ตอนที่169ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะฟ้องร้องพวกเขาให้ตายไปเลย
1/
ตอนที่169ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะฟ้องร้องพวกเขาให้ตายไปเลย
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่169ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะฟ้องร้องพวกเขาให้ตายไปเลย
ตนที่169ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะฟ้องร้องพวกเขาให้ตายไปเลย! ฉันรู้สึกชาบนใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ถูกตบ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเขา ฉันไม่แปลกใจแม้แต่น้อย บังคับตัวเองให้ยืนเหยียดตรง ปิดใบหน้าอีกครึ่งแล้วพูดว่า “ที่นี่มีกล้องบันทึกภาพ ถ้าหากคุณอยากจะติดคุกก็ทำต่อได้เลย” “แกต้องเอาเงินมาให้ฉัน!” ปณัยเอ็ดตะโรใส่ฉัน “ฉันจะบอกแกไว้นะ ถ้าหากบริษัทของเราจะต้องเจ๊งแล้วล่ะก็ ฉันไม่เพียงแต่จะดึงเครื่องช่วยหายใจของคุณยายแกออก แต่จะลากแกให้ตายไปด้วย!” ตอนนี้แก้มของฉันมีอาการปวดแสบปวดร้อน และอาจจะบวมได้ ฉันรู้ว่า ที่จริงปณัยได้เพิกเฉยต่อชีวิตและความตายของชยานีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ที่ยังยื้อไว้อยู่ เพราะไม่อยากโดนด่าว่าอกตัญญู ฉันลดมือลง แล้วมองเขาโดยไม่เกรงกลัว “คุณทำให้บริษัทย่ำแย่ เป็นเพราะตัวคุณไม่มีความสามารถเอง สำหรับเครื่องช่วยหายใจของคุณยาย ถ้าคุณกล้าแตะต้องฉันจะไม่มีวันจบสิ้นกับคุณ!” คนเราหนอ พอมีเงินก็มีความกล้าหาญมากขึ้น ฉันมีเงินฝากในธนาคารสิบกว่าล้านเหรียญ ย่อมไม่กลัวเขา พูดจบฉันหันหลังกลับ ฉันไม่สนใจว่าปณัยจะกระโดตามหลังฉันมาอย่างร้อนใจหรือไม่ กลับมาถึงบ้านฉันก็เก็บข้าวของ บ้านใหม่น้นเล็กแต่ก็อบอุ่น ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บ้าน ฉันนั่งอยู่บนหน้าต่าง ใช้ถุงน้ำแข็งประคบหน้า แล้วมองไปยังวิวด้านนอก ในสมองก็ปรากฏเรื่องราวต่างๆ รูปภาพของจิณณาและปรวันฉันส่งไปสองวันแล้ว แต่ดนุนัยกลับไม่มีปฏิกิริยาต่อภาพนั้นเลยแม้แต่น้อย? หรือว่าแม้แต่การโดนสวมเขาเขาก็ทนรับได้? เศวยาไปอยู่ที่ไหนแล้วนะ ฉันอยากจะไปหาเธอ และต้องการช่ตรวจสอบกับเธอให้แน่ชัดว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วยังมีธีภพ แม้ว่าวันนั้นพูดว่าจะติดต่อเขา แต่ฉันก็ไม่มีรู้วิธีที่จะติดต่อกับเขาเลย เขาเป็นบุคคลลึกลับมาก ฉันไม่สามารถถามหาเขาได้อย่างแน่นอน แล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปถามดนุนัย แล้วก็ยังมีดนุนัย ฉันต้องการจะปล่อยเขาไป และเดินบนเส้นทางของตัวเอง เรื่องของปณัยนั้น เดิมฉันคิดว่าเขาจะไม่มาหาฉันอีก แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปแค่สามวัน ปณัยก็มาปราฏตัวที่ปากประตูของบริษัทฉันอีกครั้ง ฉันเห็นเขาจึงเลี่ยงไปอีกทาง ปณัยยังตามขึ้นมา พูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม “ณิชา ยังเจ็บหน้าอยู่ไหม? หลายวันก่อนพ่อทำไม่ถูก พ่อหุนหันไม่ทันได้คิด พอกลับไป พ่อก็เสียใจมากนะ” น้ำเสียงของเขาในครั้งนี้เทียบแล้วดีกว่าครั้งก่อน จะเปิดปากปิดปากก็มีแต่คำว่าพ่อ เหมือนกับคุณพ่อที่ปลอบขวัญลูกน้อย เพียงแต่มันน่าเสียดายที่ฉันโตแล้ว และเขาหลอกฉันไม่ได้อีกต่อไป ฉันเปลี่ยนทิศทางเดินไปอีกทาง แต่เขายังคงตามมา “ณิชา ครั้งนี้พ่ออยากจะขอโทษหนูจริงๆ ก่อนหน้านี้พ่อเคยทำเรื่องที่ทำให้หนูต้องเจ็บปวด หนูไม่ให้พ่อยืมเงิน พ่อก็เข้าใจ พ่อไม่โทษหนูหรอก” ปณัยพูดว่าพ่อทุกคำ ประโยคหนึ่งมีคำว่าพ่อสี่ห้าคำ ฉันได้ฟังแล้วรู้สึกรังเกียจ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว หันไปมองที่เขา คิ้วขมวดแล้วเอ่ยว่า “คุณปณัยคะ เนื่องจากคุณเองก็รู้ตัวว่าก่อหน้านี้ได้ทำเรื่องอะไรไว้ ก็ไม่ต้องมาเกาะติดฉันอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ!” “อย่านะ!” ปณัยได้ยินคำนี้ของฉัน แต่สีหน้ายังคงไม่แสดงอารมณ์โกรธ “ครั้งนี้ฉันอยากจะกลับมาหาเธอจริงๆ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เธอต้องอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้านานขนาดนั้น พวกเราไม่เคยใส่ใจเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาของเธอ มันเป็นความผิดของพวกเรา” “…” “ดังนั้น ฉันกับแม่ของเธอ และยังมีจิณณา ล้วนแต่รอเธออยู่ที่บ้าน ครั้งนี้พวกเรากินข้าวที่บ้าน ทำแต่อาหารที่เธอชอบกินเลยนะ!” ฉันเดินไปข้างหน้า ปณัยก็ตามฉันอยู่ด้านหลังจนทำให้นึกถึงแมลงวัน เปรียบเทียบกับแนวความคิดว่าผู้ชายเป็นใหญ่ของเขาก่อนหน้านี้แล้ว อารมณ์ของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ เขาพูดถึงของที่ฉันชอบกิน ในที่สุดฉันก็หยุดยืนชั่วครู่ หันไปถามเขาว่า “คุณปณัย ฉันถามคุณหน่อยค่ะฉันชอบกินอะไรคะ?” เหอเหอ สามปีก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยถามฉันสักครั้งว่าชอบกินอะไร ตอนนี้กลับมาเสแสร้ง! เอาเข้าจริง พอฉันถามเสร็จ ปณัยก็ตะลึง อ้ำๆอึ้งๆ “ฉัน…ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ แม่ของเธอเป็นคนจัดเตรียมทั้งหมดน่ะ” “ถ้าอย่างนั้นคุณโทรถามคุณชวลัยหน่อยได้ไหมคะว่าฉันชอบกินอะไร?” เดิมฉันคิดว่าเขาจะปฏิเสธ สุดท้ายแล้วเขากลับหยิบโทรศัพท์ออกมาจริงๆแล้วเริ่มกดเบอร์โทร ฉันไม่ขัดขวางเขา ปล่อยให้เขากด รอต่อสายแล้ว ปณัยก็ถามชวลัยว่า “อาหารที่เธอเตรียมไว้ให้ณิชาคืออะไรนะ?” จากนั้นถึงแม้ว่าฉันจไม่ได้ยินคำตอบของชวลัย แต่ฉันมองออกว่าสีหน้าของปณัยมีความกระดากอาย แต่อย่างรวดเร็ว เขาก็หันมาทางฉันแล้วพูดว่า “ปลากระรอก กุ้งเล็กผัดใบชาหลงจิ่ง แล้วยังมี…” “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ คุณปณัย อาหารเหล่านี้เป็นสิ่งที่จิณณาชอบค่ะ ไม่ใช่ฉันค่ะ” อันที่จริงตอนที่ฉันถาม ในใจก็คาดหวังอย่างจริงจังอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อปณัยเอ่ยตอบกลับมา ใจของฉันก็ตายลงไปเลย จิณณาไม่สามารถกินอาหารรสเผ็ดได้ ดังนั้นจึงชอบทานแต่อาหารรสชาติเรียบง่าย แต่ไม่เหมือนกับฉัน ฉันชอบกินรสเผ็ด อาหารที่ฉันชอบจึงล้วนแต่เป็นอาหารที่มีรสเผ็ด ฉันเดินไปที่ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน ปณัยไล่ตามฉัน พร้อมกับขอโทษและขอให้ฉันไป ถ้าหากเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ฉันก็จะไป แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหมือนกับจะเป็นงานเลี้ยงที่ประตูแดง โดยหลอกว่าจัดงานเลี้ยงเพื่อทำร้ายกัน ฉันกลัวว่าไปแล้วจะไม่ได้กลับมา ปณัยไล่ตามฉันไปจนถึงสถานีรถไฟ ฉันแตะการ์ดเข้าไปด้านใน เขาคิดจะไล่ตาม แต่ประตูผ่านได้ทีละคนเท่านั้น เขาถูกกั้นไว้ด้านนอกเข้ามาไม่ได้ เจ้าหน้าที่อยู่ด้านข้างตะโกนเรียกเขา”คุณผู้ชาย ห้ามกระแทกประตู” เป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี สถานีรถไฟจึงมีคนเข้าออกจำนวนมาก ฉันเดินตามฝูงชนไปแล้วสามสี่ก้าว ก็หันมามองโดยไม่รู้ตัว ปณัยยังยืนอยู่ที่ประตู กำลังมองมาทางฉัน คำขอโทษเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์ แต่ถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังที่มืดดำและหนาวเหน็บ สายตานั้นทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัว มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจฉัน หลังจากวันนั้นเป็นเวลาสองสัปดาห์แล้ว คลื่นลมสงบ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ละวันผ่านไปตามปกติ กลางวันทำงาน ตกกลางคืนก็พักผ่อน ช่วงระหว่างนั้นติณณาได้กลับมาครั้งหนึ่ง พวกเรานัดรวมตัวกัน จนกระทั่งสิ้นเดือนสิงหาคม ฉันได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลของชายนี บอกกับว่า ชยานีอยู่ในขั้นอันตราย! ขณะนั้นยังอยู่ในเวลางาน กำลังพูดคุยถึงแผนงานการออกแบบกับลูกค้า เมื่อได้รับสาย ฉันก็รีบอธิบายถึงสถานการรืที่เกิดขึ้นกับบลูกค้าอย่างรวดเร็ว เก็บของเสร็จแล้ว ก็รีบไปโรงพยาบาลโดยเอาแล็ปท็อปไปด้วย ในตอนที่ฉันไปถึง ชยานีถูกนำเข้าห้องช่วยเหลือฉุกเฉินแล้ว ฉันตามหาหมอเพื่อถามอาการ ถึงได้รู้ว่าสายต่อท่อปัสสาวะของชยานีมีปัญหา ท่อปัสสาวะนี้ไม่ได้ผ่านฆ่าเชื้อโรค จึงนำไปสู่การติดเชื้อ ที่จริงแล้วไม่เพียงแต่อันนี้เท่านั้น สายต่อท่อปัสสาวะทุกอันล้วนแต่มีปัญหา แต่เพราะชยานีเป็นเจ้าหญิงนิทรา ภูมิต้านทานของเธอจึงแย่กว่าคนทั่วไป ระบบภูมิคุ้มกันนั้นถูกทำลาย สถานการณ์ตอนนี้อยู่ในภาวะวิกฤตณ์ จึงเรียกให้ฉันมา ในเวลานั้นฉันตื่นตระหนกมาก นั่งอยู่ตรงโถงทางเดินของโรงพยาบาล มือทั้งสองข้างประกบกันแล้วอธิษฐาน “ขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรเลย” ฉันถึงที่นั่นสักพัก โรศนีก็มาถึง “อาการคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?” โรศนีคว้าตัวฉันแล้วถาม “ไม่รู้ค่ะ” ฉันตอบอย่างสับสนวุ่นวายใจ โรศนีลุกขึ้นแล้วไปถามหมอ จนเมื่อกลับมา นั่งลงข้างฉันแล้วพึมพำอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “โรงพยาบาลแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือเสียเลย สายต่อท่อปัสสาวะยังมีปัญหา?! ถ้าแม่ฉันเป็นอะไรไปล่ะก็ ต่อให้ฉันต้องสิ้นเนื้อประดาตัวฉันก็จะฟ้องร้องพวกเขาให้ตายไปเลย!” ฉันหันหน้าไปทางโรศนี ครั้งนี้และครั้งก่อนหน้าที่ทะเลาะกันเรื่องปิดเครื่องช่วยหายใจ ราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่169ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะฟ้องร้องพวกเขาให้ตายไปเลย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A