ตอนที่68 ปิดบังความรู้สึกลึกๆในใจ(6)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่68 ปิดบังความรู้สึกลึกๆในใจ(6)
ต๭นที่68 ปิดบังความรู้สึกลึกๆในใจ(6) ”คุณร้องไห้รึ?” ปยุตมองแว๊ปเดียวก็ดูออกว่าเธอมีร่องรอยคราบน้ำตาที่หางตาของเธอ จึงจับหัวไหล่ของเธอไว้แน่นอย่างแปลกใจถามว่า “ใครรังแกคุณ?” ผลินมองที่ปยุตอย่างตื่นตระหนก ใจคิดอยากจะพูดว่า เป็นคุณ เป็นคุณนั้นแหละ นอกจากคุณแล้ว ไม่มีใครเลยที่สามารถทำให้ฉันต้องเจ็บช้ำใจได้ แต่ว่าเธอกลับพูดไม่ออก เพียงแค่ดึงมือของปยุตออกเบาๆ พูดออกมาอย่างอ่อนเพลียว่า ”ฉันเหนื่อยเหลือทน ไม่อยากพูดอะไรขณะนี้” ปยุตเข้ามาอาบนั้ห้องอาบน้ำในภายหลัง พบเสื้อผ้าสกปรกที่ผลินได้ลืมเก็บให้เรียบร้อยทิ้งไว้ในห้องอาน้ำ เพิ่งจะได้รู้ว่าเธอถูก รังแกอะไรมาบ้าง และเขาถึงกับตกตะลึงเมื่อมองไปยังมือที่เปื้อนซอสมะเขือเทศจากเสื้อของเธอ เขาจึงรีบเดินไปที่หน้าประตูห้องนอนลับของผลินในทันที เคาะประตูเสียงดัง ประตูเปิดออกมาเป็นช่อง ผลินสอบถามออกมาทางช่องของประตูว่า “ทำอะไร?” ”เสื้อผ้าของคุณเกิดอะไรขึ้น?” ผลินนิ่งสงบลงสักครู่ พูดออกมาตรงๆว่า “เป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของภรรยาเก่าคุณนั้นแหละ” ”โรสนีสร้างความเดือดร้อนให้กับคุณใช่มั๊ย” ”คุณคิดว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นแหละ” เธอปิดประตู ไม่คิดจะโต้เถียงกับเขาในเรื่องนี้อีก ปยุตยกเสื้อที่อยู่บนมือ ค่อยๆบีบเค้นกันจนเป็นก้อนกลมๆ วันที่สอง เป็นวันที่น่าตกตะลึงประหลาดใจอีกวันหนึ่ง อย่างแรกเมื่อคืนวานผู้ปกครองของนักเรียนหลายคนเดินทางมาที่โรงเรียนเพื่อต่อว่าต่อขานเธอ ไวภพซึ่งเป็นครูใหญ่ คิดหาวิธีพยายามที่จะปลอบใจพวกเขา ยากที่จะปลอบใจให้พวกเขาดีขึ้น และแล้วแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างโรศนีมาอีกแล้ว เธอพูดอย่างคุกคามในห้องธุรการว่า ต้องการพบผลิน ผลินกำลังสอน ชื่นใจวิ่งมาบอกข่าวให้กับผลินในทันที เพื่อให้เธอรีบไปหลบเสียก่อน เธอขมวดคิ้ว และเดินกลับไปห้องธุรการอย่างกล้าหาญ ”คุณคิดจะทำอะไรอีก?” เธอสอบถามด้วยใบหน้าถมึงตึง โรศนีชี้มือไปทางด้านนอก “ออกไปข้างนอก มีเรื่องคุย” ฟังคำพูดของนางว่าต้องการไปด้านนอกคุยธุระ ผลินจึงคลายความวิตกกังวล อย่างน้อยในวันนี้หญิงคนนี้ไม่ได้มาหาเรื่องชวนทะเลาะ ทั้งสองคนเดินตามกันมาถึงข้างสนามกีฬา หลังจากรอจนปลอดคน โรศนีเปิดปากพูดออกมาว่า “เรื่องเมื่อวาน ขอโทษด้วย ยกโทษให้ฉันด้วยนะ” ผลินตกตะลึงจนตาค้าง คิดว่าตาเองหูฝาดไป “ถ้ายังฟังไม่ชัด ฉันจะพูดอีกครั้งก็ได้นะ “เรื่องเมื่อวาน ขอโทษด้วย ยกโทษให้ฉันด้วยนะ เพิ่งผ่านไปแค่คืนเดียว ไฉนเธอจึงเปลี่ยนเป็นคนละคนหน้ามือเป็นหลังมือ ผลินรู้สึกผิดปกติ “โอเค พูดจบหรือยัง? พูดจบแล้วฉันไปก่อนนะ” ”เดี๋ยวก่อน” โรศนีรั้งเธอให้อยู่ก่อน ” เธอยังไม่บอกว่า เธอยกโทษให้ฉันมั๊ย ?” “เพียงเธอไม่มาระรายหาเรื่องแล้ว ฉันยังไงก็ได้ จะยกโทษหรือไม่ยกโทษ” “นั้นไม่ได้ เธอต้องยืนยันให้ฉันรู้ว่าเธอยกโทษให้ฉัน” เหอะ ผลินยิ้มออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าฉันไม่ยกโทษให้เธอล่ะ ?” “อย่างนั้นฉันจะมาหาเธอที่โรงเรียนทุกวัน จนกว่าเธอจะยกโทษให้ฉัน” เธอบ้าไปแล้วจริงๆ อารมณ์เปลี่ยนในวันเดียว ผลินโบกมือปัดอย่างรำคาญพูดว่า “ได้ ฉันยกโทษให้คุณ ต่อไปก็อย่าให้ฉันเห็นอีกก็แล้วกัน” ”ฉัยยังพูดไม่จบ” โรศนีรีบเดินไปฉุดมือเธอที่กลังเดินกลับ ส่งโทรศัพท์มือถือในมือให้ผลินแล้วพูดว่า “โทรศัพท์ไปหาปยุตให้หน่อย บอกกับเขาว่า คุณยกโทษให้ฉันแล้ว” ผลินตกตะลึงยืนนิ่ง “เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา?” “เธออย่ามาทำเสแสร้ง ไม่ใช่เธอที่กลับไปออดอ้อนหยอดคำหวานให้สามีหลงเชื่อ เขาจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมาขู่ฉัน หากไม่ไปขอโทษเธอแล้วล่ะก็ จะทำให้บริษัทของพ่อฉันล้มละลาย” ถึงเวลานี้ผลินถึงได้เข้าใจสาเหตุที่โรศนีมีท่าทางเปลี่ยนไปจากเดิม ที่แท้เป็นปยุตนั้นเองที่คืนความยุติธรรมให้กับเธอ ผลินรับโทรศัพท์มาจากมือโรศนี กดเบอร์โทรศัพท์ไปหาปยุตในทันที ประเดี๋ยวเดียวก็มีคนรับสาย “ฮัลโหล?” “ฉันยกโทษให้เขาแล้วนะ” ผลินพูดห้วนๆเพียงแค่ ห้าคำ จากนั้นนิ่งเงียบ ปยุตพูดต่อว่า “หากเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีกครั้ง คุณต้องบอกผมทันทีนะครับ อย่าโง่อย่างนี้ แอบร้องห่มร้องไห้คนเดียวเงียบๆ” เนื่องด้วยเหตุที่โรศนียังอยู่ ผลินจึงพูดอะไรได้ไม่สะดวกจึงตอบรับเบาๆว่า “โอเค ฉันวางสายแล้วนพค่ะ” “แค่นี้พอใจหรือยังล่ะ” ผลินวางสายโทรศัพท์แล้วหันมาถามกับโรศนี ”อย่าคิดว่าคุณจะเป็นผู้ชนะ ถ้าไม่เป็นเพราะกังวลถึงธุรกิจของครอบครัวฉัน ฉันไม่มีทางยอมศิโรราบให้กับผู้หญิงอย่างคุณ” เพื่อไม่ให้น้อยหน้าผลินตอบกลับอย่างทันควัน “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าฉันไม่อยากจะเห็นหน้าเธออีก ฉันไม่มีทางที่รับคำขอโทษจอมปลอมของเธอหรอกนะ” ”เธอชอบปยุตใช่มั๊ย” โรศนีถามจี้ใจดำผลินอย่างทันทีโดยไม่คิดมาก “ฉันไม่คิดว่าฉันมีความจำเป็นต้องรายงานชืวิตส่วนตัวให้กับเธอนะ” “ชีวิตส่วนตัวของเธอฉันไม่น่าสนใจแม้แต่นิดเดียว มีเพียงจะเตือนสติเธอสักหน่อยว่า “ถ้าหากว่าเธอชอบเขา นั้นเธอก็เตรียมตัวช้ำใจเสียเนิ่นๆเถอะ เพราะว่าปยุตไม่มีทางจะชอบใครหน้าไหนได้อีกแล้วนอกเสียจากจันทรเท่านั้น จันทรคนนี้เธอรู้มั๊ยว่าเป็นใคร?เขาเป็นหญิงสาวที่ปยุตเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืน ฉันเคยถูกปยุตตบหน้าอย่างโกรธเคืองเข้าอย่างจังเพียงเพราะว่าไปเปิดดูอัลบั๊มรูปภาพของนาง ถึงเวลานี้ฉันยังไม่เคยลืมเลือนแววตาที่รักอย่างสุดซึ้งมองดูอัลบั๊มรูป และขณะที่มองฉันด้วยสายตารังเกียจ” “เธอนับได้ว่าเข้าใจในอดีตของเขา” ผลินยิ้มกลบเกลื่อน “แต่ว่าฉันไม่แคร์ ที่ปยุตไม่ลืมเลือนเฝ้าคิดถึงแต่รักครั้งแรก นั้นแสดงว่าเขาเป็นคนที่มีหนักแน่นในความรัก เขาเคยรับปากฉันว่าจะลืมอดีตที่ผ่านมาเพื่อเริ่มต้นใหม่ ฮ่าฮ่าฮ่า—— โรศนีหัวเราะเยาะเย้ยออกมาคำโต “ลืมอดีตที่ผ่านมาเพื่อเริ่มต้นใหม่รึ? ผลินเธอช่างไร้เดียงสาจริงๆ สามปีที่ผ่านมาไม่เคยลืม เพราะว่ามีเธอปรากฏตัวออกมาทำให้เขาลืมไดอย่างนั้นรึ?เธอช่างประเมิณค่าตัวเองมากเกินไปแล้วล่ะ จขอเตือนเธอไว้สักคำว่า อย่าลืมกำพืดของตนเอง ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ มิฉะนั้นคงมีสักวันจะต้องร้องไห้เป็นสายเลือด” เสียงหัวเราะถากถางค่อยๆเลือนหายไป ผลินยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนเวลาผ่านไปนาน สายลมพัดผ่านมา ความโศรกเศร้าของเธอ กลายเป็นดอกแดนดิไลออนที่อ่อนนุ่มเบาบาง ล่องลอยไปตามสายลมลอยไปสถานที่ห่างไกล เลิกงานช่วงบ่าย ปยุตไม่ได้โทรศัพท์บอกกับเธอ เดินทางไปรับผลินด้วยตนเอง สองวันนี้ เกี่ยวกับเสียงเล่าลือของเธอ ได้กระจาบไปทั่วทั้งโรงเรียน แตะละคนก็มีเรื่องเล่าลือเป็นของตนเอง เธอมีสามีรวยและหล่อเหลาเสียด้วยช่างเป็นรักครั้งแรกของเธอ ต้องการทอดทิ้งเธอ เธอพบรักครั้งใหม่กับหัวหน้าใหญ่ภายใต้ความโกรธเคือง และ ความรักครั้งใหม่จึงอดรนทนไม่ได้ที่จะมาถึงโรงเรียนตาต่อตาฟันต่อฟัน ดังนั้นจึงเกิดละครฉากน่าตื่นเต้นการสาดซอสมะเขือเทศ ไวภพมองเห็นปยุตและไม่สบายใจอย่างมาก จึงไม่เข้าไปทักทายกับเขารับเดิน หายตัวไปทันที ผลินเดินเข้ามาหา สอมถามเขาเบาๆว่า “คุณมาได้ยังไง” ”มารับคุณ ไปทานข้าวด้วยกัน” “กลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่ามั๊ย” เธอยังคงไม่มีกะจิตกะใจออกไปทานข้าวกับเขาข้างนอก ดังนั้น จึงไม่ตื่นเต้นอะไรในข้อเสนอของเขาอย่างเห็นได้ชัด “กลับไปกินข้าวที่บ้านไม่มีความหมายอะไร วันนี้จะพาคุณไปกินอาหารที่บ้านไม่มี รีบขึ้นรถเถอะ” เมื่อวานเพื่อร่วมงานหลายต่อหลายคนพูดเรื่องตลก มองเห็นความอ่อนโยนของปยุตที่ทำเพื่อให้ผลินมีรอยยิ้ม อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เห็นสีหน้าของผลิน หึงหวง ริษยา เกลียดชังต่างๆนานา ผลินถอนหายใจจาก ปากที่พูด คำเยาะเย้ยถากถาง ซินเดอเรล่าที่ทำเรื่องที่ผิดมากที่สุดก็คือให้บุตรสาวในครอบครัวที่ยากจนทั้งหลายมีความหวัง ปยุตขับรถยนต์มาถึงร้านอาหารทะเลริมหาด ชี้ไปยังป้ายร้านค้าพูดกับผลินว่า “ดูซิ ผมไม่ได้โกหกคุณ” ผลินยิ้มเจื่อนเจื่อน เขายังจำได้ว่าเธอชื่นชอบกินปูมาก หาได้ยากจริงๆ ทั้งสองคนลงจากรถยนต์ เดินเข้าไปในร้าน เลือกบริเวรที่นั่งติดทะเล ปยุตเรียกบริกรมาสั่งอาหาร “ปูนึ่ง ปูอบ ปูเผา ปูตุ๋น ปูผัด ทุกอย่างมาอย่างละจาน” ผลินมองเขาอย่างประหลาดใจ “สั่งมาเยอะแยะ จะกินกันหมดมั๊ยค่ะ ?” ”กินไม่หมดก็ห่อกลับบ้านไปกินต่อซิ ”ทำอะไร ทารุณไปหรือเปล่า?” ปยุตมองดูเธออย่างอ่อนโยน พูดว่า “ ไม่ใช่ทำทารุณ แต่ต้องหาทางออก คุณนึกถึงคนที่ทำให้คุณเกลียดชังเหล่านั้นเปลี่ยนพวกเขาเป็นปูแต่ละตัว จากนั้นกลืนพวกมันลงไปในท้อง แม้แต่กระดูกก็กินลงไปให้หมด” บริกรเสริฟปูนึ่งมาก่อน จากนั้นก็เสริฟปูน้ำแดง ตามมาด้วยปูเผา แพล๊บเดียวเสริฟมาจนเต็มโต๊ะ ปูต่างๆกองเต็มโต๊ะไปหมด และปูแต่ละอย่างที่วางอยู่ต่อหน้าผลิน หากเปลี่ยนเป็นใบหน้าของปยุตแล้ว อารมณ์ดีบ้าง อารมณ์ไมดีบ้าง โกรธบ้าง วิตกกังวลบ้าง หมุนวนไปๆมาๆตัวแล้วตัวเล่า วนจนเธอตาลาย ”กินกันเถอะ” ปยุตหยิบคีมแกะปูนึ่งอันหนึ่งวางบนชามของเธอ เธอมองดูประเดี๋ยวเดียว คีบแกะเนื้อปูกินเข้าไปในปากอย่างเอร็ดอร่อย แคะแกะปูกลืนลงไปในท้องทั้งเปลือก เปลือกสักชิ้นไม่คายออกมาเลย ”กินชิ้นนั้นเป็นหน้าผมหรือเปล่า” สอบถามตัวบุคคลอย่างฉลาดมาก ผลินไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ และถามกลับไปอย่างเศร้าสร้อยว่า” คุณกำลังเฝ้ารอหรือเปล่า คนนั้นที่รักษาแผลใจให้คุณมาถึง.......” บรรยากาศเริ่มอึมครึมขึ้นทันที ปยุตไม่ได้ตอบกับแต่อย่างใด ผลินพูดขึ้นมาอีกว่า” วันนี้โรศนีเยาะเย้ยฉันว่า ถ้าหากว่าการมีอยู่ของฉัน สามารถมาแทนที่คนที่คุณไม่เคยลืมเลือนมาตลอดเวลาสามปี นั้นคือการไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สักวันจะต้องร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด” ”อย่าฟังคำพูดไร้สาระของนาง” “สิ่งที่นางพูดไม่ใช่เรื่องจริงหรอกรึ? คุณไม่ยอมรับรักฉัน คุณไม่สามารถลืมจันทรได้เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องจริงเหรอค่ะ?” ปยุตถอนหายใจพูดว่า พวกเราเลิกพูดคุยหัวข้อนี้ก่อนได้หรือไม่?” ในใจของผลินโศรกเศร้ามากโศรกเศร้าจริงๆ เธอถอนหายใจ “โอเค คุณไม่อยากคุยนั้นก็ไม่ต้องคุย แต่ว่ามีประโยคนึงที่ฉันต้องการเตือนคุณ อย่ามัวแต่รำลึกถึงแต่ความหลัง เพราะว่าคนคนนั้นไม่แน่ว่าจะคิดถึงคุณเช่นกัน” วันนั้น ผลินกินปูเข้าไปเป็นจำนวนมาก ปูทุกตัวล้วนเป็นเงาของปยุตลอยออกมาทั้งนั้น พริบตาเดียว วันเดดไลน์ที่ชุดามอบให้กับผลินเหลืออีกแค่สามวัน ชุดาได้โทรศัพท์มาเร่งรัดผลินว่า “คิดดีแล้วหรือยัง เมื่อไหร่จะแยกทางซะที?” ผลินหลับตาพูดอย่างขมขื่นว่า “จะรีบไปไหน ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่รึ” ”พูดอย่างนี้ เธอคิดรอบคอบที่จะแยกทางแล้วใช่มั๊ย?” ชุดาชื่นมื่นเป็นยิ่งนัก “ฉับจะแยกทางหรือไม่ ไม่มีประโยชน์กับเอแม่แต่น้อย ดังนั้นอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป มิฉะนั้นตั้งความหวังไว้สูงจะผิดหวังมากนะ” “นั้นเป็นเรื่องของฉัน เธอก็ไม่ต้องกังวล เพียงแค่ขจัดเที่เป็นเสี้ยนหนามตำใจไปได้ ต่อไปฉันชุดาจะได้มีชีวิตอย่างไร้อุปสรรคขวกหนาม ผลินเจ็บช้ำจากที่ปยุตได้ปฎิเสธความรักที่เธอมีให้ จึงไม่มีกะจิตกะใจคิดหาวิธีรับมือกับชุดา มิหนำซ้ำยังไม่มีหนทางที่จะหลบหน้าทาตฤ ทำไมถึงต้องเป็นสองคนนี้ที่เกาะติดตัวเธอไม่ปล่อยเหมือนดั่งเงาปีศาจ 
已经是最新一章了
加载中