ตอนที่ 104 พี่นัฎถูกจับตัวไป

ต๭นที่ 104 พี่นัฎถูกจับตัวไป ในโอเลนั้น ทั้งจงกลและคมสรนับว่าเป็นผู้จัดการที่มีความสามารถด้วยกันทั้งคู่ แต่ในทุกๆสองปีการเซ็นสัญญา star planนี้จะหมายถึงช่วงเวลาหลังจากนี้พวกเขาจะสามารถปั้นศิลปินใหม่ๆออกมาได้เป็นแบบไหน ใครมีอำนาจการตัดสินใจ คนนั้นก็จะได้เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในโอเล “ศิลปินของผมยังไม่เก่งขนาดนั้นหรอกครับ ตอนนี้ผมเองก็ไม่ได้สนใจที่จะปั้นศิลปินใหม่ด้วย ถ้าคุณอยากเหนื่อยก็เชิญตามสบายเลยนะ” คมสรเดินขึ้นรถไปโดยไม่หันกลับมามองเธออีกเลย จิดาภามีความสามารถที่ทำให้จงกลเสียเปรียบได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งเขาเองก็ไม่คาดคิดจริงๆ หากครั้งหน้า เธอจะยังได้ชัยชนะอย่างสวยงามเช่นนี้อีกหรือเปล่า? จะไม่พูดไม่ได้ ว่าเขาเองก็เริ่มจะรู้สึกแปลกใจ ว่าเบื้องหลังของเธอมีทีมงานแบบไหนกันที่คอยวางแผนให้เธอแบบนี้ ทั้งหมดนี้คงจะไม่มีใครคาดคิด ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของจิดาภานี้คือผู้อำนวยการบริษัทเค.เอฟอย่างจิรภาสนั่นเอง "คุณจิรภาสครับ ทุกอย่างราบรื่นดีครับ" ตฤณรายงานสถานการณ์กับเขา จิรภาสเลิกคิ้วขึ้น "ในวงการโอเลถือว่าเรทติ้งดีอยู่แล้ว แม้ว่าจะหันทิศทางการโจมตีไปยังจงกล แต่จากนิสัยของญาณินีแล้ว คงจะไม่มีผลอะไรกับเธอเท่าไหร่" "ใช่ครับ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ตอนนี้ การสัมภาษณ์star plan รุ่นที่3 มีแนวโน้มอาจจะเป็นคุณจงกลเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หากถึงตอนนั้น อาจจะค่อนข้างเสี่ยงกับคุณจิดาภานะครับ" จิรภาสหัวเราะออกมาอย่างมีลับลมคมใน "เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลหรอก คุณจิดาภาดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว เรื่องที่เธออยากจะทำให้ได้ เธอก็จะต้องทำให้ได้ ผมเชื่อในความสามารถของเธอ หากแม้แต่จงกลด่านนี้ยังผ่านไปไม่ได้ แล้วทางข้างหน้าต่อไปจะผ่านไปได้อย่างไรกัน" star planได้ดำเนินมาเป็นเวลา4ปี 2รุ่นแล้ว ในแต่ละรุ่นจะเซ็นสัญญาคนใหม่3คน หลังจากเซ็นสัญญาแล้วหนึ่งปีจะฝึกฝนในทุกๆด้าน ในปีที่สองของสัญญาจะต้องมีโอกาสได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างผลงานภาพยนตร์ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร ทางโอเลก็ไม่เคยที่จะปิดกั้นโอกาสเหล่านี้ให้กับคนใหม่ๆอยู่แล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ญาณินีนำพาโอเลให้มาถึงทุกวันนี้ เธอไม่เหมือนกันบริษัทอื่นๆ เธอจะให้ความสำคัญกับศักยภาพของศิลปิน หากไม่ใช่จงกลเป็นผู้รับผิดชอบ จิรภาสมั่นใจว่าจิดาภาจะฝ่าวงล้อมนี้ไปได้ แต่ตอนนี้ ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เขารู้ว่าภรรยาของเข้าชอบเรื่องท้าทาย เรื่องที่ได้ชัยชนะมาง่ายๆ เธอจะไม่ค่อยให้ความสนใจนัก "อาหารมื้อค่ำจองแล้วใช่ไหม?" "เรียบร้อยแล้วครับ" เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น หลังจากที่เขาพยักหน้าเป็นการรับรู้ให้กับตฤณแล้ว จึงกดรับสาย "ถึงแล้วหรือครับ?" เสียงของจิดาภาดูหอบๆ "คุณจิรภาส ทำอย่างไรดีคะ พี่นัฎเกิดเรื่องแล้ว!" "คุณใจเย็นๆนะ ค่อยๆพูด" เขาหยิบกุญแจรถเดินลงตึกไปพลาง พูดปลอบใจเธอไปพลาง "ฉันออกไปหาพี่นัฎข้างนอกแล้ว แต่ไม่เจอเลย โทรศัพท์มือถือของพี่นัฎก็ไม่มีคนรับสาย แล้วต้นน้ำก็ส่งรูปมาหาฉันค่ะ เป็นพี่นัฎจริงๆ!" คิ้วของจิรภาสขมวดเข้าหากัน เสียงกดต่ำลง เขาฟังเสียงอันสั่นเทาของเธอออก พี่นัฎอยู่กับเธอมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ พี่นัฎไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานของเธอ แต่เป็นยิ่งกว่านั้นคือเป็นทั้งเพื่อนและครอบครัว เธอจะให้ความสำคัญเรื่องความรู้สึกนั้นเป็นที่สุด ตอนนี้เธอคงจะกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก “คุณจิดาภา คุณฟังผมนะ ตอนนี้ผมกำลังจะไปหาคุณ” “คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น” “ต้นน้ำเป็นคนที่มีหน้าที่การงาน เขาไม่กล้าทำร้ายหรือทำเรื่องอะไรที่ผิดกฎหมายหรอก เขาคงอยากจะขู่คุณเท่านั้น เพราะฉะนั้น ตอนนี้พี่นัฎจะต้องปลอดภัยแน่ๆ คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมจะไปถึงเดี๋ยวนี้แหล่ะ” ดวงตาที่แสนเยือกเย็นนั่น รีบสั่งให้ตฤณติดตามตำแหน่งที่อยู่ของต้นน้ำทันที หลังจากนั้นจึงรีบขับรถไปหาจิดาภา จะต้องมีคนใช้วิธีโกงแน่ๆ เมื่อเขาเข้ามา ก็เห็นจิดาภาที่เดินวนไปมาอย่างร้อนใจ เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้ “คุณตั้งสติหน่อยนะ ผมให้ตฤณไปหาแล้ว ทางต้นน้ำนั่นมีส่งข่าวอะไรมาอีกไหม?” “เขาบอกให้ฉันไปเซ็นสัญญากับทางบริษัทKBที่โรงแรมรชตค่ะ แล้วยังให้ฉันยอมรับเรื่องที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่สะอาดนั่นกับตัณฑุลด้วย” จิดาภาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ต้นน้ำที่เมื่อสักครู่เพิ่งจะส่งข้อความมาหาเธอ “เมื่อก่อนKBก็มีข่าวอื้อฉาวเรื่องที่บีบบังคับทำให้ศิลปินต้องฆ่าตัวตาย ทางด้านคุณธรรศรองผู้อำนวยการของKBเองก็มีความสัมพันธ์หลายด้าน ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง เขาจะช่วยทางKBจัดการเรื่องพวกนี้ได้ ไม่นึกเลยว่าต้นน้ำจะเกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย” “คุณคะ เขาจะต้องแค้นเรื่องที่เราเปลี่ยนเนื้อหาข่าวแน่ๆเลยค่ะ ถึงจับตัวพี่นัฎไปแบบนั้น...เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ดีเองค่ะ...ฉันจะไปหาพวกเขา! ไม่ว่าจะเงื่อนไขอะไร ฉันจะรับปากพวกเขาทุกอย่าง ฉันจะให้เกิดอะไรขึ้นกับพี่นัฎไม่ได้” จิดาภาสูญเสียการควบคุมไปเสียแล้ว ในหัวของเธอคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้ตัวพี่นัฎกลับคืนมา เธอคุ้นเคยดีกับความสกปรกของวงการนี้ เธอกลัวว่าหากเธอช้าไปเพียงนิดเดียว ถึงจะเสียใจอย่างไรก็คงจะไม่ทันแล้ว “จิดาภา” จิรภาสไม่ได้เคลื่อนไหว แต่กลับดึงเธอเข้ามา จับไหล่ของเธอไว้แล้วเอ่ยพูดกับเธออย่างจริงจัง “ผมจะไปกับคุณด้วย” “คุณจิรภาส...” และในเวลานี้เองที่จิดาภาค่อยๆสงบลง “คุณเสียการควบคุมไปแบบนี้ ไปที่นั่นแล้วจะเป็นอย่างไร? คุณธรรศทำร้ายศิลปินมาไม่น้อย ผมปล่อยให้คุณเข้าไปในปากเสือแบบนั้นไม่ได้ เราไปรับพี่นัฎด้วยกันนะ” หลังจากนั้นยี่สิบนาที จิรภาสและจิดาภาเดินเข้าไปยังด้านในห้องรับรองวีไอพี คนของKBมากันไม่น้อย ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนสนิทของคุณธรรศ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นรองผู้อำนวยการของKB แต่ยังคงสามารถเข้าออกสถานที่ใต้ดินเช่นนั้นได้ ก่อนหน้านี้KBอยากจะเซ็นสัญญากับจิดาภา แต่ก็ถูกปฏิเสธไปนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อตอนที่ต้นน้ำไปหา คุณธรรศก็ยอมรับในข้อเสนอนั้น เขาไม่เชื่อว่าจิดาภาจะสามารถปฏิเสธได้อีก หลังจากส่งคนไปจับตัวพี่นัฎไว้แล้วนั้น เขาจึงตั้งหน้าตั้งตารอให้จิดาภามาหาเขา แต่นึกไม่ถึงเลยว่า จิรภาสจะมากับเธอด้วย! ต้นน้ำที่เห็นมือของจิรภาสโอบไหล่ของจิดาภาไว้ตลอดเช่นนั้นแล้ว ดวงตาเบิกโตด้วยความตกใจอย่างชัดเจน ใครจะบอกเขาได้บ้างว่าทำไม ประธานบริษัทเค.เอฟ ถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ในตอนนี้กัน! หรือจิดาภาจะเป็นคนเชิญเขามาอย่างนั้นหรือ จริงๆแล้วสถานะของเธอคืออะไรกันแน่? คนที่ประหลาดใจไม่ได้มีเพียงแต่เขาคนเดียว ทางด้านคุณธรรศเองก็เคยเจอกับจิรภาสมาบ้าง แต่ไม่เคยได้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเขาเสียที ไม่นึกเลยว่าการพบกันเป็นการส่วนตัวในครั้งแรกนี้จะได้พบกันผ่านทางจิดาภาเช่นนี้! “คุณจิรภาส เซอร์ไพรส์จริงๆเลยนะครับ เดิมทีผมอยากจะเชิญคุณจิดาภามาร่วมทานอาหารมื้อเย็นด้วยเสียหน่อย แต่ทั้งคุณทั้งสองคนมาด้วยกันนี่เอง ถือว่าเป็นความโชคดีของผมจริงๆ” คุณธรรศยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจนั้นกำลังคิดแผนการอยู่ “เชิญนั่งครับ! จัดอาหารมาได้เลยนะ!” เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องของพี่นัฎเลยแม้แต่นิดเดียว จิดาภากำหมัดแน่น รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที จิรภาสดึงมือเธอไว้เบาๆ แล้วเอ่ยพูดกับคุณธรรศ “พอดีว่าผมจะผ่านมาพอดีน่ะครับ เลยแวะมาส่งคุณจิดาภา ผู้ช่วยของเธอ คุณธรรศก็เชิญมาทานข้าวด้วยกันใช่ไหมครับ?” “อา...ใช่ครับ ใช่!” คุณธรรศโบกมือ แล้วพี่นัฎก็ปรากฏตัวออกมาจากห้องข้างๆ ต้นน้ำก้มหน้าลง ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงอะไรออกมา จิรภาสมาถึงที่ขนาดนี้แล้ว เขาจะกล้าไม่ไว้หน้าปล่อยคนออกมาได้อย่างไรกัน รอพวกเขาไปก่อน เขาคงจะถูกคุณธรรศถลกหนังหน้าออกมาแน่ๆ จิดาภาไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เพียงแค่เห็นพี่นัฎปลอดภัย เธอก็รู้สึกโล่งใจแล้ว ร่างกายเธอเองจึงไม่ได้ตึงเครียดแล้ว “ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้นครับ ผมแค่อยากจะเชิญพวกเขามาทานข้าวด้วยกัน ในเมื่อตอนนี้เองคุณจิดาภาก็ไม่ได้เป็นศิลปินในสังกัดของsjแล้ว ผมเลยอยากลองคุยกับเธอดู เผื่อจะโชคดีมีโอกาสได้เซ็นสัญญาร่วมกัน”