ตอนที่159เธอกับนภทีป์ เคยมีอะไรกันไหม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่159เธอกับนภทีป์ เคยมีอะไรกันไหม
ต๭นที่159 เธอกับนภทีป์ เคยมีอะไรกันไหม? เรื่องแบบนี้ ดูเหมือนความรู้สึกของชายหนุ่มอ่อนไหวมาก ดนุนัยรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฉัน และเริ่มเคลื่อนไหวตัวเองทำต่อไป ในตอนที่ฉันชนะใจตัวเองแล้วนั้น ในสมองกลับคิดถึงนภทีป์ขึ้นมา ทำไมในเวลาอย่างนี้กลับคิดถึงเขา ฉันเองก็ไม่รู้ เมื่อใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวดนุนัยก็รู้ทันที เขาก้มหน้าลงมองฉัน คิ้วขมวดแน่นจนจะกลายเป็นเส้นของแม่น้ำ แล้วเอ่ยว่า “คิดถึงใครอยู่?” น่าประหลาดใจ เขาไม่ได้ถามฉันว่ากำลังคิดอะไร แต่ถามว่าคิดถึงใคร หรือว่าชายคนนี้จะอ่านใจได้? ในตอนที่ฉันมองเขาด้วยความสงสัย ชายหนุ่มก็คว้าแขนของฉันอย่างแรง ดวงตาของเขาเย็นชา เรามองหน้ากัน ดนุนัยมองฉัน สายตาคู่นั้นราวกับต้องการจะจ้องให้ทะลุไปถึงหัวใจ กระเพาะและไตของฉันยังไงงั้น แต่เพียงแค่ครู่เดียว ชายหนุ่มก็ลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องน้ำโดยไม่หันกลับมา ฉันได้ยินเสียงเปิดฝักบัวอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ฉันนั่งบนเตียง ค่อยๆแอบมองไปที่ห้องน้ำ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับเขา ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ดนุนัยก็ออกมาจากห้องน้ำ เส้นผมชุ่มไปด้วยน้ำ ชายหนุ่มเปลือยกาย มีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันไว้ แสงจันทร์ส่องลงบนกล้ามเนื้อของชายหนุ่มเป็นแสงนวลตา ฉันมองไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่รู้สึกได้ว่าทั้งตัวของชายหนุ่มนั้นเย็นยิ่งกว่าแสงจันทร์ และแห้งยิ่งกว่าอากาศในคืนนี้ มองเห็นชายหนุ่มที่เดินมาที่ข้างเตียง ฉันรีบแกล้งหลับตาทำเป็นหลับไปเรียบร้อยแล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มนั่งลงแล้วใช้ผ้าหุ่มคลุมตัวให้ฉัน จากนั้นก็นอนลงและกอดฉันไว้ กลิ่นของแชมพูมินต์จางๆลอยเข้าจมูกฉัน ทำให้หัวใจของฉันสับสน ฉันทำเป็นสงบเยือกเย็นเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของฉัน เดิมฉันคิดว่าเขาจะทำอะไร แต่สุดท้ายแล้วเขาเพียงแค่กอดฉันไว้เท่านั้น ในคืนที่เงียบงัน ฉันได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจเบาๆดังออกมาเหนือหน้าผากของฉัน ตอนเช้า เมื่อฉันตื่นนอน ดนุนัยก็ไม่ได้อยู่ในห้อง ฉันเข้าไปในห้องน้ำ ยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้า ที่ด้านข้างก็มองเห็นแก้วอีกหนึ่งใบ ข้างในวางแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบเดียวกันกับฉันแต่คนละสี ใจของฉันกระเพื่อมขึ้นมาเล็กน้อย มันเป็นแปรงสีฟันที่ฉันซื้อให้ดนุนัยตอนที่อยู่ที่บ้าน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนส่วนหัวแปรงใหม่แล้ว แต่ยังคงใช้ด้ามแปรงอันนั้น เมื่อฉันแปรงฟันเสร็จก็ออกจากห้องน้ำ ชายหนุ่มก็ผลักประตูเข้ามาพอดี ชายหนุ่มสวมชุดกีฬา ร่างกายส่วนบนชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหงื่อบนเส้นผมนั้นใสเป็นพิเศษภายใต้แสงอาทิตย์ เมื่อยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งตัวมีบรรยากาศที่แตกต่างจากเมื่อก่อน ฉันกำลังยืนอยู่ที่เดิม ชั่วขณะนั้นรู้สึกไร้วิญญาณ เขามองฉัน แต่กลับเหมือนมองไม่เห็น เดินผ่านฉันเขาไปในห้องน้ำ จากนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเปิดฝักบัวอาบน้ำอีกครั้ง นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น ฉันดูเวลา ถึงเวลากินข้าวเช้าแล้ว คิดได้ว่าปกติฉันไม่เคยเห็นเขาที่ห้องอาหาร ดนุนัยน่าจะมีห้องอาหารพิเศษสำหรับกินข้าว ยิ่งไปกว่านั้นฉันก็ไม่ได้หวังจะให้คนอื่นเห็นฉันอยู่กับเขา ฉันตัดสินใจที่จะรีบออกไปในตอนที่เขายังอาบน้ำอยู่ เมื่อวานนอนหลับดึก วันนี้ตื่นเช้า ฉันรู้สึกปวดตา ฉันเดินไปด้วยถูตาไปด้วย ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีเรี่ยวแรงอย่างมากจับฉันไว้ตอนที่ฉันกำลังขยี้ตา จากนั้นก็ได้ยินชายหนุ่มพูดว่า “ทำไมไม่รอฉัน” วินาทีนั้นฉันสะดุ้งตกใจและถูกชายหนุ่มดึงไปอีกทาง “ปล่อยฉันนะ” ฉันเอ่ยตามไปสัญชาตญาณ ดนุนัยหันมามองฉันอย่างเรียบเฉย “ถ้าเธออยากจะให้คนอื่นแห่กันมา ก็ร้องต่อเถอะ” เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ฉันก็ปิดปากตัวเองทันที ชายหนุ่มพาฉันเข้าไปด้านในสวนสนามหญ้าของรีสอร์ท โดยปกติจะต้องมีคนตคอยดูแลอยู่ที่นี่ พวกเราทุกคนต่างไม่เคยมีใครเข้าไป ปรากฏว่าดนุนัยพักอยู่ที่นี่ ฉันเข้าไปกับเขา การตกแต่งของที่นี่กับด้านนอกมีสไตล์ที่ไม่ต่างกันมาก แต่ว่าทันสมัยกว่ามาก ดนุนัยพาฉันไปยังห้องอาหารเล็กๆ ด้านนอกมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ ด้านในมีพนักงานเจ็ดหรือแปดคนบริการพวกเรา หลังจากนั้นไม่นาน บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารเช้าชุดใหญ่ ฉันมองดูแว้บหนึ่ง สิ่งนี้กับด้านนอกนั้นไม่ใช่ระดับราคาเดียวกันโดยสิ้นเชิง มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอาหารของจักรพรรดิที่เห็นในทีวี ตลอดมื้อเช้า ฉันยุ่งอยู่กับการกินข้าว ไม่ได้พูดกับดนุนัยสักคำ แต่สีหน้าของเขายังคงไม่ดี ดูเหมือนเขาเองก็ไม่ได้จะพูดกับฉัน หลังมื้อเช้า ใจของฉันอยากจะไปทำงานอย่างเต็มเปี่ยม เนื่องจากไม่สามารถทำงานในตอนกลางคืนได้ ก็ต้องรีบทำในตอนกลางวัน ฉันพูดกับดนุนัยว่า “ถ้าหากไม่มีเรื่องจะพูด ฉันขอกลับไปที่ห้องก่อนนะคะ” “ฉันให้นิพิฑไปเอาแล็ปท็อปของเธอมาแล้ว เธอทำงานอยู่ที่นี่กับฉัน” ดนุนัยพูดแล้วดึงแขนฉันเดินไปยังห้องอีกห้องหนึ่ง “ทำไมคะ?” “ไม่ทำไม” ฉันไม่รู้ว่าทำไม วันนี้รอบๆตัวดนุนัยราวกับเป็นพายุไซโคลน เขาพูดจบ ฉันก้มหน้างุด แม้แต่คำพูดที่จะคัดค้านสักคำก็ไม่ได้พูดอกมา ทำอะไรไม่ถูก ได้แค่ปล่อยให้เขาดึงไป ดนุนัยพาฉันไปที่ห้องทำงานของเขา ที่นี่มีลักษณะที่ตั้งสูงมาก มีผนังกระจกสามบาน สามารถมองเห็นทัศนียภาพของรีสอร์ทได้ทั่ว ด้านในมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ บนโต๊ะมีคอมพิวเตอร์และเอกสาร และเก้าอี้ของผู้บริหาร นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอีกตัวอยู่ใกล้ๆ ดูเหมือนว่า ฉันจะตองมาทำงานที่นี่เสียแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน นิพิฑก็นำแล็ปท็อปแล้วข้าวของของฉันเข้ามา ฉันเลือกที่จะนั่งหันหน้าไปด้านนอกและเริ่มทำงาน ดนุนัยนั่งอยู่ด้านหลังฉัน ฉันมองไม่เห็นเขา แต่ก็ไม่คิดที่จะคิดเรื่องอื่น “ณิชา เมื่อคืนนี้เธอฝันงั้นเหรอ?” ฉันเพิ่งจะเปิดโปรแกรมและเริ่มทำงานที่ยังทำไม่เสร็จต่อจากเมื่อคืนนี้ ก็ได้ยินเสียงของดนุนัยดังขึ้นจากด้านหลัง “อะไรนะคะ?” ฉันหันไป มองเห้นชายหนุ่มก้มหน้าพลิกเอกสารในมืออยู่ ไม่ได้มองมาที่ฉัน เหมือนกับว่ามันเป็นคำถามทั่วไปเท่านั้น “ฝันเหรอคะ?” ฉันคิดอย่างถี่ถ้วนครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ไม่นี่คะ” จากนั้น ดนุนัยก็ไม่คุยกับฉันอีกเลย จนกระทั่งเวลามาถึงเที่ยงคืน พวกเราก็กลับไปที่ห้องเพื่อนอนหลับ เมื่อวานไม่ค่อยได้นอน คราวนี้ฉันจึงง่วงมาก ล้มตัวลงนอนก็หลับไปเลย ในตอนที่กำลังสะลึมสะลือ ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนๆหนึ่งยืนมองฉันยู่ใกล้ๆถึงแม้ว่าฉันจะหลับตาและมองไม่เห็น แต่กลับรู้สึกเหมือนว่าตัวเองมองเห็น สามารถมองเห็นดวงตาคู่นั้นที่เด่นชัดและอ่อนโยน มีรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก “รุ่นพี่…” ฉันพึมพำเอื้อมมือออกไปคว้า ทั้งสองมือนั้นจับได้อะไรบางอย่างจริงๆ มันแข็ง จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงลมหายใจหนักๆของผู้ชาย ฉันไม่ได้สนใจ ตอนที่คิดจะนอนต่อ ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีแรงบีบอยู่รอบคอฉัน หายใจอย่างยากลำบาก “เอ่อ…” ฉันพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ทว่ามันยากมาก ความเจ็บปวดทำให้ฉันจำใจต้องลืมตาขึ้น มองเห็นดนุนัยยั่งอยู่บนเตียงใช้มือข้างนึงจับที่คอของฉัน สายตามองมาที่ฉัน เหมือนมีเปลวไฟปะทุ! “คุณ…คุณทำอะไร…” ฉันมองดนุนัยอย่างเจ็บปวด แล้วเปิดปากพูด ชายหนุ่มก้มหน้า มองฉันจากมุมสูง แล้วถามว่า “เธอกับนภทีป์ เคยมีอะไรกันไหม?”
已经是最新一章了
加载中