ตอนที่72 ความสุข(3)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่72 ความสุข(3)
ต๭นที่ 72 ความสุข(3) ตะวันขึ้นทางทิศตะวันออกสีขาวนวลดั่งพุงปลา แสงแห่งอรุโณทัยส่องสว่างเข้ามาภายในจิตใจที่มืดมิดของเขา ในที่สุดหัวใจเขาก็ได้คำตอบ รีบเก็บกระเป๋าเดินทาง แล้วจึงโทรสั่งงานบางอย่างกับชนัย เขาไม่ได้กล่าวทักทายคนในครอบครัว รีบขับรถออกไปยังสนามบินอย่างบ้าคลั่ง ผ่านด่านพิธีการ แล้วเขาก็ไปเฝ้ารอการปรากฏตัวของผลินที่เลานจน์ เวลาเจ็ดโมง เขาก็เห็นภาพคนคุ้นเคย ยกแขนข้างหนึ่งแล้วโบกมือให้เธอน้อย ๆ ผลินคิดว่าตัวเองตาฝาด เธอขยี้ตาให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดไปเอง ก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปยังกระเป๋าเดินทางที่เท้าของเขาแล้วถามอย่างสงสัย “คุณกำลังจะไปไหนเหรอ” “ปารีส” เธอยิ่งแปลกใจ “คุณไปทำอะไรที่ปารีส” “ฮันนีมูน” ปยุตตอบออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ผลินไม่เชื่อ “มาส่งฉันก็พูดตรง ๆ อย่ามาล้อเล่นนะ” “คุณคิดว่าผมดูเหมือนล้อเล่นไหมล่ะ” เขาเขย่ากระเป๋าเดินทางราคาแพงของเขา “ถ้างั้นคุณเดินทางไปทำธุระเหรอ” “ผีเข้าเหรอ ก็บอกว่าไปฮันนีมูน ทำไมไม่เชื่อ” ผลินรู้สึกว่าเขากำลังเล่นกับเธอ จึงตาเปลี่ยนเป็นสีขาวมองอย่างไม่พอใจ “ก็ดี งั้นฉันขอให้คุณมีความสุขกับการฮันนีมูนนะ แล้วเจอกัน” “อ้าว แล้วคุณจะไปไหน...” ปยุตดึงเธอกลับมา “ฉันก็จะไปตามทางของฉัน ส่วนคุณก็ไปตามทางของคุณ ฉันจะไปไหนแล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วย” “ไม่เกี่ยวได้ยังไง เรากำลังจะไปฮันนีมูนด้วยกัน ถ้าคุณไปซะแล้ว แล้วผมจะทำยังไงล่ะ” “ใครอยากจะไปฮันนีมูนกับคุณไม่ทราบ” ผลินเงียบและเลิกคิ้วขึ้น ตอนเช้า ๆ แบบนี้ สมองถูกกระตุ้นใช่ไม่ใช่ การเตือนขึ้นเครื่องดังมาจากห้องรอผู้โดยสาร ปยุตจับมือเธอไว้แล้วเดินลากไป เธอสะบัดออก “คุณจะทำอะไรกันแน่” “ถ้าเราไม่รีบไปมันจะไม่ทันนะ” เขาหันกลับไปเตือนเธอ เราใกล้จะต้องขึ้นเครื่องบินไปปารีสอยู่แล้ว ผลินเห็นเขาไม่ปล่อย จึงปล่อยเลยตามเลย หลังจากขึ้นเครื่องบิน ก็เริ่มถามอย่างจริงจัง “โรคจิตเภทของคุณกำเริบอีกแล้วเหรอ” จองชั้นหนึ่งและที่นั่งคู่ ตั๋วของเธอกลายเป็นเศษกระดาษไปเลย และที่สำคัญคือ เธอยังไม่รู้ว่าในน้ำเต้าที่เขาขายคือยาอะไร “เดิมทีมันก็เกือบจะดีอยู่แล้ว แต่เพราะคุณ ตอนนี้เลยต้องมาทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ผลินทั้งตกใจและสับสน “ฉันไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร” “ถ้าคุณไม่เข้าใจเดี๋ยวผมจะเขียนให้คุณดู” ปยุตหยิบปากกาสีดำออกมาจากเสื้อสูท แล้วลากไปบนมือของผลิน เขียนสองสามคำบนมือของเธอ “ไม่อาจขาดคุณ” หัวใจเธอเต้นแรงแต่ยังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้ “ยังไม่เข้าใจ” เช็ดหมึกออกด้วยนิ้วจนสะอาด แล้วเขียนรายละเอียดให้เธอดูอีกครั้ง “ไม่อยากปล่อยคุณไป” เขาเขียนมันอย่างชัดเจน ไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจ แต่เธอแค่ไม่อยากจะเชื่อ นั่นเป็นเหตุผลที่เอาแต่ส่ายหน้า “ยังไม่เข้าใจเหมือนเดิม” “I love you, Do you understand?” (ผมรักคุณ เข้าใจไหม) ครั้งที่สามในมือของเธอ เธอยิ้มจนเห็นฟัน คว้าปากกาของเขาแล้วเพิ่มอีกข้อความต่อด้านล่าง “I see, Just why?” (เข้าใจแล้ว แต่ทำไม) ฝ่ามือเต็มไปด้วยสีดำ ไม่สามารถเขียนลงไปได้อีก ปยุตจึงกระซิบที่ข้างใบหูของเธอว่า “เหตุผลง่าย ๆ ผมคิดว่าหัวใจของผมไม่ได้อยู่กับคุณ แต่เมื่อคุณทิ้งผมไป ผมก็เพิ่งรู้ตัว จริง ๆ แล้วหัวใจของผมไม่จำเป็นต้องมีคุณ เพราะว่าคุณอยู่ในใจของผมอยู่แล้ว” ผลินซบลงบนไหล่ของเขาอย่างแรงแล้วร้องไห้ออกมาอย่างมีความสุข ไม่ว่าปยุตจะดันเธอออกอย่างไรก็ไม่สำเร็จจนกว่าเธอจะร้องไห้จนพอใจ และก่อนที่เธอจะผละออกจากไหล่ของเขาก็สะอื้นและพูดว่า “ถ้าคุณกล้าเปลี่ยนใจล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่” “ไม่จำเป็นต้องมาขู่ผมหรอก คุณรู้ดีกว่าใคร ว่าผมมีวิธีการระมัดระวังเรื่องความรู้สึกของตัวเอง” ใช่ และนี่ด้วยคือสาเหตุที่ทำให้ผลินต้องร้องไห้ มันไม่ง่ายเลยที่ปยุตจะยอมรับความรู้สึกของเธอ หัวใจของเขามันช่างยากที่จะเข้าไป ปยุตกระชับมือสีดำของเธอ สองหัวใจที่โดดเดี่ยว ในที่สุดก็พักพิงกัน เครื่องบินมาถึงปารีสอย่างปลอดภัย ผลินตื่นเต้นมาก มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเหยียบดินแดนแห่งความฝัน และได้อยู่เคียงข้างปยุต เป็นความรู้สึกของความสุขที่ทำให้เธออยากจะกรีดร้อง ตะโกน เพื่อบอกคนทั้งโลก ว่าตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับคนแปลกหน้าอย่างเธอ ปยุตดูจะคุ้นเคยกับเมืองปารีส เขาเดินทางมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง จึงไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่พิเศษอีกต่อไป แต่แค่เห็นผลินดูมีความสุข เขาเองก็มีความสุขไปด้วย “ขึ้นเครื่องมานานขนาดนี้คงเหนื่อยแล้วใช่ไหม ผมให้ชนัยจองโรงแรมไว้ให้แล้ว เราไปพักผ่อนกันก่อนดีไหม” เขาปรึกษาความคิดเห็นกับผลิน ผลินส่ายหน้า “ฉันไม่เหนื่อย ตอนนี้ฉันอยากทำอะไรอย่างหนึ่ง คุณจะให้ความร่วมมือกับฉันได้ไหม” “ได้สิ จะทำอะไรล่ะ” “เราไปหาถนนที่เต็มไปด้วยต้นเมเปิล แล้วเดินจับมือไปด้วยกันได้ไหม” ปยุตหัวเราะออกมาเสียงดัง “ผมก็คิดว่าคุณจะให้ทำอะไร มันง่ายมาก งั้นไปกันเถอะ” ที่ตรงนั้นเขารู้จักดี พาเธอไปที่ช็องเซลีเซ ยืนอยู่กลางถนน น้ำตาแห่งความตื่นเต้นเต็มดวงตาของผลิน หลายปีที่ผ่าน กล้าที่จะคิดได้แค่เพียงภาพภายในใจ แต่ตอนนี้ มันได้กลายเป็นความจริงแล้ว เธอเสนอที่จะจับมือกันกับปยุต เดินไปท่ามกลางต้นเมเปิลที่เรียงรายสองฟากฝั่งข้างถนน ในฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ใบไม้สีทองของต้นเมเปิลร่วงลงบนศีรษะของพวกเขา ส่งยิ้มให้แก่กันและกัน ระยะห่างระหว่างหัวใจสองดวงได้เขยิบเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น ปยุตไม่เคยรู้มาก่อน การทิ้งภาระของหัวใจ และพยายามที่จะมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ มันจะรู้สึกโล่งอกเช่นนี้ หลังจากสามปี ในที่สุดเขาก็สามารถเป็นคนธรรมดาได้เสียที มีชีวิตที่ปกติอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะช็องเซลีเซที่ยาวเกินไป หรือพวกเขาเดินช้าเกินไป จนกระทั่งค่ำคืนได้เดินทางมาถึง พวกเขาก็ยังคงไม่ได้ไปถึงในจุดสิ้นสุด ผลินรู้สึกดีใจ ตราบใดที่ถนนไม่มีจุดสิ้นสุด เธอกับปยุตก็จะได้เดินเคียงข้างกันไปจนตลอดกาล มันไกลแค่ไหน ไม่มีใครรู้ แต่เธอเต็มใจ ที่จะไปกับเขา “ผมใกล้หมดแรงแล้ว คุณจะกลับตอนนี้เลยไหม” “ได้สิคะ” ผลินยิ้มพลางพยักหน้า พวกเขาเดินทางมาถึงโรงแรมหรูในใจกลางเมือง ทันทีที่เข้ามา ปยุตก็ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาและหอบหนัก แต่ทว่าผลินไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ยืนที่หน้าต่างฝรั่งเศสซึ่งมองเห็นได้เกือบครึ่งเมือง แล้วเปล่งเสียงแห่งความตื่นเต้นออกมา “ปารีส ฉันรักคุณนะ ปารีส คุณสวยมาก!!” ตะโกนจนเสียงแหบ สองมือโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง เสียงของเธอพลันสูญหาย หน้าแดงเล็กน้อย หูร้อนนิดหน่อย เมื่อคืนนี้ เธอยังรู้สึกเศร้าเรื่องปยุตอย่างหนักอยู่เลย วันนี้ เขายืนอยู่กับเธอในดินแดนแห่งความฝัน ใกล้ชิดดั่งคนรักสนิทแนบเฉกเช่นเส้นผมที่สองข้างแก้มใกล้ใบหู การเปลี่ยนแปลงระหว่าคนสองคน ไม่ว่าจะเป็นปยุตหรือตัวผลินเอง ที่จริงแล้วยังมีความตึงเครียดเล็กน้อย เขาวางศีรษะลงบนไหล่ของเธอ พูดแผ่วเบาที่ริมใบหู “คุณหิวหรือเปล่า จะลงไปทานข้าวข้างล่างไหม” “อืม” ผลินพยักหน้าเขินอาย สำหรับคืนนี้ มันมีความรู้สึกคาดหวังที่คลุมเครือ... ตอนทานอาหาร บางครั้งเธอมองไปยังผู้ชายฝั่งตรงข้าม แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ภาพที่เขาจูบเธอก็ลอยเข้ามาในหัว ปยุตจองเพียงหนึ่งห้อง ความหมายนั้นชัดเจน เมื่อผลินนึกถึงเรื่องนี้ ริมฝีปากก็ยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว “หลังจากนี้อยากไปเที่ยวที่ไหนอีกไหม” “ไม่แล้ว” ที่จริงแล้วไม่ได้เหนื่อย เพียงแต่กลัวว่าบรรยากาศที่งดงามของวันที่ดีเช่นนี้จะสูญเปล่า หลังอาหารเย็น คนสองคนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน โดยสัญชาตญาณปยุตโอบกอดผลินเข้ามาซบลงกับอกของเขา ในอ้อมแขนของเขานั้นทั้งกว้างและอบอุ่น ผลินมีความสุขมาก รู้สึกเหมือนว่าไม่ได้อยู่ในลิฟต์ แต่เหมือนอยู่ในรถที่บินขึ้นไปยังปุยเมฆ ออกจากลิฟต์ ปยุตเอาการ์ดออกมาเปิดประตู เขาถอดเสื้อคลุม และดึงเนคไทออก แล้วพูดว่า “เหงื่อออกเยอะเหลือเกิน ไปอาบน้ำนะ” “อืม โอเค คุณไปอาบน้ำเถอะ” ผลินหน้าแดงอีกแล้ว หลุบตาลงต่ำไม่กล้าที่จะมองเขา ปยุตเข้าห้องน้ำไป ผลินเดินกระสับกระส่ายไปมาในห้อง ฟังเสียงน้ำจากห้องน้ำ หัวใจเต้นเหมือนกวางกระโดด จะทำอะไรต่อไปดี มีช่องว่างเกิดขึ้นภายในจิตใจของเธอ ก่อนหน้านี้พยายามที่จะยั่วยวนปยุตได้ แต่ตอนนี้เมื่อต้องมาไกลขนาดนี้ ความกล้าหาญที่เคยมีนั้นมันหายไปแล้ว ในขณะที่เธอกำลังมีปัญหา ประตูก็เปิดออก ปยุตออกมาพร้อมกับร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่า กล้ามเนื้อแข็งแรงส่องแสงระยิบระยับเพราะหยดน้ำ ทันใดนั้นเมื่อเห็นข้อความที่หน้าอกของเขา หัวใจก็พลันร่วงหล่น “ไปอาบน้ำสิ” “รอฉันเดี๋ยว อยากดูวิวตอนกลางคืนก่อน” เธอเดินไปที่หน้าต่างฝรั่งเศสท่ามกล่างความเศร้าโศก จิตใจที่ตื่นเต้นถูกชะล้างชัดเจนขึ้นอย่างช้า ๆ ปยุตเห็นอาการเศร้าโศกของเธอก็เข้าไปสวมกอดเธอไว้ทันที และพูดอย่างตรงไปตรงมา “ผมให้หัวใจของผมกับคุณไปแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าคำพวกนี้มันไม่สำคัญอีกต่อไป พรุ่งนี้ผมจะไปลบมันออก ถ้าคุณรังเกียจ คืนนี้ผมจะไม่แตะต้องคุณ” ผลินไม่ปฏิเสธว่าคำพูดของเขาทำให้เธอมีความสุขและซาบซึ้ง ยืนนิ่งสักพัก เธอก็หันกลับไป ไม่ทันที่จะพูดอะไร ก็ถูกกอดแน่นในอ้อมแขน ได้รับจูบตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงใบหน้า ในปากของเขามีกลิ่นมิ้นท์อ่อน ๆ เธอปล่อยให้เขากอดเอาไว้แน่น มองเขาด้วยดวงตาที่สั่นเล็กน้อย ไม่นานก็ยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอของเขา ถ้ามันเป็นความฝัน เธอก็เต็มใจที่จะหลงระเริงไปกับมัน ผลินไม่เคย ไม่เคยเห็นปยุตกระทำรุนแรงดุดันขนาดนี้มาก่อน พัวพันกันไปตลอดทาง เขากอดเธอไว้แน่น เสื้อผ้าทั้งหมดของเธอได้ถูกถอดออกไปตามทาง เธอจับจ้องไม่วางตา เขาอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง กดหน้าลงภายใต้อ้อมแขนของเธอ และเริ่มกดจูบลำคอของเธอและลงมาข้างล่างเรื่อย ๆ 
已经是最新一章了
加载中