ตอนที่ 9 โจมตี
ตนที่ 9 โจมตี
“สืบบ้าสืบบออะไร รอให้คนของคุณสืบสิ ฉันคงไม่มีทางที่ยืนอยู่ในวงการได้แล้ว!”
“งั้นบอกมาสิ ว่าต้องทำยังไง”
ชนิศามองไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็โน้มคอของเขาแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ชเยศ คุณก็ยังจำได้มั้ย หลังจากที่จิดาภาตกลงที่จะอยู่กับคุณ แล้วเธอก็ประกาศอำลาวงการเลย ในเมื่อตอนแรกเธอต้องทำแบบนั้นเพื่อคุณ ตอนนี้ก็ต้องยินยอมรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด”
“ออกแถลงการณ์ในนามของบริษัทเดี๋ยวนี้เลย โดยบอกว่าจิดาภามีแผนที่จะกลับมาในอนาคตอันใกล้ แต่เธอยังหาโอกาสกลับมาไม่ได้
แล้วบวกกับการที่เธออิจฉาในชื่อเสียงและตำแหน่งของฉัน ดังนั้นในตอนที่ฉันบาดเจ็บจนไปออดิชั่นไม่ได้ เธอก็ใช้โอกาสนี้ปลอมเป็นฉันเพื่อเข้ามาออดิชั่น และเธอใช้เงินจำนวนมากจ้างคนเลวให้ปล่อยข่าวพวกนั้นลงอินเตอร์เน็ต เพื่อที่จะก้าวเข้ามาแย่งตำแหน่งฉัน”
“นั่นมัน…”ชเยศยังคงลังเลอยู่ สองปีมานี้จิดาภาทุ่มให้เขาไปไม่น้อยเลย เขาไม่อยากจะทำให้เรื่องนี้บานปลายมากเกินไป
“ถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ได้สักที อนาคตของบริษัทs.jดับด้วยน้ำมือของจิดาภาแน่ๆ”
ชเยศถูกคำพูดของชนิศากล่อมจนเชื่อสนิท แต่ทันใดนั้นเหล่าผู้ถือหุ้นก็บุกเข้ามาในห้องทำงานของเขา “ท่านประธานชเยศ พวกเราคงทำงานร่วมกันต่อไปไม่ได้แล้ว!”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกเหรอครับ”
เหล่าผู้ถือหุ้นโกรธจนกระทืบเท้า “ทำไมข่าวของท่านประธานกับชนิศาถึงไปอยู่ในเน็ตได้ คุณรู้มั้ยว่าเรื่องนี้มันส่งผลต่อบริษัทพวกเรามากเท่าไหร่ ท่านประธาน พวกเราจะถอนหุ้นทั้งหมดเดี๋ยวนี้ พวกเรายกเลิกการทำการค้าด้วยกันสักพักละกันนะ”
ชนิศาโกรธจัดจนหน้าซีด “ใครเป็นคนปล่อยข่าวกันนะ”
“ฉันเอง”พี่นัฎถือกล่องเทปหนึ่งกล่องเข้ามา แล้ววางบนโต๊ะ “นี่คือหลักฐานที่บอกว่าทีมงานบริษัทโดนเธอรังแก ที่ถูกปล่อยลงในเน็ตมันก็แค่ 1% ของหลักฐานพวกนี้เท่านั้น”
“เธอบ้ารึเปล่า คิดจะทำอะไรน่ะ”
“ฉันแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ นายยังต้องถามอีกเหรอ นายโง่รึเปล่า” พี่นัฎมองเขาอย่างรังเกียจสะอิดสะเอียนไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็โยนบัตรทีมงานที่แขวนคอลงบนโต๊ะ “เพราะวงการบันเทิงมีคนอย่างพวกแกอยู่เบื้องหลังไง ถึงได้สกปรก ยุ่งเหยิงและวุ่นวายไปหมดแบบนี้”
ชเยศยังไม่ทันจะโกรธเธอ เขากำชับให้พนักงานบริษัททุกแผนกปล่อยข่าวลงเน็ต โดยอ้างตามเนื้อหาที่ชนิศาบอก คือโยนความผิดทั้งหมดไปให้จิดาภา
อย่างไรก็ตามในช่วงสองสามปีมานี้ชนิศาก็ทำให้บริษัทs.jสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก ทรัพย์สินในบริษัทเกือบทั้งหมดก็ทุ่มเพื่อเธอ ทุ่มเพื่อเธอไปเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้กำไรเลยแม้แต่น้อย ตามธรรมชาติแล้วไม่มีใครทำให้คนเสียชื่อเสียงได้ในพริบตาเดียว แต่อำนาจของพวกเขาทำให้การวิพากษ์วิจารณ์ของชาวโซเชียลเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้
ทุกคนคิดว่าจิดาภาปลอมตัวเป็นชนิศาเพื่อจะกลับมาโด่งดังอีกครั้ง
พอตกบ่ายกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนก็เปลี่ยนไป นักข่าวบันเทิงต่างมาที่ห้องเลขาบริษัทเค.เอฟโดยไม่ได้นัดหมายตามที่ได้รับแจ้งไว้ จะปล่อยให้ข่าวด้านลบใดๆ ของจิดาภาถูกแพร่กระจายได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาด้วยตัวเอง
ที่แท้จิดาภาก็กำลังเติบโตในบริษัทเค.เอฟเหรอ
นักข่าวบันเทิงที่ตกใจก็รีบเสนอเรื่องต่อหัวหน้าให้รับรู้ และรีบหยุดประกาศข่าวของจิดาภาทันที ทุกคนกลับมาให้ความสนใจชนิศาใหม่อีกครั้ง
พอเห็นข่าวบนอินเตอร์เน็ต จิดาภาก็ยิ้มเล็กน้อย วางมือถือลง แล้วมองไปที่ผู้ชายสวมเสื้อเชิร์ตสีเทาที่อยู่ตรงหน้า “นี่คุณช่วยฉันใช่มั้ย”
“ก็แค่เรื่องเล็กๆ น่ะ” จิรภาสตอบเสียงเรียบ เขาไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ
เขาก้มหน้าลงหั่นสเต้กเนื้อวัว แล้วสลับจานกับจิดาภาด้วยท่าทีที่สง่างาม “คุณเป็นก้างขวางคอของบริษัทs.jแล้ว ต่อไปคุณจะเปลี่ยนอาชีพมั้ยเนี่ย”
“ไม่! ในเมื่อพวกมันอยากจะใส่ร้ายป้ายสีฉัน ก็จะใช้โอกาสนี้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง ให้พวกมันรู้ว่าฉันกลับมาได้ด้วยความสามารถของตัวเอง”
“ไม่กังวลเหรอ ถ้าหากบริษัทs.jจะเหยียบคุณ ผมคงจะไม่ออกหน้าช่วยคุณ”
คำพูดของเขาเหมือนกับลมที่พัดรุนแรง จนทำให้ทั้งห้องสั่นสะเทือน
แต่ภายใต้คำพูดที่ดูน่าตึงเครียดของเขา จิดาภากลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “หลักการของฉันก็คือ เรื่องอะไรที่ลงมือทำแล้ว ก็จะต้องทำต่อไปให้ถึงที่สุด ไม่มีใครจะมาขัดขวางหรือหยุดยั้งฉันได้ค่ะ”
เธอสามารถรับผลที่ตามมาจากการกลายเป็นศัตรูของชเยศ และทำในสิ่งที่รับปากกับจิรภาสให้สำเร็จได้
ในโลกนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่มีเสน่ห์แบบนี้กันนะ