ตอนที่ 41 ผู้หญิงไม่ดี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 41 ผู้หญิงไม่ดี
ต๭นที่ 41 ผู้หญิงไม่ดี “ไปมองในกระจกก่อนนะคะ” ผลินยืมสิ่งที่เขาเคยพูดมาใช้ ชายตาอย่างเหยียดหยามพร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นชา “แล้วที่คุณทำหน้าไม่พอใจคืออะไร ผมไปติดหนี้คุณหรือไง” ปยุตเลิกคิ้วและเอ่ยถาม ยังคงรู้สึกตะขิดตะขวงกับท่าทางที่เธอดูถูกเหยียดหยาม นี่มันค่อนข้างน่ารำคาญ เพราะลึก ๆ แล้วเขา หวังว่าเธอจะหึง ยิ่งไม่สนใจคนอื่นมากเท่าไรก็ยิ่งอยากให้คนอื่นสนใจ มันเป็นจิตวิทยาขั้นรุนแรงที่สุดของผู้ชายทั่วไปที่ได้รับบาดเจ็บ “ฉันโกรธเพราะคุณโง่ที่เชื่อในสิ่งที่ชุดาพูด วันหนึ่งถูกขายโดยคนอื่นแถมยังนับเงินให้คนอื่น” ตอนที่ออกมาจากห้องนั้นยังไม่ได้กลับไปโดยทันที แต่ซ่อนอยู่หลังประตูนั่น ดังนั้นจึงได้ยินที่เธอบอกว่ายังไม่ได้ทายาให้เธอเลย “แล้วคุณล่ะ ฉลาดนักหรือไง คุณกล้าพูดไหมว่าไม่ได้ถูกคุณธนวันขายให้บ้านเรา” “ใช่ ฉันถูกขาย แต่ฉันขายได้พันแปดร้อยล้าน ซึ่งสำหรับคุณน่ะ ไม่จําเป็นเลยที่ต้องขายถึงจำนวนตัวเลขเท่านี้” “คุณ...” ใบหน้าของปยุตเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้กล้าที่จะท้าทายเขา ดูเหมือนว่าเมื่อคืนมันจะเบาไปหน่อย เขากำลังจะทำให้เธอได้รู้รสชาติที่แท้จริงอีกครั้ง พลันโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ก้มลงมองหมายเลข เธอรับโทรศัพท์พลางเดินเข้าไปในห้องลับ “สวัสดีค่ะ” สายที่เข้ามาเป็นของธนวัน หัวข้อสนทนาที่แยกออกจากกันไม่ได้ไปตลอดกาลเลยก็คือคำว่าผลประโยชน์ “ยายลิน นี่พ่อนะ” “โทรมาดึกขนาดนี้มีอะไรเหรอคะ” ที่จริงแล้วเธอรู้แก่ใจดี และนั่น เธอเดาได้ถูกต้อง “ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เกี่ยวกับเรื่องการเสนอราคาของบริษัท เจ.เอส. ทรัพยสานน่ะ มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่จะทำให้มีแนวโน้ม ในการชนะการประมูลครั้งนี้” ผลินเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ปฏิเสธ และตอบออกมาแผ่ว “ได้ค่ะ ฉันจะถามให้ แต่แค่ถามนะคะ ไม่รับประกันว่าคุณจะได้คำ ตอบที่ต้องการ คุณปยุตผู้ผู้ชายที่คุณรู้จัก เป็นคนที่แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานชัดเจน” เมื่อได้ยินว่าเธอตกลงก็รู้สึกว่ามีความหวังกับโอกาสมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานหรือส่วนตัว สำหรับภรรยาที่นอนเตียงเดียวกันมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่องปิดบัง “ดี ๆ ต้องไหว้วานเรื่องนี้กับลูกสาวแล้ว ยายลิน แกเป็นลูกสาวที่ดีของพ่อจริง ๆ” คำพูดของเขาช่างน่าขยะแขยง มีทั้งความไม่จริงและไม่รู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเขาไม่ใช่พ่อที่ดีของเธอ ดังนั้นเธอก็ไม่ใช่ลูกสาวที่ดีของเขา ถ้าความรักในครอบครัวสามารถวัดได้ด้วยผลประโยชน์ ถ้าอย่างนั้นระหว่างพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีความรัก ผลินไม่ได้ถามปยุตเรื่องการเสนอราคาจริง ๆ และเธอเชื่อว่าพ่อก็ต้องโทรหาเขาแล้วเหมือนกัน แต่ถูกเขาปฏิเสธดังนั้นแล้วเขาจึงกลับมาหาเธออีกครั้ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเธอจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี แผนของเธอจะเริ่มดำเนินการทีละน้อย ต้องให้เจ็บปวดไปทีละน้อย ให้กับผู้ที่ได้ทำมันไว้ทั้งหมดกับเธอ ในช่วงบ่ายวันศุกร์ไม่มีเรียนเธอจึงกลับบ้านเร็ว เมื่อถึงบ้านก็ตามหาชุดาทันทีพร้อมกับการตำหนิอย่างรุนแรง “มันไม่สำคัญว่า เธอจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน แต่ต้องควบคุมความประพฤติตัวเองให้ดี อย่าคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองแล้วจะทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ” ชุดาไม่ใช่โคมไฟประหยัดเชื้อเพลิงที่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจแบบนี้ ใบหน้าของเธององ้ำ “เธอหมายถึงอะไร ฉันไปทำอะไร” “เธอกล้าพูดไหมล่ะว่าตอนที่เราไม่ได้อยู่บ้านเธอไม่ได้เดินเพ่นพ่านน่ะ” “ฉันเดินเพ่นพ่านแล้วยังไง เธอมาเดือดร้อนอะไร คุณนายท่านให้ฉันคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง แล้วเธอมาเอะอะโวยวายอะไร” “ฉันจะไม่พูดอะไรเลยถ้าเธอแค่เดินเพ่นพ่าน แต่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องของคนอื่น ย้ายของของคนอื่น ทำให้ฉันซึ่งเป็นพี่สาวต้องเสียหน้า ให้คนอื่นเอาไปพูดลับหลังได้ว่าตระกูลเจริญมาศของเราไม่มีการศึกษา!” “ใครพูดอย่างนั้น ฉันเข้าไปในห้องใคร ย้ายของของใคร” ชุดารู้สึกอับอายจนกลายเป็นโทสะ เพราะไม่เคยถูกใส่ร้ายทั้งที่ไม่ได้ทำผิด “มันไม่สำคัญว่าใครจะพูด สิ่งที่สำคัญคือมีคนมาบอกกับฉัน ที่นี่คือสถานที่แบบไหน ที่นี่คือเคหาสน์นภา ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองบี คนรับใช้ที่นี่มีมากกว่าตระกูลเจริญมาศถึงสิบเท่า ด้วยสายตามากมาย เธอคิดว่าเธอจะโกหกแล้วไม่ยอมรับผิดได้อย่างนั้นเหรอ” “ใครเป็นคนบอกเธอให้มันมายืนยันต่อหน้าฉัน มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะยอมรับผิดทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด!” “เธอปากแข็งไปเถอะ ยังไงก็ตามฉันเคยเตือนเธอแล้ว ถ้าหากว่าเธอมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คุณนายท่านจะเป็นคนไล่เธอออกไปเอง ถึงตอนนั้นเธอคงจะสูญเสียท่านไม่ไหว” ชุดาแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด มือเท้าสะเอวแล้ววิ่งไปยังบันได “ฉันจะไปถาม ใครที่มันเลวกล้าพูดจานินทาลับหลัง” “หยุดเดี๋ยวนี้” ผลินพูดอย่างเย็นชา “เธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่งั้นเหรอ ตอนนี้คุณนายท่านยังไม่รู้ แต่ถ้าเธอเอะอะโวยวายแบบนี้ทั้งครอบครัวก็จะรู้ ถึงแม้ว่าแม่สามีของฉันจะมองหน้าเธอ แต่หัวใจรู้สึกไม่พอใจ ไม่มีใครชอบที่จะถูกรบกวนในบ้านของตัวเองโดยคนแปลกหน้า” ประโยคนี้ทำให้ชุดาสงบลง เธอหยุด แต่ก็ไม่สามารถกดเสียงลงได้ “จะให้ฉันต้องทนกับความอยุติธรรมนี้งั้นเหรอ” “ประเด็นคือ ไม่มีใครทำผิดต่อเธอ” “เธอไม่เชื่อฉันเหรอ ฉันเป็นน้องสาวของเธอนะ ฉันสาบานกับพระเจ้าว่าฉันไม่ได้เข้าไปในห้องของใครหรือย้ายของของใครด้วย!” ผลินยิ้มเยาะ “มันสายไปแล้วที่จะมายอมรับว่าเป็นน้องสาวของฉัน จากสิ่งที่ฉันได้รู้เกี่ยวกับเธอก็คือเธอคงไม่ได้รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนอะไรกับความผิดหรอก เธอเป็นคนแบบนั้นไม่ใช่เหรอ” ชุดาใบหน้าดำมืด “ฉันกลัวว่าเธอต่างหากจะเป็นคนที่ใส่ร้ายฉัน ฉันคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีใครเกลียดฉันมากกว่าเธอ” “ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร ยังไงก็ตามมันไร้สาระ เธอจะทำอะไรมันก็ไม่มีความหมาย” “เธอยอมรับแล้วใช่ไหม” ผลินกำลังจะเดินเข้าห้อง แต่ก็ถูกหยุดไว้โดยสายตาที่โกรธเคืองของชุดา “ฉันไม่ยอมรับ มันก็แค่สิ่งที่เธอคิดเองเออเอง” เธอขยับร่างกาย เดินเข้าไปในห้อง ชุดาตามเข้ามาอย่างไม่ลดละเพื่อต้องการให้ยอมรับมัน มันเป็นเธอที่ทำผิดต่อเธอ ผลินรู้สึกรำคาญจึงตะคอกกลับไปด้วยความไม่พอใจ “หยุดกวนฉันได้แล้ว เธอคิดว่าทุกคนไม่มีการมีงานทำว่างทั้งวันเหมือนเธอหรือไง พูดแบบแย่ทีสุดก็คือเธอมันไม่แตกต่างจากขยะเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะใช้เงินของพ่อแม่แล้วก็ไม่สามารถช่วยแบ่งปันความทุกข์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของครอบครัวได้เลย วันทั้งวันเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่เคยทำสิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรทำเลย ปัญหาทั้งหมดที่มีฉันต้องเป็นคนแก้ไขมัน ถ้าฉันไม่ได้ขายตัวเองพ่อก็ไม่ได้เงินไปจ่ายหนี้ธนาคารหรอก ตอนนี้ก็เหมือนกัน พ่อต้องการงานประมูลของบริษัท เจ.เอส.ทรัพยสาน เขาก็มาหาฉัน ทั้งที่ฉันเกิดมาจากนักเต้นแต่ถ้าเทียบกันแล้วฉันดีกว่าเธออีกไม่ใช่หรือไง” ตั้งแต่ชุดาเกิดมาเธอก็เป็นสมบัติล้ำค่าในมือ แต่กลับมาถูกดูถูกว่าเป็นขยะ เธอโกรธจัดจนเหมือนเป็นบ้า ตีโพยตีพาย “อย่าเอาทองป้ายบนใบหน้าของเธอ เธอคิดว่าเธอเป็นผู้ช่วยชีวิตงั้นเหรอ เธอคิดว่าโลกจะไม่หมุนถ้าไม่มีเธอหรือไง เป็นแค่นางจิ้งจอกน้อยที่ถูกสอนโดยนางจิ้งจอกตัวเก่า ถ้าวันนั้นแม่ของฉันไม่ได้ขัดขวางไว้ เธอคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาอยู่ที่นี่กับฉัน ในวันนี้เธอก็ยังเป็นแค่คนต่ำต้อยที่ถูกฉันเหยียบย่ำ...” “ไม่ต้องรู้สึกไม่พอใจ ถ้ามีความสามารถจริงก็แค่แสดงให้ฉันเห็นสักนิดสิ ถ้าเธอสามารถช่วยพ่อได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าอย่างนั้นก็บอกฉันอีกทีสิว่าโลกจะไม่หมุนโดยไม่มีฉัน ไม่อย่างนั้นนั่นคือทั้งหมดที่ฉันคิด ถ้าตระกูลเจริญมาศไม่มีฉันก็ไม่มีทางมีชีวิตอยู่ได้หรอก” การพูดถึงความสำเร็จของผลินทำให้ชุดาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แล้วพูดออกมาโดยไม่คิด “ดี งั้นเธอรอดูเลย ฉันจะทำให้เธอเห็นเอง” “จะรอดู” ผลินยักไหล่และมองดูเวลา แล้วชี้ไปที่ประตู “แต่ตอนนี้เธอต้องออกไปจากที่นี่ เพราะฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า” “ฉันจะรอดู ว่าใครกันจะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย” ชุดามองเธอด้วยความโกรธเกรี้ยว เปิดประตูแล้วเดินออกไป เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วผลินก็ไปที่ห้องข้าง ๆ อีกครั้ง พูดกับผู้หญิงที่ยังโกรธอยู่ข้างใน “ฉันลืมเตือนเธอไปอย่าง ไม่ว่าเธอจะไปห้องไหน ก็ห้ามไปที่ห้องหนังสือของพี่เขยเด็ดขาด เขามีเอกสารสำคัญมากมาย ถ้าเธอกล้าที่จะเข้าไปเหยียบ ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ รวมถึงฉันด้วย” “ไปให้พ้น ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแมวร่ำไห้แก่หนูแสร้งทำเป็นเมตตาสงสารจอมปลอม!” ชุดาบ้าคลั่งขว้างหมอนใส่เธอ จนไปตกอยู่ในมือของผลินพอดี เธอจึงโยนมันกลับไป “ถ้าเธอรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่นี่ ประตูข้างล่างจะเปิดให้เธอตลอดเวลา ออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของเธอได้เลย ไม่มีใครห้าม” ดวงตาที่เย็นชากำลังรับชมการแสดงอย่างชัดเจน ชุดากัดฟันด้วยความเกลียดชัง เธอจะใม่มีวันถูกผู้หญิงคนนี้หลอกเป็นอันขาด คิดว่าเธอไม่รู้หรือไงว่ามันก็แค่การเปลี่ยนวิธีที่จะไล่เธอออกไปจากที่นี่ เสียงของรองเท้าส้นสูงดังอย่างต่อเนื่อง เธอเริ่มเดินไปเดินมาในห้อง ครู่หนึ่งเธอมีความคิดที่อยากออกไปจากสถานที่บ้า ๆ นี่จริง ๆ แต่ก็ไม่สามารถกลืนลมหายใจชั่วร้ายของเธอได้ อีกอย่างเธอก็ได้สาบานไว้แล้ว ถ้าเดินจากไปแบบนี้ มันก็จะทำให้ต้องถูกนางจิ้งจอกน้อยดูถูกมากขึ้น ไม่ เธอจะไม่เป็นเต่าหัวหด ทุกคนในโลกนี้หัวเราะเยาะเธอได้ แต่ผลินไม่ได้ ถ้าหากเธอต้องแพ้ให้กับคนที่ถูกเธอเหยียบย่ำ เธอยอมตายเสียดีกว่า แล้วตอนนี้ล่ะ จะไปขอร้องปยุตยอย่างไรดี เขาเย็นชากับเธอ เธอไม่มีความมั่นใจเลยจริง ๆ ว่าปยุตจะฟังคำขอร้องของเธอและให้โอกาสเธอพิสูจน์ตัวเอง ภายนอกหน้าต่างมืดแล้ว ชุดากังวลจนผมจะกลายเป็นสีขาว คนรับใช้ขึ้นมาเรียกเธอลงไปทานอาหาร เธอปฏิเสธไปด้วยข้ออ้างว่าไม่ค่อยสบาย สอบถามเกี่ยวกับว่าพี่สาวและพี่เขยกลับมาหรือยัง คนรับใช้ก็ตอบว่ายัง เมื่อคิดถึงคำเตือนของผลินก่อนที่จะออกไป ว่าอย่าก้าวเข้าไปในห้องหนังสือของปยุต ก็มีความคิดขึ้นมาว่าบางทีอาจจะมีสิ่งที่เธอต้องการอยู่ในห้องหนังสือแห่งนั้น เมื่อตัดสินใจแล้ว เธอจึงแอบเข้าไปในห้องหนังสือที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนหน้านั้นเธอยังไม่เคยก้าวเข้าไปในห้องใด ๆ เลย ในห้องหนังสือนั้นมืดมากจนไม่เห็นแม้แต่นิ้วทั้งห้า เธอเงอะงะอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะหาสวิตช์เจอแล้วกดเปิดมัน ไม่มีเวลามากนักที่จะมองไปรอบ ๆ รีบเริ่มมองหาเอกสารที่เกี่ยวกับการประมูลทันที สวรรค์ย่อมตอบแทนคนที่ตั้งใจจริง เมื่อในเวลาที่เธอหมดหวังที่จะหา เวลานั้นเธอก็พบมันที่ในลิ้นชักกลางโต๊ะ แผนการประมูลถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
已经是最新一章了
加载中