ตอนที่ 69 ต่างสืบข่าวทั้งสองฝ่าย

ต๭นที่ 69 ต่างสืบข่าวทั้งสองฝ่าย “พวกนี้คือ…” จินาภามองจนตาลาย ไม่มีผู้หญิงที่ไหนไม่ชอบเสื้อผ้าสวยๆ โดสเฉพาะในบรรยากาศแบบนี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก “นี่เป็นพรมแดงครั้งแรกของการกลับคืนวงการของคุณ เลยต้องจัดเต็มหน่อย….ที่สำคัญคือผมเองก็ได้รับเชิญ ดังนั้นผมคิดว่าเราต้องการชุดคู่รักนะ” นี่คงเป็นคชุดคู่รักที่แพงที่สุดในโลกแน่ๆเลย จิตาภาซาบซึ้งจนมึนหัว จิรภาสชอบเซอร์ไพร์สแบบนี้เสมอ ทำให้เธอตื้นตันใจจนแทบน้ำตาไหล “ลองชุดนี้ไหม?” จิรภาสกุมมือเธอไว้ ถามอย่างอ่อนโยน ถึงจะยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่เขาไม่อยากซ่อนจิตาภาไว้ พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ออกงานด้วยกัน เขาหวังว่าจิตาภาจะรับรู้ได้ถึงความรักของเขา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหัวใจของเขาก็อยู่กับเธอเสมอ จิตาภายิ้มพลางหอมแก้มจิรภาส “รอฉันหน่อยนะ” เธอเห็นชุดราตรีสีชมพูเงินเกาะอกชุดนั้นในห้องแต่งตัวแล้วตะลึงในความสวยงามของมัน เพชรตกแต่งที่พาดยาวจากไหล่ซ้ายยาวลงมาที่กระโปรงสวยงามมาก รวมกับผ้าซีทรูสีชมพู ทำให้ดูทั้งไฮโซและอ่อนหวาน พอจิตาภาใส่ชุดนี้ ยิ่งเสริมความดูดีให้หุ่นของเธอ พอม้วนผมเป็นมวยเสร็จ เผยให้เห็นคอยาวระหง ประดับสร้อยเพชรประดับ ยิ่งสวยงามเหมือนนางฟ้า จิตาภาหมุนหนึ่งรอบหน้ากระจก แอบสังเกตเห็นความตะลึงในแววตาจิรภาส “สวยมาก” เขาเองก็พึ่งเปลี่ยนเป็นชุดสูทสีเทา บวกกับหูกระต่ายผูกคอ รวมไปถึงรอยปักลายดอกไม้สีชมพูที่หน้าอก พอมายืนคู่กับจิตาภาแล้วเหมาะสมกันมาก เขาก้าวเท้าอย่างมีเสน่ห์เข้ามายืนตรงหน้าเธอ กุมมือเธอมาจุมพิตเบาๆ “อยากไปเดินพรมแดงพร้อมคุณจริงๆ” จิตาภายิ้มอย่างอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความตื่นเต้น “พวกเราไปออกงานแบบนี้ จะโดนใครจับได้หรือเปล่า?” นักข่าวในวงการนี้ถนัดเรื่องนี้นัก จิตาภายังไม่อยากเป็นคุณนายของเขาในสายตาคนภายนอก จิรภาสกุมมือเธอแน่น “ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้” ที่ผ่านมานักแสดงสาวที่เป็นข่าวกับเขามีมากมาย แต่แผนกจัดการเรื่องนี้ของบริษัทเค.เอฟก็ไม่ใช่ย่อย มีแต่ผู้หญิงที่เขายอมรับเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้ยืนข้างกายเขา เพราะจิตาภาอยากอาศัยฝีมือตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าคู่ควรกับเขา ดังนั้นเขาจะรอ เขาจะทำให้เธอเป็นราชินีที่สว่างจับตาคนที่สุดในโลก และยืนอยู่ข้างกายเขาบนจุดสูงสุด “จริงสิ สัญญาเรื่อง(butterfly) คุยเรียบร้อยแล้วนะ รอแค่คุณเซ็นชื่อ” เขายิ้มรายงานผลกับเธอ “ฝีมือการทำงานของผู้ช่วยคนนี้เยี่ยมมากจริงๆ” จิตาภายิ้มมองเขา “งั้นพวกเขารู้ฐานะคุณหรือยัง?” “ผมว่าน่าจะไม่” จิรภาสยืนชื่นชมความสวยของจิตาภาเงียบๆ เขายกมือขึ้น “ถ้าชอบ งั้นชุดนี้นะ?” “โอเคค่ะ” จิตาภาชอบชุดนี้มากจริงๆ แถมนี่เป็นชุดคู่รักชุดแรกของเธอกับจิรภาส เธอหยิบชายกระโปรงอย่างเคอะเขินก่อนเดินเข้าห้องลองชุด ในขณะที่เธอกำลังพยายามเพื่อก้าวไปอีกขั้นนั้น มีจิรภาสคอยอยู่เคียงข้างเธอ สำหรับจิตาภาแล้วเป็นแรงสนับสนุนที่มากที่สุด พอเธอเปลี่ยนชุดเสร็จ จิรภาสก็รอเธออยู่ด้านนอกแล้ว เขายืนข้างหน้าต่าง มือซ้ายถือมือถือคุยสายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “แน่ใจไหม?” สีหน้าเขาบอกสัญญาณอันตราย จิตาภาเดินเข้าไปหาช้าๆ พอจิรภาสได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันมาจูงมือจิตาภาและกดวางสาย “ถ้าที่ออฟฟิศมีงานด่วน คุณไปทำก่อนก็ได้ ฉันกลับเองได้ค่ะ” จิตาภากุมมืกลับพลางพูดอย่างอ่อนโยน “เป็นเรื่องคุณน่ะ” ฟังจากน้ำเสียงเขาดูไม่สบอารมณ์มาก พนักงานของบริษัทเค.เอฟสืบมาได้ว่า บริษัทเอสเจกำลังเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ และเงื่อนไขของคนที่ตามาแทบเหมือนจิตาภาทุกอย่าง แม้แต่หน้าตาก็คล้ายคลึงกับจิตาภา บริษัทคู่แข่งกันจะเข้าใจกันมันไม่เแปลก แต่เมื่อพนักงานของบริษัทเค.เอฟเห็นหน้าตาของนักแสดงหน้าใหม่เหล่านั้น ก็รู้สึกว่าเรื่องมันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น “คุณน่าจะรู้ว่านี่มันหมายความว่าอะไรนะ!” จิรภาสขมวดคิ้ว ถ้าไม่ติดว่าจะกระทบแผนการของจิตาภา เขาอยากเข้าไปทำลายบริษัทบ้านี่จริงๆ “พวกเขาอยากดันนักแสดงหน้าใหม่ ที่อายุเด็กกว่ามาแทนที่ฉันน่ะสิ” จิตาภาวิเคราะห์อย่างใจเย็น เธอไม่รู้สึกอะไรเลย อย่างพี่น้องตระกูลไป๋น่ะไม่แปลกหรอกที่จะทำเรื่องแบบนี้ พอเห็นจิตาภาไม่ได้ใส่ใจอะไรเรื่องนี้เท่าไหร่ จิรภาสก็เริ่มใจเย็นลง เขาจูงมือจิตาภานั่งลง พูดอย่างจริงจังว่า “ถ้าจำเป็น ผมจะรีบสั่งคนดำเนินการทันที” กล้ารังแกจิตาภาแบบนี้ พวกเขาคงไม่อยากอยู่แล้ว จิตาภาซาบซึ้งกับคำพูดเขา แค่เธอพูดคำเดียว ผู้ชายคนนี้ก็พร้อมจะพลิกวงการมายาเพื่อเธอ “ฉันอยากจะดูว่าพวกเขาจะทำถึงขั้นไหนกัน” จิตาภาคิดคำนวณ “ตอนนี้ฉันด้อยไปเรื่องอายุจริงๆ ถึงหนทางการแสดงจะแก้ได้ แต่วงการมายามีนักแสดงหน้าใหม่ทุกปี ฉันจำเป็นต้องผ่านการทดสอบไปให้ได้ ไม่งั้นฉันก็จะไม่มีทางได้สิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ” จิรภาสมองหน้าเธอก่อนถอนหายใจ “คุณมักจะเข้มแข็งจนผมอดปวดใจไม่ได้” บางทีเขาก็อยากให้เธอทำตัวอ่อนแอบ้าง แต่ถ้าเธอเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นอาจจะไม่ใช่เธอแล้วก็ได้ เธอในตอนนี้ก็เหมือนกับดอกบัวที่กำลังพยายามออกมาบานชูช่อเหนือหิมะซักวัน ในเมื่อพวกทีปินากำลังดำเนินการลับเรื่องนี้ จิตาภาเลยขอลาหยุดสองวันพักผ่อนที่บ้าน พอเธอทำตัวเงียบว่าง่าย มันกลับทำให้พวกชเยศกังวลนั่งไม่ติดที่ เขานั่งมองข้อความที่พี่นัฎส่งมาขอลาหยุดหลายรอบมาก และหันมาบอกทีปินาที่นั่งตรงหน้าเขาว่า “ใกล้จะถึงคืนวันงานแล้ว จิตาภาเงียบเกินไปหรือเปล่า?” “เงียบไม่ดีหรือไง? เกิดหล่อนมาที่ออฟฟิศ ก็ต้องรู้เรื่องจดหมายเชิญและนักแสดงหน้าใหม่ของเรา ไม่โผล่มากลับดีกว่า” ทีปินานั่งดูกำหนดการของคืนวันงาน “เธอไม่ต้องสนใจเรื่องนี้แล้ว เอาเวลาไปอยู่เป็นเพื่อนชนิศา ให้หล่อนเตรียมตัวดีๆดีก่า ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าหรือชุด ก็ต้องไม่มีข้อผิดพลาดอะไรทั้งนั้น” ชนิศาตอนนี้กำลังมาดี ยิ่งต้องชนะให้ได้ “….ผมรู้แล้ว” ชเยศวางมือถือลง “ผมจะให้คนไปยืนยันกำหนดการกับจิตาภา เพื่อให้แน่ใจว่าหล่อนจะไม่ปรากฎตัวคืนวันงานมากระทบแผนของเรา” ทีปินายิ้มอย่างพอใจ “ใช่ ต้องไม่ให้หล่อนมีโอกาสพลิกคืนกลับมาได้เป็นอันขาด!”