ตอนที่ 151 เมื่อคนที่คุ้นเคยกลายเป็นคนแปลกหน้า

ต๭นที่ 151 เมื่อคนที่คุ้นเคยกลายเป็นคนแปลกหน้า เมื่อเทียบกับนักแสดงหญิงหลายๆคน จิดาภามีแนวความคิดที่ทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงมากจริงๆ “ผมเข้าใจแล้วล่ะ ต่อไปผมจะไม่พูดแบบนี้อีก” “คุณจิรภาสเป็นประธานบริษัทเค.เอฟ ทุกสิ่งที่เขาลงมือทำในวงการบันเทิงนี้ล้วนแต่เป็นอาชีพของเขา และก็มีหลายๆคนที่คอยจ้องจับผิดรอให้เขาพลาด ซึ่งฉันก็ไม่อยากเป็นจุดอ่อนของเขา ในเมื่อฉันแต่งงานกับเขาแล้ว ฉันก็จะช่วยเขารักษาสิ่งเหล่านี้ไว้” “คุณภพธร คุณเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน ฉันเชื่อใจคุณค่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ฉันเชื่อว่าความสามารถของพวกเราจะสามารถข้ามผ่านมันไปได้ เพียงแต่ตอนนี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ว่าโอเลที่เป็นต้นสังกัดของฉัน จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?” “คุณวางใจเถอะ ผมเข้าใจคุณ ผมจะรีบไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ แล้วจะรีบให้คำตอบกับคุณโดยเร็วที่สุด” แล้วภพธรก็ส่งสายตาให้พี่นัฎ เพื่อให้เธอกลับไปกับจิดาภาเสียก่อน หากแม้ต้องการการต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ ก็จะต้องสามารถมั่นใจได้ว่าตัวเองจะสามารถพักผ่อนได้เช่นกัน “การถ่ายทำในวันนี้สมบูรณ์แบบมาก ผมว่าพวกคุณกลับไปดูรูปดีกว่านะ อารมณ์จะได้ดีขึ้น” พี่นัฎมาส่งจิดาภาอยู่ตรงด้านล่าง ส่วนมองตามเพื่อส่งเธอขึ้นไปด้านบน บนนิ้วของจิดาภาเธอได้สวมแหวนวงนั้นไว้เป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ของเพียงแค่ได้มองแหวนวงนี้ ก็ราวกับว่าจิรภาสอยู่ข้างๆเธอเสมอ ความรู้สึกเช่นนี้ เป็นความอุ่นใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เธอได้รับรู้ถึงชีวิตของตัวเองได้อย่างเงียบๆ โดยไม่ต้องได้รับผลกระทบจากเสียงจากภายนอก เนื่องจากแฟนคลับของรเมศยังคงโพสต์ข้อความอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจากเรื่องนี้ค่อยๆขยายวงกว้างขึ้น แม้กระทั่งมีเหล่าแฟนคลับที่พากันอออยู่ตรงประตูทางเข้าของบริษัทรเมศ เพื่อจะสอบถามความจริง เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้กับรเมศ ทางอีกด้านหนึ่งWMก็ส่งฝ่ายประชาสัมพันธ์มาคุยกับสังกัดของรเมศเกี่ยวกับเรื่องค่าชดเชยในการทำผิดสัญญา ผู้รับผิดชอบทางWMพูดถึงเรื่องนี้ว่า เนื่องจากรเมศผิดนัด ผู้กำกับเองก็รู้จักคนที่มาแทนจากทางฝั่งจิดาภา ดังนั้นจึงต้องทำการเปลี่ยนตัวนักแสดง ส่วนของสถานะของคนที่มาแสดงแทนนั้น ทางWMแสดงออกมาว่าจะช่วยปิดเรื่องเป็นความลับ และเมื่อรเมศรู้ว่าเป็นคนที่จิดาภาแนะนำนั้น ก็โมโหขึ้นมาทันที แล้วอัปเดตสถานะล่าสุดของเขา “คุณร้ายจริงๆ!” แล้วแนบรูปถ่ายของจิดาภา คาดไม่ถึงว่าจะมีนักแสดงชายคนดังแฉนักแสดงหญิงเช่นนี้? เรื่องนี้นับว่าเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการบันเทิงไปแล้วจริงๆ หลังจากที่ญาณินีทราบข่าวเรื่องนี้แล้วนั้น จึงติดต่อไปยังภพธรในทันที ให้เขารีบกลับมาที่บริษัทแล้วอธิบายสาเหตุอย่างสมเหตุสมผลให้เธอฟัง ภพธรไม่ได้บอกเรื่องนี้กับจิดาภา แต่ให้พี่นัฎเก็บรวบรวมหลักฐานไว้อย่างละเอียด เขามีลางสังหรณ์ ว่าในอนาคตพวกเขาคงจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆแน่ ออฟฟิศของประธานโอเล เมื่อภพธรเดินเข้ามานั้น ก็เห็นญาณินีที่นั่งอยู่ตรงโซฟาด้วยสีหน้าเย็นชาอยู่ก่อนแล้ว บรรยากาศภายในออฟฟิศนั้นช่างน่าอึดอัดเหลือเกิน หรือบางทีนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ญาณินีซักถามเขาในฐานะประธานบริษัท! “เมื่อก่อนไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันก็จะสามารถเข้าใจคุณได้เสมอ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนมีความคิด รู้ผิดถูก แต่ครั้งนี้คุณเป็นอะไรกัน? รเมศจะเล่นตัวอย่างไร มันก็ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ! ทำไมเป็นจิดาภาที่แนะนำคนอื่นให้ไปถ่ายทำแทน? ใครให้สิทธิเธอทำแบบนี้กัน!” “คุณต้องอธิบายให้ฉันฟัง ภพธร” “ตอนที่จิดาภาถ่ายละครของผ.อ.ชยน ตอนนั้นถูกรองผู้กำกับกลั่นแกล้ง ตอนที่ถ่ายโฆษณาของWM ก็ถูกรเมศเล่นงาน แทนที่เขาจะยอมรับผิด ตอนนี้คุณมาถามผมว่าทำไมยังต้องแนะนำคนอื่นให้มาถ่ายทำแทน? ผมคิดว่าในเมื่อผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ในเวลาแบบนี้สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนเป็นสิ่งแรกก็คือจะต้องปกป้องสิทธิประโยชน์ของเธอไม่ใช่หรือครับ?” “ภพธร!” ญาณินีตบโต๊ะด้วยความโมโห และไม่พอใจเป็นอย่างมาก “พวกคุณยังเห็นฉันเป็นประธานบริษัทอยู่ในสายตาอยู่รึเปล่า!” “หลังจากที่เซ็นสัญญากับจิดาภาแล้ว คุณเห็นว่าเธอไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่คุณคิดไว้ ดังนั้นก็เลยโมโหแบบนี้หรือ?” ภพธรพูดอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความกระจ่างกับเรื่องนี้ “ผมคิดว่าจิดาภาไม่ผิด” เพราะฉะนั้น เขาจะคอยปกป้องเธอเสมอ ญาณินีถูกพูดแทงใจดำเช่นนั้น อาการของเธอที่แสดงออกมานั้นดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย “ไปถ่ายโฆษณากันดีๆ ทำตามความต้องการของผู้กำกับและทางเจ้าของแบรนด์ เขาว่าอย่างไร พวกคุณก็ทำอย่างนั้น มันง่ายแค่นี้เองไม่ใช่หรือ? คุณเองก็เป็นคนเก่าแก่ในวงการนี้แล้ว ทำไมถึงทำให้กลายเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้?” “เบื้องหลังรเมศเป็นเช่นนั้น ทำไมคุณไม่คิดบ้าง อยากจะขัดใจเขาอย่างนั้นหรือ?” ภพธรรู้สึกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ราวกับเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาเหลือเกิน “ตอนนั้นเซ็นสัญญากับจิดาภา คนที่ใช้เธอบีบให้จงกลออกไปจากที่นี่ไปไหนแล้ว?” “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก!ตอนนี้จิดาภาเป็นศิลปินของโอเล ทุกๆการกระทำของเธอล้วนแต่จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริษัทเราทั้งนั้น!” “ถ้าอย่างนั้นบริษัทก็ควรจะปกป้องเธอ เชื่อเธอ ออกมาเคลียร์ให้เธอสิ คุณไม่ควรจะมาซักถามผมอยู่แบบนี้!” อย่างน้อย แม้แต่ท่าทีที่จะออกหน้ารับแทนจิดาภาเธอยังไม่มีเลยแม้แต่น้อย สายตาเย็นชาของเขา ไม่ได้สบตากับญาณินีอีก “ผมรู้ว่าจิดาภาเองก็มีส่วนผิด แต่ตอนนี้ปฏิกิริยาตอบกลับของคุณทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ ผมไม่คิดเลย...ว่าคนแรกที่จะสงสัยจิดาภานั้นจะเป็นคุณ” สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของคนเรานั้นก็คือ คนที่เคยคุ้นเคยอยู่ๆกลับกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่คุณไม่รู้จัก มองดูภพธรที่เดินออกจากออฟฟิศเธอไปโดยไม่หันกลับมาเช่นนั้น ญาณินีกำหมัดแน่นด้วยความโมโห “ทำไม...” เพื่อจิดาภาเพียงแค่คนเดียว ไม่นึกเลยว่าภพธรจะทำเช่นนี้ เธอกลับไม่ได้ตระหนักถึงว่าภพธรว่าเขาจะเปลี่ยนไปได้เช่นนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้โอเลเองก็พัฒนาไปได้ด้วยดี แต่กลับติดอยู่ในตำแหน่งที่ครึ่งๆกลางๆ หรือบางทีนี่อาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างญาณินีกับจิรภาสก็เป็นได้ ....... เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวก็ยังคงสะสมไปเรื่อยๆ ทางด้านรเมศไม่ได้ซักถามทางบริษัทWM และไม่ได้ต่อว่าผ.อ.ชยนอีกด้วย เนื่องจากดูแล้วจิดาภาไม่ได้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอีกทั้งดูเหมือนจะกลั่นแกล้งได้ง่าย บวกกับโอเลที่นับว่าเป็นบริษัททางต้นสังกัดของเธอแต่กลับไปออกมาปกป้องเธอเลย ยิ่งทำให้บุคคลภายนอกรู้สึกว่า โอเลก็ไม่ได้เห็นความสำคัญกับจิดาภาเหมือนอย่างที่คิดกันไว้ จิดาภายังคงเหมือนก่อน คือเลือกที่จะอยู่เงียบๆ ความจริงนั้นไม่ได้ใช้เพียงแค่ปากถึงจะพูดออกมาได้ แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมก็คือ เธอพูดออกมาไม่ได้จริงๆ แม้ว่าผู้กำกับอยากจะเปลี่ยนตัวนักแสดง ก็คงไม่ควรเป็นเธอที่แนะนำตัวเลือกให้เขา และนี่คงเป็นสิ่งที่รเมศจับทางได้ ซึ่งตอนนี้จิดาภาเป็นBrand ambassador ของบริษัทWM สมมติเธอออกหน้าเพื่อทำให้ความจริงกระจ่างออกมานั้น ก็คงจะไม่ส่งผลดีต่อทางแบรนด์ต้นสังกัดเท่าไหร่นัก แต่ทุกคนต่างพากันมองข้ามเรื่องนี้กันไปหมด ว่าต้นเหตุของเรื่องนี้มาจากการที่รเมศผิดนัด แต่บรรดาแฟนคลับของรเมศนั้นช่างโหดร้ายยิ่งนั่ง พวกเขายังคงยึดติดว่าเป็นความผิดของจิดาภาและไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ สร้างข่าวลือว่าจิดาภาเกิดอุบัติเหตุรถชน และข่าวลือต่างๆนานา โพสต์ด่าว่าจิดาภาในweibo อีกทั้งยังส่งหนูตายไปที่บริษัทโอเลอีกด้วย.... วิธีการของคนพวกนี้นั้นช่างเลวร้ายเหลือเกิน จิดาภาไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับจิรภาส เธอกลัวว่าเขาจะเป็นกังวล อยู่บ้านท่าทางดูสบายใจราวกับไม่มีอะไร แต่จิรภาสก็ยังคงเป็นห่วงเธอเหมือนเช่นเคย บวกกับอิทธิพลของเค.เอฟ.แล้วนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ เขาเคารพจิดาภา จึงไม่ได้พูดอะไรออกไป ระหว่างสามีภรรยาล้วนจะต้องแบ่งพื้นที่ไว้ให้แก่กันและกันบ้าง เมื่อเห็นเหล่าแฟนคลับต่างพากันโจมตีจิดาภาไม่หยุด รเมศรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่กลัวจิดาภาจะตอบโต้เลยแม้แต่น้อย คนที่มีอิทธิพลในวงการบันเทิงอย่างเขา จะกลัวเธอทำไมกัน? ไม่นานหรอก ผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่สามารถรับงานได้แม้แต่งานเดียว และโฆษณาชุดแหวนแต่งงานของWMนั้นก็จะได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน พอถึงตอนนั้น ชื่อเสียงของจิดาภาก็คงจะเหม็นเน่าไปทั้งวงการ --โปรดติดตามตอนต่อไป 30/11/2019--