ตอนที่ 49 จุดบ่งบอกว่าโสด
1/
ตอนที่ 49 จุดบ่งบอกว่าโสด
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 49 จุดบ่งบอกว่าโสด
ตอนที่ 49 จุดบ่งบอกว่าโสด เพ็ญนีติ์ไม่อยากพูดอะไรจริงๆ เช็คนั้นได้ทำร้ายศักดิ์ศรีเธอมาก เลยไม่สนใจเขา แล้วจัดชุดของเธอต่อ นอกจากมองข้ามเขาแล้ว เธอและเขาไม่ได้มีอารมณ์จะต่อต้านแย้งกัน เธอคนเดียว แต่ด้านหลังเขายังมีหลายคนและที่สำคัญคือตอนนี้เธอไม่อยากมีอะไรเกี่ยวพันกับเขา เธอยุ่งไม่ได้และหลบไม่ได้ พอคิดถึงส้มและอ้อยที่ถูกคนในห้องล้อกันแล้ว เธอก็อดจะเจ็บใจขึ้นมาไม่ได้ ชายหนุ่มก้มหน้าลงมา กลิ่นน้ำหมอที่น่าดอมพุ่งเข้ามาปลายจมูกเธอ ทำให้เธอต้องตกใจ เพียงแค่นาทีนั้นเธอพลางถูกเขาดึงขึ้นมา “เพ็ญนีติ์ คุณหมายความว่าไงกันแน่?ทำไมต้องส่งกลับมาให้ผม?”เขาคิดว่าเธอรักเงินเขา แต่สุดท้ายนั้น จากเกมส์นั้นแล้วเหมือนว่าเขาไม่ได้ให้เงินเธอเลยแม้แต่นิด เงินที่ยืมให้ตระกูลศาสตร์พงษ์นั้นนภนต์ช่วยคืนให้จนหมด และเธอก็ไม่ได้เอาของที่เป็นของเขาไปเลยสักชิ้น เธอไม่ได้ใช้เงินเขาเลยสักบาท “ปล่อย”ไหล่เจ็บขึ้นมา เพ็ญนีติ์เริ่มมีความเจ็บจนเธออดไม่ไหวแล้วจริงๆ “บอกมา ว่าทำไมต้องคืนให้ผม?” เขาสูงมาก เธอเลยต้องเงยหน้ามองเขา“ฉันดูแลปู่เพราะว่าฉันชอบเขา แต่ไม่ได้เพื่ออย่างอื่น นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเต็มใจ ปุริมปู่ไปแล้ว ฉันและคุณไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ”เธอใช้แรงดิ้นรนออก เธอเริ่มเก็บของตัวเองขึ้นมา และเตรียมที่จะไป มีปุริมที่ยืนไว้ตรงหน้าไม่มีใครกล้าซื้อของแล้ว เพราะเขายังคงคิดว่าเขาเป็นหัวหน้ามาเฟียที่กำลังมาเอาค่ารักษาความปลอดภัยสักอีก ปุริมเม้มปาก“คุณคลอดลูกให้เขาสองคน เขาก็ให้คุณมาขายของที่ตลาดแบบนี้เหรอ?” เสียงที่ไม่ดังมากนั้นทำเอาเธอช่างแสบหูนัก ที่แท้เขายังคิดว่าส้มและอ้อยเป็นลูกนภนต์มาตลอด เธอไม่อยากอธิบาย ปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปเถอะ เพราะยังไงแล้วก็ไม่อยากมีอะไรเกี่ยวพันกันอีก ยังคงไม่อยากสนใจเขา ชุดคนท้องถูกยัดเข้าถุงไปทีละชิ้น เธอใช้แรงเพื่อจะแบบขึ้นมา แต่เมื่อรีบร้อนแล้วดึงยังไงก็แบกไม่ขึ้น เธอรีบร้อนจนหน้าแดง เธอเกลียดไม่ได้ที่อยากหายไปจากในสายตาปุริมเลยทันที จู่ๆถุงนั้นเหมือนมีตาแล้วค่อยๆขึ้นมา จากนั้นค่อยมาอยู่บนไหล่เธออย่างนิ่ง เธอหันกลับไปมอง ถึงเห็นมือข้างหนึ่งบนถุงนั้น เป็นมือที่เรียวยาวของผู้ชายแลดูสะอาด แต่นี่ไม่ได้สำคัญหรอกที่สำคัญคือนิ้วก้อยเขานั้นมีแหวนทองขาวที่สว่างอย่างสะดุดตา นั่นเป็นจุดบ่งบอกว่าเขาโสด หรือว่าปุริมยังโสดอยู่? ชนิศา วูลฟ์ เธอหันกลับมาแล้วเดินออกไปทางถนนอย่างกินแรง “เพ็ญนีติ์ คุณหยุดนะ”ปุริมรีบเดินตาม เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร หรือมีความเห็นใจขึ้นมา?หรือว่าได้มีความรู้สึกอะไรกับใบหน้าเธออีกครั้ง?แต่ยังไงแล้วก็คือวิ่งตามเธอมา ถ้าตอนนั้นเขาทำตามที่ปู่พูดไว้แล้วให้เธอเป็นภรรยาที่แท้จริง เพราะว่าเธอไม่สามารถรักคนอื่นได้แล้ว แต่กลับมารู้ว่าเธอมีชู้ อีกทั้งได้มีลูกนภนต์แล้วสองคน สิ่งนี้ช่างทำให้เธอลำบากใจที่สุด ผู้ชายไหนจะรับได้ยังไงที่ตัวเองถูกสวมเขาแบบนี้ เธอไม่หยุด และทำไมเขาให้เธอหยุดเธอก็ต้องหยุดด้วย เพ็ญนีติ์เดินไปตรงหน้าอย่างแรงหนัก ถุงที่หนักนั้นทำเอาเธอต้องก้มตัวลงเยอะ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ถึงนี้ช่างหนักจริงๆ “”ปุริม... ด้านหลังมีเสียงที่เรียกปุริมดังขึ้นมา เพ็ญนีติ์ไม่สนใจ เรื่องเขาไม่ได้เกี่ยวกับเธอ เธอเดินได้ช้ามาก แลไม่ได้สนใจว่าไปชนคนอื่น ก้มหน้าเดินตรงไปออย่างเดียว ในใจนั้นมีความเบื่อหน่ายขึ้นมา คืนนี้ขายอะไรไม่ได้เลยอีกทั้งยังถูกเขาก่อกวนเธออีก ตรงหน้าเป็นทางออกของตลาดคนเดิน เธอเงยหน้าจะไปโบกรถ จู่ๆข้างหูก็มีเสียงแตรดังขึ้นมา รถคันหนึ่งจอดเฉียงอยู่ตรงหน้าเธอ ยังเป็นรถBMWสีดำนั้น เธอเห็นแล้ว และเธอก็เห็นชายหนุ่มที่เลื่อนกระจกลงมาคนนั้น เธอเตรียมตัวจะเดินแอมรถนั้นไป แต่ไม่คิดว่าปุริมจะเปิดประตูรถออก จากนั้นเดินก้าวมายาวๆตรงมาทางเธอ เหมือนรู้ว่าเธอจะเลือกทำแบบนี้อยู่แล้ว เขายืนมือไปแย่งถุงเธอลงมาจากไหล่ แล้วโยนไปหลังรถ จากนั้นพลางเปิดประตูข้างคนขับออก เพียงแค่เวลาสิบกว่าวินาที เพ็ญนีติ์ก็ได้นั่งนิ่งอยู่ในรถแล้ว แม้แต่เบลยังลัดไว้เรียบร้อย เหยียบความเร็วสุดๆ “ซ่า...”แล่นออกไป เพ็ญมองกระจกเห็นด้านหลังนั้นมีคนวิ่งตามมา เหมือนว่ากำลังเรียก“ปุริม...ปุริม...” แต่ชายนุ่มในรถนั้นไม่ได้ยินเสียงนั้นหรอก เขาไม่ได้มีวี่แววจะจอดรถลง เมื่อรถเลี้ยวไปทางถนน เขาถุงจะเอามือถือออกมา“โปเจคนี้ฉันรับแล้ว พรุ่งนี้มาคุยที่ออฟฟิศ”พูดจบเขาก็วางไปแบบกลัวเปลืองน้ำลาย ยังคงแน่วแน่คมกริบเหมือนเดิม แต่ดูเป็นนักธุรกิจที่มีเสน่ห์นัก ความเร็วเขานั้นทำให้เธอยังอยู่ในความวุ่นวายจนไม่รู้จะตอบเขายังไง แต่เขากลับพูดขึ้นมาก่อน“พักที่ไหน?” หึๆ เขาไม่รู้เธอพักที่ไหน ตอนที่พาชนิศไปซื้อชุดนั้นเธอไม่ได้ออกมาให้เห็นหน้า“ทำฉันต้องบอกคุณด้วย?ปุริม ตอนนี้คุณกำลังลักพาตัวฉัน” เขายิ้มอย่างได้ใจ “เพ็ญนีติ์ คุณจำครั้งแรกที่คุณเจอผมไม่ได้แล้วเหรอ?คุณไม่สนใจอะไรยังรั้งรถผมตรงกลางถนน ทำไม ลืมแล้วรึ?” หัวใจเธอตื่นแรงขึ้นมา จู่ๆก็นึกถึงคืนนั้นที่เจอเขา นึกถึงจูบเร้าร้อนคืนนั้น ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเขาคือใครด้วยซ้ำก็ขึ้นรถเขาไปเลย... ไม่อยากจะบอก แต่เมื่อเห็นเงาหลังเขาแล้ว เธอก็พูดขึ้นมาอย่างหยอกๆ“”ที่นั่น คุณก็เคยไป “ผมเคยไปเหรอ?”ปุริมเริ่มคิดที่ที่เธอพูดในสองขึ้นมา “ฉันเปิดร้านที่ขายชุดคนท้อง คุณเคยไปซื้อให้ชนิศา” “ออ เหมือนว่าเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น”ปุรอมนึกขึ้นมาได้ทันทีตอนที่ชนิศาพึ่งกลับมานั้นเขาเคยซื้อชุดคนท้องให้ไปชุดหนึ่ง พวกเธอก็เริ่มพูดขึ้นมา เพ็ญนีติ์ค่อยๆสงบใจตัวเอง ในเมื่อหลบเขาไม่พ้น งั้นก็หาเรื่องมาคุยก่อน และไม่ได้คิดจะมีความยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขา “ลูกเป็นไงบ้าง?ทำไมนภนต์ยังให้คุณไปขายที่ตลาด?และทำไมเขาไม่ให้บ้านคุณเลย?”เขาถามถึงความสงสัยขึ้นมา นภนต์ไม่ได้มีครอบครัว สิ่งนี้เขารูอยู่แล้ว เมืองดรัลใหญ่ขนาดนั้น และมีคนที่มีอำนาจอยู่เพียงไม่กี่คน ฉะนั้นแล้วเขาเลยจะต้องรู้อยู่แล้ว เขาไม่คิดว่านายนั่นจะพัฒนามาใกล้แบบนี้มาก่อน ธุรกิจตระกูลนั้นศาสตร์พงษ์ได้ดีขึ้นมาเรื่อยๆจากการบริหารของนายนั่น เพ็ญนีติ์ฟังแล้วจึงรู้เขาก็ยังคงคิดนภนต์เป็นพ่อส้มและอ้อย เธอเอามือเข้าไปในแข้นเสื้อ เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เมื่อคิดๆแล้ว เธอเลยพูดขึ้นมา“เราแยกกันแล้ว นิสัยเข้ากันไม่ได้” “แล้วลูกหล่ะ?” “อ้อ ฉันเลี้ยง ฉันห่างลูกไม่ได้” ปุริมเปรกกะทันหันทันที และจอดลงข้างถนนอย่างไม่สนใจอะไร “ก็เพราะว่าห่างลูกไม่ได้คุณก็จะเลี้ยงเหรอ?แล้วเงินหล่ะ?เขาไม่ได้ให้ค่าเลี้ยงดุกับคุณเหรอ?”เมื่อคิดถึงภาพที่เธอขายของในตลาด ปุริมก็ไม่กล้าคิดต่อไปแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงของเขาถึงแม้จะเป็น one night stand กับเขาก็ตาม เขาจะไม่ให้คนนั้นถึงขั้นไปวางของขายที่นั่น ยังไงก็ต้องให้ค่าใช้จ่ายก้อนหนึ่งไหม? “ริม ไม่เกี่ยวกับนภนต์ ฉันไม่อยากใช้เงินคนอื่นเอง อ้อ ถึงแล้ว คุณจอดตรงหน้าเลย ถนนนั้นเข้าไปไม่ได้แล้ว ปิดถนนไปแล้ว ฉันเลยต้องปิดร้านตอนนี้ไง” “ปิดถนน?” “ใช่ บอกว่าจะซ้อมแซมถนนคนเดิน ต้องปิดไปครึ่งปี”นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีวิธีแก้ได้ เธอไม่อยากคิด แต่ว่าเรื่องเฮงซวยนี้ก็ตกอยู่ในตัวเธอไปแล้ว ปุริมกลับไม่จอด แต่กลับขับไปตรงหน้าที่ปิดไว้ เมื้อเห็นถังที่ก้านจนเป็นที่บางตาเขา เขาเลยลงรถแล้วย้ายถังนั้นออกไป เพ็ญนีติ์ได้ลงรถแล้ว“ปุริม แบบนี้ไม่ดีหรอกมั้ง” “อะไรไม่ดีครับ ยังไม่ได้ซ้อมก็ปิดไปแล้ว นี่มันผิดกฎนิ พรุ่งนี้ผมจะไปถามให้เข้าใจ”พูดไปเขาก็ย้ายออกมาทางหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมา“ขึ้นรถเถอะ ผมส่งคุณกลับบ้าน ”เมื่อนึกถึงถุงใหญ่ที่เธอต้องแบกแล้วนั่งรถไปที่อื่น ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขากลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เหมือนว่าคนที่มีชู้มนตอนนั้นเป็นเขาแต่ไม่ใช้เธอ เมื่อรถถูกจอดลง เขาพลางช่วยเธอเอาของไปที่ร้าน น้าน้ำได้เดินออกมา“เพ็ญนีติ์ คุณผู้ชายคนนี้คือ...” เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์น้าน้ำกับนภนต์แล้ว เพ็ญนีติ์ก็รีบพูดขึ้นมา“เพื่อนในสมัยเรียนค่ะ”พูดจบเธอก็หันเดินไปพูดขึ้น“คุณปุริม ขอบใจนะ”น้ำเสียงนั้นชัดเจนว่าเป็นเหมือนแขก ปุรอมหันไปมองร้านนั้นทีหนึ่ง แล้วนึกถึงเด็กสองคนที่โรงพยาบาลขึ้นมา จึงพูดขึ้น“แล้วเด็กๆหล่ะ?” “อ้อ นอนแล้วมั้ง น้าน้ำนอนแล้วใช่ไหม?” “ยังเลยนะ อยู่...”น้าน้ำไม่รู้ว่าเพ็ญไม่อยากให้ปุริมเห็นส้มและอ้อย เลยพูดออกมาเลย “งั้นก็เตรียมหลับแล้วใช่ไหม?” “หม่ามี๊กลับมาแล้วเหรอ?”ชั้นสองนั้นมีเสียงส้มดังมา ทำให้ปุริมต้องเงยหน้ามองไปบันไดที่แคบๆนั้น ที่แท้เธอและลูกพักที่นี่เอง นี่ไม่ใช่บ้านอะไรเลย “ส้ม ทำไมยังไม่นอนลูก ถ้ายังไม่นอนพรุ่งนี้จะไม่ส่งพวกหนูไปโรงเรียนแล้วนะ” “ค่ะหม่ามี๊ งั้นหนูและอ้อยนอนแล้วนะค้า หม่ามี๊ก็รีบนอนนะ หม่ามี๊ไม่อยู่แล้วหนูกลัว หนูนอนไม่หลับ” “โทษดีนะคุณปุริม ลูกยังเล็กฉันขอขึ้นไปดูหน่อย วันนี้ขอบคุณมากเลย”จริงๆนั้น เธอไม่อยากพุดว่าขอบคุณ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นมันสมควรอยู่แล้ว เธอคลอดลูกสองคนนี้ให้เขาและเลี้ยงจนได้อายุห้าขวบ คิดๆแล้วก็เหนื่อย คนอื่นเลี้ยงคนเดียวยังเหนื่อย แต่เธอต้องเลี้ยงสองคน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 49 จุดบ่งบอกว่าโสด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A