉันรีบปฏิเสธ แล้วคิดถึงก่อนหน้านี้ที่โดนดนุนัยเล่นสนุกกับความรู้สึกของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันลดสายตาลงต่ำ “ก่อนหน้านี้ฉันก็คิดเช่นนี้ค่ะ แต่ว่าหลังจากมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ฉันไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว” “บอกตามตรงนะ เมื่อกี้นี้ที่ประธานดนุนัยยืนอธิบายที่ปากประตูเพราะกลัวว่าเธอจะโกรธ ถ้าหากไม่ใช่เพราะทั้งรีสอร์ทมีแต่พวกเรา ฉันคงนึกสงสัยว่านั่นคือฝาแฝดของประธานฯหรือเปล่า” ในคำพูดเศวยาแฝงความล้อเลียนสนุกๆ พูดจบ ก็ยังหัวเราะ ฉันเงยหน้าขึ้นมองเธอ คราวนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าระยะห่างของเธอนั้นน้อยลง ตอนที่ฉันกำลังคิดวกวนว่าจะพูดอะไรดี เธอก็ลุกขึ้นมองไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดว่า “ฝนหยุดแล้ว ฉันไปล่ะนะ ขอบคุณสำหรับน้ำชานะ” เธอเอาแก้วชาวางลงบนโต๊ะ เดินออกไปเลยโดยไม่รอให้ฉันพูด ฉันเก็บของแล้วเข้านอน นอนอยู่บนเตียง สิ่งที่ยังตามตื๊ออยู่ในสมองไม่ไปไหนก็คือ เรื่องเมื่อสักครู่ที่ดนุนัยยืนถือร่มอยู่หน้าประตูแบบนั้น ดูเหมือนว่าเขากลัวและตื่นตระหนกว่าถ้าเศวยาไปจะทำให้ฉันโกรธ ดูราวกับว่าเขาห่วงใยฉันจริงๆ และไม่รู้ว่าตัวเองคิดฟุ้งซ่านนานขนาดไหน ถึงหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที รู้สึกว่าในหัวนั้นมึนงง คอร้อนเป็นไฟ ปวดอย่างแสนสาหัส เป็นไข้แล้ว นี่คือปฏิกิริยาแรกของฉัน คิดจะกินน้ำ และเอื้อมือไปตำแก้วน้ำที่หัวเตียง เมื่อถือมาไม่มั่นคง จึงหล่นลงพื้นเสียงดัง “เพล้ง” ใจของฉันก็เย็นเยียบ ฉันในตอนนี้ ปวดไปทั้งตัว ดวงตาก็ดำคล้ำ เรื่องง่ายๆอย่างลุกมาเทน้ำสักแก้ว ก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน ฉันดิ้รนอยู่ชั่วครู่ ก็ผล็อยหลับไปอย่างสะลึมสะลือ จนกระทั่งรู้สึกเย็นซ่านราวกับน้ำแข็งที่หน้าผาก! ฉันขมวดคิ้วนิดๆ และรู้สึกว่ามีแผ่นเจลลดไข้แปะอยู่บนหน้าผาก วินาทีต่อมา ฉันรู้สึกว่ามีริมฝีปากอบอุ่นคู่หนึ่งประกบกับฝากของฉัน จากนั้น น้ำอุ่นค่อยๆเทเข้าสู่ปากของฉัน…
已经是最新一章了
加载中