ตอนที่73 ความสุข(4)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่73 ความสุข(4)
ต๭นที่73 ความสุข(4) เสียงถอนหายใจแห่งความพึงพอใจพลันเกิดหลังจากความปรารถนาในรสรักได้ถูกเติมเต็มสิ้นสุดลง ในที่สุดผลินก็มอบกายให้กับปยุตโดยสมบูรณ์ หลังจากความปรารถนาสิ้นสุด ทั้งสองก็ยังไม่มีใครง่วงนอน ผลินนอนอยู่ในอ้อมแขนของปยุต ถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรง “ทำไมคุณถึงได้ช่ำชองนัก มีประสบการณ์ล้นเหลือหรือไง” เขาลูบผมของเธอ ตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี “มันเป็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ ถึงจะไม่มีประสบการณ์ก็สามารถทำมันได้” “เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก แต่สามารถทำได้ดีขนาดนี้เลยงั้นเหรอ” เมื่อผลินหลุดคำพูดนั้นจบก็ก้มหน้าเอียงอาย ตอนนั้นเองปยุตก็แย้มยิ้ม “ยังกังวลอยู่เลยว่าคุณจะไม่พอใจ ตอนนี้ได้ยินคุณพูดอย่างนี้ ผมก็รู้สึกโล่งใจแล้ว” “คุณยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ” เธอทำให้เขาอึดอัดใจ “คำถามอะไร” “ก็ที่เพิ่งถามไปไง” “แล้วไอ้ที่เพิ่งถามน่ะมันอะไรล่ะ” พวกเขาเหมือนเล่นซ่อนหา เธอเขินอายที่จะบอก และเขาก็แกล้งทำเป็นโง่ จนในที่สุด ผลินก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาเล็กน้อย จึงตัดสินใจเอ่ยปากถาม “คุณไม่บริสุทธิ์ใช่ไหม” ปยุตจ้องมองเธอเขม็งจนตาแทบจะถลนออกจากเบ้า “มันสำคัญด้วยเหรอ” “แน่นอนว่ามันสำคัญ ถ้าคุณไม่บริสุทธิ์ ฉันรู้สึกว่าฉันได้รับความสูญเสีย” “ไม่สูญเสียหรอก ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว” “งั้นคุณจะหมายความว่า คุณไม่บริสุทธิ์จริง ๆ น่ะเหรอ” “สำคัญมากขนาดนั้นเลยหรือไง สมัยนี้มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่จะสนใจชายหนุ่มพรหมจรรย์” “ถึงแม้ว่าจะไม่สนใจ แต่ถ้าคุณยังบริสุทธิ์ ข้างในใจฉันก็จะรู้สึกดีขึ้น” “ต้องให้ใครทำให้คุณพบผมก่อนหน้านี้ หรือทำให้ผมพบคุณก่อนดี” ผลินเบะปาก “โอเค ฉันไม่สนใจความจริงที่ว่าคุณไม่ได้บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วก็ได้ งั้นบอกฉันมาตามตรง คุณผ่านผู้หญิงมาแล้วกี่คน” ปยุตเงียบไปสักพัก ดึงบุหรี่จากโต๊ะข้างเตียงออกมาจุดไฟ แล้วสูบอย่างหนัก บอกออกมาตามตรง “หนึ่ง” “จันทร?” “อืม” ทันใดนั้นดวงตาของผลินก็หม่นแสงลง ผู้หญิงคนนั้นจะมีความสุขขนาดไหนกัน สามารถเป็นคนแรกที่ได้เป็นเจ้าของปยุตเช่นคนรัก แล้วทำไมเธอถึงไม่สนใจมัน มีเหตุผลอะไรที่ทิ้งคนรักไปแบบนี้ “นี่เป็นครั้งแรกของฉัน คุณได้รับมันไป” เธอเปลี่ยนเรื่องได้อย่างง่ายดาย ไม่อยากจะทำลายบรรยากาศที่ดีแบบนี้ ไม่อยากพูดคุยเกี่ยวกับคนที่ทำให้ต่างคนรู้สึกไม่ดีอีกต่อไป “ได้รับมาแล้ว เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ ผมจะรักคุณให้ดีที่สุด” ปยุตกอดเธอเอาไว้แน่น ใช้คางสัมผัสกับหน้าผากของเธอแผ่วเบา พลางพึมพำ “ผมไม่เคยคิดเลย ว่าพระเจ้าจะส่งนางฟ้าอย่างคุณมาเพื่อช่วยปีศาจอย่างผม คิดว่าผมต้องมีชีวิตที่ตกต่ำด่ำดิ่งแบบนี้ไปตลอด ลิน ขอบคุณนะ คุณช่วยผมออกมาจากความมืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด” “ฉันไม่ใช่นางฟ้า ฉันเองก็เป็นปีศาจเหมือนกันกับคุณ คุณขอบคุณฉัน ฉันก็ขอบคุณคุณเหมือนกัน คุณเป็นคนช่วยฉันออกมาก่อน” ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม มันอาจจะเจ็บปวด แต่ก็ยังสามารถช่วยชีวิตคนได้ มันอาจจะกลายเป็นหนามพิษทำให้คุณเจ็บปวด แต่ก็เป็นยาที่ดี สามารถรักษาบาดแผลในใจของคุณที่ได้รับบาดเจ็บมานานนับปี “ลิน คำพูดบางอย่างอาจจะไม่เหมาะที่จะพูดตอนนี้ แต่ผมก็ยังอยากจะสารภาพมันกับคุณ ผมไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบนัก ผมมีข้อเสียมากมาย ผมอาจจะไม่สมควรได้รับความรักที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมก็ยังต้องการมัน คุณก็รู้ว่ามันยากแค่ไหนที่ผมจะตกหลุมรักคุณ ต้องผ่านการพยายามต่อสู้กับขั้นตอนที่ลึกซึ้งมาอย่างหนัก เปิดประตูหัวใจและให้คุณเข้ามา ดังนั้นคุณต้องไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ ถ้าผมได้รับบาดเจ็บทางอารมณ์อีกครั้ง ผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร บางครั้งผมก็อิจฉาตฤณกับคนอื่น ๆ พวกเขามักจะเล่นเกมกับความรู้สึกของคน พวกเขาทิ้งคนอื่นวันนี้ แล้วในวันพรุ่งนี้ก็ถูกคนอื่นทิ้ง มันง่ายดายจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ และทั้งที่เป็นเด็กบ้านรวยเหมือนกัน แต่ผมกลับทำแบบนั้นไม่ได้” “พวกเขาไม่มีหัวใจ ผู้ชายที่ไม่มีหัวใจจะไม่เจ็บปวด แต่ถ้าไม่มีหัวใจแล้วอะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่กันล่ะ คุณไม่ต้องอิจฉาพวกเขาหรอก คุณแค่เป็นตัวคุณก็พอแล้ว” ในคืนนั้น ปยุตหลับลึก แต่ผลินกลับพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ คำพูดของปยุตเฝ้าวนเวียนอยู่แต่ในหูของเธอ เธออยากรวบรวมความกล้าที่จะสารภาพทุกอย่างกับเขาเช่นกัน แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา ความรักระหว่างคนสองคนนั้นเพิ่งเริ่มต้น มันต้องใช้เวลาในการวางรากฐานที่เพียงพออีกมากสำหรับความไว้วางใจ แสงยามเช้าอันอบอุ่นแต่ไม่เจิดจ้าเกินไปนัก ตกกระทบลงบนพื้นจนเกิดแสงเงาที่งดงาม ผลินจำไม่ได้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีภายนอกหน้าต่างก็มีแสงสีขาวนวลดั่งพุงปลาลอดผ่านเข้ามาเสียแล้ว เธอเลิกผ้าห่มออกขยับร่างกาย และใบหน้าก็ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ “ตื่นแล้วเหรอ” เขานอนอยู่ข้าง ๆ เธอ ดูทีวีที่มีระดับเสียงต่ำมาก แล้วก็โน้มตัวลงมา ก้มลงจูบเธอ “นี่กี่โมงแล้ว” เสียงของเธอแหบ “เที่ยงกว่าแล้ว” เขามองไปที่นาฬิกา “หิวหรือเปล่า ลุกขึ้นแล้วไปทานมื้อเที่ยงกันเถอะ ดีไหม” “อืม” เธอพยักหน้า แล้วค่อย ๆ ขยับเพื่อบรรเทาความรู้สึกไม่ค่อยสบายที่หว่างขา เปิดผ้าห่มและพยายามที่จะลุกออกจากเตียง เขามองดูการเคลื่อนไหวของเธอ มีรอยยิ้มที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นบนริมฝีปาก “ให้ผมอุ้มคุณไปไหม” ระดับเสียงและโทนเสียงนั้น มันแตกต่างจากที่เขาเคยเป็น...จากที่เคยเป็นเสียงเนือย ตอนนี้กลับกวนประสาทแล้วยังแฝงความหมายที่ลึกซึ้ง เธอเขินอายหันไปหยิบชุดนอนที่อยู่ข้าง ๆ มาใส่ รีบลงจากเตียง ใส่รองเท้าแตะและเดินเข้าไปในห้องน้ำ กดเปิดโคมไฟติดผนัง เธอนำผมเข้าทัดที่ใบหู แล้วหยิบเอาแก้วขึ้นมาแปรงฟัน แปรงไปแปรงมาก็พลันรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาอีกครั้ง “ยังง่วงอยู่อีกเหรอ” ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงดังขึ้นในหู เขาเดินตามหลังเธอมา แขนวางอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างมือทั้งสองข้างกักร่างกายของเธอเอาไว้ ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขน ร่างกายแนบชิดกับเธออย่างล่อแหลม เธอเหล่มองเล็กน้อย มองเห็นเขาพูดในกระจก กดจูบที่ซอกคอเธอแผ่วเบา “ง่วง” เธอตอบเสียงแหบพร่ากับแปรงสีฟัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นด้วยเพราะทั้งโกรธทั้งอาย “คุณปยุต!” ในขณะที่เธอกำลังง่วง มือของเขาก็เริ่มที่จะซุกซนกับเธอ “อืม ผมอยู่นี่” เขาตอบอย่างใจเย็น และมือทั้งสองข้างก็ไม่ได้หยุดกระทำ “คนบ้ากาม...” ปากของเธอเต็มไปด้วยฟอง จากนั้นจึงบ้วนปากด้วยแก้ว และป้องกันไม่ให้เขากระทำการที่ไม่ดี แต่ในที่สุดมันก็สับสนวุ่นวาย พูดออกมาด้วยความเขินอาย “คุณอยาก...” “อืม” เขาอุ้มเธอขึ้นจากพื้นและวางลงบนเคาน์เตอร์ กับบางเรื่อง เมื่อได้แหกกฎไปแล้ว มันก็ยากที่จะทานทน หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน พวกเขามาอยู่ด้วยกันที่หอไอเฟลอันมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงปารีส มองไปยังสถาปัตยกรรมที่งดงาม ผลินลืมปัญหาทั้งหมดในหัวใจ เธอมีความสุขเหมือนเด็ก ๆ วิ่งเล่นไปรอบหอไอเฟล ปยุตมองเธอที่กำลังบ้าบอ เหมือนที่เห็นเมื่อหลายปีก่อน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านบะหมี่เผ็ด อ่านหนังสือและหัวเราะเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโตแบบนี้เช่นกัน
已经是最新一章了
加载中