ตอนที่ 109 ก่อนวันถ่ายทำ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 109 ก่อนวันถ่ายทำ
ต๭นที่ 109 ก่อนวันถ่ายทำ “ฉันเข้าใจ แบบนี้เธอก็คงไม่อยากจะเซ็นสัญญากับจิดาภาแล้ว” มีเพียงเรื่องนี้ ที่พวกเขามีความคิดเห็นตรงกัน แต่พวกเขาคงจะคิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จิดาภาได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินของโอเลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งญาณินีเป็นคนเซ็นเองเสียด้วย ญาณินีเข้าใจในข้อได้เปรียบนี้ของเธอ และจะมุ่งเน้นฝึกฝนเธออีกด้วย และเข้าใจสิ่งที่จิดาภาต้องการกับการทุ่มเทในเส้นทางนี้ของเธอคืออะไร เนื่องจากว่าความต้องการนี้ของญาณินี จิดาภาไม่ได้ปล่อยข่าวนี้ออกไปให้คนอื่นรู้ บวกกับที่เธอมักจะชอบทำอะไรเงียบๆ ผู้คนจึงรู้สึกแปลกใจกับเส้นทางในอนาคตของเธอ ในขณะเดียวกัน บริษัทsuperก็ประกาศเรื่องการเซ็นสัญญากับsherryอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน โดยทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้เผยแพร่รูปถ่ายออกมา ช่วงหน้าผากของเธอนั้นดูคล้ายกับจิดาภาเป็นอย่างมาก โดยขณะที่ร่วมกิจกรรมอยู่นั้น พิธีกรยังพูดติดตลกว่าเธอเป็นจิดาภาอีกด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนไปดักหน้ารถของประธานบริษัทอย่างธาวิน ถึงจะมีโอกาสเช่นวันนี้ แต่นั่นพิสูจน์ให้เห็นได้จริงๆว่า แม้ว่าเธออายุยังน้อย แต่เธอมีความเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก ถึงอย่างไรสามารถออกมาแสดงความสามารถได้ในsuperนี้ ก็ถือว่าไม่ง่ายเลย และเนื่องจากการเปิดตัวของเธอที่ส่องแสงเจิดจ้าเช่นนี้ นั่นยิ่งทำให้ภายนอกรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปเสียอีก ว่าจิดาภาจะเลือกบริษัทไหนกันแน่ “เหมือนเธอจริงๆนะ เหมือนยิ่งกว่าเจอกันครั้งที่แล้วเสียอีก อาจจะเป็นเพราะการแต่งหน้าที่เลียนแบบเธอด้วย นี่ถ้าเป็นในที่แสงไฟสลัวๆ จะต้องทักผิดคนแน่ๆ” จิดาภาที่กำลังอ่านบทละครอยู่ในมือถึงกับชะงัก แม้แต่พี่นัฎยังพูดแบบนี้แล้ว แสดงว่าต้องเหมือนมากจริงๆ และถ้าsherryถูกพวกปาปารัซซี่ถ่ายรูปอะไรไว้ แล้วเข้าใจผิดว่าเป็นเธอล่ะ... “อยากจะรีบป่าวประกาศเรื่องที่เธอเซ็นสัญญากับทางโอเลแล้วจริงๆ จะได้สะบัดจิดาภาคนนี้ออกไปเสียที แล้วจะได้เป็นการยั่วโมโหพวกที่คอยขัดขวางเธอไม่ให้เข้าโอเลด้วย” จิดาภายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “จะต้องมีวันนั้นแน่ๆค่ะ” พอดีกับหน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดบทสัมภาษณ์ท่อนหนึ่งของsherry เธอนั่งอยู่ด้านหน้าของพิธีกร ด้วยรอยยิ้มที่สดใสร่าเริง หน้าผากที่ดูอ่อนเยาว์ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เช่นนั้น “ตอนนี้มีหลายคนพูดถึงคุณว่าคุณกำลังเลียนแบบคุณจิดาภา อย่างนี้แล้วต่อไปเส้นทางการแสดงของคุณจะเป็นแนวเดียวกับคุณจิดาภาไหมคะ?” ศิลปินที่อยู่ข้างๆส่ายหน้า ไม่อยากจะให้เธอพูดผิดออกมาเกรงว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวายขึ้น Sherry ยิ้ม“ฉันจะเลือกเส้นทางและบทละครที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ และฉันก็เชื่อว่าบริษัทก็คิดแบบนี้เช่นกัน ส่วนเรื่องที่ฉันเลียนแบบคุณจิดาภา ฉันจะไปเลียนแบบศิลปินที่ไม่มีแม้แต่สังกัดเป็นของตัวเองแบบนั้นได้อย่างไรกันคะ?” “อะไรนะ!” พี่นัฎรู้สึกโมโหจนแทบจะกลืนกินไข่ได้ทั้งฟอง “ยัยเด็กคนนี้นี่ยังไงกัน? ตอนนั้นที่เจอที่sj ท่าทางที่มีต่อเธอไม่ใช่แบบนี้เลย” ตอนนั้นsherryถูกชเยศฝึกฝน ในวันวันนึงดูแต่ละครของจิดาภาเป็นสิบๆรอบ หรือแม้กระทั่งเมนูที่สั่งเวลากินข้าวยังเลียนแบบจิดาภาด้วยเลย ตอนนี้กลับมาพูดจาปลิ้นปล้อนเช่นนี้หรือ! “ช่างเถอะค่ะ เธอตั้งใจพูดมาแบบนี้ คงคิดจะให้พวกเราทำให้เธอดังขึ้นเท่านั้นเอง” “อายุยังน้อยแต่กลับมีความคิดแผนการลึกขนาดนี้ แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไรกัน?” พี่นัฎส่ายหน้า แล้วดึงจิดาภาไว้ “พี่กังวลว่าต่อไปเด็กคนนี้จะคอยแต่หาเรื่องวุ่นวายให้พวกเราน่ะสิ” “ตั้งแต่ตอนที่เธอเข้ามาที่sj นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วล่ะคะว่าคนนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด เรื่องบางเรื่อง เราอาจจะป้องกันอะไรไม่ได้” จิดาภายิ้มบางๆ ในวงการนี้ เรื่องแบบนี้คงเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และเรื่องที่เธอได้เซ็นสัญญากับทางโอเลนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องจริง ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรแล้ว คืนนั้น เมื่อจิรภาสกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นจิดาภากำลังง่วนอยู่ในครัว เขาเดินไปหาเธอด้วยความเอ็นดู แล้วถอดผ้ากันเปื้อนที่เธอใส่อยู่ “เดี๋ยวผมทำเอง” เขาไม่ได้ถามเธอว่าทำไมถึงไม่ให้คนรับใช้ทำ แต่กลับอยากซึมซับช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่คนสองคนแบบนี้ จิดาภาเดินมาโอบกอดเอวเขาจากทางด้านหลัง “คุณญาณินีติดต่อฉันมาแล้วค่ะ พรุ่งนี้ไปร่วมการถ่ายทำโฆษณางานสาธารณประโยชน์ และทางคุณจงกลก็จะพาอีกสองคนที่เซ็นสัญญาstar plan นั้นมาเข้าร่วมด้วยค่ะ” “เพราะฉันนั้นพรุ่งนี้คุณจะยุ่งทั้งวันเลยสินะ?” เขาตักกับข้าวไปพลาง แล้วเอ่ยถามเธอด้วยความห่วงใยไปพลาง จิดาภาตอบกลับไปอย่างอ่อนโยน “วันนี้ฉันก็เลยอยากจะทานมื้อเย็นกับคุณเพียงลำพังไงล่ะคะ” ตั้งแต่ที่แต่งงานกันมาจนถึงตอนนี้ พวกเขาจะเว้นระยะให้กันไว้เสมอ บรรยากาศที่ให้ความสบายใจเช่นนี้ยิ่งทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น “ถ้าอย่างนั้นมื้อนี้คุณต้องทานเยอะๆนะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปสู้ต่อ” จิรภาสยิ้มแล้วขยี้หัวเธอเบาๆ แล้วพากันเดินเข้าไปยังห้องรับประทานอาหาร ....... โฆษณาสาธารณประโยชน์ในครั้งนี้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จิดาภามาถึงที่ถ่ายทำตรงเวลา แล้วเดินเข้าไปยังห้องพักผ่อนพร้อมๆกับพี่นัฎ นอกจากศิลปินสองคนจากstar planของโอเลแล้วนั้น ยังมีศิลปินอีกเจ็ดคนที่เข้าร่วมงานนี้ด้วย ในที่นี้ คุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอถือว่ามีไม่มาก ภูมิหลังก็ไม่ถือว่าดีอะไรนัก ดูแล้ว ช่างธรรมดามาก แม้ตอนนี้เธอจะยังไม่เปิดเผยเรื่องที่เธอเซ็นสัญญากับทางสังกัดของเธอแล้วก็ตาม จากความสามารถของเธอ แล้ว ยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับศิลปินสิบคนนี้เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นตอนที่ผู้กำกับเห็นเธอแล้วจึงดูลังเล จิดาภาเข้าใจความรู้สึกถูกมองด้วยความสงสัยเช่นนี้ดี เธอคุ้นเคยกับมันไปเสียแล้ว “ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการถ่ายทำโฆษณาสาธารณประโยชน์ ผมหวังว่าพวกคุณจะแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา เนื้อหาในการถ่ายทำนั้นมีมาก ควรจะเทคเดียวผ่านเลยดีที่สุด” ถ้าไม่เป็นเพราะญาณินีขอให้จิดาภาเข้าร่วมด้วยนั้น ผู้กำกับจะไม่ให้เธอเข้ามาร่วมงานครั้งนี้อย่างแน่นอน “จิดาภาของเรามีความเป็นมืออาชีพมาก คุณวางใจได้ค่ะ” พี่นัฎกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก็ดี” ผู้กำกับมองไปยังจิดาภา แล้วเดินออกไป จิดาภาไม่ได้อธิบายอะไร เพียงมองไปยังฉากในสถานที่ถ่ายทำ แล้วพิจารณาการถ่ายทำอยู่สักพักหนึ่ง ส่วนทางด้านศิลปินคนอื่นๆต่างก็เริ่มทยอยกันมาถึงสถานที่ถ่ายทำ เมื่อเห็นจิดาภาก็ต่างพากันแปลกใจ หรือแม้กระทั่งมีคนซุบซิบนินทากัน ว่าไม่อยากจะร่วมฉากกับเธอเสียด้วยซ้ำ “นี่มันอะไรกัน? โฆษณาสาธารณประโยชน์ไม่ใช่หรือ? ศิลปินที่มีข่าวลือมากมายขนาดนั้นมีคุณสมบัติมาถ่ายได้อย่างไรกัน?” “ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ฉันไม่มาหรอก ขายหน้าเสียจริงๆ” “คงมีคนอยู่เบื้องหลังนั่นแหล่ะ เลยอยากจะใช้โอกาสนี้ล้างตัวเองให้ดูสะอาด นี่พวกเราเป็นตัวเสริมให้เธอดูโดดเด่นขึ้นมาโดยเปล่าประโยชน์เลยสินะ!” พี่นัฎรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที คนพวกนี้เกินไปแล้วจริงๆ จิดาภาจึงดึงเธอไว้เสียก่อน “นี่เป็นงานแรกที่คุณญาณินีจัดให้ฉัน จะพังไม่ได้นะคะ เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยคเอง พวกเขาไม่รู้ความจริงหรอกค่ะ” พี่นัฎส่งเสียงอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “คนพวกนี้ช่างน่ารำคาญจริงๆ” และในขณะนั้นเอง ที่จงกลพาศิลปินอีกสองคนมาสมทบ เมื่อเธอเห็นจิดาภาแล้วเธอดูตกใจเป็นอย่างมาก ตามความเข้าใจของเธอแล้ว ตอนนี้จิดาภายังไม่มีสังกัด ทำไมถึงมาเข้าร่วมถ่ายทำครั้งนี้ได้กัน? จิดาภายิ้ม แล้วละสายตาออกไป ทำให้เป็นการยั่วยุจงกลเป็นอย่างมาก หลังจากที่เธอพาทั้งสองคนนั้นไปแนะนำฝากฝังกับผู้กำกับแล้ว ก็ให้พวกเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่หนึ่งในศิลปินใหม่นี้มีความชื่นชอบจิดาภาเป็นอย่างมาก เธออยากจะเดินไปพูดคุยกับจิดาภาสักสองสามประโยค แต่จงกลดึงสีหน้าตึงแล้วตะโกนออกไป “เธอเป็นศิลปินของโอเล แต่ไปพูดคุยกับนักแสดงไร้สังกัดแบบนั้น ไม่ขายหน้าคนอื่นเขาหรืออย่างไรกัน!” เสียงของเธอนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่ถ่ายทำหันมามองพร้อมกันเป็นตาเดียว “มีละครให้ดูอีกแล้ว!” “นั่นคือคุณจงกลแห่งโอเลรึเปล่าน่ะ? ฉันเคยได้ยินชื่อของเธอ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไม่เบานะ จิดาภาคงจะได้อับอายกันล่ะทีนี้”
已经是最新一章了
加载中