ตอนที่ 32สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว

ต๭นที่ 32สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว พอได้ยินคำปลอบโยนแบบนี้ เหมือนทุกความรู้สึกที่พบเจอมาในวันนี้มันมลายหายไปหมด น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มออกมา ร้องให้ พูดอย่างสะอึกสะอื้นขึ้น “ขอโทษนะคะ ฉันมีความสุขมากที่ได้แต่งงานกับคุณ ฉันไม่ควรจะต้องมาเสียน้ำตากับเรื่องแบบนี้” “คุณอยู่ต่อหน้าผม ผมต้องการให้คุณเป็นตัวของตัวเอง ไม้ต้องเก็บความรู้สึกใดๆไว้” จิรเดชลูบหลังเธอเบาๆ ซ้ำไปซ้ำมา อาจจะเป็นเพราะเขาปลอบโยนแบบอ่อนโยนเกินไป จิดาภาจึงปล่อยน้ำตาทั้งหมดที่มีให้ไหลออกมาเต็มที่ “มันจบแล้ว?” จิดาภาเช็ดจมูก “อึม” จิดาภาคลายมือออก มองไปที่นาฬิกา “ดึกแล้ว เดี่ยวฉันไปทำกับข้าวให้คุณ” แต่จิรภาสไม่รอให้เธอได้ลุกขึ้นจากโซฟา ใช้มือข้างหนึ่งโอบเธอให้กับมานั่งเหมือนเดิม จู่โจมมอมจูบให้กับเธออย่างเอาแต่ใจ ใช้วิธีการบุกเข้าประชิด รีบซับให้น้ำตาบนหน้าของหญิงสาวสลายหายไป ความรักของเขา คือร่มที่ดีทีสุดคอยปกป้องกำบังให้เธอ “จิดาภา ผมอยากจะบอกคุณว่า ตลอดทั้งชีวิตนี้ ผมจะเป็นคนที่สำคัญที่สุดของคุณ แม้ว่าคุณจะพบเจอกับปัญหาใดๆลมพายุใดๆ ผมจะคอยปกป้องคุณเอง อ้อมแขนของผมจะกางออกเพื่อโอบกอดคุณตลอดไป คุณยังมีผมเป็นที่พึ่ง และให้พึ่งผม เข้าใจไหม?” น้ำตาทั้งหมดของจิดาภาเหือดแห้งไปได้เพราะเขา “ร้องให้จนเหนื่อยขนาดนี้ คุณรีบพักสักหน่อยก่อนเถอะ กับข้าววันนี้เดี่ยวผมทำเอง” หลังทานข้าวเย็นเสร็จ ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จิรเวชหยิบชามาวางไว้บนโต๊ะ ค่อยๆนวดไหล่ให้เธอเบาๆ สูดลมหายใจเข้าลึก สัมผัสกลิ่นตัวที่แผ่ซ่านหอมเย้ายวนออกมาจากต้นคอ “ผมได้ข่าวการเปลี่ยนแปลงของบริษัทSJ เป็นห่วงคุณมาก ผมรอโทรศัพท์จากคุณตลอดเลย แต่สุดท้ายคุณก็ไม่ได้ติดต่อหาผม” ขอเพียงแค่จิดาภาเอ่ยปากขอสักคำ ตอนนี้เธอเป็นถึงผู้หญิงของจิรเวชประธานใหญ่บริษัทเค.เอฟ จริงๆไม่จำเป็นจะต้องมาเสียแรงกับการแก้แค้นคนอย่างคุณชเยศแบบนี้ จริงๆเธอสามารถครอบครองทั้งหมดได้ตามที่เธอต้องการ แต่ทว่า เธอกลับไม่ทำแบบนั้น “ผมรู้ว่าคุณต้องการความรักที่มีการให้เกียรติกันและเป็นรักที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมก็อยากให้คุณเข้าใจว่า สำหรับคนอื่นแล้วผมคือคุณจิรภาสประทานบริษัท แต่สำหรับคุณแล้ว ผมเป็นเพียงแค่ผู้ชายของคุณเท่านั้น” เป็นเพราะค่ำคืนมันดึกเกินไป หรือเป็นเพราะแววตาของเขามันอบอุ่นเกินไป จิดาภาปล่อยความรู้สึกทั้งหมดซบลงที่อกของเขา ค่อยๆเก็บซึมซับความสุขที่เขามอบให้ “คุณดีกับฉันจริงๆ” เสียงนุ่มนวลของจิดาภาเอ่ยออกมา หวังว่าความทรงจำในครั้งนี้จะถูกฝังลึกอยู่ในใจเธอตลอดไป ไม่รู้ว่าเธอเผลอหลับไปในอ้อมอกของจิรเวชไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จิรเวชปิดแฟ้มเอกสารในมือลง อุ้มหญิงสาวที่ซบอยู่ในอกขึ้นอย่างนุ่มนวลและเบามือ เข้าห้องนอนไป เขาวางเธอลงบนเตียงกว้างๆ ทิ้งตัวตะแคงลงมองจ้องเธออยู่นาน สายตาลึกซึ้งราวดังจดจำทุกสิ่งให้ฝังลึกเข้าไปในใจตน “ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องคุณได้อีก แม้แต่ครั้งเดียว” ตั้งแต่จิดาภาตัดสินใจที่จะจัดการทุกอย่างเองเป็นต้นมา จิรภาสเคารพในความต้องการของเธอ ไม่เคยก้าวข้าวเลยเขตแม้แต่น้อยนิด ไม่รุกล้ำการใช้ชีวิต หรือความคิดใดๆของเธอ แต่หลังจากเรื่องราววันนี้ หลังจากที่เขากระซิบคำนี้ที่ข้างหูเธอแล้ว เป็นความหมายว่า เขาโกรธจัด และจะไม่ทนเห็นเธอเป็นแบบนี้อีกแล้ว ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธออีกต่อไป จับตาดูชเยศ สั่งคนให้คอยคุ้มครองเธออยู่ลับๆ อยู่ในวงการนี้มานาน วิธีการสกปรกๆทั้งหลายจิรเวชเห็นมาเยอะแล้ว เขาไม่อยากเห็นจิดาภาต้องทุกข์อีกต่อไป มองเธอที่กำหลังหลับอยู่ท่ามกลางอ้อมแขนของคนที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็งอย่างเขาแบบนี้ปลอดภัยและมีความสุขที่สุด เพราะจิดาภาให้โอกาสเขา ให้เขามีคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยอยู่ข้างกาย เช้าของวันถัดมา ตอนที่พี่นัฎโทรศัพท์มาหาจิดาภา เขายังนอนอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆของจิรภาสอยู่ พอลืมตาตื่นพบว่า ตัวเองกำลังนอนกอดชายหนุ่มอยู่แน่น ใบหน้าเริ่มเขินแดงเรื่อ ค่อยๆลุกขึ้นมา “ค่ะ พี่นัฎ” “จิดาภา จริงๆพี่ก็ไม่อยากโทรมากวนแต่เช้าขนาดนี้ แต่ว่าตอนนี้รีบเข้าบริษัทด่วนเถอะ ชเยศยื่นคำขาดให้เธอรีบหยุดถ่ายละคร และรับงานถ่ายโฆษณาชุดชั้นในนั้น ยังบอกอีกว่า ถ้าเกิดเธอไม่ทำตาม บริษัทจะตัดโอกาสในงานการแสดงทั้งหมด จนกระทั้งสิ้นสุดสัญญา” “จริงหรอ? ฉันจะรีบไป” จิดาภาวางสาย ขยับเข้าไปใกล้จิรภาส ประพรมจูบเบาๆลงบนแก้มของเขา ค่อยๆลุกออกจากเตียงอย่างเบาๆ ในห้องนอน จิรภาสค่อยๆลืมตาขึ้น ริมฝีปากหนาๆยิ้มขึ้น หากไม่ใช่เพราะเขาตื่นก่อนหน้านี้แล้ว คงไม่รู้ว่าจิดาภาแอบขโมยจูบเขา “จิดาภา เธอมาแล้ว!” จิดาภาเดินเข้าไปยังห้องรับรอง พี่นัฎและฐานิสาก็อยู่ พี่นัฎกวาดสายตามองไปทางฐานิสาเอ่ยขึ้นว่า “เป็นฐานิสาที่เอาข่าวนี้มาบอก พี่ส่งคนไปสืบความจริงแล้ว ชเยศเริ่มที่จะลงมือแล้ว” “ทางชนิศาล่ะคะ?” ในเวลานี้ คนอย่างชนิศาคงตามติดชเยศต้อยๆ เพื่อที่จะผลักดันตัวเอง ให้กลายมาเป็น ผู้หญิงของชเยศ เธอใช้มารยาไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ ตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะผลักดันตัวเองขึ้นมา ชนิศาคงไม่ปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ให้หลุดลอยไปง่ายๆหรอก “ตอนนี้การกระทำเธอลึกลับนัก ต่อกิจกรรมข้างนอกไม่มีเบาะแสใดๆ แต่เรื่องที่มั่นใจได้ก็คือ เขาสนับสนุนให้เธอรับงานโฆษณาชุดชั้นในนั้นเป็นอย่างมาก อยากจะให้เธอรีบๆถ่ายเร็วๆ “จริงไหม? ตามแผนพอดี” ริมฝีบากบางของหญิงสาวมีรอยหยักขึ้น “งั้นก็รอดูแล้วกันว่าใครอยู่เหนือใคร” “งั้นตอนนี้..” พี่นัฎมองเห็นจิดาภาที่ท่าทีใจเย็นเกินไป ทนไม่ได้จึงเอ่ยขึ้นว่า “จะให้นั่งรอดูเฉยๆหรอ? ฝั่งทางชนิศานี่ตัวติดคุณชเยศเลยนะ และนั้นก็เชื้อเขาหมดเลย” “ไม่งั้นพี่จะไปปะจบคุณชเยศหรอ?” จิดาภาส่ายหัว ไม่ได้ถือสากับคำพูดของฐานิสา แต่กลับตอบกลับอย่างนิ่งๆว่า “สิ่งที่ที่ผ่านมาฉันไม่เคยทำ และต่อไปก็ไม่มีทางใช้วิธีแบบนี้” ตอนที่เธออยู่ด้วยกันกับจิรเวช แม้ว่าเธอจะลำบากเพื่อบริษัท หรือว่าทุ่มเทเพื่อชเยศขนาดไหน แต่กลับไม่เคยทำลายเกียรติของตัวเอง และนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ชเยศเปลี่ยนไปมีคนอื่น เรื่องไหนที่จิดาภาคิดว่าไม่สามารถทำได้ เธอก็จะไม่ทำ ตอนนี้ความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้น ชนิศาใช้มารยาให้ชเยศกำจัดเธออยู่ไม่หยุด แต่ในสายตาของจิดาภา นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กจิ๊บจ้อยเพียงเท่านั้น เธอจะรออยู่นิ่งๆ รอจนโอกาสมาถึง ชเยศจะต้องตกตะลึงคาดไม่ถึงในตัวเธอเลยทีเดียว เพราะบริษัทเป็นคนออกหน้าเอง ฝ่ายกองถ่ายจึงจำต้องจะหยุดการถ่ายฉากของจิดาภาไว้ก่อน ในเวลานั้น ฝีมือการแสดงบางส่วนของจิดาภาถูกผู้กำกับตัดต่อลงอินเทอร์เน็ตไปบ้างแล้ว ทำให้เริ่มมีผู้จับตารอชมอยู่ แต่ว่าบริษัทSJ กับเผยแพร่ข่าวแบบนี้ออกมาต่อสาธารณชน บอกว่าจิดาภาจะไปถ่ายโฆษณาให้กับแบร์นชุดชั้นในแบร์นหนึ่ง กระแสข้างนอกต่างวิจารณ์กันว่า เป็นเพราะเธออยากจะดัง จึงยอมขายเรือนร่างตัวเอง อาศัยว่าตัวเองยังมีชื่อเสียงอยู่บ้าง รวมถึงพูดว่าเธอเจอทางตันจึงต้องยอมมาถ่ายแบบนี้เพื่อเรียกกระแส แต่ แม้ว่าพวกเขาจะวิจารณ์กันยังไง ทางฝั่งของจิดาภาไม่ได้โต้ตอบกลับใดๆ ยังนิ่งสงบดังเช่นปีนั้นเหมือนเคย คลิปวิดีโอของชเยศและชณิศาถูกเผยแพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ต ในเวลาที่ทุกคนรู้สึกผิดหวังกับเรื่องของชนิศาที่ภายนอกดูไร้เดียงสา แต่กลับไปแอบเป็นชู้อยู่ลับๆ ทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น อยู่ และยังมีอีกหลายคนยังคงสงสัยว่าทำไมบริษัทJS จึงไม่ให้จิดาภาอยู่รอรับกรรมก่อน แต่สำหรับสามผู้กำกับชื่อดัง หลังจากได้ดูผลงานการแสดงของจิดาภาแล้ว ถ่ายปกหนังสือต่างๆ ต่างทำให้ผู้คนที่ได้เห็นยากจะลืมได้ รวมถึงยังมีผู้กำกับระดับสากลอย่างเลอบรอน เจมส์ ที่ชื่นชอบในเค้าหน้าของเธอ อยากจะเชิญเธอไปเล่นภาพยนตร์ให้กับเขา แม้ว่าจะเป็นแค่ตัวประกอบ ฝีมือการแสดงที่ดีเลิศขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่จะมีได้ง่ายๆ บริษัท JS ก็ได้รับเชิญไปเซ็นสัญญากับผู้กำกับสี่คนดังนี้เช่นกัน ค่าตัวของจิดาภาก็พุ่งสูงขึ้นชั่วพริบตาเช่นกัน