ตอนที่ 166 เวลาไม่คอยใคร
1/
ตอนที่ 166 เวลาไม่คอยใคร
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 166 เวลาไม่คอยใคร
ตนที่ 166 เวลาไม่คอยใคร ตอนนี้ ฉันไม่มีเวลาสนใจปัณฑา ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาจากด้านหลัง ฉันยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ รู้สึกเย็นยะเยือกที่แผ่นหลัง แต่ธีภพกลับไม่ได้สนใจเลย พูดจบก็หยิบสมุดสเกตซ์ภาพของตัวเองแล้วเดินจากไปเลย ฉันยืนนิ่งแล้วก็ได้ยินเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นที่ด้านหลัง จากนั้นฉันก็เห็นดนุนัยเดินผ่านฉันไป ตรงไปยืนอยู่ด้านหน้าธีภพ และพูดอย่างสุภาพว่า “คุณธีภพครับ การแข่งขันครั้งนี้ทางเราเป็นคนจัดการ พวกเราจะเป็นผู้รับผิดชอบส่งทุกคนกลับอย่างปลอดภัยเอง ดังนั้นเธอคงไม่สามารถไปกับคุณได้นะครับ” “ทำไม?” ธีภพเงยหน้ามองดนุนัย “ความหมายของคุณก็คือ เธอไปกับผม จะไม่ปลอดภัยอย่างนั้นเหรอ?” “ใช่แล้วครับ” ดนุนัยไม่ได้หลบเลี่ยงเลย ธีภพยืนมองดูดนุนัยแล้วหัวเราะยกใหญ่ “ผมจะบอกให้นะพ่อหนุ่ม นี่คุณคงไม่คิดว่าผมที่อายุห้าสิบกว่าปีแล้วจะทำอะไรเธอหรอกนะ?” “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ แต่ว่าการแข่งขันครั้งนี้บริษัทของเรา…” “อย่ามาบริษัทไม่บริษัทเลย เมื่อวานคุณเห็นผมกอดเธอ ดวงตาของคุณก็มีประกายไฟลุกโชนแล้ว” ธีภพพูดขัดดนุนัย เหล่ตามองแล้วพูดว่า “ยอมรับมาว่าชอบ ไม่อยากจะให้ไปกับผม มันยากที่จะพูดออกมาขนาดนี้เลยเหรอ? ความรู้สึกตรงหน้า ยังจะต้องถือตัวอะไรอีก” คำพูดของธีภพไม่กี่คำ ทำให้ฉันรู้สึกเขินอาย ดนุนัยมองที่เขา เงียบไปเป็นเวลานาน และเพียงแต่พูดว่า “นี่คือกฎ เธอไม่สามารถไปกับคุณได้” ไม่มีการยอมรับความรู้สึกที่เขามีต่อฉัน บางทีเขาอาจจะไม่เคยมีความรู้สึกกับฉันอยู่แล้ว “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร” ธีภพพยักหน้า “เมื่อคุณยืนยันว่าเป็นกฎ ผมไม่พาเธอไปแล้วก็ได้” บางทีอาจจะโกรธอยู่ ฉันเดินไปยืนข้างๆธีภพ “อาจารย์คะ เมื่อฉันกลับไปที่ดรัล แล้วจะติดต่อคุณอย่างแน่นอนค่ะ” “โอเค” ธีภพพยักหน้า ดนุนัยมองมาทางฉัน ดวงตาของเขาราวกับจะมีไฟลุก! แต่ฉันคร้านที่จะสนใจ แล้วก็เดินกลับไปที่ห้องเอง ตอนนี้เป็นเวลาบายสองโมงกว่าแล้ว คิดจะไปบอกกับธีภพว่าเวลาบ่ายสามโมงฉันยังสามารถไปกับเขาได้ เพื่อลองเสี่ยงโชคดู ฉันยืนอยู่ที่ทางเข้าลานจอดรถของรีสอร์ทตอนบ่ายสามโมง และแล้วฉันก็เห็นธราวุธ และธีภพ ทั้งคู่อยู่ที่นั่น มีพนักงานบริการช่วยยกกระเป๋าอยู่ข้างๆ ฉันรีบวิ่งเข้าไป “อาจารย์คะ ขอขอบคุณที่ช่วยชี้แนะเมื่อวานนี้ค่ะ” “ไม่เป็นไร มันแค่เวลาเล็กน้อยเท่านั้นเอง” ธีภพมองฉัน “ทำไมคุณไม่เอากระข้าวของมาด้วยล่ะ?” “ข้าวของ?” “กระเป๋ายังไงล่ะ! ผมนึกว่าคุณมาเพราะจะไปกับผม” ที่จริงแล้วเขาคิดอย่างนั้นเหรอ? ฉันรีบพูดว่า “พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปพร้อมกับทุกคนที่บริษัทค่ะ เพราะเรามาด้วยกัน” “โอเค” ธีภพไม่ได้บังคับ เพียงแค่พูดว่า “ผมเห็นความงุ่นง่านไม่ชัดเจนว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรของประธานนภากรุ๊ปฯแล้ว คุณคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาได้ไม่นานหรอก จากนี้ถ้ามีเรื่องลำบาก มาหาผมได้ตลอดเวลานะ” เขาพูดจบ ธราวุธที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาอย่างสนอกสนใจว่า “อาจารย์ธีภพครับ หลายปีมานี้คุณใช้ชีวิตแบบเก็บเนื้อเก็บตัว ผมไม่ค่อยเห็นว่าคุณจะสนใจอะไรใครเลย” “โอ้ คนแก่แล้ว ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าไปในโลงแล้ว ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียผลงานศิลปะของฉัน” ธีภพพูดจาเรื่อยเปื่อย ฉันฟังแล้วรู้สึกงงๆ หรือว่าความหมายที่ธีภพพูดถึงก็คือ... ต้องการจะรับฉันเป็นลูกศิษย์? ไม่ควรจะมีความหมายเช่นนี้สิ... ถึงแม้จะคิดอย่างอาจหาญ แต่ฉันก็ไม่กล้าคิดอย่างนั้นอยู่ดี แต่ว่าความหมายที่เขาพูดเมื่อกี้นี้ ก็ดูเหมือนจะมีความหมายอย่างนั้น ในตอนที่ฉันเฝ้าครุ่นคิดว่าจะเอ่ยปากถามดีหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นทางด้านหลัง จากนั้นได้ยินเสียงคนตะโกนว่า “คุณธีภพครับ” เป็นนิพิฑ ฉันหันไป มองเห็นนิพฑวิ่งเหยาะๆอยู่ไม่ไกล ไม่ไกลจากด้านหลังเขาที่ มีบางคนกำลังเดินเข้ามายังทิศทางของพวกเรา ดนุนัย อยู่ไกลขนาดนี้ แต่ฉันสามารถมองเห็นท่าทางไม่พอใจผ่านทางสีหน้าของเขาได้ แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังคงหงุดหงิด ธีภพที่อยู่ด้านข้างหัวเราะร่า “เฮ้ ตามมาแล้วนั่นน่ะ” นิพิฑเดินเข้ามา มองที่ฉันแล้วพูดอย่างลำบากใจว่า “คุณณิชาทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?” “ฉันมาส่งอาจารย์ค่ะ” ฉันตอบนิพิฑอย่างเกรงใจ เพียงแค่ได้พูดกันอย่างสุภาพครู่เดียวเท่านั้น ดนุนัยเดินมาอยู่ข้างๆแล้ว ดวงตาสีดำเย็นเยือกกวาดตามองฉัน แล้วถามคำถามเดียวกันกับนิพิฑ “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?” ฉันใช้ท่าทางตอบกลับแบบเดียวกันแต่ยังไม่ได้เอ่ยตอบ “มาส่งผู้ตัดสินเป็นส่วนของผู้จัดงานอยู่แล้ว เมื่อไหร่จะถึงตาของเธอล่ะ?” ดูเหมือนว่าดนุนัยจะไม่พอใจกับพฤติกรรมของฉัน ฉันยังไม่ได้โต้ตอบเขา ธีภพที่อยู่ข้างๆยิ้มแล้วส่ายหน้า “โอ้โฮ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คนแก่อย่างฉัน จะยังสามารถทำให้ใครอิจฉาได้อีก” พูดจบ บรรยากาศโดยรอบก็อบอวลไปด้วยความอึดอัดใจ เห็นได้ชัดเจนทุกคนต่างเข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ฉันเองก็เข้าใจความต้องการเป็นเจ้าของของดนุนัย คราวนี้ถือว่าเขากำลังอิจฉาริษยาจริงๆ ธราวุธยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนใจ “เอาเถอะ อาจารย์ธีภพ ไปกันเถอะครับ ไม่อย่างนั้นจะตกเครื่องเอาได้นะครับ” “โอเค” ธีภพดึงแว่นกันแดดขึ้นมาใส่ หันหัวไปทางดนุนัย ชี้ไปที่เขาแล้วพูดว่า “คนหนุ่มสาวเนี่ยนะ เวลาไม่คอยใครมีดอกไม้งามก็ควรจะรีบเด็ดดมสิ “คุณธีภพ คุณควรไปได้แล้ว” ดนุนัยยืนอยู่ที่นั่น การแสดงออกยังคงเหมือนตั้งแต่ต้น ราวกับว่าไม่สะเทือนกับคำพูดพวกนี้เลย ธีภพมองที่เขา แล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ผมเป็นคนแก่ที่เคยสูญเสียเมื่อครั้งยังหนุ่ม จึงอยากจะให้คำแนะนำแก่คุณ แต่เพราะคุณไม่ชอบฟัง ผมเลยกลายเป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน” พูดจบก็ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วปิดประตู เมื่อธราวุธขึ้นไปบนรถแล้ว ล้อรถก็เริ่มหมุนแล้วขับออกไป มองดูรถออกไปแล้ว ฉันหันหลังกลับเตรียมจะกลับไปที่ห้อง เพิ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าวดนุนัยเดินมาอยู่ข้างๆฉันแล้วพูดว่า “ฉันไม่มา เธอจะไปกับเขาใช่ไหม?” “ประธานดนุนัยคิดมากไปแล้วล่ะค่ะ” ฉันยักไหล่ “ฉันเพียงแค่มาส่งอาจารย์ค่ะ ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ยังคงเป็นพนักงานของนภากรุ๊ปฯ แม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ฉันจะได้รางวัลที่สาม แต่ก็ยังได้เงินรางวัลถึงหนึ่งแสนเหรียญ เมื่อยังไม่ได้รับถึงมือ ฉันย่อมไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังคุณหรอกค่ะ” “หนึ่งแสนเหรียญ? เธอขัดสนจนอยากได้หนึ่งแสนเหรียญนั่นมากเหรอ?” โทนเสียงของชายหนุ่มนั้นทุ้มต่ำถึงแม้จะดูเยือกเย็น แต่ก็ไม่ยากที่จะฟังออกว่ามีความโกรธเคืองเจือปนอยู่ ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ขัดสนสิคะ อาจจะไม่มีแล้วก็ได้ ฉันกับประธานดนุนัยไม่เหมือนกันนี่คะ ทุกๆนาทีคือธุรกิจนับล้าน กับจิณณาก็ไม่เหมือนกัน ไม่สามารถหน้าด้านหน้าทนไม่ทำงานทำการ เอาแต่ขอเงินผู้ชายได้” ดนุนัยเงียบไปสักเล็กน้อย ใช้เวลาอยู่นานจึงพูดว่า “ถ้าหากเธอเงินไม่พอใช้ ทำไมไม่มาถามฉันล่ะ ฉันยินดีดีจะมอบให้เธออยู่แล้ว” “ประธานคะ ไม่ต้องแล้วค่ะฉันมีมือมีเท้า สามารถหาเงินเองได้” ฉันคิดแล้วพูดอีกว่า “ฉันเพียงแค่หวังว่าประธานจะเข้าใจ ว่าเงินที่ฉันหามาด้วยตัวเองฉันใช้สองมือของฉันได้มาอย่างสะอาด ขอให้คุณอย่าได้สันนิษฐานผิดๆ ให้ฉันได้มีทางรอดบ้าง” ในตอนที่ฉันพูดจบ ดนุนัยที่เดิมทียืนอยู่เคียงข้างฉันก็หยุดชะงักอย่างเห็นได้ชัด ครั้งนี้ ฉันตัดสินใจเด็กขาดแล้วว่าจะไปจากเขา ไม่ใช่เพราะว่าเป็นดนุนัยหรือไง? ไม่ใช่เพราะว่ารักมาสิบกว่าปีหรือไง? แล้วมันจะเป็นอย่างไรล่ะ? เขาไม่เคยทำดีต่อฉัน ฉันจึงไม่สามารถทำเหมือนมีความสุขทั้งๆที่ทุกข์ในใจได้อีก เช้าวันต่อมา ฉันนั่งเครื่องบินกลับพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน ถึงแม้ว่าระหว่างนั้นจิณณาจะเสแสร้งเชิญฉันกับพวกเขานั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับด้วยกัน ฉันก็ยังคงปฏิเสธ ฉันเคยคิดว่าการได้นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันรู้ว่า โลกใบนั้นไม่ใช่ที่สำหรับฉัน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 166 เวลาไม่คอยใคร
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A