ตอนที่ 39คอยดูเถอะ

ต๭นที่ 39คอยดูเถอะ ความสัมพันธ์ของทั้งสอง สามารถพัฒนาได้มากกว่านี้แต่ทั้งคู่ก็เคารพการตัดสินใจของกันและกัน เพลงจูบรอยลูบไล้ประโลมของเขาสร้างความประทับใจให้จิดาภาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เขามองเธอที่กำลังอิงหนุนแขนเขาอยู่ บรรจงเชยคางหญิงสาวขึ้นมา “หลายวันมานี้ คุณลำบากแล้ว” เขาเอ่ยถึงเรื่องราวที่เธอต้องเผชิญกับบริษัท JS ด้วยสติและความกล้า จิดาภากอดเขาไว้แน่น “โชคดี...ที่ได้พี่นัฎและฐานิสา.รวมถึงคุณที่คอยช่วยเหลือฉัน ฉันไม่เหนื่อยเลยค่ะ” “ทำไมคุณรู้ว่ามีผมด้วยล่ะ? “คิ้วเขาขมวดเล็กน้อย เขารู้ดีว่าจิดาภาไม่ได้อยากให้เขามาลำบากเพราะเธอ ดังนั้นเขาจึงอดทนมาตลอด และที่ผ่านมาทนที่จะไม่ยื่นมือเข้าช่วย มิเช่นนั้นตอนนี้บริษัทJSคงไม่มีอยู่ในโลกใบนี้ นักแสดงกระจอกๆอย่างชเยศไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย “นอกจากผู้มีค่าตัวสูงระดับหมื่นล้านอย่างคุณชายจิรภาส จะมีใครที่เพียงแค่เสียงในสายโทรศัพท์ก็สามารถกำจัดพวกนั้นไปได้?” …… จิรภาสยิ้มมุมปาก จิดาภาช่างฉลาดจริงๆ “คุณไม่โกรธผมหรอ?”เขาถามขึ้นขณะที่สายตายยังคงมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด “ไม่โกรธค่ะ ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉัน เป็นฉันเองที่คิดง่ายเกินไป เพื่อรักษาชื่อเสียงและผลประโยชน์ ของ JSใช้วิธีแย่ๆพรรคนั้นไม่เป็น ครั้งนี้หากไม่ได้คุณช่วยไว้ ฉันอาจจะ... ภาสค่ะ ขอบคุณนะคะ” การปกป้อง และ เคารพซึ่งกันและกันของเขาคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้เธอร้องขอ จิรภาสมักจะพิจารณาในมุมมองของเธอเพื่อเธอเสมอ และนี้คือสิ่งที่จิดาภาต้องการมากที่สุดในการคบกัน ระยะห่างระหว่างหัวใจทั้งสองดวงได้ใกล้ชิดกันขึ้นเรื่อย “ต่อไปถ้าเกิดเรื่องอะไร คุณจะต้องบอกผมนะ” “ค่ะ เพื่อคุณ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้น” จิดาภาให้สัญญาอย่างจริงใจ ..... พี่นัฎหาทนายที่ดีที่สุดให้จิดาภา ส่วนคนที่จ่ายค่าทนายแน่นอนว่าเป็นจิดาภาเอง หลายปีที่ผ่านมานี้แม้ว่าจะห่างวงการไป แต่เธอก็ยังเรียกว่าไม่ได้ถึงจุดที่ต่ำที่สุด “ทนายปวีณค่ะ คุณชเยศไม่อยู่ค่ะ” เลขาของชเยศยืนรั้งเขาไว้ที่น่าประตู พี่นัฎรู้ดีว่าชเยศจะใช้วิธีนี้มาถ่วงเวลา จึงมองตากันกับทนายปวีณ “ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราไม่รีบ พวกเรารอที่นี่ได้” เธอไม่เชื่อว่า อีกสักครู่ชเยศจะไม่เดินออกมา เลขาแสดงสีหน้าว่าลำบากใจ รวมถึงไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธได้ ได้แค่ยอมให้เธอและเขานั่งรออยู่โซฟาข้างๆ พี่นัฎส่งข้อความหาจิดาภา “ชเยศไม่ยอมออกมาพบพวกเรา” “อืม อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะถึงบริษัท วันนี้ต้องเคลียร์กับเขาให้กระจ่าง” จิดาภาพูดเสร็จ ก็วางสาย เพราะว่าในมือของพวกเขามีหลักฐานเรื่องชั่วๆของชเยศและชนิศา รวมถึงวีรกรรมลับหลังที่ทำกับจิดาภา ใช้คลิปเสียงของเธอ รวมถึงความบกพร่องสัญญาที่ให้เธอเซ็นในปีนั้น ครอบครองไว้หมดแล้ว แต่พี่นัฎคิดไม่ถึงว่า เพียงเวลาแค่ยี่สิบนาที เขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า “อยากมาเคลียร์ใช่ไหม? ก็เข้ามาสิ” นี่นัฎเอ๊ะใจว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล หลังจากที่ส่งข้อความให้จิดาภาเสร็จ ก็เข้าไปยังห้องทำงานของขเยศ “นั่งสิ ฉันรู้ว่าคุณมาเพื่อจิดาภา ตอนนี้บริษัทวุ่นวายขนาดนี้ ผมยอมสละเวลามาพบพวกคุณ กรุณารักษาเวลาอันมีค่าของผมด้วย” ดวงตาของชเยศดูร่องลอย ก่อนหน้านี้เขาขอความช่วยเหลือจากพี่สาวคนรอง และเตรียมแผนการไว้รอแล้ว “อย่าคิดว่าพูดแบบนี้ แล้วพากเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆนะสัญญาที่จิดาภาเซ็นในปีนั้นไม่มีความยุติธรรมใดๆเลย ในหลายปีมานี้ต้องลำบากมากมายอยู่บริษัท ดังนั้น พวกเราต้องการให้คุณ.....” “จัดงานแถลงข่าวขอโทษจิดา? ได้” ชเยศชิงพูดขึ้นก่อน จิดาภามายืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี ได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจนแต่ในสายตาเธอท่าทางของชเยศช่างขัดต่อสายตาเหลือเกิน เหมือกับเขามั่นใจมากว่าจะชนะพวกเรา ความรู้สึกนี้สร้างความไม่สบายใจอย่างมากให้กับเธอ “ส่วนชนิศา ฉันไม่ยอมแน่ ความรู้สึกของฉันและจิดาภามันจบลงหมดแล้ว ตั่งแต่วันนี้เป็นต้นไป ระหว่างฉันและเธอจะเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องงานเท่านั้น และไม่ว่าสัญญาจะยุติธรรมหรือไม่ตอนนี้ยังไม่หมดสัญญา เขายังคงเป็นนักแสดงในสังกัดJS อยู่ ยังจะต้องทำตามคำสั่งบริษัท เพียงแต่ว่า....” ทันใดนั้นเขามองไปยังจิดาภาที่อยู่หน้าประตู ลุกขึ้นหยิบหนังสือข้อตกลงออกมาจากกระเป๋า “ฉันจะให้คุณเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ร่วมกันกับชนิศา และที่สำคัญจะต้องแสดงให้ชาวโลกรู้ว่าพวกเธอไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไรกัน ซึ่งมันจะดีต่อทุกฝ่าย ต่อให้เธอจักการเรื่องสัญญาจ้างได้สำเร็จ เธอคิดว่าเธอจะสามารถยืนอยู่ต่อในวงการนี้ได้อย่างมั่นคงจริงๆหรอ สู้พวกเรามาร่วมมือกัน ให้เรื่องนี้มันจบอย่างสวยงามไม่ดีกว่าหรอ” จบอย่างสวยงาม คำนี้ชเยศพูดอย่างเน้นหนัก “มิเช่นนั้น ต่อให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งบริษัท มันก็ยังทำให้เธอต้องหายไปจารวงการนักแสดงอยู่ดี” จากคู่ที่เคยรักกันในวันก่อนเปลี่ยนมาเป็นศรัตรูในวันนี้ จิดาภาไม่คิดว่าทั้งคู่จะมาถึงวันนี้ได้ มองดูการบีบขู่เข็ญของเขา เธอต้องยอมทนแล้ว ทนเล่าอยู่เรื่อยไป... “คุณยังคิดจะเกาะจิดาภากินอีกแล้วรึ” พี่นัฎลุกขึ้นยืนขึ้น “พวกเราจะไม่ยอมคุณอีกต่อไป ความจริงก็คือความจริง ทำไมยังจะต้อง มาสร้างภาพแก้ต่างแบบนี้ด้วย JSคือบริษัทที่ใจดำอำมหิตคุณจะใช้ชนิศาก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่นี้จะใช้จิดาภา มโธรรมสำนึกคุณยังมีอยู่รึปล่า?” “โลกใบนี้เดิมทีมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ปลาใหญ่ย่อมกินปลาเล็ก ฉันนำพาJSมาจนถึงทุกวันนี้ เธอคิดว่าเป็นเพราะดวงหรอ ? จิดาภาตอบไปเลย ว่าเธอตกลงหรือไม่ตกลง?” ชเยศต้องการบังคับให้เธอตอบตกลง พี่สาวคนรองบอกกับเขาว่าจิดาภาเป็นคนฉลาด รู้ว่าอันไหนคือดีอันไหนเป็นโทษ เพียงแค่เขาตัดสินใจประจบเธอ จิดาภาก็คงจะไม่เกลียดจนถึงขั้นตัดขาดเยื้อใยกับบริษัท รอจนกระทั้งชนิศาและจิดาภาปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณะชน เป็นการเรียกคืนภาพลักษณ์ของบริษัทกลับคืนมา นอกจากนี้ ยังเป็นการปูเส้นทางการชิงตำแหน่งให้กับชนิศา ดูท่าตอนนี้ ชเวศไม่ยอมรามือให้เธอออกจากบริษัทไปได้ง่ายๆ จิดาภามองเขาด้วยอาการสงบราบเรียบ “ได้ ฉันตกลง” “จิดาภา ！พี่นัฎกระทืบเท้าด้วยความโมโหกังวลว่าจิดาจาจะตกหลุมพรางของชเยศ “ให้พวกเราถ่ายรายการด้วยกัน เป็นความต้องการหลักของคุณ ต่อไปถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน อีกอย่าง ข้อเสนอที่ทนายฉันส่งให้ กรุณานำไปพิจารณาอย่างละเอียดด้วย！” ครั้งนี้เรียกว่าจิดาภายอมมากแล้ว เธอเองก็ไม่อยากจะให้ละครฉากนี้จบลงเร็วเกินไป ต่อให้เธอรับงานรายการเรียลลิตี้นี้ ก็ไม่ได้แน่ว่าจะทำให้ชนิศาโด่งดังขึ้นได้ ละคร ยังไม่จบแค่นี้แน่ “ได้！” ชเยศกัดฟันกร่อนด้วยความโกรธ รอจนกระทั้งพวกเขาทั้งหมดออกจากห้องไป พิงโต๊ะทำงานถอนหายใจเฮือกใหญ่ รีบกดมือถือโทรออกหาทีปินา “พี่ จิดาภาตอบตกลงแล้วนะ ต่อไปเราจะทำอะไรต่อ?” “ทำตามแผน ไปทีละขั้นเลยนะ แต่ก่อนอื่นให้ชนิศานิ่งไว้ก่อน อย่าพึ่งลงมืออะไรเพราะไอ้เรื่องที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเหตุมาจากความอิจฉาริษยาที่มากเกินไปของชนิศานั่นแหละ จำไว้นะว่า ปริษัทจะต้องทำท่าประจบประแจง จิดาภา ให้สังคมภายนอกเห็นความจริงใจของพวกเรา แบบนี้จึงจะสามารถลบข่าวเสียๆหายๆและคืนความบริสุทธิ์ให้กับบริษัทได้” “พี่วางใจได้ ครั้งนี้ผมจะไม่ให้พลาดส่วนเรื่องอาการของชลลดา เธอจะต้องดีขึ้น！” อย่างน้อยที่สุดจะต้องบังคับให้จิดาภา บริจาคไขกระดูกก่อนที่เธอจะไปให้ได้