ตอนที่ 153 ฉีกขาด

ต๭นที่ 153 ฉีกขาด จิดาภาเล่าเรื่องที่พี่นัฎและภพธรกำลังรวบรวมค้นหาหลักฐานให้จิรภาสฟัง จิรภาสไม่ได้ขัดอะไร เพียงแต่พยักหน้ารับแล้วตอบรับ อืม เพียงเท่านั้น ในวงการนี้ มีหลายๆเรื่องที่อยากจะสืบเสาะค้นหาแล้วจะหาเจอ แต่หากมีผู้ชี้แนะที่ลึกลับสักคนล่ะก็ เรื่องน่าจะง่ายขึ้น สาเหตุเดียวที่เหล่าศิลปินที่เคยถูกรเมศกลั่นแกล้งรังแกแล้วยังทนกล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บช้ำเหล่านั้น นั่นคืออิทธิพลของบิดาของเขา เพื่อรักษาทางเดินในวงการนี้ของตัวเอง จึงไม่มีใครกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา ดังนั้นเมื่อพี่นัฎตามหาตัวพวกเขาเจอแล้ว บอกกับพวกเขาว่าจะช่วยพวกเขาในการเปิดโปง ซึ่งหากไม่ต้องระบุชื่อนั้น พวกเขาก็พร้อมจะเอาหลักฐานที่มีออกมา ......... บรรดาแฟนคลับของรเมศก็ยังคงออกมาปกป้องสิทธิของไอดอลตัวเอง พวกเขาเอาหลักฐานที่รเมศไปถ่ายทำละครทั้งที่ยังไม่สบาย อีกทั้งรูปถ่ายที่เขาอดหลับอดนอนเพื่อท่องบทละครออกมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าผ.อ.ชยนและบริษัทWMร่วมมือกับจิดาภา ทางฝ่ายรเมศได้เปิดเผยรายงานผลวินิจฉัยทางการแพทย์ออกมา เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าในวันถ่ายทำวันนั้น รเมศป่วยหนักจริงๆ.... ดังนั้นการเปลี่ยนตัวนักแสดงจึงถือว่าเป็นการโจมตีเขาไม่น้อย หรือแม้กระทั่งอาจเป็นการบีบให้เขาต้องพักผ่อนเป็นระยะเวลาอันยาวนาน พี่นัฎขี้เกียจจะดูข่าวที่ดูเวอร์เกินจริงพวกนี้เสียแล้ว เธอมองไปยังจิดาภา "เริ่มเลยไหม?" "อืม ถึงเวลาแล้วล่ะค่ะ" จิดาภาพลิกนิตยสารดู แล้วเอ่ยขึ้น หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง โพสต์หนึ่งชื่อว่า "เข้าสู่ความเป็นจริง คนดังพูดโกหก!" เมื่อปรากฏบนอินเตอร์เน็ต ก็ขึ้นเป็นประเด็นค้นหาอันหนึ่งไปเสียแล้ว ในโพสต์นั้นใช้ชื่อXOแทนชื่อของรเมศ แต่คนในวงการนั้นรู้กันทั้งนั้น ว่าXOคือชื่อย่อของเขา "XOช่วงสองสามปีมานี้รับละครไม่น้อย ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดังไปแล้ว แต่ความจริงแล้วทักษะการแสดงที่แสนจะธรรมดา อาศัยการเกาะกระแสสร้างเรื่องอื้อฉาวกับนักแสดงหญิง ถึงมีแฟนคลับมากจนถึงตอนนี้" “เมื่อสองสามวันก่อนXOมีข่าวถูกเปลี่ยนบทในโฆษณาออกมา ช่างสะใจเสียจริงๆ!แฟนคลับของเขาบอกว่าเขาตั้งใจและขยันในการระหว่างการถ่ายทำ แต่จริงๆแล้วเขามักจะขาดงานบ่อยๆเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งมักจะชอบรังแกคนใหม่ๆและผู้ช่วยในกองถ่ายอีกด้วย นักแสดงในวงการหลายๆคนล้วนเป็นพยานให้ได้ทั้งนั้น เพียงแต่พวกเขาไม่อยากจะสนใจเขาต่างหาก เมื่อปีที่แล้วหลังจากที่XOเมาจนทำร้ายคนในกองถ่าย มีหลายคนที่เห็นเหตุการณ์นั้น” “สิ่งที่ตลกที่สุดก็คือ XOประกาศออกมาว่าตัวเองไม่สบาย มีโพสต์เอกสารวินิจฉัยอาการป่วยของเขา แต่ในวันและเวลาเดียวกันนั้น มีแฟนคลับที่ถ่ายรูปเขาอยู่ในสระว่ายน้ำ ณ สโมสรแห่งหนึ่ง หรือบนโลกนี้จะมีคนที่หน้าเหมือนเขาขนาดนี้เชียวหรือ?” “นิสัยของXOคนในวงการนั้นต่างก็รู้ดี ครั้งนี้ที่เขาทำลายYXนั้น กล่าวได้ว่าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก เป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่อายบ้างหรืออย่างไร? ไม่ไปหาทางต้นสังกัดแบรนด์ ไม่ไปหาผู้กำกับ แต่กลับจงใจหาเรื่องนักแสดงหญิงที่จะต้องร่วมงานด้วย ไม่ใช่เห็นว่าเป็นคนที่อ่อนแอกว่าก็จะรังแก แค่เพียงรู้สึกว่าถูกนักแสดงหญิงปฏิเสธที่จะทานข้าวด้วย แล้วก็รู้สึกเสียหน้าแล้วหรือ?” “XOคงคิดว่าอาศัยที่เขามีหน้าตาดี ก็จะสามารถเอาชนะทุกคนได้ หึหึ เตือนให้คุณมีจิตใจที่ดีกว่านี้เสียหน่อยจะดีกว่า!” เนื้อหาของโพสต์นี้นับว่าตีแสกหน้าของรเมศเข้าอย่างจัง เขาโมโหมากจนเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือทิ้ง แล้วตะคอกใส่ผู้จัดการส่วนตัวของเขา “พวกคุณทำอะไรกัน! ทำไมปล่อยให้อะไรพวกนี้โพสต์ลงบนอินเตอร์เน็ตแบบนี้ ไปลากคอมันออกมาให้ผมเดี๋ยวนี้!” “เรื่องนี้....ก่อนหน้านี้ฉันก็เตือนเธอไปแล้ว ว่าอย่าทำเรื่องให้มันวุ่นวายนัก” ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ผมจะทำ!ผมไม่เชื่อหรอก ว่าพวกนั้นจะทำอะไรผมได้ ผมยังมีพ่ออยู่เป็นแบล็คหลังให้อยู่แบบนี้ ผมไม่กลัวพวกนั้นหรอก!” เมื่อผู้จัดการเห็นว่าขาโมโหมากเช่นนี้นั้น จึงทำได้เพียงออกมาเสียก่อน สองสามปีมานี้แม้ว่าเขาจะโด่งดัง แต่นิสัยอารมณ์ของเขานั้นก็ระเบิดออกมาง่าย ความประพฤติที่ไม่มีเหตุผล ทำให้คนอื่นๆไม่พอใจไปไม่น้อย ครั้งนี้หากทำให้เป็นเรื่องใหญ่อีกล่ะก็ กลัวว่า.... การย้อนกลับของสถานการณ์ไทยมุงเหล่านี้ก็คงจะไม่สามารถป้องกันอะไรได้ แต่ยังคงมีแฟนคลับที่สร้างกลอุบายอยู่เบื้องหลังของจิดาภาต่อไป ทั้งยังมีการตอบกลับด้วยคนที่มีเจตนาร้าย กล่าวหาว่าจิดาภาจะต้องใช้ตัวเข้าแลกอย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีคนอื่นๆและแฟนคลับที่มีคุณธรรมอยู่บ้าง “ในโพสต์มีเซนเซอร์รูปอยู่นั้น มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคือรเมศ!ฆ่าตัวเองชัดๆ ถูกโฆษณาเปลี่ยนตัวไปเช่นนั้นแล้ว ยังมีสิทธิอะไรมาเบียดเบียนจิดาภาอีกกัน?” “แฟนคลับพวกนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน ไม่แยกแยะผิดถูกเอาเสียเลย” “เดิมทีเขาเป็นBrand ambassadorของWM ตัวเองไม่กลัว แล้วยังมีหน้ามาโทษจิดาภาอีก น้ำเข้าสมองไปแล้วหรือไง” “ผลนี้ช่างอร่อยเสียจริงๆ” เมื่อคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ปกคลุมไปจนทั่วหน้าเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต ทางบริษัทWMและญาณินีต่างก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนทิศทางไปเช่นนี้ ความจริงแล้วนั้น ทุกครั้งที่จิดาภาตอบโต้กลับนั้นล้วนแต่เป็นวิธีที่สะอาดและตรงไปตรงมา โจมตีได้ถูกจุด ความเงียบของเธอไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอม เพียงแต่รอช่วงจังหวะที่ดีที่สุดต่างหาก ในคฤหาสน์ จิดาภามองดูรูปถ่ายที่ตฤณเอามา แล้วรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “รบกวนคุณช่วยแขวนไว้ให้ฉันหน่อยนะคะ” รูปถ่ายเป็นรูปที่พวกเขาตอนถ่ายทำโฆษณาถ่ายไว้ จิรภาสจูงมือเธอ ทั้งสองคนเผชิญหน้าหันหน้าเข้าหากัน ที่นิ้วของเธอมีแหวนส่องประกายระยิบระยับสาดส่องเข้าตาเขา พวกเขานั้นช่างเหมาะสมกันเสียจริงๆ.... "ได้ครับ คุณผู้หญิง" หลังจากที่ตฤณแขวนรูปไว้ตามที่จิดาภาสั่งเสร็จแล้วนั้น เขาจึงเอ่ยพูดกับเธอด้วยความลังเล "สองสามวันนี้ทางครอบครัวท่านประธานถามเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน คงจะปิดต่อไปได้อีกไม่นานแล้วล่ะครับ" จิดาภาขมวดคิ้วเล็กน้อย แน่นอนว่าเธอจำการตัดสินใจในครั้งนั้นของจิรภาสได้ ระยะเวลาครึ่งปีกับการแก้ไขปัญหาทุกอย่างรอบๆตัวเธอ ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสามเดือน จะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย "ผมไม่ควรพูดเรื่องนี้เลย...." ตฤณเกาหัว ยิ้มให้เธอก่อนจะเดินออกไป จิดาภากลับรู้สึกว่าเรื่องบางเรื่องจำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับมัน เธอจะต้องขึ้นไปยืนบนจุดที่สูงสุด ถึงจะกลายเป็นภรรยาของจิรภาสได้อย่างเหมาะสมคู่ควร เธอจะไม่ให้ตัวเองเป็นคนที่ไม่เหมาะกับการเป็นภรรยาของเขา เธอเองก็รู้ว่าจิรภาสให้ช่องว่างกับเธอมากเกินพอแล้ว เขาทำเพื่อสิ่งที่ตัวเองชอบ แบกรับความกดดันของทั้งครอบครัวไว้เพียงลำพัง ส่วนเธอ.... จิดาภาสูดหายใจเข้าลึกๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นพอดี เป็นภพธรนั่นเอง "จิดาภา บริษัทได้แบ่งงานถ่ายละครและโฆษณาให้กับภารดีกับจิรสุดาแล้วนะ ครั้งนี้คุณญาณินีคงเอาจริง เธอคงต้องการจะแบนคุณ" หลังจากที่ภพธรบอกเรื่องให้จิดาภารู้แล้วนั้น จึงรีบไปที่บ้านของญาณินีทันที ญาณินียังคงกำลังทำงานอยู่ เมื่อเห็นเขามา ก็เข้าใจทันทีว่าเขามาหาเธอทำไม "คุณญาณินี คุณทำแบบนี้มันสมควรแล้วหรือครับ?" ภพธรเอ่ยถามอย่างร้อนรน "ฉันเป็นประธานบริษัทโอเล คุณว่าสมควรหรือไม่สมควรล่ะ?" ญาณินีถามย้อนเขากลับไป ภพธรทำได้เพียงแค่พยักหน้า "โอเคครับ บริษัทเป็นของคุณ แน่นอนว่าคุณมีสิทธิจะพูดหรือทำอะไรก็ได้ แต่...จิดาภาเพิ่งจะเซ็นสัญญากับโอเลได้ไม่นาน คุณก็แบนเธอไปแบบนี้แล้ว คุณจะต้องได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน" "คุณคิดว่าฉันอยากจะทำอย่างนี้หรือ?เป็นเพราะคุณและจิดาภาที่บีบให้ฉันทำแบบนี้ต่างหาก" ญาณิณีรู้สึกโมโหเสียจนไม่มีวิธีอื่นแล้ว เธอวางเอกสารในมือลง แล้วเดินไปยังหน้าต่าง สายตาดูมืดมน "ภพธร จิดาภาเป็นคนที่มีกลอุบายมากจริงๆ" ภพธรขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของญาณินี "คุณเพิ่งจะมาอยู่กับเธอนานแค่ไหนกันเชียว ถึงทำให้คุณต้องรีบร้อนถึงขั้นต้องมาซักถามฉันแบบนี้ เรื่องที่เธอก่อขึ้นครั้งนี้ แม้ว่าจะมีสาเหตุ แต่เป็นนักแสดงหญิงที่เพิ่งจะเตรียมตัวกลับมา แต่กลับสร้างตัวเป็นศัตรูกับรเมศตัดเส้นทางตัวเองแบบนี้ แล้วยังสร้างความวุ่นวายให้กับบริษัทอีก ภพธร เธอไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัท แต่คุณ คุณจะไม่นึกถึงเรื่องนี้ไม่ได้!"