ตอนที่145 Kiss of true love

ต๭นที่145 Kiss of true love สองทุ่มคืนนั้น ภพธรมาถึงโรงแรมหยกขาวตามเวลานัด เขามาถึงก่อนเวลา และขณะที่รอรเมศพาผู้จัดการส่วนตัวของเขาเข้ามาด้านในนั้น กลับพบว่าเขามาคนเดียว รเมศเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่โด่งดังที่สุดในช่วงสองปีมานี้ เขาโด่งดังจากการถ่ายทำโฆษณาและละครหลายๆเรื่อง อาศัยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เป็นที่นิยมและได้รับเรทติ้งจากละครอย่างท่วมท้น ญาณินีจะใช้ชื่อของเขาเพื่อสร้างกระแส ก็นับว่ามีเหตุผล เพียงแต่ เธอเลือกผิดคนไปเสียแล้ว “คุณจิดาภาล่ะครับ?” ผู้จัดการส่วนตัวของรเมศเอ่ยถาม ภพธรไม่ได้ตอบคำถามเขาไปตรงๆ เพียงแต่หยิบแก้วเหล้าขึ้น “ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ เนื่องจากคุณจิดาภาติดถ่ายละครเสียจนไม่สบายน่ะครับ ตอนนี้ยังนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล ไม่สามารถมาที่นี่ได้ ทั้งยังกำชับให้ผมมาขอโทษพวกคุณด้วยครับ” ผู้จัดการส่วนตัวของเขาดึงหน้าตึงขึ้นมาในทันที “เหตุผลอะไรกัน? เห็นคุณรเมศของพวกเราเป็นอะไร?” “พวกคุณเข้าใจผิดแล้วครับ จริงๆแล้วคุณจิดาภาอยากจะมาพบพวกคุณจริงๆ เธอรอคอยการร่วมมือครั้งนี้มาโดยตลอด ละครของคุณเธอเองก็ดูมาหมดแล้ว ยังบอกอีกด้วยว่าคุณคือพระเอกที่ดังมากๆ ที่เธออยากจะร่วมงานด้วย” ภพธรอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เธอคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ?” รเมศที่ยังคงดูมีความเป็นเด็กวัยรุ่น เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาจึงดูผ่อนคลายมากขึ้น “แน่นอนสิครับ!” รเมศสังเกตท่าทางของภพธร แล้วจึงเอ่ยพูดกับเขา “อย่างนั้นก็ดีครับ ผมแค่อยากจะมาเจอเธอก่อนที่จะได้ทำงานร่วมกัน เพื่อจะได้ทำความเข้าใจอีกฝ่ายเสียก่อน ในเมื่อเธอไม่สบาย ผมฝากทักทายเธอกลับด้วยนะครับ พวกผมไปล่ะ” หลังจากที่รเมศพูดจบแล้วนั้น เขาก็ใส่แว่นกันแดดแล้วเดินออกไป เมื่อภพธรเห็นว่าประตูปิดลงไปแล้ว รอยยิ้มเย็นชาจึงปรากฏออกมา จากข้อมูลที่เขารวบรวมมาแล้วนั้น รเมศไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายเท่าไหร่ เรื่องนี้เป็นเพียงแค่การรับหน้าเพื่อให้ผ่านไปเพียงเท่านั้น “รเมศ เธอเชื่อจริงๆหรือว่าเธอไม่สบาย?” ผู้จัดการที่เดินตามเขามาเอ่ยถามขึ้น “หึ ข้ออ้างแบบนี้ ใครจะไปเชื่อกัน?”รเมศหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างอวดดี “เธอตั้งใจจะเทผม ส่งคนมาเล่นละครตบตา ว่าเธอไม่สบาย รอตอนถ่ายทำก่อนแล้วกัน ผมจะไม่สบายให้เธอดูบ้าง...” “ดูว่าถึงตอนนั้นแล้วเธอจะทำอย่างไร!” “ขาดนักแสดงนำชายที่สำคัญอย่างผมไปคนนึง ดูว่าเธอจะถ่ายทำต่อไปได้อย่างไรกัน” “แต่ผู้กำกับที่รับผิดชอบการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้รับมือไม่ได้ง่ายๆนะ”ผู้จัดการส่วนตัวของเขาค่อนข้างกังวล เขาเข้าใจนิสัยของรเมศดี เพราะหากกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาล่ะก็ คงจะไม่ส่งผลดีกับใครทั้งนั้น “ก็หาโรงพยาบาลซักที่ออกหลักฐานมา แล้วบอกว่าผมไม่สบายก็แค่นั้น เรื่องแค่นี้ทำไม่ได้หรือ?”รเมศมองไปยังผู้จัดการส่วนตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าวงการมาได้ไม่นาน แต่ความเป็นที่นิยมของเขานั้นสูงมาก ยังไม่เคยมีใครที่ไม่เคยมองข้ามความสำคัญของเขา นักแสดงหญิงหน้าเก่าอย่างนี้แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว” ผู้จัดการส่วนตัวของเขาจดจำคำที่เขาพูด แล้วเดินตามหลังเขาไป ที่รเมศดูอวดดีและหลงระเริงเช่นนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่วันสองวันเท่านั้น เพราะบิดาของเขาลงทุนกับทางบริษัทไปกว่าร้อยล้าน เพื่อให้เขาได้เข้าวงการ และมักจะลงทุนกับภาพยนตร์และละครบ่อยๆอีกด้วย ซึ่งทำให้เป็นที่รู้กันดีในวงการนี้ จึงไม่มีใครทำอะไรให้เขาลำบาก หรือแม้แต่รเมศจะทำผิดสัญญาจริงๆนั้น ก็เพียงแค่จ่ายค่าชดเชยให้ก็สามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย สำหรับเขาแล้วนั้น เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น แต่จิดาภา...ทุกๆโอกาสที่เธอได้มานั้น ก็ไม่ได้ได้มาง่ายๆ คืนนี้ มีแสงสว่างจากโคมที่ประดับไฟสวยงาม ภพธรขับรถมาตามที่อยู่ที่จิดาภาให้เขาไว้ มาถึงยังหน้าประตูคฤหาสน์ แม้ว่าเขาจะเคยจินตนาการไว้ว่าคฤหาสน์ของจิรภาสจะต้องหรูหราใหญ่โตมากแน่ๆ แต่พอได้มาเห็นจริงๆแล้วนั้น ถึงกับตกตะลึงกับสภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า จิดาภาที่สวมใส่ชุดสบายๆเดินลงมาจากชั้นสอง “จัดการแล้วหรือคะ? พวกเขาไม่ได้ทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม?” “พวกเขาได้ยินสาเหตุที่ผมบอกไปก็แยกตัวกลับไปเลย แต่ผมรู้สึกว่าไม่น่าจะจบง่ายๆแบบนี้นะ ตำแหน่งที่อยู่ในวงการอย่างรเมศ มีแนวโน้มว่าเขาจะต้องตอบโต้อะไรกลับมาแน่ๆ” “บวกกับทางคุณญาณินีทางนั้นอีก เราคงต้องระวังกันให้มากขึ้น” เมื่อเขาลดเสียงลงจึงเห็นจิรภาสที่เดินมาจากทางด้านหลังของจิดาภา เขาไม่ได้แทรกบทสนทนาของพวกเขา แต่เขาเปรียบเสมือนเทพที่คอยปกป้องเธออยู่ในทุกๆที่ “คุณคิดให้ฉันขนาดนี้ มิน่าล่ะคุณญาณินีถึงได้ดูร้อนใจนัก” จิดาภายิ้ม ในตอนนั้นที่ภพธรไม่ได้ตอบคำถามของจิรภาส ราวกับว่าตอนนี้เขาได้รับคำตอบนั้นแล้ว “ผมเพียงแค่ทำในสิ่งที่ผมควรทำ หากเป็นคนอื่น ผมก็คงจะทำเช่นนี้” ภพธรตอบอย่างจริงจัง “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไม่บังคับฝืนใจคุณเหมือนกับคุณญาณินีหรอกค่ะ” และนี่ก็คือทัศนคติของจิดาภาที่เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ภพธรบังเอิญมองเข้าไปเห็นจิรภาสที่อยู่ในห้องครัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ “เวลาเขาอยู่บ้าน เขาเป็นคนทำอาหารหรือครับ?” เขารู้สึกตกใจมากจริงๆ “บางครั้งฉันก็เป็นคนทำค่ะ” รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏบนใบหน้าของเธอ “แต่ฉันทำไม่อร่อยเท่าเขาหรอกนะ” เมื่อเห็นผู้ชายเมื่ออยู่ที่บ้านแล้วแสดงความรักกับภรรยาเช่นนี้แล้วนั้น ทำให้เขาจะต้องปรับเปลี่ยนการมองจิรภาสใหม่เสียแล้ว “ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนพวกคุณแล้วดีกว่า ผมกลับก่อนนะ” เขาไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอของพวกเขาหรอก “บางเรื่องปกติแล้วฉันจะไม่ทำหรอกค่ะ แต่ถ้าฉันจะทำ ฉันก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ครั้งนี้ฉันเข้าใจความคิดของคุณญาณินีนะคะ แต่ถ้าหากยังมีครั้งต่อไปอีก ฉันคงจะไม่นั่งอยู่เฉยๆแน่ คุณเองก็รู้ ว่าฉันเป็นคนผูกพยาบาทขนาดไหน” ถึงแม้จะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน จิดาภาเองก็จะไม่ยอมหยุดให้ง่ายๆแน่ ถ้าหากญาณินีจะหลอกใช้ประโยชน์จากเธอจริงๆล่ะก็ เธอเองก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นกัน นี่เป็นทัศนคติและรูปแบบในการทำงานของเธอ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ “ครับ ผมเข้าใจ คุณเตรียมตัวถ่ายโฆษณาไว้ได้เลย” ภพธรกล่าวขึ้น แล้วออกไปจากคฤหาสน์ของพวกเขา .......... วันต่อมา จิดาภาเข้าร่วมกับทีมงานถ่ายทำโฆษณาของบริษัทWM สถานที่ในการถ่ายทำได้ถูกกำหนดไว้ที่สวนลาเวนเดอร์ทางชานเมืองตอนใต้ การเดินทางในครั้งนี้นับว่าไม่ไกลนัก ตลอดทางมีการดูแลจากพี่นัฎและภพธร แต่จิรภาสก็ยังคงตามพวกเธอไป หลังจากที่พวกเธอออกเดินทางไปแล้ว สวนลาเวนเดอร์แห่งนี้นั้นมีความกว้างขวางมาก การตกแต่งภายในเป็นสไตล์ยุโรป ทั้งยังมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงหน้าผาอันสูงชัน และที่เล่นกระดานโต้คลื่น เป็นที่ดินส่วนพระองค์ที่นับว่ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เมื่อจิดาภาเข้ามายังกองถ่ายแล้วนั้น เธอก็เริ่มเตรียมงานของตัวเอง เดินเข้าไปยังห้องแต่งหน้าเลยทันที “ผู้กำกับที่เป็นคนรับผิดชอบการถ่ายทำในครั้งนี้ค่อนข้างเข้มงวดในการแสดงมากนะ ความสามารถไม่ธรรมดา ตั้งใจถ่ายนะ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีอีกหนึ่งโอกาส!” “ค่ะ” จิดาภาเองก็เคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง ได้มาร่วมงานกับผู้กำกับที่มีความสามารถ เธอจะต้องแสดงศักยภาพออกมาให้ดี “นี่ก็เหลือแต่รเมศที่ตอนนี้ก็ยังไม่มาเสียที ช่างแต่งหน้ารอเขานานแล้ว” พี่นัฎมองไปยังจิดาภาที่กำลังแต่งหน้าอยู่ แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ “เขาคงจะไม่แก้แค้นพวกเราใช่ไหม?” พี่นัฎรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย “เตรียมตัวไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เรื่องอื่นๆไม่เกี่ยวกับพวกเรา” จิดาภาให้ความร่วมมือกับช่างแต่งหน้าเป็นอย่างดี แล้วกล่าวออกมาอย่างสบายๆ “อือ ใช่แล้ว!” พี่นัฎหยิบกล่องเครื่องประดับออกมาจากด้านข้าง “นี่คือเครื่องประดับที่เธอจะต้องใส่วันนี้นะ” เธอเปิดออกอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นอัญมณีที่อยู่ด้านใน จิดาภามองเพียงแค่แวบเดียว ก็ถูกอัญมณีชุดนี้ดึงดูดเข้าเสียแล้ว เธอรู้สึกว่าเป็นสไตล์ที่เรียบง่ายและแปลกใหม่ เป็นสไตล์แบบที่เธอชอบ เพราะเดิมทีเครื่องประดับที่ห้องของWMเธอก็ชอบมากอยู่แล้วเช่นกัน “เครื่องประดับชุดนี้มีชื่อว่า Kiss of true love เห็นว่าในโลกนี้มีเพียงแค่ชุดเดียว แล้วดูเหมือนว่าจะถูกลูกค้าVIPท่านหนึ่งจองไว้แล้วด้วยครับ” ผู้รับผิดชอบของบริษัทWMเดินเข้ามาเพื่ออธิบายให้เธอฟัง --โปรดติดตามตอนต่อไป 26/11/2019--