ตอนที่ 29 เป็นไปไม่ได้

๕อนที่ 29 เป็นไปไม่ได้ “จิดาภา คุณเลิกใช้อารมณ์กับผมสักที ถ้าทำเช่นนี้บริษัทจะขาดทุนเป็นอย่างมาก คุณก็รู้ว่าผมลงทุนในตัวเขาไปมากเท่าไหร่คุณต้องเคารพงานของผมด้วย”เขาใช้ข้ออ้างแบบนี้เพื่อปกปิดอีกครั้ง ถ้าเป็นไปได้ ทั้งจิดาภา และชนิศาเขาจะไม่ยอมปล่อยใครไปทั้งสองคน “งั้นเราก็ไม่มีอะไรที่ต้องคุยกัน” จิดาภายิ้มหัวเราะอย่างพอใจ “อย่าพิ่ง โอเค ผมจะรีบจัดการแต่คุณรับปากก่อนว่าเราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน” จิดาภาอุทานเสียงดัง “งั้นคุณรีบไปจัดการเลย” หลังจากที่ชนิศารู้ข่าวนี้จะไม่ยอมปล่อยชเยศไปง่ายๆอย่างแน่นอนเธอจะรอดูวันที่ทั้งคู่ไม่ถูกกัน ...... แม้ว่าจะติดต่อจิดาภาได้แล้ว เรื่องจะแต่งงานก็ได้บอกกับเธอแล้ว แต่ทาทีที่ไม่ยินดียินร้ายของจิดาภา ทำให้ชเยศไม่สบายใจ ตลอดทางที่เขาขับรถไปคอนโดของชนิศามองไปยังประตูลิฟท์ คิดอยู่นานก่อนจะกดจำนวนชั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดกับชนิศายังไง ชนิศาร้องให้จนขอบตาบวมแดง พอพบกับชเยศ จึงรีบหันหลังให้ “คุณยังจะมาหาฉันทำไม ก็ปล่อยฉันให้เป็นตายร้ายดีอยู่ที่นี้เถอะ!” พอเห็นน้ำตาของเธอ ชเยศก็ใจอ่อนแล้ว อดไม่ได้ที่จะดึงเธอเข้ามากอด“หยุดร้องได้แล้ว เดี่ยวมันจะกระทบถึงเด็กในท้องชนิศาที่ผมมาวันนี้ เพียงแค่อยากจะมาบอกกับคุณว่า ผมรู้วิธีแก้ปัญหานี้แล้ว” “ยังไงหรอคะ?” ชนิศาที่อยู่ในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมองเขา สายตาเป็นประกาย “คุณต้องหลบไปก่อนสักพัก รอจนกระทั่งลูกคลอดออกมา รอให้ปัญหามันซาไป ให้ทุกคนลืมเรื่องนี้จนหมดแล้วผมจะหาวิธีพาคุณกลับมา ให้คุณเป็นดาราหญิงที่มีค่าตัวมากที่สุด” ชนิศาใจหวิว ทั้งหมดเหมือนชเยศจะทิ้งเธอไป รับจับไปที่ข้อมือของเธอ “ทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉันต้องทุ่มเทมากขนาดไหนจนกว่าจะมาถึงจุดนี้ฉันจะไม่มีวันออกจากวงการอย่างแน่นอน ฉันไม่ใช่จิดาภาที่ยอมคุณทุกอย่าง” “เด็กในท้องของฉันคือลูกของคุณถ้าคุณเกลียดฉันมากขนาดนี้ ฉันจะบอกเรื่องราวทั้งหมดกับนักข่าว ถึงเวลานั้น ใครจะตายศพไม่สวยกว่ากัน เมื่อพูดถึงความโหดร้าย ไม่มีใครเกินไปกว่าชนิศาอีกแล้วเธอกล้าแม้ที่จะอ่อยคนอย่างชเยศ แสดงว่าเธอมีวิธีการเตรียมรับมือไว้อล้วอย่างดี “ชนิศา ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นแต่ว่าตอนนี้นอกจากวิธีนี้แล้วเราไม่มีทางออกอื่นใดอีกแล้ว จริงๆผมได้ติดต่อกับชนิศาแล้ว เธอยอมที่จะแต่งงานกับผมเพื่อที่จะปิดข่าวนี้ แต่ต้องมีข้อแม้ นั่นก็คือ “ให้คุณออกจากบริษัทไป ผมก็ถูกบังคับมาไม่รู้จะทำยังไงเช่นกัน” “จิดาภาอีกแล้วหรอ!” ชนิศาโกรธสุดขีด แต่คิดอีกแง่หนึ่ง เป็นจิดาภาเองต้องการที่จะจับชเยศ “คุณยังกล้าเชื่อคำพูดเธออีกหรอต่อให้เธอทั้งสองแต่งงานกัน เพื่อกลบข่าว แล้วจะได้อะไร? ครอบครัววีรภัทรเมธีจะแบ่งสมบัติให้คุณจริงๆหรอ อย่าลืมสิว่าตอนแรกคุณบอกผมว่ายังไงตระกูลวีรภัทรเมธีไม่ได้สนใจว่าจิรภาจะมีชีวิตอยู่หรือตาย” “คุณใจเย็นหน่อยสิ” ชนิศาผลักมือของชเยศออก “คุณพูดกับฉันถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง ....ชเยศ ฉันขาดคุณไม่ได้จริงๆ ถ้าคุณจะให้ฉันไปจากบริษัทจริงๆทำไมคุณไม่บอกให้ฉันไปตายตอนนี้เลยล่ะ!” เขาพูดจบก็วิ่งไปที่ระเบียง “คุณเลือกเถอะ คุณจะอยู่ด้วยความรักกับฉันตลอดชีวิตหรือคุณจะฝืนแต่งงานกับมัน” “คุณกลับมา อย่าทำอะไรโง่ๆนะ”ชเยศตกใจกลัว จึงได้แค่ผงกหัวรับคำ “คนที่ผมรักคือคุณ แน่นอนว่าต้องอยู่กับคุณสิ” “จริงนะ?”ชนิศาไม่ได้จะกระโดดตั้งแต่แรกหรอก แต่เพียงแค่จะขู่ชเยศเท่านั้นเมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการ จึงรีบกลับออกมาจากระเบียง “อย่าทำให้ผมตกใจสิ ทุกวันนี้ผมก็ยุ่งหัวหมุนอยู่แล้ว ทั้งอยากจะจัดการทุกอย่าง ทั้งอยากจะปกป้องคุณและลูก ไม่ว่าผมจะตัดสินใจเลือกอะไร ทั้งหมดก็เพื่อคุณ” ชเยศถอนหายใจ แม้ว่าเขายังอยากได้สมบัติขิงตระกูลวีรภัทรเมธีอยู่ แต่ที่ชนิศาพูดก็ไม่ผิด บางทีตระกูลวรรภัทรเมธีอาจจะไม่ได้สนใจจิดาภาจริงๆก็ได้ ถ้าเกิดเขาปล่อยชนิศาไป คงจะเสียใจไปตลอดชีวิตจริงๆ“ชเยศ ฉันเชื่อคุณค่ะ ดังนั้นคุณก็ต้องเชื่อฉันเช่นกัน เพียงแค่เราสามคน พ่อ แม่ ลูก อยู่ร่วมกันเราจะผ่านทุกอย่างไปได้?” ชนิศากอดชเยศแน่น มุมปากกลับโค้งยิ้มลง ชเยศกลับไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้จะจัดการได้ง่ายๆ นั่งอยู่บนโซฟา “จริงๆผมอย่างให้คุณแสดงเป็นนางเอกเรื่อง (กาลเวลา) ก็จะเพิ่มโอกาสในการเข้าชิงรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมแต่ตอนนี้มีข่าวเรื่องคลิปวิดิโอออกมา คงจะมีผลต่อการพิจารณาคัดเลือกด้วยผมจะส่งคนไปพบคณะกรรมการคัดเลือก เผื่อจะจัดการได้” “เรื่องรางวัลนักแสดงฉันต้องให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วล่ะ แต่ว่าเรื่องของจิดาภา คุณจะต้องทำตามที่ฉันพูด มิเช่นนั้น บริษัทJSและคุณจะต้องพังพินาจเพราะน้ำมือเธออย่างแน่นอน” “แต่ว่า....” “ถ้าเกิดจิดาภากลับเข้าวงการจริงๆแล้วแฟนคลับหรือว่ากระแสนิยมในตอนนั้น ก็คงจะกลับมาได้รับความนิยมสูงสุดเช่นเคยและตัวเธอเองนางเองอันดับหนึ่งแห่งค่ายJS ก็จะถูกทีบกระเด็นลงมาเช่นกัน “ห้ามให้จิดาภากลับเข้าวงการเป็นอันขาด มิเช่นนั้นเธออาจจะเอาคืนเราก็เป็นได้ เมื่อถึงตอนนั้นฉันอาจจะรักษาลูกของเราไว้ไม่ได้เช่นกัน”ชนิศายังพูดต่อว่า “มีเพียงแค่ให้เธอพักตัวอีกต่อไปเรื่อยๆ นอกจากละครเรื่องนี้แล้ว ห้ามให้โอกาสใดๆกับเธออีกรอให้ผ่านไปสักสองสามปีเธอก็อาจจะไม่กลับเข้ามาอีกเลยก็เป็นได้” “ถ้ารอให้เธอปีนขึ้นมาเป็นที่หนึ่งของJSไม่รู้ว่าจะกล้าสร้างเรื่องอะไรอีก” คำพูดของชนิศาก็มีส่วนถูกอยู่ ชเยศก็หลอกใช้จิดาภาหลายครั้งเพื่อรักษาชื่อเสียงชื่อเสียงของชนิศา ถ้าหากจิดาภากลับมาเข้าวงการได้อีกจริง และขึ้นสู่อันดับต้นๆ เขาคงจะถูกมองข้าม รวมถึงคงจะผลักชนิศาลงจากตำแหน่งด้วย แบบนี้ก็จะแก้ไขยากแล้ว “โอเค เอาตามที่คุณพูด” “กำจัดจิดาภาให้สิ้นซาก ไม่ให้เธอรับงานละคร ไม่ให้รับโฆษณา ไม่ช้าก็เร็วเธอจะหายไปจากวงการเอง” ชนิศาพิงแนบทรวงอกชเยศพูดออดอ้อนต่อว่า “มีเพียงวิธีการนี้เท่านั้นเราสามคน พ่อ แม่ ลูก จึงจะอยู่กันอย่างมีความสุขทั้งหมดนี้ก็เพื่อคุณ” ชเยศเงียบไม่พูดใดๆ ในใจกำลังครุ่นคิด หากจะกำจัดจิดาภาจริงๆ จะต้องกำจัดให้พ้นรากถอนโคนให้เธอไม่มีโอกาสได้เกิดอีกต่อไป จะต้องตัดทุกช่องทางตั้งแต่ต้น ชเยศตัดสินใจเด็ดขาดจะให้จิดาภาเป็นเพียงเครื่องมือของชนิศา รุ่งเช้าวันที่สองก็อ้างชื่อของบริษัทประกาศให้ทีมงานรับรู้ จิดาภางดรับงานถ่ายละครชั่วคราว โดยไม่มีเหตุผลอธิบายใดๆ จิดาภามองเห็นใบหน้าทุกข์ใจของคุณณัฏฐ์ผู้กำกับ และพี่นัฎที่กำลังโมโหไม่เบา “ฉันจะกลับไปดูสถานการณ์ที่บริษัท จะไม่ให้ละครเรื่องนี้ต้องเสียเวลายืดออกไปอีก” เธอเอ่ยเสียงเรียบ เธอรู้อยู่แล้วว่าชเยศจะใช้วิธีการแบบนี้กับเธอไม่สามารทำให้เธอยอมปฏิเสธละครเรื่องนี้เอง จึงอาศัยชื่อบริษัทเป็นเครื่องมือแทนทั้งหมดน่าจะเป็นความคิดของชนิศา “ผมจะจัดลำดับขั้นตอนการถ่ายทำ รอการกลับมาของคุณ” ผู้กำกับณัฏฐ์รู้ว่าจิดาภาน่าจะกำลังเจอกับเรื่องวุ่นวาย ในวงการนี้ จะมีคนเล่นลูกไม้สกปรกอยู่เบื้องหลัง จิดาภาพาพี่นัฎออกมาจากกองถ่ายตั้งใจนั่งรถตรงไปยังบริษัท “จิดาภา พี่ตรวจสอบหมดแล้ว เมื่อวานชเยศไปที่คอนโดของชนิศา แถมยังค้างที่นั่นหนึ่งคืน พวกเขาเล่นลูกไม้สกปรกอีกแล้ว” พี่นัฎพูดด้วยอารมณ์โมโห“ถ้าตอนนี้เธอกับจิรภาส ยังไม่เจอกันนะ ชีวิตที่ดีๆคงถูกแผนการสกปรกของคนพวกนั้นทำร้ายจนหมดสิ้นแล้ว พอนึกถึงเมื่อก่อนที่จิดาภาถูกหลอกใช้ถูกกลั่นแกล้งหากเมื่อก่อนไม่มีจิดาภา ก็คงไม่มีชนิศาได้ในวันนี้เช่นกัน