ตอนที่ 141 คนที่หนุนหลังเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 141 คนที่หนุนหลังเธอ
ต๭นที่ 141 คนที่หนุนหลังเธอ จิรภาถามเช่นนี้ รองผู้กำกับจึงลนลานเสียจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา ก้มหน้าก้มตาตลอด ไม่กล้ามองพวกเขาเลยแม้แต่น้อย "พูดออกมาสิ เมื่อครู่ยังเก่งอยู่เลยไม่ใช่หรือครับ? หรือว่า คุณเห็นว่าผมกับคุณจิดาภาเป็นเพื่อนกัน เลยไม่กล้าทำอย่างเมื่อสักครู่ต่อแล้ว?" "คุณ...จิรภาส เป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ ผมอธิบายได้! ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณกับคุณจิดาภาจะเป็นเพื่อนกัน" รองผู้กำกับอธิบายออกมาอย่างติดๆขัดๆ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการให้อภัยจากจิรภาส "เข้าใจผิด?ทีมงานของพวกคุณปฏิบัติกับนักแสดงแบบนี้หรือครับ? เธอหนาวจนจะแข็งแบบนี้แล้ว ยังบอกให้เธอต่อบทอีกอย่างนั้นหรือ?นี่พวกคุณกำลังถ่ายทำละครกันอยู่จริงๆหรือกำลังเล่นนอกบทเพื่อกลั่นแกล้งเธอกันแน่?" น้ำเสียงของจิรภาสเย็นชามาก ทั้งยังแสดงออกถึงความโกรธที่ไม่สามารถมีใครต้านทานได้ "ผม...ขอโทษครับ คุณจิรภาส ผม..." รองผู้กำกับเหงื่อออกเต็มไปหมด เมื่อเผชิญกับการตั้งคำถามของจิรภาส เขาไม่สามารถพูดโต้ตอบอะไรกลับไปได้เลย "ผมคิดว่าคุณจิดาภาได้ทำทุกอย่างในสิ่งที่นักแสดงคนหนึ่งทำไปแล้ว แต่พวกคุณ.....แบบนี้เรียกว่ามืออาชีพได้หรือ?" สีหน้าของเขาเย็นชายิ่งขึ้น "นี่ไม่ใช่เพียงแค่คำขอโทษแล้วจะแก้ไขปัญหาได้!" "คุณจิรภาสครับ...." "นอกเสียจากว่าคุณสามารถพิสูจน์ให้ผมเห็นได้ว่าคุณสามารถใส่เสื้อผ้าหน้าร้อนแบบนี้ถ่ายซีนท่ามกลางสายฝนในอากาศแบบนี้ได้" เขาลากเก้าอี้นั่งมาสองตัว แล้วนั่งลงพร้อมกันกับจิดาภา เพื่อรอดูรองผู้กำกับแสดงให้ดู ทีมงานที่อยู่รอบๆนั้นต่างก็พากันก้มหน้าก้มตา เนื่องจากเมื่อครู่นี้พวกเขาก็อยู่ดูการแสดงนั้นด้วย และตอนนี้จิรภาสแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการแก้แค้นแทนจิดาภา รองผู้กำกับยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน "คุณจิรภาสครับ อากาศหนาวเกินไป แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ใช่นักแสดงด้วย" "นักแสดงแล้วยังไง?นักแสดงผู้หญิงอย่างเธอยังฟังที่พวกคุณบอกแล้วแสดงออกมาได้เลย คุณเป็นผู้ชายนะ แค่นี้ก็รู้สึกหนาวแล้วหรือ?" คำพูดของจิรภาสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกโมโหที่เก็บกดไว้ เขาพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ของเขาแล้ว แต่วันนี้เขาคงจะไม่ออกโรงเพื่อจิดาภาไม่ได้เช่นกัน รองผู้กำกับก้มหน้า ฝ่ายนั้นเป็นถึงประธานบริษัทเค.เอฟ. เขาไม่กล้าที่จะยั่วโมโหจิรภาส และหลังจากนี้เขาจึงจำเป็นต้องทำตามที่จิรภาสต้องการ มิเช่นนั้นเขาคงจะต้องสูญเสียงานนี้ไป ทีมงานมองดูรองผู้กำกับที่ถอดเสื้อออก สวมใส่เพียงกางเกงบอกเซอร์เพียงตัวเดียวยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว ราวกับถูกแช่แข็งจนตัวสั่น "พูดบทด้วยสิ" จิรภาสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นๆออกมา "ผม..."รองผู้กำกับที่แม้แต่แรงจะพูดออกมายังแทบจะไม่มี ริมฝีปากแข็งเสียจนกลายเป็นสีม่วง ยืนอยู่หน้าผู้คนโดยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จิรภาสไม่ได้มองไปที่เขา แต่กลับหันมาพูดกับทีมงานคนอื่นๆในกองถ่าย "เสื้อผ้าของคุณจิดาภาเปียกชื้นไปด้วยน้ำแบบนี้ ใครเป็นคนทำ?" ทีมงานต่างพากันตกใจไม่น้อย โดยเฉพาะทีมงานที่รับผิดชอบเรื่องเสื้อผ้า และสุดท้ายก็ชี้ไปที่ช่างแต่งหน้า เป็นผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง เธอเบิกตาโตแล้วเอ่ยพูดด้วยความตื่นตระหนก "ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ...." จิรภาสไม่ต้องการจะฟังเธออธิบาย เขาเอ่ยออกมาในทันที "เอาน้ำที่พวกคุณเตรียมมาถ่ายฉากฝนตกมาราดใส่เธอให้หมด ถ้าราดไม่หมด ใครก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น" พวกเขาทำกับจิดาภาเช่นนี้ จะปล่อยไปได้อย่างไร! เขาทนไม่ได้ที่จิดาภาต้องออกหน้ารับเองแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องวุ่นวายมาถึงเช่นนี้ เขาเจ็บปวดเหลือเกิน ทางทีมงานต่างก็พากันตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเห็นจิรภาสยังคงยืนยันเช่นนั้น ก็รู้ว่าคงจะหลบเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน จึงทำได้เพียงนำน้ำที่พวกเขาเตรียมเข้าฉากนั้นมาสาดใส่ช่างแต่งหน้าคนนั้น "พวกเราไม่มีทางเลือกแล้ว......" "ทนหน่อยนะ...." ช่างแต่งหน้ากลั้นน้ำตา แล้วนั่งยองๆอยู่ที่พื้น ทางด้านหนึ่ง รองผู้กำกับแทบจะรับไม่ไหวกับสภาพในตอนนี้แล้ว ผู้ชายอย่างเขาใช้มือถูกร่างกายของตัวเองไปมาไม่หยุด เพื่อจะทำให้ร่างกายตัวเองรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง ท่าทางเช่นนั้นช่างน่าขบขันยิ่งนัก ต่างจากท่าทางหยิ่งยโสที่มีต่อจิดาภาก่อนหน้านี้ราวกับคนละคน จิรภาสจึงตัดสินใจยุติแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ระดับมาตรฐานของทีมงานพวกคุณเป็นแบบนี้ ต่อไปผมจะดูว่าใครจะมากล้าร่วมงานกับพวกคุณกัน!” “เรื่องที่ผมช่วยคุณจิดาภาวันนี้ พวกคุณพิจารณากันเอาเองแล้วกันว่าควรจะพูดออกไปหรือเปล่า....” เมื่อทิ้งท้ายไว้เช่นนั้น เขาก็พาจิดาภาออกมาจากที่นั่น และในขณะที่กำลังจะหันกลับออกไปนั้น จิรภาสจึงมองไปยังคนเหล่านั้นอีกครั้ง โดยเฉพาะรองผู้กำกับ เขาตกใจรีบก้มหัวลงให้ จิรภาสจึงผละสายตาออกไปจากเขา ภพธรและพี่นัฎจึงรีบตามออกไปด้วย ทางทีมงานยืนล้อมรอบรองผู้กำกับไว้ แล้วเอ่ยถามเขา “ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” “ฉันรองผู้กำกับเหมือนโดนแช่แข็งจนทนไม่ไหวแล้ว...” แต่เขากลับทำได้เพียงกลืนความทรมานนี้ลงไปเท่านั้น เขาไม่คิดเลยว่าจิรภาสจะเย็นชาไร้ความรู้สึกยิ่งเสียกว่าที่เขาเคยได้ยินมาเสียอีก ภารดี เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้เป็นแบบนี้! แม้แต่เบื้องหลังของจิดาภาก็ไม่รู้จักตรวจสอบเช็คให้ดีเสียก่อน ให้เขามาแก้แค้นแทน? เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ ........ ระหว่างทางกลับนั้น ภพธรกำลังขับรถ พี่นัฎก็นั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านข้างคนขับ ส่วนจิดาภาและจิรภาสนั่งอยู่ทางด้านหลัง เขาทั้งสองคนเป็นคู่กันจริงๆ.... ใบหน้าของจิรภาสไม่ปรากฏความโมโหอย่างเมื่อครู่แล้ว หลงเหลือไว้แต่เพียงความกังวลและความจำใจอย่างไม่มีทางเลือก เขาดูแลเธออย่างระมัดระวัง กลัวว่าเธอจะหนาวที่เท้า เขาใช้มือโอบกอดเธอไว้ ให้เธอได้รับความอบอุ่น และเมื่อเห็นสีหน้าที่ค่อยๆฟื้นดีขึ้นของเธอ เขาถึงจะวางใจ เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นกลับมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่อย่างมีความหมาย “ฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” จิดาภากลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ จึงเอ่ยบอกกับเขาอย่างจริงจัง จิรภาสไม่ได้พูดอะไรออกมา จิดาภาจึงอ้อนเขาด้วยน้ำเสียงเบาๆของเธอ “ฉันเดินมาจนถึงวันนี้ เรื่องพวกนี้เห็นเสียจนชินแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่ได้ยอมให้พวกเขา แล้วก็ไม่น้อยใจที่ตัวเองต้องมาอดทนอะไรพวกนี้ด้วยค่ะ คุณอย่างกังวลเลยนะ” จิรภาสหันมามองเธอ บรรยากาศนั้นช่างดูน่าอึดอัดเหลือเกิน ภพธรต้องยอมรับว่า จิรภาสเก่งกว่าที่เขาคิดไว้มากเหลือเกิน คุณสมบัติเฉพาะตัวที่ล้อมรอบตัวเขาเช่นนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเขาเป็นพระราชา เขาจะดูโหด เคร่งขรึมกับบุคคลภายนอก แต่อ่อนโยนกับจิดาภาอย่างชัดเจน ขอเพียงเป็นแค่สิ่งที่เขาอยากจะทำ ไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ ผู้ชายเช่นนี้อยู่กับจิดาภาแล้วนั้น ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน “ผมจะติดต่อกับทางผู้กำกับและทางผู้อำนวยการผลิตให้พวกเขาส่งคนอื่นมาถ่ายแทน...”ภพธรเอ่ย “เปลี่ยนตัวรองผู้กำกับและคนถ่ายทำ ส่วนทีมงานคอสตูมและช่างแต่งหน้าใช้ทีมงานของตัวเอง ค่าใช้จ่าย ผมออกเอง” จิรภาสเอ่ยบอกกับภพธร “ผมจำได้ว่าที่โอเลก็มีทีมงานนี้อยู่” “มีครับ เพียงแต่พวกนั้นจะติดตามภารดีและจิรสุดา คนภายในบริษัทเองก็จะรู้กันวว่าเป็นทีมงานเฉพาะของพวกเธอ” พี่นัฎกระพริบตาอยู่ข้างๆ เรื่องภายในโอเล บอสใหญ่ของพวกเธอรู้เรื่องภายในดีขนาดนี้เชียวหรือ เค.เอฟนี่เก่งเสียจริงๆ... “เอาทีมนี้แหล่ะครับ พวกเขากล้าเล่นอุบายลับหลังแบบนี้ ก็จะต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมา” ภพธรฉุกคิด หรือว่าคุณจิรภาสจะรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องบ้าๆวันนี้คือใคร? ที่จิรภาสกล่าวมานั้นไม่มีปัญหาอะไร นั่นก็เพราะจิดาภาเองก็เป็นศิลปินของโอเลอยู่แล้ว เธอมีสิทธิได้รับแหล่งสนับสนุนเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นจะเซ็นสัญญาโอเลทำไมกัน? อีกทั้งช่วงนี้ภารดีและจิรสุดาก็ไม่ได้มีถ่ายทำอะไรด้วย ทีมงานเหล่านั้นตอนนี้ก็อยู่ในสภาพพร้อมสแตนด์บายรอรับคำสั่งอยู่แล้ว สามารถเรียกใช้งานได้อย่างแน่นอน จิดาภามองใบหน้าเย็นชาเล็กน้อยของเขา แล้วก้มหน้าลง เธอรู้สึกว่าครั้งนี้จิรภาสโกรธเธอจริงๆ เป็นเพราะเธอไม่คำนึงถึงสุขภาพร่างกายตัวเองยังคงฝืนถ่ายทำเช่นนี้ ทำให้เขาต้องเป็นห่วง ตลอดทาง จิดาภาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เธออยากจะรอให้เธอและเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังเสียก่อนถึงอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง แต่เมื่อกลับถึงโรงแรม จิรภาสก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกทันที บอกเพียงแค่ว่าจะต้องไปคุยเรื่องงานข้างนอก 
已经是最新一章了
加载中