ตอนที่52ทำให้โดดเด่น

ต๭นที่52ทำให้โดดเด่น ในขณะนั้นพิธีกรได้รับการ์ดคำถามที่ถูกส่งมายังสถานที่ถ่ายทำเขากระแอม“คำถามต่อไปอาจจะเซนซิทีฟเล็กน้อยไม่ทราบว่าคุณทั้งสองจะสามารถใช้สัตว์ชนิดหนึ่งอธิบายฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่？” ในรายการทอล์คโชว์ความสัมพันธ์ระหว่างดาราหญิงมักจะกลายเป็นชนวนของการต่อสู้……　　 จิดาภาไตร่ตรองเล็กน้อยไม่มีความลังเลใดๆเอ่ยปากอย่างใจเย็น“ในสายตาของฉันชนิศาเปรียบเหมือนนกยูง”　 “คุณกำลังชื่นชมความงามของคุณชนิศาใช่ไหมครับ？”พิธีกรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จิดาภาไม่ได้ตอบคำถามทำเพียงแค่ใช้รอยยิ้มเป็นจุดสิ้นสุดของกล้องดวงตาของเธอดูเหมือนจะใจดีแต่มีความหมายลึกลงไปอีกในคำพูดนั้นขนของนกยูงนั้นสวยงามก็จริงแต่ไม่มีความสามารถในการโจมตีและการใช้งานจริง　เหมาะเป็นเพียงสัตว์ประดับสวยงามเท่านั้น　เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินในสายตาของเธอ　ชนิศาเป็นเพียงแค่นกยูงข้างกายตัวหนึ่งของชเยศแม้ว่าจะสวยงามแต่มันก็เป็นได้แค่ของเล่นในสต็อกเท่านั้น　　　 ชเยศคิดอย่างหนักอยู่ในใจไม่รู้ว่าชนิศาจะเข้าใจความหมายที่จิดาภาต้องการจะสื่อหรือไม่ “ฉันคิดว่าจิดาภาเหมือนกับสุนัขจิ้งจอกเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมาก……”　 ในกลางรายการแบบนี้ถ้อยคำถากถางของเธอนั้นเหมือนหยุดอยู่ที่ระดับอนุบาล　 ชนิศาไม่ได้ตระหนักถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปของผู้กำกับและทีมงานคนอื่นๆเลยเธอยกคิ้วขึ้นอย่างภาคภูมิใจ“การเปรียบเทียบของฉันไม่ผิดแน่เธออยู่ในบริษัทs.jมานานฉันเข้าใจดี”　 ชเยศรู้สึกสมองของเขาชั่งโง่เขลานักนี่ชนิศากำลังพูดอะไรกัน！　 ความท้าทายของเธอนั้นทำให้ทุกคนตกใจในขณะเดียวกันก็สงสัยอยู่ในใจว่าอีคิวแบบนี้ในวงการบันเทิงจะทำให้คนไม่พอใจมากขนาดไหน คิดกลับไปถึงคำตอบของจิดาภาเธอคาดไว้แม่นยำมากความแต่งต่างระหว่างการแสดงออกของชนิศากับนกยูงของผู้เข้าชมในสวนคืออะไร？มั่นใจในความสวยงามของตัวเองก็เลยลำพองใจอยู่มาก　 จิดาภามองเห็นความลำบากใจของพิธีกรยิ้มและกล่าวว่า“คงจะมีเพียงแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้นที่จะรู้จักฉันอย่างดีค่ะ” ความหมายคือความสัมพันธ์ของเธอกับชนิศาไม่ได้ปรองดองกันเหมือนอย่างการโฆษณาของบริษัทถ้าพูดใหม่ก็คือความสัมพันธ์รักสามเศร้าของพวกเขาที่ปกปิดไว้ยังไม่ถูกขุดคุ้ยความจริงขึ้นมา เมื่อเธอได้ยินผู้กำกับพูดว่าคัทเธอเห็นชเยศถือโทรศัพท์หัวเสียออกจากสตูดิโอไป เขาอาจจะรีบไปทำประชาสัมพันธ์แม้ว่าการถ่ายทำรายการที่นี่จะยังไม่ได้ออกอากาศแต่อาจมีภาพบางส่วนจะถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตคำพูดเมื่อสักครู่ของจิดาภาทำให้ชนิศาอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบและชนิศาก็ยังงี่เง่าพอที่จะคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า ชนิศาเติมหน้าไปก็จ้องมองจิดาภาไปด้วย“นับว่ารู้จักเอาตัวรอดไม่ได้พูดอะไรมั่วๆการถ่ายทำตอนบ่ายเธอก็อย่าก่อเรื่องละกันไม่เช่นนั้นฉันจะฟ้องชเยศแน่” “หรอ？”จิดาภามองเธอเพียงแค่หางตาก็สวมเสื้อคลุมเดินเข้าห้องพักข้างๆไปเธอไม่อยากเสียเวลาทะเลาะกับชนิศา　 ไม่ถึงห้านาทีชนิศาก็ถูกชเยศเรียกไปพบ “เมื่อกี้คุณพูดเสียดสีจิดาภาแบบนั้นได้ยังไงสิ่งที่คุณต้องแสดงออกคือความสัมพันธ์ที่ปรองดองรักใคร่กับเธอถึงจะต้องเสแสร้งแกล้งทำก็ต้องเสแสร้งออกมา！”ชเยศค่อนข้างจะโกรธไม่รู้ว่าชนิศาคิดยังไงอยู่กันแน่ถึงได้ทำเรื่องเหมือนเด็กไร้เดียงสาขนาดนั้น “แต่ว่าฉันพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรอ？หรือว่าต้องให้ฉันประจบประแจงเธอ？”ชนิศาถอนหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ “ชั่งเถอะคุณจำไว้นะการถ่ายทำแป๊ปเดียวก็เสร็จแล้วคุณเชื่อฟังคำพูดของผู้กำกับเพียงแค่คุณเฉิดฉายเท่านั้นผมจะปูทางให้คุณอย่างดี” “เข้าใจแล้วค่ะ”ชนิศาเม้มริมฝีปากในใจยังคงนึกอิจฉาท่าทีของชเยศเวลาพูดถึงจิดาภา ในเวลานี้จิดาภากำลังดูขั้นตอนการถ่ายทำ “จิดาภานี่คืออาหารกลางวันแห่งความรักจากคุณจิรภาสค่ะ”ฐานิสาคิกคักถืออาหารที่จิรภาสเป็นคนทำส่งมาให้ถึงจิรภาสจะงานรัดตัวแต่ทว่ายังเอาใจใส่จิดาภาขนาดนี้แม้ว่าไม่ได้อยู่ใกล้ๆเธอแต่ยังสามารถดูแลเธอได้ทุกที่ทำให้คนอื่นอดที่อิจฉาไม่ได้เลย “คุณจิรภาสยังพูดอีกว่าหลังจากจบงานแล้วจะมีเซอร์ไพร์สใหญ่ให้คุณด้วย ได้ยินคำว่าเซอร์ไพร์สสองคำนี้หัวใจของจิดาภาก็อบอุ่นขึ้นมาดวงตาเป็นประกายส่องสว่าง“จ๊ะเธอก็ไปพักผ่อนเถอะตอนบ่ายยังต้องทำงานอีก” สามีภรรยาคู่นี้มักจะเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกันอยู่เสมอ จิดาภาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูหัวข้อข่าวการค้นหาที่ร้อนแรงในประเทศไม่เป็นไปอย่างที่เธอคิดเปิดเจอรูปเก่าของชเยศกับชนิศาบ้างรักสามเศร้าของพวกเขาถูกนำอออกมาเปิดเผยอีกครั้ง เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักแต่ว่าชเยศกับชนิศาคงจะกระวนกระวายจนมึนงงสับสนอยู่เป็นแน่ เดิมทีเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชนิศาจะเข้าร่วมวงภาพยนตร์และโทรทัศน์ต่างประเทศแต่กลายเป็นว่าก่อเรื่องงี่เง่ามาขัดขวางตัวเองไว้จิดาภาที่กำลังจะเก็บโทรศัพท์ก็ได้รับข้อความฉบับหนึ่งจากห้องเลขาบริษัทเค.เอฟ “คุณผู้หญิงคะคุณจิรภาสกำชับแผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทเตรียมพร้อมรอรับคำสั่งตลอด24ชั่วโมงในระหว่างที่คุณถ่ายทำเกิดอะไรขึ้นก็ตามคุณสามารถติดต่อพวกเราได้ทันทีค่ะ”　 เมื่อหมาชเยศกระโดดข้ามเส้นเมื่อใดบริษัทเค.เอฟพร้อมเปิดโจมตีทันทีถึงเวลานั้นอย่าคิดว่าชนิศาจะได้อยู่อย่างสงบสุขเลย ชายผู้ควบคุมชะตากรรมของวงการบันเทิงคนนี้จะยืนอยู่ข้างหลังเธอและปกป้องเธอตลอดเวลา　 จิดาภาโทรศัพท์หาจิรภาสทันที“คุณใช้อำนาจเพราะฉันอีกแล้วนะคะ？”　 “เพียงแค่คุณร้องขอบริษัทเค.เอฟทั้งหมดจะถูกส่งไปหาคุณ”ก็เขาโปรดปรานจิดาภาใครกล้าขัด？ คาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ควบคุมวงการบันเทิงคนนี้จะโปรดปรานเธอมากขนาดนี้ “ฉันไม่ได้โศกเศร้าเสียใจอะไรคุณวางใจเถอะค่ะ”ชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอคือคนที่ผลักดันชนิศาให้อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนั้นแต่ในสายตาจิรภาสจะไม่ให้ใครมีโอกาสมาทำร้ายเธอได้อย่างแน่นนอน “โอเค……ผมจะรอคุณกลับมานะครับ”　จิรภาสยิ้มเขาสนับสนุนการตัดสินใจของเธออย่างไม่มีเงื่อนไข จิดาภานั้นทั้งรุนแรงและอ่อนโยนต่อเขาทระนงตนต่อต้าน ภารกิจการถ่ายทำนั้นไม่ได้หนักมากเธอจำกระบวนการถ่ายทำนี้ได้ขึ้นใจตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ถึงตอนสุดท้ายเธอยังไม่สามารถผ่อนคลายได้รอจิดาภาผักผ่อนสักครู่ก็ได้ยินจากพี่นัฎเรื่องชนิศาทะเลาะกับช่างแต่งหน้า “เธอไม่พอใจคิดว่าช่างแต่งหน้าเตรียมเครื่องแต่งกายไม่สวยไว้ให้เธอจะใส่ชุดที่ตัวเองเตรียมมาให้ได้สีสันฉูดฉาดแถมยังฝังไปด้วยเพชรเทียมไร้ระดับ……ฉันเห็นว่าช่างแต่งหน้าพวกนั้นไม่มีคำอะไรพูดเลย”　 “ชเยศไม่ไปจัดการหรอ？”จิดาภาถาม “เปล่ารูปของชนิศากับชเยศเพิ่มขึ้นในรายการค้นหายอดนิยมอีกแล้วชเยศน่าจะกำลังยุ่งกับเรื่องนี้อยู่แต่ตอนนี้ชนิศายังคงไม่รู้เรื่องอะไรหลงตัวเองขนาดนั้นชั่งน่าเศร้าใจเหลือเกิน”ขณะที่พี่นัฎกำลังพูดก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น พนักงานเข็นราวเสื้อผ้าเดินเข้ามา“คุณจิดาภาครับเชิญคุณเลือกเสื้อผ้าเหล่านี้หนึ่งชุดเถอะครับ” ขณะที่เขาพูดประโยคนี้สีหน้าดูลังเลพี่นัฎแค่มองก็เดาทางออก“ชนิศาเลือกหรือยัง？” “คือ……”　 “บอกพวกฉันไม่ได้？”พี่นัฎตั้งใจกดเสียงต่ำฐานิสาที่อยู่ข้างๆยังหน้าหด “คุณชนิศาเลือกแล้วครับเธอให้คุณจิดาภาเลือกชุดพวกนี้ครับ”พนักงานยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลงในวงการนี้ล้วนแต่สามารถเกิดเรื่องแบบนี้ได้ทั้งนั้นใครบอกให้ชนิศาเป็นนักแสดงเบอร์หนึ่งของบริษัทs.jกันล่ะ？