ตอนที่143 ท่านประธานต้องการสั่งซื้อแหวน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่143 ท่านประธานต้องการสั่งซื้อแหวน
ต๭นที่143 ท่านประธานต้องการสั่งซื้อแหวน จิรภาสไม่ได้ต้องการรีบเอาคำตอบ ขณะที่ภพธรกำลังตัดสินใจนั้น เขาเองก็รู้สึกลังเลใจ โอเลยังคงเป็นโอเลที่เขาคุ้นเคยเหมือนเดิมหรือเปล่า? "เกี่ยวกับความคิดของคุณญาณินี คุณจิดาภาเธอรู้หรือเปล่าครับ?" ภพธรเอ่ยถาม "คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?" จิรภาสส่งรอยยิ้มที่แฝงความหมายไปให้เขา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ภพธรมองตามเบื้องหลังของเขาไป เขากำลังครุ่นคิด เป็นเขามาโดยตลอดที่คอยแต่ค้นหาความคิดของจิดาภา ตอนนี้เขาเพิ่งจะพบว่า จิดาภานั้นคือคนที่เข้าใจทุกอย่างดีที่สุด จากเรื่องนี้นั้น ภพธรอยากจะให้เธอได้กลายเป็นศิลปินดังระดับนานาชาติได้จริงๆ ความสามารถของเธอนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งตรงนั้นอย่างมาก ส่วนญาณินีจะใช้ประโยชน์จากจิดาภาหรือเปล่านั้น ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดพิจารณาจะดีกว่า แต่เรื่องการถ่ายทำในครั้งนี้ที่จะต้องใช้ทีมช่างแต่งหน้าของโอเล ทำให้ภารดียังคงไม่หยุดถามญาณินี “คุณญาณินี ฉันจะมีคิวงานแล้ว จิดาภายังไม่ยอมคืนทีมงานให้ฉันอีกหรือคะ?” “เรื่องนี้ ฉันโทรไปตามแล้วล่ะ ทางนั้นกำลังถ่ายทำกันอยู่ หากถ้าพวกเขาถ่ายทำกันเสร็จ ก็จะส่งตัวทีมงานมาคืนคุณทันที ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณแน่นอน” ญาณินีพยายามทำให้ภารดีสงบลง “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ทำได้เพียงแค่รอสินะ...” ภารดีหัวเราะ แล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินออกไปจากออฟฟิศของญาณินี เรื่องของรองผู้กำกับคนนั้นเธอได้ยินมาแล้ว แต่วันนั้นที่ถ่ายทำในกองถ่ายผู้ชายคนที่มาปรากฏตัวนั้นเป็นใครกันแน่ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง แม้แต่ตัวรองผู้กำกับเองก็ยังปกปิดแล้วให้มันผ่านไปเช่นนี้ ดังนั้นจิดาภาจึงขอเปลี่ยนตัวทีมงาน แต่...เธอถ่ายทำแล้วอย่างไรกัน? หลังจากตัดต่อแล้วจะยังเหลือซักกี่ซีนกันเชียว? หลังจากสิ้นสุดการถ่ายทำบทนักแสดงรับเชิญแล้วนั้น จิดาภาจึงกลับไปทันที ระหว่างทางภพธรดูตารางานต่อไปของเธออย่างเหม่อลอย “เป็นอะไรไปคะ?” พี่นัฎเอ่ยถาม “WMแบรนด์เครื่องประดับชื่อดังระดับนานาชาติต้องการเชิญให้จิดาภาไปถ่ายทำโฆษณา เป็นBrand ambassadorในชุดแหวนแต่งงานของพวกเขาน่ะครับ” ภพธรอธิบายอย่างเรียบง่าย “ถ้าอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ!ฉันเคยได้ยินแบรนด์นี้ มีความดึงดูดได้ไม่เลวเลยนะ” พี่นัฎยิ้มออกมาแล้วมองไปยังจิดาภา “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” จิดาภารู้ว่าภพธรเป็นคนรอบคอบ ที่เขาดูกังวลเช่นนี้คงจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน “จิดาภาจะเป็นแค่Brand ambassadorในชุดแหวนแต่งงานในครั้งนี้ของพวกเขาเพียงเท่านั้น แต่ในเดือนหน้าภารดีจะกลายเป็นBrand ambassadorทั่วโลกของพวกเขา นั่นก็คือ...ภารดีจะใช้วิธีนี้มาโอ้อวดกับพวกเรา” เธอต้องการจะใช้วิธีนี้พิสูจน์ว่า จิดาภานั้นได้ตกรุ่นไปแล้ว อย่างมากก็เพียงแค่ถ่ายโฆษณาเล็กๆ ไม่สามารถขึ้นมาอยู่บนเวทีระดับนานาชาติได้ ภพธรถอนหายใจออกมา ทำสัญลักษณ์ไว้ในบันทึกของเขา “ไม่อย่างนั้นพวกเราอย่ารับงานนี้ดีกว่า”..... “ไม่ค่ะ ฉันจะรับ” จิดาภาแย้งขึ้น แต่เช่นนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการให้แสดงให้เห็นว่า แรงดึงดูดของจิดาภานั้นเทียบกับภารดีไม่ได้ ภพธรอยากจะหยุดระงับเรื่องนี้ไว้ แต่เมื่อนึกได้ว่าจิรภาสอยู่เบื้องหลังจิดาภาเช่นนี้ แล้วยังจะต้องกังวลอะไรอีก ไม่มีอะไรที่เค.เอฟทำไม่ได้หรอก! แล้วยิ่งบวกกับจิรภาสที่ทั้งรักและปกป้องเธอดีขนาดนี้ ก็แค่เพียงโฆษณาหนึ่งเท่านั้นเอง... จิดาภาไม่ได้พิจารณาไปถึงขั้นนั้น เธอเพียงแต่ชอบยี่ห้อนี้มากเท่านั้นเอง ...... หลังจากผ่านเรื่องฐานภาพยนตร์และโทรทัศน์ในครั้งนี้แล้ว จิรภาสเองก็คอยจับตามองความเป็นไปของทางจิดาภาอย่างใกล้ชิด และเมื่อหลังจากที่รู้เรื่องที่เธอจะไปถ่ายโฆษณาของWM เขาก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา “หาทางติดต่อกับผู้รับผิดชอบของWM ผมอยากเจอพวกเขา” จิรภาสบอกกับเลขาของเขา “คุณจิรภาสจะสั่งจองแหวนหรือครับ?” ตฤณเดาออกมาด้วยความกล้า ในเมื่อแหวนแต่งงานของแบรนด์ WITHMEนี้เป็นแบรนด์ดังระดับนานาชาติ เพราะแม้แต่ราชวงศ์อังกฤษยังใช้แบรนด์ของพวกเขาเป็นแหวนแต่งงาน ซึ่งในประวัติศาสตร์ของแบรนด์เครื่องประดับ แบรนด์นี้ถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัด และมีประวัติอันแสนยาวนาน โดยเฉพาะรุ่นที่สั่งทำเฉพาะของพวกเขานั้น กล่าวได้ว่าเป็นเพียงหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้ “คุณสงสัย?” จิรภาสแสดงออกถึงแววตาที่ดูอันตราย “ไม่ใช่ครับ คุณจิรภาส ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ” ตฤณไม่กล้าพูดอะไรต่อ แล้วรีบไปจัดการเรื่องของตัวเองทันที แต่ความจริงแล้ว แม้ว่าเขาจะสั่งแหวนคู่ หรือนอกจากว่าเขากับจิดาภาจะเปิดเผยความสัมพันธ์แล้วนั้น จิดาภาก็คงจะไม่ใส่แหวนนั้นตลอดเวลาอยู่แล้ว อีกทางด้านหนึ่ง ภพธรก็พาจิดาภากลับมายังโอเล มาคุยกับญาณินีเรื่องBrand ambassadorโฆษณาครั้งนี้ หลังจากที่พวกเขาเดินเข้ามายังด้านในของประตูทางเข้าบริษัทแล้วนั้น ก็พบกับสายตาแปลกๆของพนักงานในบริษัทที่มองมายังพวกเขา จิดาภาเดินผ่านไปอย่างใจเย็น โดยไม่ได้สนใจอะไร ภายในออฟฟิศ ญาณินีที่กำลังถือแก้วกาแฟอยู่นั้นส่งยิ้มมาให้เธอ “คุณจิดาภา ที่คุณรู้สึกน้อยใจว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉันได้เจรจากับทางนั้น ขอให้พวกเขาหยุดพฤติกรรมเช่นนั้นแล้วนะคะ” “ขอบคุณนะคะคุณญาณินี” “ฉันไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อเรื่องที่คุณจะต้องไปถ่ายทำโฆษณาของWMโฆษณาครั้งนี้เรื่องราวเป็นเกี่ยวกับความรักเป็นหลักนะคะ นักแสดงนำชายคัดเลือกคุณรเมศมาเล่นบทนี้ ฉันรู้สึกว่าน่าจะมีผลดีต่อคุณมาก และคุณต้องเต็มที่กับโอกาสในครั้งนี้” จิดาภามองดูสักพัก โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทางด้านภพธรนั้นหลังจากที่ได้ยินชื่อนี้แล้ว เขากลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย “คุณรเมศเมื่อเดือนที่แล้วมีข่าวลือกับนางแบบสาวสามคนในเวลาเดียวกัน และเมื่อต้นเดือนนี้ยังถูกปาปารัซซี่ถ่ายรูปเขาเข้าโรงแรมกับนักแสดงหญิงด้วย ดูชื่อเสียงของเขาที่ได้มานี่จะมาจากข่าวลือที่มีกับบรรดาผู้หญิงทั้งนั้นเลยนะครับ?” “นี่ก็นับว่าหนึ่งในจุดเด่นของเขา ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีนะ!” ญาณินียิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “แต่คุณจิดาภา...” ภพธรเอ่ยพูดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็กลืนสิ่งที่อยากจะพูดต่อลงไป เรื่องบางเรื่องพูดชัดเจนเกินไปก็คงจะไม่ส่งผลดีเท่าไหร่นัก ญาณินีเองรู้ทั้งรู้ว่าจิดาภามีคนรักอยู่แล้ว ก็ยังจะให้เธอไปมีข่าวลืออื้อฉาว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจะทำให้จิดาภาต้องลำบากใจ นี่โอเลต้องใช้วิธีพวกนี้เพื่อดันศิลปินให้ดังแล้วหรือ? “ไม่ต้องแต่อะไรแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเส้นทางในวางการนี้ของจิดาภา ฉันส่งคงติดต่อกับคุณรเมศเรียบร้อยแล้ว คืนนี้สองทุ่มเจอกันที่โรงแรมหยกขาว” จิดาภามองเรื่องนี้อย่างเงียบๆ ราวกับว่าไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ดูเหมือนว่าเธอจะต้องอดทน แต่ภพธรรู้ว่าเธอคงจะไม่มีทางยอมรับกับเรื่องการสร้างกระแสอย่างแน่นอน หากถ้าเธอยอมสร้างกระแสเช่นนั้น เธอก็คงไม่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้อย่างเช่นวันนี้แล้ว และก็คงไม่ได้มาเห็นแพลตฟอร์มอย่างโอเลเช่นกัน “คุณญาณินีคะ ฉันชอบที่จะพิสูจน์ตัวเองด้วยทักษะการแสดงของตัวเองมากกว่าค่ะ” “จิดาภา แบบนั้นมันช้าเกินไป ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนมีความสามารถ แต่บางครั้งวิธีพวกนี้ก็เพื่อจะช่วยทำให้สิ่งที่สวยงามอยู่แล้วสวยงามยิ่งขึ้นไปอีกนะ คุณเพียงแค่ออกงานพบปะผู้คนบ้าง ที่เหลือให้พวกเราเป็นคนจัดการ!”คำพูดของญาณินีทำให้รู้สึกเหมือนกับไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แววตาของจิดาภานั้นฉายแววมืดมิดลง เธอรู้ความหมายของญาณินี “ในเมื่อคุณเป็นศิลปินของโอเลแล้ว แน่นอนว่าฉันต้องปูทางที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดไว้ให้คุณ ถ้าหากใช้วิธีนี้แล้วทำให้ได้รับความนิยม ทำไมไม่ใช้มันล่ะคะ?” ญาณินีใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมเธอ แต่จิดาภาไม่ยอมรับในคำพูดของเธอ เธออาจจะโกรธจนไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่นิดเดียวก็เป็นได้ ภพธรจึงแทรกเข้ามาระหว่างการสนทนากันระหว่างเธอทั้งสองคน “คุณญาณินี ผมรู้ว่าคุณอยากจะดันจิดาภา แต่สิ่งที่จิดาภาต้องการไม่ใช่ใช้วิธีนี้เพื่อมาแลกกับแหล่งสนับสนุนหรือความนิยมเหล่านั้น อีกอย่างผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย?” ญาณินีได้ยินเช่นนั้นแล้ว สีหน้าของเธอนั้นยิ่งดูซับซ้อนยิ่งนัก ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ภพธรรู้จักคิดแทนจิดาภาเช่นนี้ 
已经是最新一章了
加载中