ตอนที่ 115 ผิดนัด

ต๭นที่ 115 ผิดนัด คำวิจารณ์จากภายนอกในปีนั้น ตัดสินชีวิตของคนๆหนึ่ง จริงๆแล้วค่อนข้างจะเป็นการตัดสินอย่างรีบร้อนไปเสียหน่อย แต่ความสามารถของผู้จัดการส่วนตัวของศิลปินจะมากหรือน้อยนั้นก็ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางข้างหน้าของศิลปินด้วยกันทั้งนั้น หากช่วงที่ยังไม่ได้ให้จิดาภามาเซ็นสัญญากับเค.เอฟ เพื่อปกป้องเธอด้วยตัวของเขาเองเช่นนี้นั้น เขายังจะต้องนึกถึงคนรอบๆข้างของจิดาภาด้วย เรื่องของภพธรทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกแคร์ เขากอดจิดาภาไว้ เกยคางไว้ที่ต้นคอของเธอ แล้วสูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของเธอพลางเอ่ยออกมา “ผมไม่อยากให้เส้นทางของคุณมีอุปสรรคใดอีก หากเป็นเช่นนั้นก็เหมือนกับว่าผมนั้นไร้ความสามารถเกินไปแล้ว” “คุณวางใจได้เลยค่ะ ฉันเป็นของคุณแล้ว เป็นของคุณทั้งหมด ฉันจะดูแลและปกป้องตัวเองเพื่อคุณค่ะ ฉันสัญญา” เขาพลิกตัวเธอหันกลับมา แล้วบรรจงจูบลงที่ริมฝีปากของเธอ ใช้จูบของเขาเก็บคำพูดหวานๆของเธอเอาไว้ เพียงแค่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ต่อให้เป็นพายุคลื่นลมแรงแค่ไหนพวกเขาก็จะสามารถเอาชนะได้ เพียงแค่จับมืออีกฝ่ายไว้ ต่อให้เป็นวันสุดท้ายของโลกใบนี้ พวกเขาก็พร้อมเผชิญหน้าได้อย่างไม่หวั่นกลัว .......... และเมื่อภพธรกลับถึงบ้านแล้วนั้น เขาก็ดูรูปถ่ายเก่าๆอย่างเหม่อลอย เขาดื่มเหล้าตลอดทั้งคืนจนเมาเละ เรื่องของจิดาภาและโฆษณาของsnowนั้นถูกเขาลืมไปหมดแล้ว และนี่ก็ทำให้เรื่องการคุยโฆษณาของจิดาภาโดนเทไป จึงต่อสายตรงไปถึงญาณินี ถึงความบริสุทธิ์ใจของโอเลนั้นอยู่ตรงไหน? รองผู้อำนวยการของพวกเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องนี้ ญาณินีจึงเพียงทำให้อีกฝ่ายนั้นสงบลงก่อนแล้วจึงอธิบายทุกอย่างให้ฟัง แต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะวางสายเธอไป แล้วยังบอกว่าจะใช้กฎหมายมาแก้ปัญหานี้อีกด้วย จากนั้น ก็ไม่รู้ว่าเสียงลือต่างๆแพร่ออกมาจากทางไหน คนจากsuperเองก็เกาะติดข่าวนี้ไปปล่อย ยังประกาศออกมาด้วยว่าในเมื่อจิดาภาเล่นตัวไม่รับงานBrand ambassadorครั้งนี้แล้ว จะให้sherryที่มีฉายาว่าเป็นจิดาภาเวอร์ชั่นเด็กไปลองช่วงชิงงานนี้ดู อีกทั้งจะใช้วิธีในการตีความที่ทั้งวัยรุ่นและทันสมัย จะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เปล่งประกายในตลาดเครื่องประดับในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน และมีสื่อต่างๆรายงานเรื่องการเล่นตัวไม่ยอมร่วมงานกับคนใหม่ คุณสมบัติแย่คำพูดที่สกปรกต่างๆนานาราวกับเป็นน้ำเน่าที่สาดใส่จิดาภา ข่าวไม่ดีในทางลบแพร่กันในอินเตอร์เน็ตมากมาย กับเรื่องครั้งที่แล้วที่จิดาภาได้ไปถ่ายโฆษณาสาธารณประโยชน์ในครั้งนั้นเสียจนหมด ความคิดเห็นต่างๆก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ในเว่ยป๋อของเธอกันมากมาย คนของsuperเพื่อจะดันsherry กล้าเล่นวิธีสกปรกเช่นนี้ พวกสื่อเหล่านั้นคงจะต้องรับเงินจากsuperอย่างแน่นอน เขียนข่าวมั่วๆขึ้นมาเปลี่ยนทิศทางลม มิเช่นนั้นทางผู้จัดทำโฆษณาที่บอกว่าจะแก้ไขเรื่องนี้โดยใช้ทางกฎหมายเข้ามาช่วยคงจะไม่รั่วออกไปข้างนอกเช่นนี้ ตอนนี้เรื่องดำเนินมาจนยากเสียจะควบคุมเช่นนี้แล้ว ญาณินีโทรออกหาภพธรด้วยความรู้สึกที่โมโห "คุณก่อเรื่องวุ่นวายนี้พอหรือยัง? ตอนนี้จิดาภาต้องออกมารับหน้ากับสถานการณ์นี้อย่างยากลำบาก เพียงเพราะคุณไม่สนใจอะไรเลย สิ่งที่ลงทุนไปเสียเปล่าหมดแล้ว" "คุณหลบซ่อนอยู่ข้างนอกมาห้าปี ก็ยังคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับงานของคุณได้เลยหรือ? หรือว่าทั้งชีวิตนี้ของคุณจะไม่สามารถคบหากับศิลปินผู้หญิงได้อีกแล้วหรือคะ?" "ฉันรอให้คุณตื่นขึ้นมาได้ แต่จิดาภาเธอไม่ได้มีความผิดอะไร คุณจะต้องยุติเรื่องนี้ มิเช่นนั้น ฉันจะไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเราอีก" เมื่อได้ยินคำพูดที่โมโหเช่นนั้นของญาณินีแล้ว ภพธรรู้สึกสร่างเมาขึ้นมาทันที เขาวางโทรศัพท์มือถือลง แล้วรีบเปิดคอมพิวเตอร์ดู สถานการณ์ที่เขาทำให้มันเกิดขึ้น เขาจะต้องยุติมันอย่างแน่นอน หลังจากที่ได้เห็นเรื่องราวต่างๆแล้ว หน้าจอของภพธรเลื่อนมาหยุดตรงที่รูปถ่ายของsherryและจิดาภา สื่อนั้นได้นำรูปด้านข้างของทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกัน ภาษาคำพูดที่ใช้นั้นเลวร้ายเหลือเกิน กล่าวว่าsherryทั้งดูกระปรี้กระเปร่าและอายุยังน้อยกว่า ส่วนจิดาภานั้นล้าสมัยไปเสียแล้ว ภพธรยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น บนโลกนี้คนที่เหมือนๆกันก็มีอยู่มาก ผ่านการแต่งหน้าและเทคนิคการปรับแต่งเสียหน่อยก็ทำให้ยิ่งเหมือนแล้ว แต่แววตาและคุณสมบัติเฉพาะตัวไม่สามารถเลียนแบบกันได้ ของปลอมอย่างไรก็เป็นของปลอมอยู่วันยังค่ำ หลังจากที่เขาสูบบุหรี่สองมวนอยู่ในห้องแล้ว จึงตัดสินใจ กดโทรออกหาจิดาภา "คุณจิดาภา สวัสดีครับ ผมภพธร เรื่องเมื่อวาน...." "ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่ยอมรับเรื่องที่จะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ฉัน คุณวางใจได้ค่ะ ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรื่องนี้ ขอให้คุณอธิบายเรื่องนี้ให้กับคุณญาณินีให้ชัดเจน ฉันเองก็หวังว่าเธอจะจัดผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่มาให้ฉัน ส่วนเรื่องBrand ambassador ของsnow ฉันจะไปคุยกับพวกเขาใหม่ โดยใช้วิธีของฉันเอง โดยที่คุณจะได้ไม่ต้องเข้ามาแทรก" พูดจบ จิดาภาก็ไม่เปิดโอกาสให้ภพธรได้อธิบายอะไรเลย เธอตัดสายเขาไปในทันที แท้จริงแล้ว นี่เป็นคนที่ญาณินีถูกใจ มีความพิเศษมากเสียจริงๆ ภพธรครุ่นคิด เปิดหน้าต่างออก แล้วออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ ดูแล้วต่อไปนี้เขาคงจะยุ่งๆอยู่สักระยะหนึ่งเสียแล้ว จิดาภารู้สึกแคร์และสนใจกับเรื่องBrand ambassador ของsnowจริงๆ หนึ่งเป็นเพราะนี่เป็นงาน Brand ambassadorงานแรกหลังจากญาณินีเซ็นสัญญากับเธอ และสองเป็นเพราะครอบครัวของจิดาภาเป็นครอบครัวแห่งวงการเครื่องประดับ เคยร่วมงานกับsnowหลายครั้งแล้ว เธอไม่อยากให้เป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับเธอมาส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเธอ อีกอย่างก็คือsherry ที่มักจะชอบแสดงอำนาจข่มว่าตนเองเหนือกว่า อ้างอิงถึงชื่อของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็ยังสามารถทนได้ แต่เธอมองออก ครั้งนี้มันเกินไปแล้วเสียจริงๆ รวมทั้งที่เห็นsherryร้องไห้ต่อหน้ากล้องเช่นนั้น ความอดทนของเธอไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว Superเพียงแค่ให้คำแนะนำในคำวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อ ไม่กี่วันก็จะถูกข่าวใหม่ๆกลบให้ลบเลือนไป แต่sherryเป็นคนที่มีคำพูดโน้มน้าวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขอเพียงแค่เธออยู่ในวงการนี้ ก็สามารถจะเลียนแบบคำพูดเหล่านี้ได้ จิดาภาไม่อยากให้อาชีพของเธอต่อไปจากนี้มีสิ่งขัดหูขัดตาเธอเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทางด้านออฟฟิศประธานบริษัทเค.เอฟนั้นก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเรื่องนี้ในแทบจะทันที หลังจากที่ตฤณส่งข้อมูลไปยังออฟฟิศของจิรภาสแล้วนั้น จึงยืนอยู่ข้างๆอย่างรอรับคำสั่ง เรื่องที่เกี่ยวกับจิดาภา จิรภาสไม่เคยไม่ใส่ใจ “มาถึงขั้นนี้แล้วหรือ?” จิรภาสมองดูหลายๆสื่อที่ถูกsuperซื้อตัวไป และยังมีหัวข้อร่างข่าวเหล่านั้นอีก เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น “แบนไปให้หมด” คำพูดของเขาแค่เพียงประโยคเดียว ก็จะทำให้สื่อเหล่านี้ครึ่งปีหลังผลงานคงจะตกลงฉับพลัน หุ้นก็จะตกลงด้วยเช่นกัน และน่าจะประมาณปีหน้าก็คงจะหายไปจากวงการนี้โดยสิ้นเชิง นี่เป็นผลที่มาแตะต้องภรรยาของเขา “แล้วsuper.....” ตฤณเอ่ยถาม “superเป็นเพียงแค่ตัวกลาง ตัวสำคัญจริงๆนั่นอยู่ที่sherryต่างหาก” จิรภาสเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ แววตาสะท้อนถึงความเยือกเย็น จุดนี้เอง ที่เขากับจิดาภามองเห็นตรงกัน ถึงเค.เอฟจะออกตัวเป็นศัตรูกับทางsuper ก็ไม่มีผลกระทบอะไรอยู่ดี “ผมต้องการข้อมูลเบื้องหลังของsherryทั้งหมด คนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาแบบนี้ คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีร่องรอยอะไรทิ้งไว้เลย จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ทางsuperปกปิด แต่ก็ปิดไม่อยู่” “ได้ครับ คุณจิรภาส” “แล้วเรื่องข่าวนี้ ผมไม่อยากเห็นมันอีก” จิรภาสเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ” หลังจากที่ตฤณเอ่ยจบแล้วนั้น ก็เดินออกมาจากออฟฟิศของจิรภาส เขาไม่กล้าอยู่ในออฟฟิศนั้นนานกว่านี้ เนื่องจากอารมณ์ของจิรภาสในตอนนี้ช่างน่ากลัวเสียจนน่าตกใจเหลือเกิน เขารู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก Sherryอยากจะดัง นั่นไม่ใช่เป็นหา แต่เธอไม่ควรมาสวมรอยชื่อของจิดาภาเช่นนี้ และยังทำให้จิดาภาเสียชื่อเสียงอีก รวมทั้งแผนการในครั้งนี้ จิรภาสคงไม่ให้เธอได้อยู่ในวงการนี้ต่อไปอีกอย่างแน่นอน --โปรดติดตามตอนต่อไป 06/11/2019--