ตอนที่ 53 ขุดคุ้ยความลับ
1/
ตอนที่ 53 ขุดคุ้ยความลับ
กำราบความรักของประธาน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 53 ขุดคุ้ยความลับ
ตนที่ 53 ขุดคุ้ยความลับ ยืนอยู่ในล็อบบี้สนามบิน เธอรู้สึกว่ามันช่างยุ่งเหยิง แต่มันก็แค่นั้น ไม่มีประโยชน์กับการต้องรู้สึกยุ่งเหยิงแบบนี้ อย่างไรเสียก็ต้องรอจนกว่าจะเช้า ท้องฟ้าเดียวกัน แต่เมื่อต่างเมืองสภาพอากาศก็แตกต่าง เมือง T ฝนตกหนัก ต่างจากท้องฟ้าในเมือง B ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ชุดาคุยกับเพื่อนอย่างมีความสุขและกลับบ้านมาเมื่อเวลาดึกมากแล้ว ประมาณสองร้อยเมตรจากประตูบ้าน เธอเห็นคนกำลังลับ ๆ ล่อ ๆ ก้าวเดินอย่างคนเมา จึงตะโกนออกไป “ใครน่ะ” คนที่ถูกเธอตะโกนใส่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ฟังเสียงดูก็ได้รู้ว่าเป็นเสียงของผู้ชาย อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเธอเก่งขนาดนั้นเลยหรือ แค่ตะโกนใส่ก็ทำให้ผู้ชายตัวใหญ่ร้องไห้ได้ “เฮ้ นายเป็นใครน่ะ มาทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ที่หน้าประตูบ้านฉัน” เธอผลักเขาอย่างหยาบคาย ชายที่กำลังกุมศีรษะตัวเองหยุดร้องไห้ แอบเหลือบมองเธอแล้วกล่าวว่า “ผม...ผมมาตามหาภรรยาของผม” “ภรรยาของนาย ใครเป็นภรรยาของนายกัน บ้านเราไม่มีภรรยาของนายหรอกนะ” “แต่พี่ชายคนขับรถพาผมมาที่นี่ ตามที่อยู่นี้” ชายหนุ่มรีบหยิบแผ่นกระดาษสีขาวยับยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา มันมีข้อความรายละเอียดของที่อยู่ เป็นที่อยู่ของตระกูลเจริญมาศ “แปลก ใครให้มันกับนาย” “ผมขโมยมาจากห้องหนังสือของคุณพ่อ” “พ่อของนายเป็นใคร” “พ่อผมเป็นเศรษฐีใหม่” อุ๊ปส์... อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เสียเวลาไปตั้งนานกลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนปัญญาอ่อน “น้องชายคนนี้ นายมาผิดที่แล้ว บ้านเราไม่มีภรรยาของนายหรอก นายไปหาที่อื่นเถอะ” ชุดาหันหลังแล้วเดินจากไป แต่ผู้ชายเอื้อมมือของเขามาดึงมือเธอไว้ “คุณโกหก ภรรยาของผมอาศัยอยู่ที่นี่” เธอสะบัดเขาออกไปอย่างหงุดหงิด พูดอย่างนึกรังเกียจ “พวกโรคจิต บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ ถ้ายังไม่ไปฉันจะเรียกตำรวจนะ” ชายหนุ่มเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด หยิบรูปขนาดหกนิ้วออกมาจากกระเป๋าของเขาพลางพึมพำ “ลินลิน ลินลิน เธออยู่ไหน เธอไม่ต้องการธาตรีแล้วเหรอ...” เมื่อชุดาได้ยินเขาพูดว่าลินลิน ก็เอื้อมมือไปคว้ารูปในมือของเขามาดู เมื่อได้เห็นก็ตาแทบถลน “เธอเป็นภรรยานายเหรอ” ธาตรีร้องไห้พลางพลักหน้า “อืม” “นายบอกว่าเธอเป็นภรรยาของนาย” ชุดาไม่อยากจะเชื่อจึงถามออกไปอีกครั้ง “ใช่ เธอเป็นภรรยาที่พ่อซื้อให้ผม” นานนับนาทีที่ชุดาเงียบเป็นเป่าสาก ทำเพียงจ้องไปที่รูป เธอไม่รู้ว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่กับคำพูดของคนปัญญาอ่อน แต่ถ้าไม่เชื่อแล้วรูปนี้คืออะไร ในเมื่อคนในรูปคือผลินที่เป็นหนามในดวงตาของเธอจริง ๆ “นายอยากเจอภรรยาของนายใช่ไหม” “...อืม” แววตาของชุดาเกิดความเจ้าเล่ห์ “งั้นก็ดี ฉันจะพานายไปเจอ” เธอพาธาตรีไปพักยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด แล้วเริ่มสอบถามถึงเหตุและผล ถึงแม้ว่าจะเป็นคนปัญญาอ่อน และคำพูดก็จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่หลังจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยทั่วไปแล้ว ก็สามารถจะเข้าใจได้เจ็ดถึงแปดส่วน “ถ้างั้นจะบอกว่า ลินลินเป็นคนที่พ่อนายใช้เงินซื้อมาให้นายเพื่อเป็นลูกสะใภ้ และแค่รอให้พวกนายโตขึ้น เธอก็จะต้องเป็นคนในครอบครัวของนายน่ะเหรอ” ธาตรีพยักหน้าอย่างคนโง่เง่า “ใช่ ๆ” ชุดากระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น หัวใจก็พลันเต้นแรง “น้องชาย นายมาได้เวลาพอดีเลย รู้อะไรไหม นายกับลินลินเข้ากันดีนะ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเหมาะสมกับเธอไปมากกว่านาย” เกิดความคิดที่จะขุดคุ้ยความลับของผลิน เธอตื่นเต้นดีใจจนอยากจะร้องเพลง ต้องการที่จะลบความอัปยศอดสูที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ “แล้วภรรยาของผมล่ะ คุณไม่ได้จะพาผมมาหาเธอเหรอ” ชุดาเก็บซ่อนรอยยิ้มของตัวเอง “นายไม่ต้องรีบ เธอจะกลับมาจากการเดินทางไปดูงานในวันพรุ่งนี้ นายพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้พี่สาวจะพานายไปหาเธอเองนะ” ธาตรีเกาศีรษะ “งั้นก็ได้” เมื่อชุดากลับมาถึงบ้าน ก็เข้าไปปลุกแม่ที่กำลังหลับอยู่ “แม่คะ ตื่นได้แล้ว ฉันมีเรื่องดี ๆ จะบอกแม่ด้วย” ธินิดาปรือตา “มีอะไรอีกล่ะ ไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะ ฉันง่วงจะตายแล้ว” “ไม่ได้ค่ะ ถ้าไม่ได้พูด คืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับ” เธอเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่ได้พบกับธาตรี เมื่อธินิดาได้ฟังจนจบก็ตาสว่างขึ้นมาทันที “จริงเหรอ” “มันเป็นความจริง แม่ นี่เป็นโอกาสของเราที่จะหันหลังกลับ ถ้าเราเปิดเผยความลับของมันว่าการแต่งานของมันกับคุณปยุตเป็นการแต่งงานที่หลอกลวง ดูซิว่ามันจะมีหน้าอยู่ในตระกูลทรัพยสานได้ไหม!” “แค่รอให้คุณปยุตไล่มันออกไป เราสามารถทำให้มันขายหน้า ถึงตอนนั้นมันก็ไม่ต้องกลับเข้าบ้านของเราอีก เราจะแพร่กระจายเรื่องอื้อฉาวของมัน จนมันไม่มีหน้าที่จะอยู่ในเมือง B” ชุดายิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น แต่ทันใดนั้นธินิดาก็ขมวดคิ้ว “ไม่ได้ แกไม่สามารถเข้าไปที่ตระกูลทรัพยสานแล้วเปิดเผยเรื่องนี้ได้โดยตรงนะ” “ทำไมไม่ได้คะ” “เมื่อผลินแต่งงานกับคุณปยุตแล้วน่ะ ทั้งฉันและพ่อของแกก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ได้ ถ้าแกเปิดเผย ก็ยากที่จะรับประกันว่าคุณปยุตจะไม่ระบายความไม่พอใจใส่เรา ดังนั้นเรื่องนี้ต้องคิดอีกนาน” ชุดารู้สึกว่าแม่พูดถูก ดังนั้นหลังจากที่แม่กับลูกสาวอภิปรายกันอยู่สามชั่วโมง ก็ตัดสินใจขั้นสุดท้าย เรียกเธอออกมา ให้เธอออกมาจากที่นั่นด้วยตัวเอง ผลินเพิ่งบินกลับมาจากเมือง T มายังเมือง B ทันทีที่เครื่องลงก็มีสายโทรเข้ามา “ฮัลโหล?” “อยู่ที่ไหน ออกมาเจอกันหน่อย” “ไม่ว่าง” เธอปฏิเสธอย่างเย็นชา ดูเหมือนชุดาจะคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องปฏิเสธ จึงไม่โกรธและพูดอย่างมั่นใจว่า “เธอต้องมา ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจ” “หึ มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องไปตามนัด” “ยังไม่บอกเหตุผลกับเธอหรอก ถ้ามาก็จะรู้เอง” “แล้วถ้าฉันบอกว่ายังไงก็ไม่ไปล่ะ” “ก็อย่างที่บอกไปว่าเธอจะต้องเสียใจ ฉันจะรอเธอครึ่งชั่วโมง หวังว่าภายในครึ่งชั่วโมงนี้เธอจะเลือกทางที่ฉลาดนะ” ชุดาวางสายไป ผลินเป็นคนฉลาด คิดได้ทันทีว่าเป็นไปได้ที่ธาตรีจะต้องอยู่ที่ตระกูลเจริญมาศ เธอจึงโทรกลับไปทันที “ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ไปตามนัด แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในเมือง B ถ้าอย่างนั้น เราเจอกันตอนสี่โมงเย็นก็แล้วกัน” “เธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ” “ถ้าสงสัยเธอก็สามารถโทรไปที่บ้านของแม่สามีฉันได้ ฉันมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนร่วมชั้นในเมือง T” ชุดาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ก็ดี ฉันจะไปถาม” เธอโทรไปที่คฤหาสน์นภาจริง ๆ คนที่รับโทรศัพท์คือแม่บ้าน เมื่อได้ยินว่าเธอกำลังตามหาคุณนายน้อย ก็บอกตามตรงว่าคุณนายน้อยไม่ได้อยู่ที่นี่ คำตอบเหมือนกันกับผลิน ทางผลินเมื่อวางสายแล้วก็ติดต่อไปที่ทาตฤทันที ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน เธอหาโรงแรมที่พักใกล้สนามบิน อดทนรอคู่สามีภรรยาที่กำลังเดินทางมา แล้วจะไปพร้อมพวกเขา บ่ายสามโมงครึ่ง ผลินได้รับสายจากชุดาอีกครั้ง “กลับมาหรือยัง” “กลับมาแล้ว อยู่ระหว่างทางไปตามนัด” แท็กซี่จอดที่ร้านกาแฟในเมือง เธอเดินเข้าไปอย่างใจเย็น เห็นธาตรีเพียงชั่วครู่ก็เข้าใจทุกอย่าง “ลินลิน ลินลินในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอ ฉันคิดถึงเธอมากนะ” เมื่อธาตรีเห็นเธอก็ลุกขึ้นวิ่งมาหาแล้วเริ่มร้องไห้เหมือนเด็ก เธอผลักเขาออกช้า ๆ แล้วพูดอย่างใจเย็น “ธาตรี เธอซนอีกแล้วนะ ไม่รู้เหรอว่าคุณพ่อกับคุณแม่เป็นห่วงเธอ” เมื่อชุดาเห็นฉากนี้ ริมฝีปากก็ยิ้มอย่างเสียดสี จากนั้นเธอก็กระแอมไอเบา ๆ “เรามาคุยธุระกันก่อนแล้วค่อยไปคร่ำครวญถึงเรื่องราวของความรักดีไหม” “ธุระอะไร” “เธอยังจะไขสือ ผู้ชายคนนั้นเป็นสามีของเธอ ตอนนี้ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว” หึ ผลินหัวเราะเยาะ “เธอนี่จินตนาการได้ล้ำเลิศจริงนะ ใครบอกเธอว่าเขาเป็นสามีฉัน” “เขาเป็นคนพูดเอง” “อยากให้ฉันหาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบไหมว่าเขาเป็นคนปกติหรือเปล่า” ชุดาใบหน้างอง้ำ “บางทีเขาอาจจะมีความผิดปกติทางด้านไอคิว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคำพูดของเขาจะมีปัญหา” “ไอคิวผิดปกติ แล้วคำพูดจะไม่มีปัญหาได้ยังไง หาเรื่องไม่ได้ก็มาจับผิดแบบนี้น่ะเหรอ” “เธอกำลังพยายามที่จะปฏิเสธงั้นเหรอ ถ้ามันไม่ใช่อย่างนั้น แล้วเขารู้จักเธอได้ยังไง ทำไมเขาถึงเรียกเธอว่าภรรยาของเขา” “ฉันไม่ได้บอกว่าฉันไม่รู้จักเขา แค่ไม่ยอมรับว่าเธอพูดถูก เขาเป็นแค่เด็กที่ฉันรู้จักจากพ่อของเขา และเขาอายุน้อยกว่าฉันหนึ่งปี ตามหลักแล้วเป็นน้องของฉัน” “น้องชายเหรอ เธอคิดว่าฉันชุดาคนนี้จะถูกเธอหลอกได้หรือไง ฉันขอเตือนเธอนะ ถ้าเธอยังดื้อด้านเธอไม่ได้ตายดีแน่ ถึงตอนนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” “แล้วเธอต้องการอะไร” ผลินมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ชุดาเคลียร์คอแล้วพูดอย่างจริงจัง “การถอนตัวเป็นวิธีเดียวที่ร่างกายเธอจะครบสามสิบสอง” “ทำไมฉันต้องฟังเธอ” เธอยิ้มเยาะ “เพราะความลับของเธออยู่ในกำมือของฉัน ถึงเธอจะไม่เต็มใจ ก็ต้องทำตามที่ฉันบอกอยู่ดี” “แล้วถ้าฉันไม่ทำตามที่เธอบอกล่ะ ทำไม จะไปที่บ้านของสามีฉันแล้วเปิดเผยฉันงั้นเหรอ” “ใช่” ผลินพูดอย่างไร้อารมณ์ “ฉันไม่เคยบอกเธอเหรอ ว่าเธอมันเป็นคนไม่มีความกล้าและไม่มีหัวคิด เธอคิดว่าจะทำให้ฉันออกไปจากที่นั่นได้งั้นเหรอ คุณปยุตจะอยากเจอเธอหรือไง” “ถึงจะไม่อยากเจอฉัน ฉันก็มีวิธีของตัวเอง แต่ตราบใดที่เธอยังยุ่งอยู่กับเรื่องนี้ สิ่งที่เธอได้รับมาก็จะหายไป” “แล้วเธอไม่คิดว่าเขาจะโกรธตระกูลเจริญมาศงั้นเหรอ เขาเป็นคนยังไง ฉันคิดว่าเธอไม่น่าจะไม่รู้นะ” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับครอบครัวของเรา เราไม่ได้ให้เธอไปแต่งงานกับคนปัญญาอ่อนนะ” ถึงแม้ว่าธาตรีจะเป็นคนปัญญาอ่อน แต่เมื่อถูกเรียกว่าเป็นคนปัญญาอ่อนเขาก็จะไม่พอใจ เขาคำรามใส่ชุดาอย่างฉุนเฉียว “เธอสิปัญญาอ่อน ยายผู้หญิงน่าเกลียด!” หึหึ ผลินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ บางคนก็มีข้อห้ามไม่ให้คนอื่นพูดว่าเธอน่าเกลียด และตอนนี้ใบหน้าก็ได้กลายเป็นสีเขียวไปแล้ว “สรุปว่าเธอจะรับปากหรือไม่รับปาก ฉันไม่มีเวลามาอยู่กับพวกเธอที่นี่ทั้งวันหรอกนะ!” “รับปากอะไร ทำไมฉันต้องรับปากในเรื่องที่ไม่มีเหตุผลนี่ด้วยไม่ทราบ” ชุดาลุกขึ้นยืนอย่างเกรี้ยวกราด “ได้ เธอรอฉันได้เลย” เมื่อเธอเตรียมตัวที่จะออกไป ชายวัยกลางคนอายุสี่หรือห้าสิบปีก็มาถึง ไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ผู้ชายคนนั้นก็ยกมือขึ้นและตบไปที่ธาตรี พูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ไอ้เด็กเหลือของ มีสักวันไหมที่จะไม่ทำให้ฉันต้องกังวล” ชุดารู้สึกเหมือนว่าถูกตบเสียเอง เกิดความมึนงงไปชั่วครู่ “พ่อบุญธรรม คุณตีเขาทำไม” ผลินก้าวเข้าไปปกป้องธาตรี ดวงตาทั้งดูเศร้าและตำหนิ “เธอจะไม่ให้ตีเขาได้ยังไง วันทั้งวันเห็นผู้หญิงคนไหนก็เรียกแต่ว่าเขาเป็นภรรยา ตอนนี้แม้แต่เธอก็ยังเป็นภรรยาของเขา นับวันก็ยิ่งแย่ลง!” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไร” ผลินหันมองผู้หญิงอีกด้านด้วยสายตาเศร้าหมอง “พ่อบุญธรรมฉันจะแนะนำให้คุณรู้จัก นี่ชุดาน้องสาวของฉัน” “โอ้ เป็นน้องสาวของยายลินเหรอ ยินดีที่ได้พบนะ” หัวใจที่เต็มไปด้วยความพยาบาท ถามคำถามอย่างเหยียดหยาม “โอ้ พี่สาว เธอมีพ่อบุญธรรมตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมน้องสาวอย่างฉันถึงไม่เคยรู้เลย” “นานแล้ว ฉันคิดว่าเธออาจไม่สนใจที่จะรู้ ฉันจึงไม่ได้บอกเธอ” เมื่อผลินพูดจบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น หมายเลขที่ปรากฏเป็นเบอร์ของปยุต ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย “ฉันขอตัวไปรับโทรศัพท์นะคะ พวกคุณคุยกันไปก่อน” ปยุตเป็นฝ่ายติดต่อมาหาก่อน การมีสายโทรเข้ามาตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกตระหนก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 53 ขุดคุ้ยความลับ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A