ตอนที่ 42 กับดัก
1/
ตอนที่ 42 กับดัก
กำราบความรักของประธาน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 42 กับดัก
ตนที่ 42 กับดัก ชุดาออกมาจากห้องหนังสือด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกที่เคยมืดมนก่อนหน้านี้จู่ ๆ มันก็กลับชัดเจน กลับไปที่ห้องพักแล้วล็อกประตูทันที แทบรอไม่ไหวที่จะโทรหาพ่อ “ฮัลโหล พ่อคะ ฉันมีข่าวดีมาบอกพ่อค่ะ” “ข่าวดีอะไร” ธนวันไม่ได้สนใจ กับลูกสาวที่รักของเขาคนนี้ ตราบใดที่เธอไม่สร้างปัญหา เขาก็จะขอบคุณพระเจ้ามากแล้ว กับข่าวดีอะไรที่ว่า คงไม่กล้าที่จะคาดหวัง “พ่อต้องการรู้เกี่ยวกับรายละเอียดแผนการประมูลครั้งนี้ใช่ไหมคะ” “ใช่แล้ว แกรู้ได้ยังไง” “ฉันฟังมาจากที่ผลินพูดน่ะค่ะ” เมื่อได้ยินชื่อของลูกสาวคนโต ธนวันก็ตื่นตัวขึ้นมาทันทีทันใด “พี่สาวของแกถามกับพี่เขยแล้วพี่เขยบอกกับเธอเหรอ” ชุดาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เธอไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกค่ะ เธออยากให้เราล้มละลายต่างหาก” “นี่ช่างเป็นข่าวดี มันทำให้พ่อตื่นเต้นจริง ๆ” น้ำเสียงของธนวันไม่สามารถซ่อนความผิดหวังเอาไว้ได้ “พ่อคะ นอกจากผลินพ่อไม่คิดถึงฉันบ้างเลยหรือไง พ่อไม่คิดเลยเหรอว่าสิ่งที่เธอทำได้ฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน และสิ่งที่เธอทำไม่ได้ มันจะเป็นไปไม่ได้เหรอว่าฉันจะทำมันได้น่ะ” คนพ่อรู้สึกประหลาดใจ “อะไรคือทำได้ทำไม่ได้ ฟังแล้วเวียนหัว” “ฉันจะบอกคุณตรง ๆ การประมูลของบริษัทพี่เขยในครั้งนี้ คือวันที่ 13 กรกฎาคม ที่พิพิธภัณฑ์เวิ่นฟง เป็นการประมูลการกุศลเพื่อเลือกพันธมิตร ซึ่งหมายความว่าใครที่เสนอราคาประมูลสินค้าได้สูงสุดในพิพิธภัณฑ์เวิ่นฟงวันนั้น จะได้รับสิทธิ์ก่อสร้างในโครงการครั้งนี้” ชุดาพูดรวดเดียวด้วยหนึ่งลมหายใจ จากนั้นโทรศัพท์ก็เงียบไปนาน เธอคิดว่าพ่อของเธอไม่ได้ยินคำถาม จึงเอ่ยถามด้วยความที่ไม่แน่ใจ “พ่อคะ พ่อได้ยินฉันไหม” “ได้ยินแล้ว แต่ว่าแกได้ข่าวมาจากไหน” ธนวันภามคำถามอย่างแปลกใจ แหล่งข้อมูลนี้สำคัญมาก แล้วลูกสาวไปรู้มาได้อย่างไร “พ่อไม่เชื่อฉันเหรอ” ชุดาเกิดความไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้คำชมจากผู้เป็นพ่อ “ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย พ่อต้องยืนยันว่าแหล่งข้อมูลนี้เป็นจริงหรือไม่ มิฉะนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินได้” “ฉันเห็นมันในห้องหนังสือของพี่เขยค่ะ เป็นแผนการประมูลของจริง” ….. ธนวันถามอีกไม่กี่คำถามก่อนที่จะวางสายไป เมื่อลองคิดทบทวนดูแล้วมันเป็นไปไม่ได้ เวลานี้บริษัท เจ.เอส.ทรัพยสานต้องการสร้างโรงเรียนประถมแห่งความหวัง ซึ่งนั่นเป็นโครงการการกุศล ดังนั้นมันจึงเป็นความลับ กลัวว่าการแข่งขันการประมูลในวันนั้นจะไม่มีผู้ชนะหรือแพ้ ต้องยอมรับว่าลูกเขยเป็นคนฉลาดมากที่ใช้วิธีนี้ในการประมูล มันเป็นประวัติการณ์ ในสมัยโบราณ เนื้อส่วนชั้นไขมันจะตกอยู่ในมือของผู้ที่มีจิตกุศล ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวนำเรื่องนี้มาบอกเขาโดยบังเอิญ เขาก็คงไม่ได้รับโอกาสในโครงการนี้จริง ๆ แต่เดิมพระโพธิสัตว์นั้นไม่มีชีวิต ตามธรรมชาติแล้วคนเราจะไม่ทิ้งเงินลงไปในที่ซึ่งไร้ความหมาย หลังจากคิดทบทวนทั้งคืน ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะต่อสู้ ในตลาดที่โหดร้าย ถ้าทิ้งสิ่งเล็กน้อยไม่ลง ก็ไม่สามารถจับหมาป่าได้ ถ้าได้โครงการนี้มาอยู่ในมือ แน่นอนว่ากำไรนั่นมันต้องเกินกว่าจินตนาการได้ และที่สำคัญที่สุดคือได้ร่วมธุรกิจกับบริษัท เจ.เอส.ทรัพยสาน หลังจากนี้เงินทองก็มีแต่จะไหลมาเทมา เช้าตรู่ที่สดใสของวันที่ 13 กรกฎาคม ธนวันมาที่พิพิธภัณฑ์เวิ่นฟงด้วยความตื่นเต้น คิดว่าตัวเองมาเร็วแล้ว แต่เมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ กลับเพิ่งรู้ว่ามีคนมากันเยอะแล้ว ยกเว้นคนที่อยู่ในวงการเดียวกัน คนอื่น ๆ ก็เป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่รู้จัก ดูเหมือนว่าจะมีคู่แข่งไม่มากนัก เขาหาที่นั่งของเขาและนั่งลง เต็มไปด้วยความมั่นใจ การประมูลเริ่มต้นขึ้นในเวลาเก้าโมงเช้า มันเป็นแค่วัตถุโบราณธรรมดา การเสนอราคามีอย่างต่อเนื่อง ธนวันจำเป็นต้องชนะ จึงต้องติดตามอย่างกระชั้นชิด “หนึ่งล้าน” “หนึ่งล้านห้าแสน” “สองล้าน” ….. “สี่ล้าน” “สี่ล้านห้าแสน” ราคาประมูลพุ่งไปถึงหกล้าน โดยทั่วไปแล้วก็ไม่มีใครตาม แต่มีคนหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ ซึ่งเป็นคนที่เขาไม่รู้จักและแน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อนร่วมวงการ แต่ผู้ชายคนนั้นก็เหมือนเช่นเขา มีความปรารถนาในการประมูล “แปดล้าน” เขาจ้องมองไปทางชายวัยกลางคนตรงมุมนั้นด้วยความประหลาดใจ อะไรคือจุดเริ่มต้นที่มาปล้นเขา นั่นมันก็แค่วัตถุโบราณที่แตกหัก มันคุ้มค่าราคาขนาดนี้อย่างนั้นเหรอ ถ้ามันไม่ใช่เพื่อการได้งานประมูลก่อสร้างของบริษัท เจ.เอส.ทรัพยสาน เขาก็ไม่ได้ต้องการมัน “แปดล้านครั้งที่หนึ่ง” “แปดล้านครั้งที่สอง” ฝ่ามือของเขาเริ่มมีเหงื่อออกอย่างหงุดหงิด ถ้าตามต่อไปแม้ว่าจะได้รับสิทธิในการก่อสร้างของโครงการนี้ก็ไม่แน่ว่าจะได้กำไรมากขนาดนั้น เกิดการต่อสู้ภายในจิตใจ ในที่สุดก็ตาม “สิบล้าน” ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตามต่ออีกแล้ว ดังนั้นจึงถือว่าเขาประสบความสำเร็จในการประมูลที่ราคาสิบล้าน และเมื่อเขามาถึงบริษัทของลูกเขยกับวัตถุโบราณ ก็ได้รู้ข่าวสารที่เป็นดั่งฟ้าผ่า ปยุตจ้องเครื่องปั้นดินเผาทองเหลืองเก่าที่เขาวางไว้บนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “นี่มันเพื่ออะไรครับ” “นี่ไม่ใช่เงื่อนไขในการชนะประมูลเหรอ” “เงื่อนไขในการชนะประมูล?” ปยุตขมวดคิ้ว “หมายถึงอะไรครับ” ธนวันตกใจมากและรีบพูด “ไม่ใช่ว่าถ้าชนะการประมูลที่พิพิธภัณฑ์เวิ่นฟงวันนี้ก็จะได้รับสิทธิ์ก่อสร้างกับบริษัทของคุณหรอกเหรอ” “ใครบอกครับ มันไม่มีอะไรแบบนั้นนะ” “เป็นไปไม่ได้” ธนวันเริ่มอยู่ไม่สุข “ลูกเขย คุณอย่ามากลับกลอกแบบนี้นะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินที่ไม่มากนัก แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กเช่นเรา มันเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย!” ปยุตมีสีหน้าไม่พอใจ “อะไรคือสิ่งที่พ่อตาพูดเหรอครับ ผมกลับกลอกอะไร ไหนคุณเอาหลักฐานออกมาดู” พ่อสามีเห็นเขาไม่ยอมรับและต้องการให้เขาเอาหลักฐานออกมา จู่ ๆ ก็รีบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา และโทรหาลูกสาวคนเล็กให้เธอมาทันที ทันทีที่ชุดาได้รับโทรศัพท์ ก็มีก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ เปลือกตากระตุกไม่หยุด ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ได้บอกรายละเอียดทางโทรศัพท์ แต่สัญชาตญาณก็บอกว่าต้องไม่ใช่เรื่องดี อย่างที่คาด ทันทีที่เธอปรากฏตัวที่ห้องของประธานบริษัท พ่อก็พูดด้วยใบหน้าถมึงทึง “ชุดา ตอนนี้พี่เขยของแกไม่ยอมรับว่าถ้าชนะการประมูลวัตถุโบราณในพิพิธภัณฑ์เวิ่นฟงก็จะได้รับสิทธิ์งานก่อสร้าง ตอนนี้ต่อหน้าเขา แกพูดความจริงมา แกได้เห็นแผนการประมูลด้วยตาของตัวแกเองใช่ไหม” “ใช่ค่ะ ฉันเห็นมันด้วยตาของฉันเอง พี่เขย คุณทำได้ยังไง...” “คุณเห็นมันที่ไหน สามารถเอามันออกมาแสดงให้ผมดูได้หรือเปล่า” “ในลิ้นชักกลางที่ห้องหนังสือของคุณ ถ้าคุณบอกว่าไม่ได้เอามันไป งั้นเราก็กลับบ้านไปดูด้วยกัน” เพื่อที่จะให้พ่อกับลูกสาวคู่นี้ตายลงโดยสมบูรณ์ ปยุตอดทนและกลับบ้านไปกับพวกเขา ขึ้นไปข้างบน ทั้งสามคนเข้าไปในห้องหนังสือด้วยกัน แต่เมื่อเปิดลิ้นชักกลับไม่พบอะไรเลย หลักฐานหายไปแล้ว “แปลกจัง ฉันเห็นมันอยู่ที่นี่เมื่อสองวันก่อนนี่!” ชุดาหน้าบึ้ง “พี่เขย คุณเอามันไปใช่ไหม” “กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องพูดแบบนี้ ผมไม่ได้เอาเอกสารแผนการประมูลมาไว้ที่นี่ ผลสรุปของเงื่อนไขวิธีการการเสนอราคาสำหรับโครงการนี้ยังอยู่ภายใต้การพิจารณา ถ้าคุณไม่เชื่อสามารถไปขอคำยืนยันกับผู้บริหารบริษัทของเราได้” “แล้วที่ผมถามคุณก่อนหน้านี้ ทำไมคุณถึงไม่พูดอะไรสักคำเลยล่ะ” ใบหน้าของธนวันเป็นสีเทา ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังคงต่อสู้กับความตาย “มันยังไม่มีอะไรที่แน่นอนครับ คุณถามผม แล้วผมจะตอบคุณยังไง” บรรยากาศภายในห้องตอนนี้ไม่สามารถบรรยายได้ หลังจากผ่านไปครึ่งวันกับความโง่เขลาของชุดา ทันใดนั้นก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คำรามด้วยความโกรธ “เป็นเธอ มันต้องเป็นเธอ!” เธอคว้าจับแขนพ่อของเธอ “พ่อ มันต้องเป็นผลิน ต้องเป็นกับดักที่เธอใส่ร้ายเรา ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่ปล่อยเธอ!” “หยุดเดี๋ยวนี้” ปยุตตวาดเสียงดัง “เมื่อไหร่คุณจะพอ คุณคิดว่าที่นี่เป็นที่ไหน ผมยังไม่ได้ถามเลยว่าทำไมคุณถึงเข้ามาในห้องหนังสือของผม ค้นของของผม แล้วคุณยังจะมีปัญหากับภรรยาของผมอีก เธอไม่ใช่พี่สาวของคุณหรือไง ทำไมคุณถึงดูถูกทุกคน พี่สาวของคุณเป็นเพียงครูธรรมดา เธอไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับธุรกิจ แล้วเธอจะสามารถทำให้คุณติดกับดักได้งั้นเหรอ” หลังจากตำหนิแล้วก็หันไปทางธนวันแล้วเอ่ยขึ้น “พ่อตาครับ ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะสอนลูกสอนแบบนี้ น่าผิดหวังจริง ๆ” “พ่อ ฉันเห็นเอกสารนั่นจริง ๆ นะ พ่อเชื่อฉันสิ ฉันเห็นมันจริง ๆ...” เพี๊ยะ! คลื่นสุดท้ายของความอดทนกลายเป็นการตบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำร้ายลูกสาวของเขา ไม่ใช่แค่เพราะความอับอายแต่มันบวกกับสิบล้านของความเศร้าโศกด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้อยากที่จะตีลูกอันเป็นดวงใจ ชุดากุมที่แก้มขวาด้วยความตกใจ น้ำตาแห่งความอับอายไหลออกมาจากดวงตา เธอก้าวขาและวิ่งออกไปจากห้องหนังสือ รีบเก็บกระเป๋าด้วยความโกรธและเสียใจ ร้องไห้กลับบ้านอย่างขมขื่น ในสถานที่ของตัวเอง เห็นแม่ที่รักเธอ ความรู้สึกหดหู่ก็ระเบิดออกมาทันที ร้องไห้จนขาดสติ ตะโกนฟูมฟายอย่างไม่มีหน้าที่จะมีชีวิตอยู่... หลังจากที่ผลินได้รับสายจากพ่อก็ตรงไปที่บ้านแม่ ยังไม่ได้เข้าบ้านก็พลันได้ยินเสียงคนร้องไห้ เธอหายใจเข้าลึก ๆ และก้าวเข้าไปอย่างใจเย็น เมื่อศัตรูได้พบกัน ก็ตาแดงเป็นพิเศษ ธินิดาวิ่งออกมาตรงหน้าเธออย่างขาดสติ และผลักเธออย่างแรง คำรามออกมาด้วยความโกรธ “นังสารเลวไร้ยางอาย กล้าดียังไงมาปรากฏตัวต่อหน้า ที่ลูกฉันต้องกลับมาแบบนี้มันยังไม่แย่พออีกเหรอ” ทรงตัวและก้าวเดิน เอ่ยถามขึ้นอย่างไร้เดียงสา “ฉันทำอะไรกับเธองั้นเหรอคะ” ธนวันลุกขึ้นมา สีหน้าเศร้าหมองบอกเล่าเรื่องราว สุดท้ายก็ถามอย่างมีความหมาย “ยายลิน บอกพ่อมาตามตรง แกเป็นคนทำมันทั้งหมดนี้ใช่ไหม” “ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่คุณจะเชื่อไหมคะ” เธอหัวเราะกับตัวเอง “ไม่เชื่อใช่ไหมคะ คุณไม่เชื่อทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นเพียงแค่การคาดเดา” “พูดอะไร ใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ถ้าแกไม่ใช่คนทำ ก็ไม่มีใครจะเอาผิดแก” “ก็ดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกตามตรง ไม่ใช่” “เธอโกหก” ชุดาคำรามอย่างประสาทเสีย “มันเป็นกับดักที่เธอตั้งใจทำไว้ ฉันมันโง่เองที่กระโดดเข้าไป!” “เธอมีหลักฐานมาพิสูจน์เหรอว่ามันเป็นกับดักของฉัน” “ถ้าเธอไม่แนะนำว่ามีเอกสารสำคัญในห้องหนังสือ ฉันก็จะไม่เข้าไปที่นั่นแน่นอน เธอกล้าพูดไหมล่ะว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้ายน่ะ!” “เธอทำตัวตามสบายเกินไป ฉันเตือนเธอแล้วว่าอย่าเข้าไปในห้องของคนอื่นและย้ายสิ่งของของคนอื่น แต่เธอไม่ฟัง พอมีเรื่องเกิดขึ้นมาก็มาโทษฉัน” เธอหยุดสักครู่และมองไปรอบ ๆ “ฉันเป็นแค่คนที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพวกคุณ อยู่ในกำมือแบบนี้คิดว่าจะทำอะไรพวกคุณได้ บอกว่าฉันวางกับดักกับเธอ ชุดา เธอยกย่องฉันเกินไปแล้ว”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 42 กับดัก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A