ตอนที่71 ความสุข(2)
1/
ตอนที่71 ความสุข(2)
กำราบความรักของประธาน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่71 ความสุข(2)
ตนที่71 ความสุข(2) ขนตาของผลินสั่นไหวบางเบา “แล้วคุณล่ะ ถ้าฉันจากไป จะรู้สึกเศร้าหรือเปล่า” “ถ้าผมบอกว่าเศร้า คุณจะอยู่หรือเปล่า” “ไม่” ผลินตอบเขาอย่างแน่วแน่ พูดอย่างผิดหวัง “ทุกครั้งที่ฉันต้องการให้คุณพูด คุณกลับไม่เคยพูดเลย ฉันตัดใจแล้ว คุณพูดถูกนะ ‘คุณมีความภาคภูมิใจน้อย ดังนั้นคุณต้องประหยัด’ ฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันต้องการที่จะรักษาความภาคภูมิใจเอาไว้ ไม่คาดหวังอะไรที่ไม่ใช่ของฉันอีกแล้ว” ปยุตมองดูผลินจากไปจนลับตา อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อมันมาถึงปากก็กลับกลืนลงไป ผลินไม่ได้กลับไปที่ตระกูลเจริญมาศ เธอจะกลับไปได้อย่างไร ตอนนี้พวกเขารู้ถึงจุดประสงค์ที่เธอไม่ลังเลที่จะแต่งงานแทนน้องสาวแล้ว เมื่อก่อนไม่ต้องการเห็นเธอ ตอนนี้ก็ยิ่งไม่อยากเห็น คนคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนท้องถนน เมืองนี้ใหญ่มาก แต่ไม่มีที่ไหนเลยที่พอจะให้เธอได้พักใจ ไวภพโทรหาเธอสองครั้งแล้ว แต่เธอตัดสายไป ตอนนี้เธอไม่อยากเจอใคร ไม่อยากจะพูดอะไรอีกแล้ว แค่อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ปล่อยวางความคิดทั้งหมด มันเริ่มจะดึกแล้ว บนถนนมีคนน้อยลง ผู้หญิงเร่ร่อนอย่างเธอหายากยิ่งกว่าไดโนเสาร์ บางครั้งมีหลาย ๆ คนเดินผ่านเธอและพวกเขามองเธอด้วยความประหลาดใจ เหมือนดูสัตว์สงวนที่ได้รับการปกป้องจากรัฐหลุดออกมาจากสวนสัตว์ ในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงที่สะสวยมีเพียงแค่หนึ่งในล้านคนเท่านั้นที่จะไม่มีใครต้องการ และผลินก็คือโศกนาฏกรรมที่เป็นหนึ่งในล้านนั้น ในที่สุดก็ทนไม่ได้ที่จะต้องถูกจ้องมองเป็นเหมือนสมบัติของชาติ เธอมาที่บ้านของชื่นใจ ทันทีที่ชื่นใจเปิดประตู ก็ถามคำถามอย่างไร้อารมณ์ “คิดว่าฉันเป็นสถานที่หลบภัยหรือไง” “แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ถ้าเธอไม่ต้อนรับฉัน ฉันก็ไม่มีที่ไป” เธอคว้ากระเป๋าเดินทางของผลินไป ขณะที่เดินเข้าไปก็โวยวายออกมา “ฉันไม่เคยเห็นคนแบบเธอเลย มีทั้งบ้านแม่สามีและบ้านแม่ แต่กลับมาแออัดอยู่กับฉันคนเดียว มันทำให้ฉันตื่นเต้นรู้ไหม” “จะบ้านแม่สามีหรือบ้านแม่ ก็ไม่ได้มีที่ไหนดีไปกว่าเธอ มีแต่เธอเท่านั้นที่ฉันสามารถหายใจได้สะดวก” “คืนนี้เกิดอะไรขึ้น ให้ฉันเดานะ” ชื่นใจนั่งลงข้าง ๆ เธอ เท้าคางและใช้จินตนาการของเธอ “ต้องเป็นเพราะคุณปยุตโกรธมากที่ได้ยินว่าเธอกำลังจะไปเรียนต่อที่ปารีส เขาไม่ปล่อยเธอไป แต่เธอจะไป จากนั้นพวกเธอก็เริ่มระเบิดสงครามแห่งประวัติการณ์ จนในที่สุดเขาก็ชี้ไปที่ประตู และกล่าวว่า ดี ถ้าคุณต้องการที่จะไปก็ไปเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เลย ผมไม่อยากที่จะเห็นคุณอีก พอความดื้อรั้นของเธอเกิดขึ้นมา ก็ถือกระเป๋าแล้วไปจริงๆ...” “เธอไม่รู้สึกว่าเธอมีจิตนาการมากเกินไปเหรอ” “ไม่อะ ฉันรู้สึกว่าจินตนาการของฉันใกล้เคียงกับความจริงนะ” “เสียใจด้วยที่ต้องบอกเธอว่า ที่เธอเดามาน่ะมันไม่ได้ใกล้เคียงเลย” ชื่นใจรู้สึกสนุก “แล้วความจริงล่ะ เธอรีบ ๆ เล่ามาให้ฟังเลยนะ” “ในทางตรงกันข้าม คุณปยุตไม่ได้แค่มีความสุขที่รู้ว่าฉันต้องการไปเรียนต่อ แต่ยังแสดงการสนับสนุนอย่างแข็งขัน และหวังว่าฉันจะไม่กลับมา” “ไม่ใช่มั้ง...” ชื่นใจรับไม่ได้ “เขาเป็นคนเลือดเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วไม่ใช่ว่าหัวใจของเธอแตกสลายไปแล้วหรือไง” “ไม่เป็นไรหรอก หัวใจของฉันยังสมบูรณ์ และไม่สำคัญว่ามันจะแตกหรือไม่” ไวภพโทรมาอีกครั้ง และเธอก็ตัดสายทิ้งอีก แต่ก็ไม่ทันระวังถูกชื่นใจเห็นเข้า ทำปากยื่น “ทำไมเธอไม่รับ แน่นอนว่ามันคงจะดีถ้าฉันไม่มีตัวตน” “ฉันไม่ได้ไม่รับโทรศัพท์ของเขาเพราะเธอหรอก แต่เพราะฉันเอง ฉันรู้ว่าฉันไม่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความรู้สึกต่อเขา” ชื่นใจยิ้มเยาะตัวเอง “เป็นละครจริง ๆ เธอไล่ตามคุณปยุต ไวภพไล่ตามเธอ และคุณปยุตไล่ตามคนอื่น ความรักทำให้คนเย็นชา และมักจะทำร้ายทุกคนที่ปรารถนาที่จะได้รับมัน” “ทำไมเธอไม่พูดล่ะ ว่าเธอก็ไล่ตามไวภพ” “จะพูดถึงทำไม การมีอยู่ของฉันไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลย” “นั่นเป็นเพราะเธอไม่เคยให้เขารู้ เอาแต่อยู่ข้างหลังเขา” “ถึงรู้แล้วยังไง เขาจะมองกลับมาที่ฉันงั้นเหรอ” “มันเป็นเรื่องของเขาที่จะไม่มองกลับมา แต่มันเป็นเรื่องของเธอที่จะพูดหรือไม่พูด ถ้าเธอไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่กับความเสียใจ ก็ต้องกล้าที่จะพูดออกมา ถึงแม้ว่าจะถูกปฏิเสธมันก็ไม่สำคัญหรอก อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง” “นี่คือเหตุผลที่เธอสารภาพกับคุณปยุตเหรอ” “อืม” ชื่นใจถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ฉันไม่กล้าเท่าเธอ หลายปีที่ผ่าน ฉันรู้ว่าหัวใจของไวภพเป็นของเธอ ความรักที่เขามีต่อเธอ มันบดขยี้ความกล้าหาญของฉันทั้งหมด” ผลินรู้สึกเศร้า เธอเข้าใจความรู้สึกที่ชื่นใจรักไวภพ และเธอก็เข้าใจความรู้สึกที่ไวภพรักเธอ เพราะมันเหมือนกันกับที่เธอรักปยุต เมื่อเธอจากไปแล้ว ปยุตไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเมื่อหลับตาลง มันเหมือนจะเห็นว่าผลินกำลังตำหนิ ตำหนิว่าเขาไร้ความปราณี ว่าเขาเลือดเย็น ทุก ๆ วันผ่านไป เพียงชั่วพริบตา วันที่ต้องไปก็กำลังจะมาถึง ระหว่างนั้น ปยุตไม่เคยโทรหาเธอเลย และเธอเองก็ไม่ได้โทรเช่นกัน ลุงพาป้าสะไภ้ไปอยู่ที่เมือง W ทาตฤโทรมาหาเธอบ้างเป็นครั้งคราว น้องสามีและแม่สามีโทรหาเธอสองถึงสามครั้ง และเธอไม่รับสายทั้งหมด คงคิดถึงเมืองนี้ เพราะเมืองนี้มีคนที่ไม่สามารถลืมได้ เช่นเดียวกับที่หลินฮุยอินได้กล่าวไว้ “ตกหลุมรักเมือง เพราะในเมืองมีคนที่รัก” ในคืนก่อนที่ผลินจะเดินทาง คนคนหนึ่งเดินไปเรื่อยจนเกือบจะครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดในเมือง B จนกระทั่งรู้สึกเหนื่อย เธอเข้าไปนั่งในร้านน้ำชาเล็ก ๆ โดยบังเอิญเธอได้รับสายจากปยุต “สะดวกไหม ออกมาเจอกันหน่อย” ประโยคแรกของปยุต ก็คือคำถามถามเธอ เธอต่อสู้กับตัวเองอยู่นาน ต้องการปฏิเสธ แต่ก็กลับตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว “ได้ ที่ไหนคะ” ในส่วนลึกของหัวใจ เธอยังต้องการที่จะเห็นผู้ชายเลือดเย็นคนนั้นในนาทีสุดท้าย “สวนพานทองแล้วกัน ผมอยู่แถว ๆ นี้” ผลินรู้สึกแปลกใจ เพราะเธอเองก็อยู่ใกล้กับสวนพานทองเหมือนกัน ทำไมถึงบังเอิญให้ปยุตเลือกสถานที่นี้ เมื่อวางหู เธอออกไปจากร้านน้ำชา และเดินไปข้างหน้าสองร้อยเมตร จนมาถึงหน้าทางเข้าสวนพานทอง เธอมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของปยุต เมื่อพยายามโทรหาเขา ก็มีคนมาตบไหล่ แทบจะไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าใครอยู่ข้างหลัง ผลินรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ ทันใดนั้นก็มีแรงกระตุ้นให้อยากจะร้องไห้ “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่” เธอสูดจมูกและเอ่ยถามแผ่วเบา “บังเอิญขับรถผ่านมา เห็นคนรู้จัก ก็เลยหยุดแล้วก็ลงรถมา” “คนรู้จัก?” ในเวลานี้ ผลินยังไม่ได้ตระหนักถึง ว่าที่ปยุตบอกว่าคนรู้จักนั้นมันหมายถึงเธอ “ไกลสุดขอบฟ้า ใกล้อยู่แค่ตา” เธอตะลึงงัน ก้มหน้าลง “ไม่ได้เจอกันหลายวัน มีอารมณ์ขันไม่น้อยนะคะ” “ไม่ได้เจอกันหลายวัน ไม่ใช่ว่าผมมีอารมณ์ขันไม่น้อย แต่คุณโง่ไม่น้อยต่างหาก” พวกเขาเดินเคียงข้างกันในสวนสาธารณะ เหยียบบนก้อนกรวดขนาดเท่ากำปั้น ผลินเป็นผู้ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน “อยากจะพูดอะไรก็พูดมาสิคะ” เธอนั่งลงบนเก้าอี้ริมถนน ปยุตนั่งลงตามเธอและเอ่ยถาม “สองวันที่ผ่านมาคุณเป็นยังไงบ้าง” “ก็ดีค่ะ” “คุณจะไปพรุ่งนี้ใช่ไหม อยากให้ผมไปส่งคุณหรือเปล่า” “ไม่ต้องค่ะ” “เตรียมตัวพร้อมสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศแล้วหรือยัง” “ค่ะ” “อยู่ที่โน่นอย่าลืมดูแลตัวเอง ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาผม” “อืม” “ถ้าอยากกลับมา ประตูบ้านเราเปิดรอรับคุณตลอดเวลา” “ขอบคุณค่ะ” ผลินหลุบตาลงต่ำ ระงับความรู้สึกขมขื่นในหัวใจ ดูเหมือนว่าสิ่งที่ปยุตอยากจะพูดเขาได้พูดมันหมดแล้ว และทั้งหมดก็ต่างเงียบ หลังจากนั้นในขณะที่ผลินกำลังจะลุกขึ้นและเดินจากไป เขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ทุกคนจะคิดถึงคุณ พ่อของผม แม่ของผม น้องสาวของผม...และผม” เงยหน้าเล็กน้อย ผลินรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ แต่น้ำตาก็ยังหยดลงมา “ฉันก็จะคิดถึงเหมือนกัน ทุกคนที่คิดถึงฉัน” ปยุตเอากระเป๋าสตางค์ออกมาจากเสื้อสูท ดึงเอาบัตรสีทองออกมา “คุณถือนี่ไว้ มันไม่จำกัดวงเงิน อยู่ต่างประเทศอย่าดูถูกตัวเอง ซื้ออะไรก็ตามที่คุณต้องการ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการเงิน” “ถือไว้” เขายัดมันใส่มือของเธอ จับมือเธอไว้และพูดอย่างมีความหมาย “ขอโทษนะ” แล้วเขาก็พูดคำที่ไม่สามารถพูดได้ออกมาอีกครั้ง “ก็ได้ ฉันจะรับไว้ คุณกลับไปเถอะค่ะ” ผลินใกล้จะทนไม่ได้อีกต่อไป รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าปยุต มันเหมือนตัวเองไร้ค่า จึงไม่อยากให้เขาเห็น “เดี๋ยวผมไปส่งคุณ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะกลับเอง” ปยุตรู้ว่าเธออยากอยู่คนเดียว และมันไม่ง่ายที่จะบังคับ จึงก้มลงลูบศีรษะเธอด้วยความเมตตา “ดูแลตัวเองด้วย” และทันใดนั้นก็โอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา ให้เธอได้รับกอดของการจากลาที่ไม่มีวันลืม “ดูแลตัวเองด้วย” ผลินกัดริมฝีปากล่าง น้ำตาคลอหน่วยในดวงตา ในที่สุดปยุตก็จากไป มองไปทางด้านหลังของเขา ในที่สุดน้ำตาที่กักเก็บไว้ก็ร่วงหล่นลงมาอย่างลืมอาย ความรักไม่สามารถบังคับได้ แม้แต่หินริมถนนก็ตาม มันต้องมีโชคชะตาที่จะเตะโดนก้อนใด เมื่อปยุตกลับไปที่บ้าน พลันรู้สึกถึงการสูญเสียอย่างหาใดเปรียบ มันเหมือนมีบางสิ่งที่สำคัญขาดหายไป ทำให้รู้สึกมึนชาและเลื่อนลอย กลางดึก นอนไม่หลับ เขาเข้ามาที่ห้องของผลิน กดเปิดโคมไฟข้างเตียงของเธอ มองดูเห็นภาพของเธอนอนหลับบนเตียงมีผ้าห่มคลุมอยู่ พลิกหน้าหนังสือและทานขนมปังที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง ทั้งหมดนั่นทำให้เขาเจ็บปวด เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มคิดอย่างจริงจังว่า เตียบ่อกี้ชอบผู้หญิงที่เจอครั้งแรกอย่างจิวจี้เยี้ยก หรือว่าผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของเขาหลังจากนั้นที่เขาไม่เคยทิ้งอย่างเตียเมี่ยงกันแน่
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่71 ความสุข(2)
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A