ตอนที่ 43 คุณเป็นผู้หญิงของผม
1/
ตอนที่ 43 คุณเป็นผู้หญิงของผม
กำราบความรักของประธาน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 43 คุณเป็นผู้หญิงของผม
ตนที่ 43 คุณเป็นผู้หญิงของผม ทุกคนต่างเงียบ ต่างบอกไม่ได้ว่าผลินโกหก แต่ไม่สามารถทำให้ผู้หญิงสองคนนั้นเชื่อได้ อย่างไรก็ตามแต่ธนวันเชื่อ ไม่ใช่เป็นเพราะพ่อคนหนึ่งไว้ใจลูกสาวคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะเขาไม่เชื่อว่าเธอจะมีความสามารถทั้งที่อยู่ในกำมือพวกเขาแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด ดึงภรรยาและลูกสาวเข้าไปในห้องหนังสือ ปิดประตูแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าพวกเธอโกรธ แต่ฉันโกรธมากกว่าพวกเธอเสียอีก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะโกรธ ไม่ใช่เวลาที่จะโกรธเธอ ตราบใดที่เธอเป็นลูกสะไภ้ของตระกูลทรัพยสาน นั่นจะเป็นประโยชน์กับเราในวันหนึ่ง ดังนั้นทำใจเย็น ๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” ธนวันพูดด้วยความสิ้นหวัง สูญเสียไปสิบล้าน เขาจะไม่เจ็บปวดได้อย่าง เขารู้สึกเจ็บปวดมากกว่าใคร แต่เจ็บปวดไปแล้วมีประโยน์อะไร ตายโดยไม่มีหลักฐาน ฟันที่หักก็สามารถกลืนเข้าไปในท้องได้ เมื่อปลอบภรรยากับลูกสาวเสร็จเขาก็ออกไปข้างนอก “ยายลิน น้องสาวของแกได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจจากความไม่พอใจและไม่มีที่ให้ระบาย อย่าไปสนใจเลย แก...” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันชินแล้ว” ผลินขัดจังหวะคำพูดของพ่ออย่างไม่สนใจ ดูนาฬิกาบนผนัง “เย็นมากแล้ว ถ้าไม่มีอะไรฉันจะกลับ” “ไม่ทานข้าวก่อนแล้วค่อยไปเหรอ” ธนวันพูดอย่างสุภาพอ่อนโยน ผลินรู้อย่างชัดเจน เธอไม่ได้ตาบอดขนาดนั้น ครอบครัวไม่เคยต้อนรับเธอ วันนี้ก็ไม่ได้ต้อนรับ ออกจากตึกเล็ก ๆ ด้วยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จนกระทั่งถึงคฤหาสน์นภา ก็ยังคงอารมณ์ดี วันนี้เป็นวันที่พิเศษจริง ๆ คนที่ไม่ค่อยเห็นในห้องนั่งเล่นก็เจอกันในห้องนั่งเล่น ผลินทำความเคารพอย่างร่าเริง “คุณพ่อคุณแม่คะ ฉันกลับมาแล้วค่ะ” คู่สามีภรรยาทรัพยสานหันมาหา ยินดีที่ได้พบลูกสะใภ้ แม่สามีเอ่ยถามด้วยความกังวล “เธอทานอาหารเย็นหรือยังจ๊ะ" เธอเหลือบมองคนที่ไม่สนใจเธอ ยิ้มและพยักหน้า “ค่ะ ทานมาแล้ว ทานที่บ้านพ่อแม่ของฉันน่ะค่ะ” “คุณพ่อคุณแม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง” และคุณพ่อก็ถามบ้าง “ก็สบายดีค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี พวกท่านยังฝากฉันมาทักทายท่านทั้งสองด้วยค่ะ” ในเวลานั้นอยู่ ๆ น้องสามีก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว “พี่สะใภ้คะ เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของคุณวันนี้หรือเปล่าคะ เมื่อตอนบ่ายเขาวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่งกับกระเป๋าเดินทาง ฉันไม่ได้รั้งไว้ มันเหมือนกับว่าบ้านเราทำให้ได้รับความลำบากใจ” ผลินตกใจมากแล้วมองไปที่ใครบางคนอีกครั้ง มันเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร เปลือกตาของเขาก็ไม่ขยับเลย “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เธอเป็นแบบนั้นแหละ ถูกพ่อแม่ตามใจตั้งแต่เด็ก บางทีอาจจะเพราะสองประโยคที่ฉันพูดกับเธอเมื่อคืน ถ้าเธอไม่มีความสุข ก็กลับบ้านเถอะ” “ครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอเอาแต่ใจ มันดูไม่เหมือนเกิดมาจากพ่อแม่เดียวกันกับพี่สะใภ้เลยค่ะ” ธามันเมื่อได้ยินก็หัวเราะ “อย่าวิ่ง 50 ก้าวหัวเราะเยาะวิ่ง 100 ก้าว พ่อกับแม่ตามใจแกน้อยกว่าเหรอ” “โอ๊ย พูดก็พูดถึงเธอ แล้วทำไมกลับมาพูดถึงหนูล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นคนแบบเธอ พี่ชายต่างหากที่เป็นคนประเภทเดียวกันกับเธอ” นอนราบอยู่กับพื้นก็สามารถถูกยิงได้ด้วยเหรอ??? ปยุตเงยหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจ เอ่ยถามน้องสาว “อะไรที่ฉันเหมือนกับเธอ” “พวกคุณทั้งคู่ต่างก็ถูกตามใจจนกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย จริงไหมคะ พี่สะไภ้” น้องสามีเป็นคนที่ชอบดึงคนลงไปในน้ำเสียจริง คิดอย่างนั้นเองแต่ก็มาถามเธอ ผลินจำใจยิ้มพลางพยักหน้า หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า ไม่ได้บอกว่าใช่หรือไม่ใช่ แล้วชี้นิ้วขึ้นไปข้างบน “ฉันมีเอกสารที่ต้องเตรียมสอบ ขอตัวขึ้นไปทำงานก่อนนะคะ” เธอหนีไปจากห้องนั่งเล่นให้พ้นจากความถูกผิด เข้าไปในห้องลับของเธอ ล้มตัวลงบนเตียง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มดั่งพระจันทร์เสี้ยว มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้อยู่คนเดียว ซึ่งสามารถหายใจได้อย่างอิสระ “ดูอารมณ์ดีนะ” ทันใดนั้นเสียงที่แหวกอากาศขึ้นมาก็ทำให้เธอสะดุ้ง ลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจแล้วเอ่ยถาม “ทำไมคุณถึงเข้ามาโดยที่ไม่เคาะประตู” ปยุตยืนกอดอกพิงประตู โต้ตอบกลับอย่างมีเหตุผลของตัวเองเต็มที่ “แล้วคุณปิดประตูแล้วเหรอ” เธอไม่ได้ปิดประตูเหรอ ...ดูเหมือนว่าจะไม่ “แล้วคุณต้องการอะไรจากฉันคะ” ช่างน่าอายที่ต้องเปลี่ยนเรื่อง นั่งเฉย ๆ รอเขาอธิบาย “ผมรู้สึกว่าคุณน่าจะมีอะไรจะบอกกับผม” เธอส่ายหน้าเด็ดขาด “ไม่ค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะบอกกับคุณ ฉันจะมีอะไรต้องพูดกับคุณ ฉันกับคุณไม่เคยพูดภาษาเดียวกันอยู่แล้ว” “ผมรู้นะ คุณเป็นคนทำใช่ไหม” ถึงแม้ว่าปยุตจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ผลินก็รู้สึกผิด เธอเริ่มสับสน ภายใต้รูปลักษณ์ที่หล่อและแสนเย็นชาของเขา สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในใจนั้นคืออะไร ทำไมเธอถึงหลอกพ่อได้ แต่เธอกลับไม่สามารถหลอกเขาได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ปฏิเสธมัน แต่ก็รู้ว่าหลอกเขาไม่ได้ “อืม” ไม่อยากต่อสู้อย่างกล้าหาญ ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างใจเย็น “ทำไมเหรอคะ” บทสนทนาของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นไปเพียงสั้น ๆ สิ่งที่ปยุตต้องการได้ยินก็คือประเด็น ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องอธิบายเหตุผมากมาย “ฉันไม่อยากถูกขายโดยไร้ความหมาย ดังนั้นจึงนำเงินไปให้เพื่อการกุศลค่ะ” “เป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือดีนะ แต่ในความคิดของผม มันมีบางอย่างเกี่ยวกับการแก้แค้น” “ทำไมพูดแบบนั้นคะ” “แล้วมันไม่ใช่เหรอ เด็กที่เกิดจากบุคคลที่สาม เกลียดชังผู้ชายที่ทิ้งแม่ของเธอไป” ผลินเผยรอยยิ้มที่ไร้หัวใจ “เป็นการวิเคราะห์ที่สมเหตุสมผลนะคะ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ กรณีที่เด็กเกิดจากบุคคลที่สาม ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเกลียดคนอื่น หรือก้าวก่ายการแต่งงานของคนอื่น ที่ผิดคือฉันเอง” เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาไม่ได้ทำบาปที่ไม่น่าให้อภัยกับแม่ของเธอ “ดีนี่ หวังว่าจะเป็นอย่างที่คุณพูด ถึงแม้ว่าจะหย่ามาหกครั้งแล้วแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะสามารถทนกับผู้หญิงที่ใช้ผมเพื่อให้ตัวเองไปสู่จุดที่ต้องการได้หรอกนะ” จุดยืนของเขา ตั้งแต่วันที่เขาได้รับความเจ็บปวด มันก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ดังนั้นเธอไม่มีทางเลือก มีชีวิตอยู่เพื่อพูดโกหกอีกครั้ง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในชีวิต เมื่อเห็นเขาหันหลังและเดินจากไป จู่ ๆ เธอก็เปิดปากและถามว่า “คุณรู้ได้ยังไง ทำไมถึงแน่ใจว่ามันเป็นฉัน” “นอกจากคุณแล้ว ผมมีเป้าหมายที่สองให้ต้องสงสัยอีกงั้นเหรอ” ปยุตหันมองกลับมา เธอเงียบ “ชุดาได้บอกคุณเรื่องที่ฉันพูดเป็นนัย ๆ เรื่องที่เธอเข้าไปในห้องหนังสือหรือเปล่าคะ” “บอกแล้ว” เขาเหลือบมองมาอย่างมีความหมาย “เธอต้องการที่จะจัดการคุณ แต่ผมหยุดเอาไว้ก่อน” “ทำไมคุณถึงช่วยฉัน” ประโยคนี้ของผลินเป็นคำถามที่ดี “ในกฎหมาย คุณเป็นผู้หญิงของผม เมื่อคนอื่นสงสัยคุณ ผมก็ควรลุกขึ้นเพื่อปกป้อง” “…..ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณด้วยความกลัว คุณเป็นผู้หญิงของผม ช่างน่าหลงใหลและไม่สบายใจ เที่ยงคืน ผลินตื่นขึ้นมาเพราะความรู้สึกหิว เธอลูบท้องแห้งไปมา เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ทานอาหารเย็นเลย เมื่อก่อนกระเพาะไม่ค่อยดี ทานอาหารสามมื้อไม่ตรงเวลา ไม่ไกลเลยจากความตาย เอื้อมคลำแล้วลุกขึ้น ดึงแง้มประตูออก ความเงียบเกิดขึ้นโดยรอบ ผู้ชายคนนั้นยังคงหายใจสม่ำเสมอ เธอย่องออกออกจากห้องลับ ย่องไปตาทาง ลงไปที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรทาน กลัวว่าปยุตจะตื่นขึ้นมา ดังนั้นจึงค่อย ๆ เคลื่อนไหว ล่องลอยออกไปเหมือนวิญญาณ ลงไปที่ห้องครัวข้างล่าง เปิดตู้เย็นดู พบว่ามันเป็นอาหารดิบแช่แข็งที่เธอไม่สามารถทานได้ มองไปรอบ ๆ เห็นกล่องบะหมี่ เหมือนกับได้สมบัติล้ำค่ามาไว้ในมือ ทำการเทน้ำร้อนและอดทนรอ ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของความอดอยาก สิ่งที่มีความสุขที่สุดไม่มีอะไรดีไปกว่าทานบะหมี่หนึ่งชาม ตอนนี้กลิ่นหอมของบะหมี่กระจายคละคลุ้ง นั่นทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมาก ระหว่างรอกระบวนการที่คุ้นเคย เธอนอนฟุบลงกับโต๊ะ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหน้า ใช้เวลาว่างมายืนมองเธอ เมื่อรู้สึกว่าได้เวลาแล้ว เธอก็หยิบส้อมขึ้นมาแล้วช้อนเส้นเข้าไปในปาก เมื่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก็พบกับความผิดปกติตรงหน้า ทันใดนั้นก็เกิดอาการติดคอ กลืนก็ไม่เข้า คายก็ไม่ออก อับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี... ปยุตเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ทิ้งสายตาไปยังชามบะหมี่ในมือของเธอ ถามอย่างติดตลกว่า “ไม่เลวใช่ไหม รสชาติน่ะ” เธอเคี้ยวมันเหมือนมันเป็นขี้ผึ้งและกลืนมันลงไป พยักหน้าอย่างอับอาย “ก็ดีค่ะ คุณจะลองหน่อยไหม” “คุณคิดว่าผมจะทานของแบบนี้เหรอ” เธอรู้ว่าเขาไม่ทานของแบบนี้หรอก เพราะอย่างนั้น เธอก็แค่ถามตามมารยาท “คุณจะมาดื่มน้ำเหรอคะ” ลุกขึ้นและจะไปเทน้ำให้เขา เขาพูดขึ้นมาอย่างมีความหมาย “ผมมาดูว่าคุณทำอะไร” “เอ่อฉัน” ผลินยิ้มแข็ง “ฉันมาหามื้อเย็นทานน่ะค่ะ” “คุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็น?” “ทานแล้วค่ะ” แต่เมื่อพูดจบท้องก็กลับส่งเสียงร้องขึ้นมา จึงรีบอธิบาย “ทานน้อยไปน่ะค่ะ” “คุณอยากออกไปทานอะไรอร่อย ๆ ข้างนอกไหมล่ะ” ผลินคิดว่าเธอได้ยินผิด แต่ก็ไม่กล้าตอบ และไม่กล้าให้เขาพูดอีกครั้ง ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนคนโง่ ปยุตไม่อยากรอจึงเลิกคิ้วถามอีกครั้ง “จะไปหรือไม่ไป” “คะ? ฉัน...ไปค่ะ” เก็บบะหมี่สำเร็จรูปอย่างรวดเร็วและตามเขาออกไป ในคืนนี้ไม่มืดจนเกินไปที่จะเห็นฝ่ามือตัวเอง เขาเดินนำหน้าเธออยู่ข้างหลัง แสงจันทร์ส่องผ่านคนสองคน เงาสองเงาที่อ้างว้างโดดเดี่ยว บางทีมันอาจเป็นเพราะเวลา ปยุตไม่ได้วางแผนที่จะไปไกล แค่เลือกร้านอาหารใกล้ ๆ บ้าน ร้านอาหารไม่ใหญ่มาก แต่สภาพแวดล้อมดี สะอาดและสวยงาม โคมไฟระย้าสีเหลืองอบอุ่นให้แสงนุ่มนวล สไตล์การตกแต่งของทวีปอเมริกาเหนือ กับเสียงน้ำหยดและเสียงเพลงคลอเคล้า เป็นภาพที่น่าหลงใหล เมื่อเดินเข้าไปภายใน มันไม่เหมือนเป็นร้านอาหาร แต่เหมือนเป็นบ้านอันอบอุ่น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 43 คุณเป็นผู้หญิงของผม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A