ตอนที่82 แตกหักในที่สุด

ต๭นที่82 แตกหักในที่สุด ชนิศาใช้แรงไปมากกับการพาตัวของชเยศกลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของเธอ หลังจากที่เปิดหน้าต่างออกสูดรับอากาศนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เป็นตัณฑุลที่โทรเข้ามา เธอมองไปยังชเยศอย่างระวังตัว และเมื่อแน่ใจว่าเขายังคงเมาอยู่ จึงกดรับสาย "ฉันบอกคุณไปแล้วว่าคืนนี้ฉันจะไปทานข้าวกับเขาไม่ใช่หรือ? แล้วคุณยังจะโทรมาทำไมอีก!" "เพื่อนผมที่อยู่ด้วยกันที่นี่ เป็นผู้กำกับเขียนบทของคิงคลับทั้งนั้นเลยนะ" เขาหยุดไปสักพัก แล้วเอ่ยขึ้นมาต่อ "คุณจะมาหรือไม่มา ก็แล้วแต่คุณนะ" ชนิศาเข้าใจในความหมายที่เขาพูดมาเป็นอย่างดี นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ไม่ได้มีบ่อยๆ หากเธอไม่ไป นั่นก็เหมือนเป็นการไม่ไว้หน้าเขา แล้วสัญญาของKBก็คงจะเสี่ยงสำหรับเธออยู่ไม่น้อย... จนถึงวันนี้ เธอจะลังเลต่อไปไม่ได้อีกแล้ว หลังจากเติมหน้าแล้วนั้น เธอก็ค่อยๆย่องออกไปจากอพาร์ทเม้นท์ตัวเอง หากพรุ่งนี้ชเยศถามเธอ เธอก็จะบอกเขาไปว่าเธอไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล แล้วหลังจากนั้นเธอค่อยคิดหาวิธีเอาเด็กออก แต่เธอนึกไม่ถึงเลย ว่าตอนที่เธอเดินเข้าคิงคลับมานั้น จะถูกปาปารัสซี่ถ่ายรูปเธอไว้ ปาปารัสซี่คนนั้นจำชนิศาได้ และรู้ว่าเธอเป็นแฟนของชเยศ คิดแผนจะแบล็กเมล์ เพียงแต่เขาถ่ายรูปไว้ได้เพียงแค่ตอนที่ชนิศาเดินเข้าคิงคลับเท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปถ่ายสถานการณ์ด้านในได้ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที โทรศัพท์มือถือของชเยศก็ได้รับรูปภาพเหล่านั้น พอดีกับที่เขาตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วไม่พบแม้แต่เงาของชนิศาเลย เขาเงยหน้าขึ้นมาดูรูปเหล่านั้น ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เธอไปทำอะไรที่นั่น! ชเยศกดโทรออกหาชนิศา แต่ติดต่อเธอไม่ได้เลย เขากังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับชนิศา จึงขับรถไปที่นั่นทันที แต่เมื่อเข้าไปข้างในแล้วนั้นเขากลับเห็นชนิศากำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งโอบกอดอยู่ ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก และที่สำคัญคือ ใบหน้าของชนิศาปรากฏรอยยิ้มที่ราวกับยินดีกับการกระทำของอีกฝ่ายเสียด้วย ชเยศยืนมองอยู่ในมุมที่ไม่ไกลนัก เขากำมือแน่ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด เขายืนอยู่ด้านหลังของพวกนั้นค่อยๆเดินตามทั้งสองคนนั้นไป จนกระทั่งเห็นเขาทั้งสองคนเข้าไปยังห้องพักห้องหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูลงแล้วนั้น ไม่นานด้านนั้นก็มีเสียงหัวเราะออกมา หัวใจของเขารู้สึกเย็นเยือกราวกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง นี่คือผู้หญิงที่เขาเลือกเพราะความรักอย่างนั้นหรือ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะต่ำช้าถึงเพียงนี้ ใบหน้าที่แข็งกร้าวราวกับเหล็กนั้น เดินเข้าไปเคาะประตูห้องของพวกเธอ ชนิศาเปิดประตูออกด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ และเมื่อเห็นหน้าของเขา นั่นสร้างความตกตะลึงให้เธอเป็นอย่างมาก “คุณ..ชเยศ ทำไมคุณ...” เธอยังพูดไม่ทันจบ ชเยศก็ตวัดมือเข้าที่ใบหน้าเธอไปเสียแล้ว เขาตวาดออกมาอย่างโมโหสุดขีด “ผู้หญิงสารเลว” ชนิศาไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ ทำได้เพียงแค่มองเบื้องหลังของเขาที่เดินจากไป ในใจรู้สึกหวาดกลัว ว่าครั้งนี้เธอคงจะแย่แน่ๆ ในเวลาแบบนี้ถูกชเยศจับได้ว่าเธอแอบนอกใจเช่นนี้ แล้วหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรกัน ผู้ชายในห้องที่ได้ยินทุกอย่างนั้น หัวเราะขึ้น “กลัวอะไร? มีพวกผมอยู่ ยังจะไปกลัวบริษัทเล็กๆอย่างsjอีกหรือ?” ชนิศาส่ายหน้า แต่ในใจนั้นรู้สึกจุกเป็นอย่างมาก ชเยศไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ “อย่าไปคิดมากเลย ผมรับประกันว่าในไม่ช้าคุณจะได้เซ็นสัญญากับKBแน่ พอถึงตอนนั้น คุณก็จะเป็นอิสระ ต่อไปก็ไม่ต้องเห็นสีหน้าแบบนั้นของผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว” “แล้วถ้าเขาเอาเรื่องของพวกเราไปบอกคนอื่นล่ะ...” ชนิศาถอนหายใจออกมา “แบบนั้นมันก็ไม่มีผลดีอะไรกับตัวเขาหรอก เขาโดนสวมเขาแบบนี้ ยังจะกล้าพูดออกสื่อหรืออย่างไรกัน?” ตัณฑุลหัวเราะ ชเยศออกมาจากคิงคลับด้วยความรู้สึกว่าตัวเองโง่เสียเหลือเกิน สองเท้าก้าวเดินไปบนถนน เขารับรู้ถึงรสชาติความของความเจ็บปวดที่สุดก็ครั้งนี้ การโดนคนที่รักที่สุดนั้นหักหลัง ความเกลียดชังและความโกรธแค้นเช่นนั้นร้อยเข้าด้วยกันเป็นตาข่าย นั่นทำให้เขารู้สึกหายใจได้ลำบากเหลือเกิน เพื่อจะประคับประคองชนิศา เขากลับหลอกใช้จิดาภามาตั้งหลายครั้งหลายครา แม้กระทั่งยอมนอกใจเธอ... แต่ตอนนี้ชนิศากลับกล้าที่จะไปมีอะไรกับคนอื่น! แถมเธอยังตั้งท้องลูกของเขาอีกด้วย ทำไมถึงไร้ยางอายถึงเพียงนี้! ทันใดนั้นเองเขากลับรู้สึกถึงความรู้สึกของจิดาภาในตอนนั้น การถูกหักหลังนั้นเจ็บปวดถึงเพียงนี้เชียวหรือ เขารู้สึกโกรธแค้นมาก เกลียดเสียจนอยากจะฆ่าชนิศาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ความรู้สึกและสิ่งที่เขาทำให้เธอนั้นคงไม่มีอะไรมาทดแทนกันได้ แต่สำหรับชนิศาแล้วนั้น เขาคงเป็นเพียงแค่แผ่นกระดานที่ให้เธอเหยียบเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเธอต้องการเขา เธอก็จะคล้อยตามไปกับเขาในทุกๆอย่าง แต่พอเจอทางเลือกที่ดีกว่า ก็เขี่ยเขาทิ้ง ความรู้สึกหลายปีที่ผ่านมานี้พรางตาเขาเหลือเกิน มีลูกแล้วแท้ๆแต่ยังกล้าทำเรื่องแบบนี้...นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะยอมทิ้งจิดาภาเพื่อเธอเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ได้รู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะช้าไปเสียแล้ว เขายืนอยู่ข้างถนนแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง ระบายความรู้สึกเกลียดชังออกมา เช้าวันรุ่งขึ้น เขาไปรอจิดาภาที่สนามบิน แต่ก็ไม่เจอเธอ เขามีคำพูดมากมายที่อยากจะคุยกับเธอ ในเมื่อไม่สามารถคุยต่อหน้าเธอได้ คงจะทำได้เพียงโทรหาเธอเช่นนี้ “คุณจิดาภา คุณไม่ได้มาสนามบินหรอกหรือ?” จิดาภาซึ่งนั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวกับจิรภาสเรียบร้อยแล้วนั้น เอ่ยถามเขากลับ “คุณมีธุระอะไรหรือคะ?” ประโยคสั้นๆเอ่ยถามเขากลับไป คำพูดเย็นชานั้นแสดงถึงความห่างเหินเป็นอย่างมาก “จิดาภา ผมรู้แล้วว่าผมผิด ผมจะไม่ทำร้ายคุณอีก ผมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ ขอร้องล่ะ คุณกลับมาอยู่ข้างๆผมเหมือนเดิมได้ไหม?” “มันสายไปแล้วค่ะ ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว” เธอปฏิเสธอย่างไม่ลังเล “ถ้าอย่างนั้น คุณอย่าไปจากsj เลยนะ ผมจะรับปากคุณทุกอย่างในสิ่งที่คุณต้องการ” เขาอยากจะชดเชยในสิ่งที่เคยทำไปกับเธอ จิดาภาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่กลับวางสายไปเลยทันที แม้ว่าที่ชเยศโทรมาหาเธอครั้งนี้จะดูกะทันหันไปเสียหน่อย แต่เธอไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะนั่นเธอรู้ว่าเขาจะต้องรู้เรื่องที่ชนิศานอกใจเขาแล้วอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นเขาคงจะไม่ดูเหมือนกับทุกอย่างได้พังทลายลงแล้วเช่นนั้น เขาก็คงรับรู้ถึงรสชาติของการถูกหักหลังแล้ว เธอฟังออก ว่าเขาเองก็เสียใจมากเช่นกัน จิรภาสไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรเธอออกไป และเพียงชั่วขณะเดียว เขาก็ปิดเอกสารในมือลง แล้วเอ่ยถามเธอ “เครื่องจะออกได้หรือยังครับ คุณผู้หญิง” “ได้เลยสิคะ ฉันเตรียมตัวพร้อมแล้ว” เธอเอ่ยบอกกับเขา แล้วกดปิดโทรศัพท์มือถือ แล้วเอียงศีรษะพิงกับไหล่ของเขา ระหว่างพวกเขานั้นความเข้าใจและความเชื่อใจซึ่งกันและกันไม่จำเป็นต้องหาคำพูดใดๆมาผูกมัดกันเลย จิรภาสสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เขาเอื้อมมือมาโอบไหล่เธอไว้ แล้วจุมพิตเบาๆที่หน้าผากของเธอ “หากมีเรื่องอะไร ผมสามารถประกาศเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราได้ทันทีเลยนะ” เขาจะเป็นร่มที่คอยปกป้องเธอ “หากฉันเดาไม่ผิด คุณชเยศคงรู้เรื่องที่ชนิศาหักหลังเขาเข้าแล้ว ได้ยินเสียงที่คุยกับเขาเมื่อครู่ ฉันรู้สึกว่าการแก้แค้นพวกเขาไม่ควรจะมามีบทบาทต่ออารมณ์ของฉัน ที่ฉันพยายามมาทั้งหมดนี้ ฉันต้องการที่จะเติบโตขึ้น เพราะฉันอยากจะกลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิม...เพียงแค่นั้น ฉันจะได้ยืนอยู่ข้างๆคุณได้อย่างภูมิใจ” จิรภาสโอบกอดเธอด้วยรอยยิ้ม “การที่ผมได้แต่งงานกับคุณ นั่นก็เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สุดในชีวิตของผมแล้ว” ไม่นานบริษัทKBก็ประกาศเรื่องการเซ็นสัญญากับศิลปินหญิงคนใหม่ และจัดให้เธออยู่ในแผนสำคัญนี้ จะดันจนเธอประสบความสำเร็จ ข่าวทั้งหมดทั้งมวลนี้ศิลปินคนที่กล่าวถึงนั่นก็คือชนิศานั่นเอง คนภายนอกมองว่า เนื่องจากKBดึงตัวจิดาภาไปไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงคิดเปลี่ยนเป้าหมาย เพียงแต่นักแสดงที่เป็นเหมือนเพียงแจกันธรรมดาๆที่ไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นอะไรกลับได้โอกาสเช่นนี้อย่างนั้นหรือ? นอกจากพวกกรรมการแล้ว ยังมีคนอื่นที่ตาบอดอีกหรืออย่างไรกัน ทั้งๆที่ชนิศาไม่สมควรได้รับโอกาสนั้นเลย และชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วยเช่นกันนั้น ต่างก็มองว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวเนื่องทั้งสิ้น หากจากความสามารถของชนิศาแล้วนั้น จะดันอย่างไร ดูเหมือนจะเป็นการเสียเงินไปเปล่าๆโดยไม่ได้อะไรกลับมาเป็นแน่ คงจะต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่เสียมากกว่า หลังจากนั้นก็มีบทความต่างๆมากมายที่หยิบยกประเด็นการเปรียบเทียบระหว่างชนิศากับจิดาภามาวิพากษ์วิจารณ์กัน บ้างว่าชนิศานั้นเป็นได้กลายเป็นนักแสดงดัง ส่วนทางด้านจิดาภาก็อาศัยแค่เพียงแค่การไปเช่าชุดสวยๆแต่งตัวเพื่อดึงดูดสายตาของคนรอบๆข้างเพียงเท่านั้น