ตอนที่70 ความสุข(1)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่70 ความสุข(1)
ต๭นที่70 ความสุข(1) ผลินจ้องมองไปที่ปยุต สูดหายใจเฝ้ารอคำตอบของปยุต ปยุตและผลินจ้องตากันครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆละสายตาออกจากกัน เธอยิ้มกับตัวเองอย่างอดไม่ได้ เธอกำลังเดินทางไปหย่ากับเขาแล้ว ยังจะมาคาดหวังอะไรอีก ผ่านความฝันในวัยเยาว์มานานแล้ว กลับทำไมยังทำตัวเหมือนเด็กฝันลมๆแล้งๆ ใช้ชีวิตบนความฝันยากที่จะถอนตัวได้ ขระที่จิตใจกำลังสับสน เดินทางมาถึงสำนักงานอำเภอ ปยุตนั่งอยู่บนรถยนต์ไม่ขัยบไปไหน ผลินเปิดประตูลงจากออกไปก่อนพูดว่า ”ไม่ลงจากรถยนต์หรือค่ะ” เธอเคาะกระจกด้านนอกเตือน ปยุตก็ยังไม่ลงจากรถยนต์ กลับกล่าวขอโทษเขาพูดว่า “ ผมขอโทษ ผมลืมนำบัตรประชาชนมาครับ” ”คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ค่ะ” ผลินขมวดคิ้วพูดว่า “ไม่ได้ กลับไปเอามา ฉันจะรอเธออยู่ที่นี่” “อีกสักครู่ผมมีประชุม เกรงว่าจะกลับมาไม่ทัน อย่างนี้ดีมั๊ย พวกเราพรุ้งนี้มาอีกครั้งนะ” ”ไม่ได้ วันนี้จำเป็นต้องทำเรื่องนี้ให้ได้” ”ผลินยื่นมือออกมาพูดว่า “เอามาให้ฉัน” ”อะไร?” “กระเปาเงิน” ผลินรู้ดีว่าบัตรประชาชนของเขาอยู่ในกระเป๋าเงิน ปยุตหยิบกระเป๋าเงินออกมาจากเสื้อสูทอย่างใจเย็น มอบให้กับเธอ ผลินเปิดกระเป๋าเงินของปยุตดูแล้วพลิกไปพลิกมาหลายรอบ ยังไม่พบบัตรประชาชนของเขา “ปกติคุณจะใส่บัตรประชาชนไว้ในกระเป๋าเงินไม่ใช่หรือค่ะ” “เมื่อตอนเช้า ชนัยเอาไปถ่ายเอกสาร เหมือนว่าจะลืมนำมาคืนให้กับผม” เธอมองค้อนควักใส่ “นั้นคุณโทรศัพท์ไปให้เขานำมาให้ที่นี่ พรุ้งนี้เป็นวันชาติจีน ถึงเวลานั้นเป็นวันหยุดพวกเราจะให้ใครจัดการให้ค่ะ” ”ไม่มีใครทำให้ก็ไม่ต้องทำ” ผลินตกตะลึง รีบเตือนกับตนเองว่า อย่าคิดหมกมุ่น “ ไม่ได้ทำจะทำอย่างไร ฉันไปปารีสสองปีเต็มๆ บางทีอาจจะไม่กลับมาด้วยซ้ำ” ”นั้นรอเธอกลับมาค่อยทำแล้วกัน” ”ถ้าฉันไม่กลับมาเลยล่ะ?” ปยุตยักไหล่ตอบ “ไม่กลับก็ไม่เป็นไร เราสองคนแยกทางกันเป็นเวลานาน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ความสัมพันธ์ของการแต่งงานก็จะปลดไปโดยอัตโนมัติ” “ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนี้ ผมไม่คิดจะผัดวันประกันพรุ่งกับคุณซะหน่อย” “ไม่คิดจะหน่วงเหนี่ยวฉันไว้ หรือว่า กลัวที่จะหน่วงเหนี่ยวตัวเองไว้หนะซิ” “มีอะไรต่างกันรึ ถึงแม้จะหน่วงเหนี่ยวคุณไว้ก็ดี หรือว่า ผมหน่วงเหนี่ยวตัวเองก็ดี ความเกี่ยวข้องแบบนี้จำเป็นต้องเอาออกไปให้ได้” “หากดูตามสถานะภาพของพ่อแม่ผมแล้ว เราสองคนคงความสัมพันธ์ไว่อย่างนี้ก่อนเถอะ หย่ากันสักวันหนึ่ง พวกท่านจะต้องล่วงรู้แน่นอน” เขาชี้นิ้วไปที่ประตูสำนักงานอำเภอพูดว่า “ด้านในไม่มีใครไม่รู้จักผม ติดต่องานกันหลายต่อหลายครั้ง ที่สำคัญที่สุด ยังมีคนหนึ่งเป็นเพื่อนกับพ่อของผม ผมหย่าอยู่ที่นี่ พวกเขารีบที่จะไปรายงานพ่อของผมทันที ผมคิดว่าหลังจากที่พ่อของผมพวกท่านรับรู้ข่าวนี้แล้ว คุณจะสามารถไปปารีสได้อีกเหรอ” ผลินสงบนิ่งลง คำพูดของเขาทำให้เธอลังเลใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดหวัง คิดว่าการที่เขาหน่วงเหนี่ยวการหย่าร้างในแต่ละครั้ง มีความรู้สึกหวงแหนเธอ ความจริง เพียงแต่เพื่อหลบซ่อนจากสายตาคนอื่น เกรงว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเขารู้แล้ว จะไม่ยอมฟังเหตุผลและไม่ให้อภัย” ”โอเค ตามใจคุณแล้วกัน” เธอถอนหายใจคำโต เดินหันหลังกลับมาในรถยนต์ ระหว่างเส้นทางกลับ ทั้งสองคนไม่พูดจากันสักคำ แต่ละคนก็คิดไปต่างๆนาๆ ผลินคิดถึงเวลาที่เธอสิ้งหวังกับความรู้สึกเย็นชาที่ปยุตมอบให้ เธอกลับมองข้ามจุดสำคัญข้อนี้ไป ปยุตไม่ใช่เป็นลูกชายที่กลัวพ่อแม่ตั้งแต่ไหนแต่ไร งานแต่งงานทุกครั้ง ขณะที่แต่งงานพ่อแม่ของเขาล้วนตั้งหน้าตั้งตารอ และเมื่อถึงเวลาหย่า ไม่ว่าพวกเขาจะห้ามปรามอย่างไร ปยุตก็จะดื้อดึงตัดสินใจลำพังรีบหย่าทันที ไม่เคยที่ลังเลแต่อย่างใด แต่เป็นผลินแล้ว เขากลับลังเลใจ ความจริงในในของเขาลังเลและสับสน เห็นได้ชัดว่าเขารักจันทรมาก แต่ว่าเมื่อรู้ว่าผลินจะต้องจากไปแล้ว เขาจึงรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก “คุณจะกลับเข้าบริษัทมั๊ยค่ะ ถ้าหากว่ากลับไปบริษัท ปล่อยฉันไว้ตรงทางแยกข้างหน้าก็ได้ค่ะ ฉันจะไปตลาดนัดซื้อกับข้าวสักหน่อยค่ะ” “เรื่องเหล่านี้คนรับใช้พวกเขาทำได้ คุณไม่จำเป็นต้องทำหรอก” ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคิดที่จะทำข้าวเย็นให้ทุกคนทานค่ะ อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำค่ะ สีหน้าของปยุตนิ่งขรึมลงพูดว่า “พวกเขาอาจจะไม่เห็นด้วย ปล่อยให้เธอไปไกลขนาดนั้น” ”นั้นคุณต้องช่วยฉันหาวิธีแล้วล่ะ ฉันมั่นใจว่าคุณสามารถพูดโน้มน้าวเขาได้” ผลินหยุดพูดปีบนึง “นอกเสียจากว่า คุณจะไม่ต้องการให้ฉันไป” ปยุตขับรถยนต์ไปจอดที่บริเวณปากทางแยก ผลินลงจากรถยนต์ หันหลังกลับมาพูดเตือนว่า “คืนนี้รีบกลับนะค่ะ กลับมาชิมฝีมือการทำอาหารของฉัน มิฉะนั้นต่อไปจะไม่มีโอกาสแล้วนะค่ะ” เธอพูดจบก็เดินไปโดยไม่หันหลังกลับอีกเลย ด้านหน้าเป็นสี่แยก ขณะที่ไฟแดงขึ้น เธอจึงหยุดเดินยืนอยู่กลางถนน เบื้องหลังแสดงถึงความมุ่งมั่นเพื่อมอบความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับปยุต ผลินจัดเตรียมอาหารค่ำอันหรูหราไว้เต็มโต๊ะจริงๆ นายหญิงคุณท่านเวทน ยังไม่รู้เรื่องภรรยาของครอบครัวนี้จะต้องจากไป ร้องเสียงดังอย่างระรื่น “ช่างเป็นหญิงสาวที่ดีจริงๆ ไม่รู้ว่ามาเลือกลูกชายหน้าโง่ของครอบครัวเราได้อย่างไร” ทุ่มตรงพอดี ทุกคนในครอบครัวล้วนกลับมากันครบถ้วน ผลินเปิดไวน์แดงหนึ่งขวด พร้อมรินใส่แก้วให้ทุกคน หลังจากนั้นยกแก้วขึ้นมาพูดว่า “ หนูขอดื่มไวน์แก้วนี้ให้กับทุกคน จากนั้นจะบอกข่าวดีให้กับทุกคน” ”น้องสะใภ้ เธอมีน้องแล้วเหรอ” พี่สะใภ้สอบถามตรงไปตรงมา นายท่านเวทนและภรรยา ยิ้มรับออกมาทันที ผลินส่ายหัวอย่างอึดอัด “ไม่ใช่ค่ะ หนูได้รับโควตาทุนศึกษาต่อที่ต่างประเทศค่ะ” ก่อนหน้านี้เมื่อครู่ ทุกคนแย้มยิ้มกันอย่างมีความสุข จากนั้นหลังจากที่ผลินบอกข่าวดี แต่ละคนก็แสดงสีหน้าตกตะลึงนิ่งกันไปหมด ”ไปประเทศไหน” คุณนายหญิงขมวดคิ้ว แสดงท่าทีไม่ยินดีอย่างเห็นได้ชัด “ฝรั่งเศสค่ะ เพียงแค่สองปีคะ หลังจากเรียนสองปีแล้ว หนูกลับมาก็สามารถสอนนักเรียนชั้นมัธยมปลายได้ค่ะ พวกคุณรู้มั๊ยว่า เด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นนั้นดูแลยากมากค่ะ เป็นวัยที่ดื้อรั้นมาก ทุกวันสร้างแต่เรื่องปวดหัวไม่ไหวจริงๆค่ะ” นายท่านเวทนพูดสวนขึ้นทันที “ เธอไม่ต้องการสอนชั้นมัธยมต้น ก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนต่างประเทศ พ่อมีคนรู้จัก ไม่ต้องพูดถึงชั้นมัธยมปลายเลย มหาวิทยาลัยก็ยังได้ เพียงเธอพูดออกมาคำเดียว เป็นเรื่องเล็กมาก” “ ใช่ ใช่ ใช่ ไปฝรั่งเศสมีอะไร เวลาสองปี หลังจากสองปี เธอกับพี่ชายของฉันก็ต้องบอกบ๊ายบ๊ายหนะซิ” ท่านพ่อ การสอนหนังสือเป็นการเรียนรู้แขนงหนึ่ง ไม่สามารถใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทรกแซงได้ค่ะ ถ้าหากว่าหนูไม่มีความสามารถ คุณให้แค่โอกาส ฉันก็จะทำงานนี้ไม่สำเร็จ มิหนำซ้ำกลับจะทำร้ายเด็กนักเรียนได้ค่ะ” “อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำงาน สะใภ้ตระกูลทรัพยสานของพวกเรา ไม่มีความจำเป็นต้องมาเปลืองสมองเพื่อความอยู่รอด เธอต้องการอะไรเพียงบอกพวกเรามาก็พอ เป็นดวงดาวบนท้องฟ้า ฉันกับพ่อของเธอ จะคิดหาหนทางที่จะเด็ดลงมาให้เธอ” ผลินได้ยินคำพูดของแม่สามี ทุกข์ใจเป็นยิ่งนัก เธอไม่ใช่ไม่รู้ว่าพ่อแม่สามีทั้งสองคนรักและเอ็นดูเธอมากเพียงไหน แต่สิ่งที่เธอต้องการนั้น กลับไม่ใช่สิ่งที่พวกเขามอบให้ “การทำงานไม่ใช่เป็นเพียงเพื่อความอยู่รอด แต่เป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่ง ความเพียรพยายามชนิดหนึ่ง หนูหวังว่าท่านพ่อท่านแม่สามารถสนับสนุนในความเพียรพยายามและความใฝ่ฝันของหนูค่ะ” นายหญิงใหญ่ท่านเวทน มองท่าทีที่มุ่งมันของสะใภ้ อดไม่ได้ที่จะต้องตกตะลึง หันไปมองบุตรชายที่นั่งเงียบอยู่พูดว่า “ลูกพูดอะไรบ้างซิ ภรรยาของเจ้าจะไปต่างประเทศ ลูกจะไม่พูดอะไรบ้างเลยหรือ” ปยุตเงยหน้าขึ้นช้าๆ พูดเบาๆว่า “ถ้าหากพวกคุณชื่นชอบเธอ ก็สนับสนุนเธอ ติดปีกให้กับนาง ไม่ใช่แสดงความรักใคร่แบบนี้ แต่กลับมายึดครองอย่างเห็นแก่ตัว ”เจ้า........” นายหญิงใหญ่ท่านเวทน โกรธจนแทบจะกระอักเลือด เดิมหวังว่าลูกชายจะพูดเหนี่ยวรั้งสะใภ้ไว้ กลับคิดไม่ถึงเลยว่า เขาไม่เพียงแต่ไม่เหนี่ยวรั้ง ยังให้สนับสนุนสะใภ้ให้จากไป และกล่าวหาว่าพวกเขาเห็นแก่ตัว ”วางแผนไว้จะไปเมื่อๆไหร่” นายท่านเวทนสงบนิ่งพักใหญ่ แสดงสีหน้าเรียบเฉยสอบถาม ผลินตอบคำถามเบาๆว่า “สิ้นเดือนนี้ค่ะ” ”ต้องการจะไปแน่นอนใช่มั๊ย” “อืม โควตามีจำนวนจำกัดค่ะ ถ้าหากว่าฉันทิ้งโอกาสในครั้งนี้ ก็จะหมดโอกาสในการศึกษาต่อไปตลอดชีวิต” นายหญิงท่านเวทน ได้ยินแล้วจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาพูดว่า “ โอเค ในเมื่อเธอตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไปให้ได้ พวกเราถึงจะไม่เห็นด้วยก็ทำอะไรไม่ได้ เพียงหวังว่า หลังจากสองปีแล้ว เธอยังกลับมาหาพวกเรา” เธอพูดจบ ก็สะกดกลั้นใจไม่อยู่ ร่ำไห้น้ำตาเอ่อท่วมเต็มใบหน้า ผลินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ปิดบังความเอ็นดูที่พ่อแม่สามีมอบให้เธอ หากหลังจากสองปีเธอกลับมา ความจริงก็อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันกับปยุต แต่ว่าไม่ปกปิดแล้วแล้วเป้นยังไง เวลานี้พูดไม่ออก เพียงแค่ทำร้ายจิตใจของทุกคน ความรู้สึกของปยุตมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะยืนยันได้ **** อาหารค่ำหรูหราเต็มโต๊ะหมดความสำคัญไปแล้ว บรรยากาสที่อึมครึมทำให้ใบหน้าของทุกคนมีแต่ความหม่นหมอง น้องสามีเห็นแม่ของเธอร้องห่มร้องไห้เสียใจ จึงเข้าไปปลอบใจเรื่อยจน น้ำตาของตนเองก็ไหลซึมออกมาเช่นกัน นายท่านเวทน ลุกขึ้นยืนอย่างทุกข์ใจ ไม่พูดอะไรสักคำ เดินกระโผลกกระเผลกเข้าไปห้องหนังสือ ไม่ออกมาอีกเลย ผลินค่อบๆหยิบกระดาษทิชชู่จากกระเป๋าเสื้อ ยื่อให้กับแม่สามี “ท่านแม่ อย่าร้องไห้เลย มันไม่การลาตายเสียเมื่อไหร่ หลังจากสองปี หนูก็กลับมาค่ะ” “จะกลับมาจริงหรือไม่จริง เพียงแค่กลับมา ก็จะรู้ว่า แม่ตั้งความหวังไว้กับเธอสูงมาก คิดว่าเธอสามารถช่วยเหลือบุตรชายของฉัน ดูไปเวลานี้ จันทรหญิงสาวคนนั้นได้ทำลายเขาไปแล้วจริงๆ ดนุชาเฉลียวฉลาดมาก ไหนเลยจะมองไม่ออกถึงสาเหตุที่สะใภ้ดึงดันที่จะไปให้ได้ เพียงเสียดายที่ เธอเก่งกาจรอบด้านเฉลียวฉลาด กลับยังมีสิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ หรือว่าปยุตรับไม่ได้ต่อแรงกดดันสถานะการณ์เช่นนี้ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องนอน เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ สูบบุหรี่เข้าไปด้วยความหงุดหงิด บางครั้ง เขาก็เกลียดชังตนเองที่ไร้หัวใจ ทำไมถึงลืมอดีตไม่ลง เปิดรับความรู้สึกใหม่ ผลินเป็นที่เพรียบพร้อมคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ครอบครัวของเขาทุกคนล้วนชื่นชอบเธอ เธอมีความเฉลียวฉลาด จิตใจดีงาม มีความคิด มีเหตุมีผล เป็นแบบฉบับที่น่าชื่นชม แต่ว่าจิตใจของเขาไม่มีทางที่จะเข้าถึงเธอได้เลย...... ด้านหลังมีเสียงคนเดินมา เขาหันหลังกลับไปดู มองเห็นที่เบ้าตาแดงกล่ำเดินเข้ามาหาเขา ”เมื่อครู่ขอบคุณ คุณมากที่ช่วยพูดให้ฉัน” เขากระอักกระอ่วน อ้ำๆอึ่งๆ พูดออกมาเพียงแค่สามคำ ว่า ” ไม่เป็นไร “ ผลินฝืนยิ้มอย่างเศร้าใจ ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องลับของตนเอง หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง เธอก็ออกมาอีกครั้ง ในมือลากกระเป๋าเดินทางครั้งที่เธอลากเข้ามาที่นี่ในครั้งแรก ”คุณจะไปไหน” ปยุตขมวดคิ้วถาม “เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ฉันคิดว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้าน หากยังอยู่ที่นี่ จะทำให้ทุกคนไม่มีความสุข” “เธอจากไปอย่างนี้ ไม่คิดหรือ ว่าพวกเขาจะทุกข์ใจเพียงไหน”
已经是最新一章了
加载中