ตอนที่ 167 เป็นการสูญเปล่าที่จะรักษาคุณยายของเธอ
1/
ตอนที่ 167 เป็นการสูญเปล่าที่จะรักษาคุณยายของเธอ
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 167 เป็นการสูญเปล่าที่จะรักษาคุณยายของเธอ
ตนที่ 167 เป็นการสูญเปล่าที่จะรักษาคุณยายของเธอ เมื่อลงจากเครื่องฉันพบว่าโทรศัพท์ของฉันมีการบันทึกการโทรน้อยมากในหลายวันมากนี้ นอกจากติณณาแล้ว ก็คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ฉันโทรกลับหาติณณาก่อน เล่าถึงเหตุการณ์หลายวันที่ผ่านมา จากนั้นจึงดทรกลับหาบริษัทอสังหาฯ พวกเขารับสายฉันอย่างตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้ กล่าวว่ามีหลายๆคนเข้าไปดูบ้านแล้ว หนึ่งในนั้นบอกว่ายินดีจ่ายเงินเต็มจำนวนทันที นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน ฉันนัดพบกับเอเย่นต์ตามเวลาที่สะดวก เอเย่นต์วางสายจากฉันแล้วติดต่อผู้ซื้อที่เต็มใจจ่ายเงินเต็มจำนวน แล้วโทรกลับหาฉัน สรุปนัดหมายเวลาอย่างรวดเร็ว ฉันกลับบ้าน วางกระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ตรงออกไปพบกับเอเย่นต์ ถึงบริษัทฯ เมื่อฉันเดินเข้าไปก็ได้พบกับคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง ปณิตา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ คงจะไม่… ในตอนที่ฉันเกิดความคลางแคลงใจอยู่นั้น คนของเอเย่นต์เดินเข้ามาทักทายฉัน “คุณณิชา คุณมาถึงแล้ว ฉันจะขอแนะนำเลยนะ ท่านนี้คือผู้ซื้อบ้าน คุณปณิตา” ดรัลออกจะกว้าง คนก็ออกจะเยอะ ฉันไม่เคยคาดคิดเลยว่า ที่แท้คนที่ต้องการจะซื้อบ้านของฉันคือปณิตา ปณิตาเองก็มีท่าทีประหลาดใจ “คุณณิชา คนที่ต้องการขายบ้านคือเธอเองเหรอ?” “อืม” ฉันพยักหน้า เอเย่นต์เห็นพวกเราทักทายกัน ก็รีบพูดทันทีว่า “อั๊ยยะ พวกคุณรู้จักกันงั้นเหรอ?อย่างนั้นก็ดีเลย งั้นก็ไม่ต้องชักช้า พวกเราไปดูบ้านกันตอนนี้เลยเถอะ!” พวกเราไปที่บ้านของฉันด้วยกัน ปณิตายังคงเหมือนเดิม บนตัวสวมกระโปรงยาว มารยาทช่างสง่างามจนฉันไม่สามารถเทียบได้ ระหว่างทาง เธอถามฉันว่า “คุณณิชา ย่านนี้เป็นพื้นที่ที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกก็ดี โครงสร้างก็ดี แทบจะไม่มีใครปล่อยขายเลย ฉันสอบถามมานานก็ไม่มีใครขาย ทำไมเธอถึงจะขายมันล่ะคะ?” “ฉันต้องรีบใช้เงินค่ะ” ปณิตามีบุคลิกที่อ่อนโยน น้ำเสียงก็นุ่มนวล ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามีความใกล้ชิด เธอถามฉัน ฉันเองก็ไม่ปิดบัง “อ้อ…” ปณิตาเองก็ไม่ซักไซ้อีก บรรยากาศเกิดความอึดอัด ฉันเอ่ยถามว่า “คุณปณิตาซื้อบ้านเพื่อการลงทุนเหรอคะ?” “ลงทุน? ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันมีอยู่หนึ่ง…” ปณิตาพูดถงตรงนี้ก็ชะงักไป เหมือนจะใคร่ครวญก่อนถึงจะพูดว่า “ลูกพี่ลูกน้องที่เดินทางไปต่างประเทศวางแผนที่จะกลับมาหลายปีแล้ว ฉันกลัวว่าถ้าเขากลับมาจะไม่มีที่อยู่ที่เหมาะสม เลยช่วยหาให้เขาน่ะค่ะ” ไม่มีที่อยู่ที่เหมาะสม เลยช่วยหาให้แทน น้ำเสียงบางเบาดังเช่นปกตินี้ ราวกับไม่ได้พูดถึงอสังหาราคานับสิบล้าน เหมือนกับกำลังพูดถึงห้องเช่า หรือ กระเป๋าหนึ่งใบยังไงยังงั้น แต่ว่ายังไงมันก็เป็นเรื่องของคนอื่น ที่ฉันต้องการทำคือการให้เงินกว่าสิบล้านมาถึงมือ มาถึงบ้านแล้ว แวบแรกที่มองปณิตามองเห็นกระเป๋าเดินทางของฉันวางไว้ที่มุมห้อง เอ่ยถามฉันว่า “คุณณิชายังอยู่ที่นี่เหรอ?” “เปล่าค่ะ! ไม่กี่วันฉันก็จะย้ายออกไปแล้วค่ะ” เดิมทีฉันคิดว่าปณิตาจะเป็นกังวล คิดไม่ถึงเธอพูดว่า “ลูกพี่ลูกน้องของฉันยังไม่กลับมาเร็วๆนี้หรอกค่ะ ดังนั้นถึงฉันจะซื้อไว้แล้ว คุณณิชาก็ไม่ต้องรีบย้ายหรอกนะคะ” เมื่อเอเย่นต์ที่อยู่ข้างๆได้ฟัง ยิ่งร่างเริงยินดีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “โอ้โฮ เป็นคนคุ้นเคยกันนี่พูดกันได้ง่ายดีนะ” ถึงแม้ว่าปณิตาจะพูดเช่นนี้ ฉันก็ไม่กล้าทำแบบนั้น “ฉันจะย้ายไปให้เร็วที่สุดค่ะ” เพราะว่าผู้ซื้อคือปณิตา ดังนั้นจึงราบรื่นเป็นพิเศษ เฟอร์นิเจอร์ฉันก็ไม่เอา และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ปณิตาจ่ายเงินทันที พวกเราลงนามในสัญญาร่วมกัน ตกบ่ายก็ไปทำการโอน ปณิตาไปแล้ว เอเย่นต์ก็ช่วยติดต่อบริษัทที่จัดหาห้องพักโรงแรมหรือคอนโดให้เช่าให้กับฉัน ที่นั่นพวกเขามีห้องพร้อมห้องโถงว่างพอดี ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์ครบ น้ำไฟและอินเตอร์เนตก็ดี แค่เพียงชำระรายเดือนก็สามารถใช้ได้เลย เทียบกับหอพักทั่วไปแล้วสะดวกสบายกว่า ฉันจัดการเรื่องบ้านอย่างต่อเนื่องไม่หยุด และตัดสินที่จะย้ายเข้าวันอาทิตย์ พักผ่อนหนึ่งวันและไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ฉันค้นหาจากบันทึกการติดต่อของบริษัทจนเจอเศวยา แต่เมื่อโทรไปเธอกลับปิดโทรศัพท์ ในตอนนี้เอง เวนทก็เรียกฉันไปพบที่ห้องทำงาน แล้วพูดอย่างพึงพอใจว่า “ณิชา ฉันนึกว่าคุณจะได้ตำแหน่งบ๊วยเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะคว้าที่สามมาได้ ไม่เลว ไม่เลวเลย!” ฉันพูดกับเขาสองสามคำ แล้วหาช่องว่างเอ่ยถามว่า “ผู้จัดการคะ ฉันขอถามคุณได้ไหมคะ เบอร์โทรศัพท์ของเศวยาคืออะไร? ฉันโทรตามที่มีบันทึกการติดต่อของบริษัทมี แต่มันเป็นเบอร์เปล่า” “เศวยา?” เวทนใช้มือลูบคาง แล้วคิด “ฉันได้ยินมาว่าดูเหมือนเธอจะลาออกไปแล้วหลังจากที่ถอนตัวจากการแข่งขันนะ” “ลาออก?” “ใช่แล้วล่ะ ฉันยังเห็นว่าเจ้านายของพวกเขาเสียใจมากกับเรื่องนี้เลย” พูดถึงตรงนี้แล้วเวทนก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นหันมาทางฉัน “ที่นั่นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกคุณกัน ทำไมเธอถึงกลับมาก่อนแล้วยังลาออกอีกด้วย?” “ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันไม่ทำลายค่าของเศวยา เรื่องของเธอ ฉันจะไม่พูดมาก เป็นเพราะก่อนหน้านี้ฉันส่งต่องานของบริษัทไปแล้ว ตอนนี้ฉันเลยต้องไปคุยกับลูกค้ารายใหม่ จึงยังไม่มีงานอะไรให้ทำ ฉันดูเงินสิบสี่ล้านในบัญชีของตัวเอง คำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว ค่าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลบวกกับเครื่องช่วยหายใจและอื่นๆ ของชยานี ต้องใช้เงินตกอยู่ที่สองหมื่นกว่าเหรียญต่อวัน เงินก้อนนี้คือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยของโรงพยาบาลทนุธรรม เงินสิบสี่ล้านดูเหมือนจะมาก แต่จริงๆแล้วแค่สองปีก็อาจจะไม่พอ! หลังจากสองปีแล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ? เรื่องนี้ จะต้องปรึกษากับทางบ้านจันทร์ ฉันโทรศัพท์นัดพบปณัยและโรศนีที่ร้านกาแฟในตอนเย็น ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เต็มใจที่จะได้รับการชี้นิ้วสั่งจากผู้อ่อนอาวุโสกว่า แต่โรศนีก็ถูกฉันจับเอาในมือ ทั้งฉันบอกปณัยว่าฉันสามารถจ่ายได้ ในตอนเย็น พวกเขาทั้งคู่ก็มาถึง ฉันเข้าไปในร้านกาแฟ มองเห็นทั้งสองคนมาถึงแล้ว ก็เอ่ยปากก่อนว่า “ฉันขาย [หมู่บ้านกรีนเฮ้าส์] ไปแล้วค่ะ” “อะไรนะ!” ฉันพูดจบ โรศนีก็เดือดดาล “บ้านหลังนั้นมีราคามาก คุณแม่ซื้อให้เธอ ตอนนี้เธอขายไปแล้ว เงินต้องแบ่งให้พวกเราสิ” เหอเหอ ฉันรู้ว่าโรศนีเป็นคนเช่นนี้ “เธอฟังเธอพูดให้จบก่อน” สีหน้าของปณัยไม่ดีนัก แต่เขาเข้าใจว่า ฉันย่อมไม่ขายบ้านโดยไม่มีเหตุผล หลังจากนั้นฉันพูดว่า “ฉันจะเอาเงินนี้ไว้เป็นค่าพักรักษาตัวของคุณยายและค่ายื้อเวลา” “เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” เมื่อโรศนีได้ฟังก็ไม่เป็นสุข “เธอต้องใช้เพื่อการนี้เท่าไหร่กัน? เอาเงินมาให้พวกเราทำธุรกิจ ยังจะสามารถทำเงินให้ได้ มันเป็นการสูญเปล่าที่จะรักษาอาการป่วยของคุณยาย ท่านตายแล้ว!” ฉันเงยหน้าขึ้นมองเธอละถามว่า “นั่นคือคุณยายของฉัน ไม่ใช่แม่ของคุณเหรอ?” พริบตาเดียวใบสีหน้าของโรศนีก็แดงก่ำ พูดอย่างไม่ชอบใจว่า “ใช่น่ะสิ แต่มันจะทำไมล่ะ? การดำรงชีวิตของพวกเราคือสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ดี! “ณิชา” ปณัยหันมาทางฉัน “บ้านหลังนั้นเธอขายไปเท่าไหร่?” “สิบสี่ล้านค่ะ” ฉันบอกไปตามความจริง “เงินจำนวนนี้มอบให้เป็นค่ารักษาพยาบาลของคุณยาย คือความกตัญญูของเธอ แต่ตอนนี้ธุรกิจของฉันกับคุณป้ายังมีหนี้สินอยู่ ถ้าพูดว่าจะช่วยย่อมเป็นไปไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ต้องปิดตัวลง พนักงานทุกคนจะต้องตกงาน” ปณัยแสดงแง่มุมชัดเจน แล้วพูดต่อ “เงินก้อนนี้ของเธอ จ่ายจนหมดแล้วมากที่สุดก็ได้สองปี หลังจากสองปีนั้นเธอจะทำยังไง?” “หังจากนี้สองปีธุรกิจของพวกคุณยังไม่ฟื้นกลับมาเหรอคะ?” ที่ฉันมาหาปณัยและโรศนีในวันนี้ เพราะต้องการคุยเรื่องนี้ สถานการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ดีฉันเข้าใจ แต่สองปีหลังจากนี้ก็ยังคงไม่ดีงั้นเหรอ?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 167 เป็นการสูญเปล่าที่จะรักษาคุณยายของเธอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A