ตอนที่ 165 คุณแม่ของคุณชื่ออะไร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 165 คุณแม่ของคุณชื่ออะไร
ต๭นที่ 165 คุณแม่ของคุณชื่ออะไร คำพูดของธีภพนั้นร้ายกาจมากจริงๆ เขาพูดออกมา ฉันไม่มีทางรับได้เลยอีกด้านหนึ่งก็คิดว่าจะพูดอย่างไรแล้วจากไปเลยดี ดูเหมือนว่าธีภพจะมองไม่ออกถึงความอึดอัดใจของฉัน พูดต่อว่า “คุณเนี่ยนะ อายุก็ยังน้อย ที่จริงก็นับได้ว่ามีสมอง คิดพัฒนาทักษะความสามารถด้วยตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ ยังดันทุรังเดินเข้าไปสู่ลัทธินอกรีตพวกนี้ เขามีเงิน ความสัมพันธ์ก็ย่อมมีมาก มันเป็นของเขาทั้งนั้น วันไหนที่เขาทิ้งคุณ คุณจะยังเหลืออะไร? แม้แต่เสียงผายลมก็ยังไม่เหลือ!” ฉันยืนอยู่ข้างๆธีภพ ค่อยๆมองเขา เขาพูดไม่ผิด คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนพ่อกำลังพูดกับฉัน และอายุของเขาก็สามารถเป็นพ่อของฉันได้ ธีภพถือแว่นกันแดดที่เพิ่งซื้อมาจากนั้นสวมลงบนหน้าแล้วหันหน้ามาถามฉัน “เฮ้ คุณเอาคอมพิวเตอร์ของคุณมาที่ภัตตาคารริมน้ำด้านตะวันตกนะ ผมจะบอกคุณให้ว่า งานของคุณมีปัญหาตรงไหน” “อ่า?” “เร็วๆด้วย!” ธีภพก็คือปีศาจแลนซ์ที่มีความพรสวรรค์ในตำนาน เมื่อเขาจะชี้แนะฉันแบบตัวต่อตัว มันเป็นเรื่องที่ได้แต่หวังแต่ไม่อาจร้องขอได้ แต่ตอนนี้เขาพูดออกมาแล้ว หลังจากนั้นรู้สึกแปลกประหลาดจนเกินจะเข้าใจได้ ท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของฉันกับเขาก็เป็นเหมือนเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดใจในตอนเช้า แต่เมื่อเขาเอ่ยปาก ฉันย่อมไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะไม่กล้าล่าช้า จึงรีบตกปากรับคำ แล้ววิ่งกลับไปเอาคอมพิวเตอร์ ที่นี่ไม่มีร้านอาหารชื่อว่า ร้านอาหารริมน้ำ แต่ฉันเดาว่าที่เขาพูดถึงคือ ร้านอาหารริมทะเลสาบ ที่นั่นกับห้องของฉันอยู่ตรงข้ามกันเป็นเส้นทะแยงมุม ฉันกลับไปเอาคอมพิวเตอร์แล้วกลับมา ก็ใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ขณะที่เดินที่ผ่านไป มองเห็นธีภพกำลังหยิบสมุดสเกตซ์ภาพขึ้นมา โดยไม่สนใจฉันที่มาถึงเลย ฉันเดินเข้าไปยืนใกล้ๆด้านหลังของเขาแล้วมองดูอยู่สักพัก เขาใช้แท่งถ่านคาร์บอน วาดเป็นสีของน้ำบนกระดาษ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน แสงจากโคมไฟริมถนนทำให้เกิดแสงสะท้อนบนผิวน้ำ เขาใช้เพียงแค่ถ่านคาร์บอนก็สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันคือการวาดภาพระดับเทพ! เพื่อให้เห็นผลสะท้อนตรงกลางภาพให้เห็นชัดว่าสิ่งใดๆทั้งหมดจึงใช้ผ้าเช็ด ฉันยืนอยู่ด้านหลังเขาอีกประมาณยี่สิบนาที รอจนเมื่อเขาวาดภาพเสร็จ เสื้อผ้าและมือสกปรกอย่างเลี่ยงไม่ได้ไปแล้ว เขาวางแท่งคาร์บอนลงในกล่องเล็กๆ หันหน้ามาเห็นฉันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา เอ่ยถามว่า “มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” “มาได้สักพักแล้วค่ะ” ฉันพูดแล้วเปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว และเปิดงานออกแบบของตัวเอง ธีภพให้ฉันพูดถึงเรื่องราวของงานฉัน เขาไม่ได้พูดถึงปัญหาทั้งหมด แล้วก็ยังพูดถึงจุดที่ดีในงานออกแบบของฉันหลายข้อ โดยในส่วนที่มีประโยชน์ส่วนใหญ่นั้นเศวยาได้บอกกับฉันมาก่อนหน้านี้แล้ว จนเมื่อเขาพูดจบ ฉันมองเห็นเวลาตรงมุมขวาล่างของขอบหน้าจอ เป็นเวลาตีสองกว่าแล้ว คืนนี้ฉันได้รับประโยชน์มากมาย เก็บคอมพิวเตอร์เสร็จแล้วก็ขอบคุณธีภพครั้งแล้วครั้งเล่า เตรียมตัวจะจากมา ก็ได้ยินเสียงธีภพถามขึ้นจากด้านหลังของฉันว่า “เรื่องนั้น แม่ของคุณชื่อว่าอะไร” “แม่ของฉันเหรอคะ?” ฉันที่เดินออกไปแล้วหันกลับมามองไปที่เขา แล้วตอบว่า “ชวลัยค่ะ” “ชวลัย?...ถ้าอย่างนั้น…ปีนี้อายุเท่าไหร่?” “สี่สิบแปดค่ะ ปีนี้เป็นปีครบรอบ” ฉันตอบตามความจริง แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “คุณธีภพรู้จักแม่ขอบฉันเหรอคะ?” “ไม่รู้จัก!” ตอนที่ธีภพเอ่ยสามคำนี้ น้ำเสียงและการแสดงออกแตกต่างกับตอนที่ถามฉันอย่างสิ้นเชิง มีแม้กระทั่งความรู้สึกเย่อหยิ่ง “โอ้…” ฉันไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด ธีภพเห็นฉันยังยืนอยู่ที่เดิม ก็พูดอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “โอเค ผมจะไปแล้ว หลังจากนี้คุณเรียกผมว่าอาจารย์ก็ได้นะ ไม่ต้องมาคุณเคิณอะไรแล้ว” พูดจบก็ก้าวเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว ฉันถือคอมพิวเตอร์กลับไปที่ห้อง มองผ่านผ้าม่านเหมือนกับว่าภายในห้องนั้นสว่าง ฉันลืมปิดไฟงั้นเหรอ? เมื่อฉันเปิดประตูห้องเข้าไปด้วยความสงสัย กลับมองเห็นจิณณานอนบนโซฟาอยู่ในห้องของฉัน “ลุกขึ้น” ฉันวางคอมพิวเตอร์แล้วเรียกเธอโดยไม่ลังเล เรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน บวกกับปฏิกิริยาตอบสนองของดนุนัย ฉันสรุปแล้วว่าเธอแกล้งทำเป็นสูญเสียความทรงจำ จิณณาที่กำลังนอนหลับงัวเงีย ถุกฉันเรียกอีกสามสี่ครั้ง ก็โพล่งอย่างขาดสติว่า “ทำอะไรน่ะหา!” น้ำเสียงแบบนี้ ช่างคุ้นเคยเสียจริงๆเลย วินาทีต่อมา จิณณารู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไร รีบลุกขึ้นมา พูดกับฉันด้วยคำพูดที่ดีว่า “ณิชา เธอกลับมาแล้วเหรอ ดึกขนาดนี้ เธอไปที่ไหนมา?” “ฉันไปที่ห้องของผู้ชายแล้วนอนกับคนอื่นมา” ฉันนั่งลงบนเตียง แล้วกล่าวโดยไม่ลังเล จิณณามองมาที่ฉันสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เธอ เธออย่าล้อเล่นสิ” “ฉันไม่ได้ล้อเล่นเลยนะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวังเอาไว้งั้นเหรอ? น่าเสียดาฉากใหญ่ของยาที่เธอเตรียมไว้ สุดท้ายแล้วคนที่มาถอนพิษให้ฉันคือดนุนัย เธอโกรธไหม?” ฉันพูดอย่างใจเย็น ฉันเพียงแค่เดาว่ายานั่นจะต้องเกี่ยวข้องกับจิณณา ดังนั้นจึงต้องกระตุ้นเธอ ทำให้เธอหลุดออกมา ท้ายที่สุดแล้วเรื่องของฉันไม่ได้โชคร้ายมากนัก แต่ของเศวยานั้นแตกต่าง! จิณณามองฉัน มือนั้นจิกลงไปอย่างแรง นิ่งเงียบไปนานจึงพูดว่า “ณิชา เธอเข้าใจฉันผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร” “ไม่รู้งั้นเหรอ? งั้นก็ช่างมันเถอะ” ฉันจ้องมองจิณณาที่นั่งอยู่ที่นั่น แล้วพูดเบาๆว่า “โซฟาตัวนั้นก็เป็นหนึ่งในสนามรบของเรา เธอนอนบนนั้น ไม่ได้กลิ่นแปลกๆบ้างเหรอ?” เสียงเพิ่งจะตกลงไป จิณณาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ณิชา! เธอ…” เธอกลั้นไม่ไหวไปชั่วขณะ ในไม่ช้าก็มองมาทางฉันราวกับมองลูกแกะแล้วพูดว่า “เธอนอนกับเขาไม่กี่ครั้งแล้วจะป็นยังไงเหรอ? ขอเพียงแค่ฉันต้องการ ฉันสามารถจับผู้ชายคนนี้ไว้ในฝ่ามือของฉันได้ตลอดเวลา” การแสดงออกของจิณณาเต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย คำพูดของเธอเป็นการยอมรับแล้วว่าตนเองนั้นแกล้งความจำเสื่อม “โอ้ งั้นเธอก็ทำต่อไปเลยนะ ส่วนฉันคนนี้น่ะ ไว้ใจได้เลย ส่วนผู้หญิงคนอื่นก็รับไม้ต่อไป ฉันไม่ได้ชอบอยู่แล้ว ดังนั้นเธอไม่ต้องคิดว่าฉันเป็นศัตรูหรอกนะ” ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู “ดึกขนาดนี้แล้ว รีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณดนุนัยของเธอเถอะ” จิณณาเหลือบมองดูฉันแล้วจากไปอย่างโกรธๆ น่าแปลกใจเหลือเกิน เห็นได้ชัดว่าฉันยอมให้เธอไปกับเขา แต่ในใจฉันกลับปิดกั้นเอาไว้อย่างหนัก ล้มตัวนอนบนเตียง ใกล้จะเช้าถึงจะหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาเป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว ช่วงเวลากินข้าวกลางวันมีการประกาศว่า จะมีการจัดสามอันดับแรกของการแข่งขันในเวลาบ่ายโมง ฉันเดาผลลัพธ์ของตอนบ่ายไว้แต่แรกแล้ว ชื่อของฉันเป็นลำดับที่สาม ได้รับเงินรางวัลเกือบหนึ่งแสนเหรียญโดยประมาณ หลังจากประกาศผลแล้ว นิพิฑแจ้งให้ทราบว่า พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไปสนามบินในเวลาแปดโมงเช้า ในที่สุดก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว ในตอนที่ฉันลุกขึ้นเตรียมพร้อมไปเก็บของ ก็เห็นธีภพลุกขึ้นยืนแล้วชี้มาที่ฉัน แล้วพูดว่า “คนนั้นน่ะ ณิ ณิชาใช่ไหม คุณรีบไปเก็บของเลย ตอนบ่ายไปกับผมนะ” เสียงพูดของเขานั้นดังมาก ในเวลานั้นมีผู้เข้าแข่งขันรอบชิงฯเจ็ดคน และมีผู้ตัดสินอีกสองคน รวมทั้งนิพิฑ ดนุนัย ต่างก็อยู่ที่นี่… สายตาทุกคนล้วนมองมาที่ฉัน “ฉัน?” ฉันหันไปมองธีภพ ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ใช่น่ะสิ คุณนั่นแหละ รีบไปเก็บของเลยได้ยินหรือเปล่า ออกเดินทางบ่ายสามโมงนะ” ดูเหมือนว่าธีภพจะไม่สนใจสายตาของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ปัณฑาที่ตอนแรกเดินมาอยู่ตรงหน้าฉัน ได้ยินธีภพพูดแล้ว ก็หันมาทางฉัน แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เฮ้ ณิชา อย่างนี้เธอก็สามารถเหรอ? ท่านอาจารย์ธีภพปีนี้ก็อายุห้าสิบกว่าปีแล้วนะ เธอรับมือได้เหรอ?” 
已经是最新一章了
加载中