ตอนที่ 79 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี(4)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 79 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี(4)
ต๭นที่ 79 เธอเป็นผู้หญิงไม่ดี(4) หลังจากทานอาหารเย็น น้องสามีก็เสนอขึ้นมาว่า “พี่สะใภ้ พวกเรามาเล่นไพ่กันไหมคะ” เธอตอบตกลง “ก็ดีค่ะ” หันหน้าไปถามปยุต “คุณเล่นไหม” ปยุตถามเธออย่างไร้อารมณ์ “สิ่งที่เด็กเล่น คุณคิดว่าผมจะเล่นงั้นเหรอ” “สิ่งที่เด็กเล่นอะไร คุณพ่อกับคุณแม่ก็เล่นด้วย คุณจะบอกว่าคุณพ่อกับคุณแม่เป็นเด็กเหรอ” เขาเลือกคิ้วของเขา “สำหรับผมเวลาคือเงิน หนึ่งนาทีเท่ากับสิบล้าน ผมจะไม่เสียเวลาเล่นเกมที่น่าเบื่อเหล่านี้กับพวกคุณหรอก” ผลินตัดบท “ไม่เล่นก็ไม่เล่น คุณติดทองอะไรนั่นบนหน้าตัวเองไปเถอะ” เธอพูดกับน้องสามี “ช่างคนที่ไม่เกี่ยวเถอะค่ะ เรามาเล่นกันเถอะ” ปยุตขึ้นไปข้างบน ผลินกับน้องสามี สี่คนพ่อแม่ลูกนั่งเล่นไพ่โป๊กเกอร์อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนในห้องนั่งเล่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยได้เล่นแบบนี้ และตามธรรมชาติแล้วด้วยฝีมือ เล่นมาเป็นชั่วโมง ก็เสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ติ๊ง..โทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้าง ๆ มีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า เธอเหลือบมอง “คุณแพ้แล้วใช่ไหม ถ้าแพ้แล้วก็กลับขึ้นมานอน” “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเล่นเสีย” เธอรีบตอบกลับไป โยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับปยุต ต้องเป็นผู้ชายคนนั้นแน่ที่สาปแช่งเธอให้เสียเงิน นี่ต้องเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอสูญเสียเงินมากมายขนาดนี้ การสูญเสียเงินเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่คุณแม่สามีต่างหากที่สำคัญ ยิ่งนานก็ยิ่งคึก เห็นลูกสาวและลูกสะใภ้หาวไม่หยุดเธอก็ขู่ว่า “ลุกขึ้นมาสู้เลยนะ เมื่อใดก็ตามที่ได้เงินคืนจากฉันไป เมื่อนั้นพวกเธอค่อยไปนอน” ผลินกังวลจนผมจะเป็นสีขาว แม่สามีเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ เธออยากจะชนะแล้วได้เงินคืนจากแม่สามี แต่นั่นก็คือเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเท่านั้น ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กับน้องสามีนั้น ด้วยความที่ชอบเล่นไพ่ แม้ว่าจะเสียครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่สน “คุณโง่มากขนาดว่ายน้ำยังไม่เป็น แล้วผมจะไม่รู้ได้ยังไงว่าคุณจะต้องเล่นเสีย” “ฉันโง่มากขนาดว่ายน้ำไม่เป็นงั้นเหรอ ฉันมีข้อดีมากมายที่คุณไม่รู้” ปยุตมีสีหน้าเยาะเย้ย “โธ่คุณ นอกจากจะอ่านหนังสือและสามารถสอนได้ แล้วยังจะมีอะไรอีกล่ะ ยายโง่” “ถ้างั้นคนโง่เท่านั้นแหละที่ตกหลุมรักคนโง่” ธามันที่จะลืมตาไม่ขึ้นอยู่แล้ว เห็นลูกสะไภ้หยิบโทรศัพท์มือถือมาส่งข้อความไม่หยุดก็อดที่จะประท้วงไม่ได้ “ตั้งใจเล่นให้ชนะแม่ของเธอเร็ว ๆ สิ จะปล่อยให้คนอื่นไม่ได้พักผ่อนเหรอ” เธอเกาศีรษะ “พวกคุณอย่าพึ่งฉันเลยค่ะ ถ้าคาดหวังจากฉันงั้นคืนนี้ก็คงไม่ได้นอนแน่” เมื่อคุณนายท่านได้ฟังสิ่งนี้ก็ยิ่งคึก หัวเราะลั่น “ดูเหมือนว่าในบ้านหลังนี้ฉันจะไร้เทียมทานนะ คราวหน้าเราจะไม่เดิมพันเงินกันแล้วดีกว่า เปลี่ยนเป็นเดิมพันการเชื่อฟัง ถ้าใครแพ้ ต้องเชื่อฟังคนชนะ” ลูกสาวพึมพำโต้แย้งกลับไป “ถึงไม่เดิมพัน ในบ้านหลังนี้มีใครกล้าไม่เชื่อฟังแม่บ้างล่ะ” “พี่ชายเธอฟังฉันเหรอ” “โธ่เขาน่ะ เขาไม่ใช่มนุษย์ เขามาจากดาวอังคาร” ผลินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ส่งข้อความไปหาปยุต “น้องสาวของคุณบอกว่าคุณมาจากดาวอังคาร” “พวกคุณกำลังเล่นไพ่หรือกำลังนินทาผมกันแน่ ให้เวลาคุณห้านาที กลับขึ้นมานอนเดี๋ยวนี้” เธอทำหน้ารู้สึกผิด “มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากนอน จริง ๆ แล้วฉันอยากจะนอน แต่แม่บอกว่าถ้าใครยังไม่ชนะได้เงินจากเธอคืนมาก็จะไม่ให้ไปนอนน่ะสิ หัวใจของฉันมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพออะ” หลังจากนั้นไม่นาน นาฬิกาบนผนังชี้ไปที่เลขสิบสอง ขณะที่ผลินกำลังเป็นหนี้แม่สามีไม่รู้ตั้งเท่าไร ปยุตก็ลงมา เขาเดินมาตรงหน้าของผลินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดึงเก้าอีกออกแล้วนั่งลง ผลินถามอย่างสงสัย “สิบล้านต่อนาที คุณสามารถเสียเวลาพวกนั้นได้แล้วเหรอ” “ตั้งใจเล่นไพ่ของคุณไปเถอะ” เขาพูดกับเธอ แล้วก็หันไปมองที่น้องสาว “และเธอ ตั้งใจหน่อย” เดิมทีผลินก็มีสมาธิ แต่เมื่อปยุตมานั่งข้าง ๆ เธอก็ไม่สามารถจดจ่อสมาธิได้อีก เลือกไพ่ในมือ ปยุตมองดูเธอเล่น อดไม่ได้ที่จะลูบหน้าผากพลางถอนหายใจ กระซิบกับเธอว่า “ฝีมือแบบนี้ ผมมีเงินเท่าไรก็คงถูกคุณผลาญจนหมด” “คุณจะมาเล่นคุณก็เล่นไป” ผลินพึมพำอย่างหดหู่กับไพ่ที่ยุ่งเหยิงในมือ “โอ้ เด็กน้อย ภรรยาของแกเป็นหนี้ฉันมากนะ ช่วยเธอคืนมันด้วยสิ” คุณนายท่านมองไปที่ลูกชายของเธอ ยักคิ้วอย่างภาคภูมิใจ ปยุตดึงปึกเงินสดออกมาจากกระเป๋าสตางค์ “พอไหมครับ” “ก็เกือบจะ” เมื่อจบตา ปยุตสะกิดไหล่ของผลิน “คุณ มานี่” “อะไร” ผลินมึนงง ไม่เข้าใจความหมายของเขา “ให้คุณได้เห็นว่าอะไรที่เรียกว่ามาสเตอร์” อ่า เธอหัวเราะ “เป็นมาสเตอร์ที่แพ้และเสียภรรยาตัวเองให้คนอื่น” เมื่อพ่อสามีได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็เอ่ยถาม “แกเคยแพ้แล้วเสียภรรยาของแกให้กับคนอื่นเหรอ” ปยุตไม่กล้าที่จะตอบ “ตั้งใจเล่นดีไหมครับ” “อ้อ โอเค” ถูกเขาชกแบบนี้ก็ไม่มีใครกล้าถามอีก ปยุตเล่นไพ่โป๊กเกอร์กับพ่อแม่แทนผลิน ผลินไม่คิดว่าแค่เกมแรก ปยุตก็ชนะเรียบ ต่อมา ตาที่สอง ตาที่สาม เขาก็ยังชนะ ยกเว้นคุณนายท่านคนอื่นทุกคนล้วนมีความสุขมาก เพราะอีกไม่นานก็จะได้เข้านอนกันได้แล้ว ตาที่หก เงินของคุณนายท่านหายไปจนหมด เธอตบโต๊ะอย่างไม่เต็มใจ “คืนนี้เกินงบแล้ว ค่อยต่อคืนพรุ่งนี้” ผลินขึ้นไปข้างบนพร้อมกับกองธนบัตร กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อไปถ้าคุณล้มละลาย คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจของคุณด้วยการเล่นการพนันได้เลยนะ” ปยุตทำเสียงเหนื่อยหน่าย “ถ้าผมล้มละลาย โลกก็คงกำลังจะแตก” “ว่าแต่ทำไมคุณยังไม่นอนล่ะ” “ถ้าผมหลับไปแล้วใครจะสามารถไปช่วยชีวิตคุณออกมาได้บ้าง” “อย่าพูดถึงอีกเลย คุณแม่ของคุณน่ะน่ากลัว” เมื่อผลินคิดถึงใบหน้าที่แสนชาญฉลาดของแม่สามีแล้วก็พาลปวดหัว “แต่ว่านะ คุณน่ะยิ่งกว่า” “คุณไม่เคยได้ยินคำนี้เหรอ ไม่มีพ่อแม่คนไหนเอาชนะลูกได้” “นั่นก็จริง” เธอหอบอาชุดนอนเข้าไปอาบน้ำ เมื่อออกมาก็พบว่าปยุตนอนอยู่บนเตียงแล้ว พอหัวเธอถึงหมอนก็หลับไป ปยุตผลักเธอ “นี่ หลับไปแล้วเหรอ” “ต้องการอะไรถึงยังไม่นอน” “คุณจะบอก...” ผลินพึมพำ “ฉันรู้ ฉันรู้ว่าฉันทั้งเหนื่อยทั้งง่วง” “คิดว่าผมรอคุณจนถึงตอนนี้เพื่ออะไรล่ะ” ปยุตเตรียมที่จะล้วงมือเข้าไปในชุดนอนของผลิน ผลินอดไม่ได้ที่จะร้องคราง “เลิกทำเสียงดังได้แล้ว ฉันไม่มีแรงเหลือแล้วจริง ๆ” “แค่เล่นไพ่มันเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ” “ก็เมื่อคืน...” ปยุตอยากหัวเราะเมื่อได้ยิน แต่เห็นว่าเธอเหนื่อย จึงไม่มีแก่ใจจะจัดการกับเธอ จึงดีดหน้าผากของเธอแผ่วเบา “ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก” เช้าตรู่ เมื่อผลินตื่นนอน ปยุตก็ออกไปแล้ว เธอรีบโทรหาเขา “ฮัลโหล คุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่ปลุกฉันล่ะ” “เห็นคุณหลับสบาย ก็เลยไม่อยากปลุก” “เดี๋ยวฉันจะไปหาคุณที่บริษัท มีบางอย่างต้องพูดกับคุณ” “เรื่องอะไร” “แค่เรื่องโครงการวัฒกาญจน์น่ะ คุณไม่ได้เซ็นสัญญากับพ่อฉัน จะให้ฉันเซ็นสัญญากับเขาแทนเหรอ” “อืม แบบนั้นก็ได้” ปยุตหยุดไปครู่หนึ่ง “สัญญาอยู่ในลิ้นชักกลางห้องหนังสือของผม คุณสามารถเอาไปใช้ได้เลย” “ขอบคุณค่ะสามี ถ้าฉันทำสัญญาแล้วจะส่งมันให้คุณ” “โอเค” ผลินวางหูไปแล้วถอนหายใจโล่งอก เมื่อหลักฐานในมือชุดาถูกทำลายแล้วค่อยสารภาพกับปยุตก็คงไม่สายเกินไป หลักฐานที่ไม่เอื้อต่อเธอก็มีแต่จะนำน้ำมันไปราดลงบนกองเพลิง เธอจะไม่มีวันยอมให้ชุดามาทำลายความสุขของเธอได้อย่างง่ายดายแน่ อาบน้ำแต่งตัวแล้วเธอก็มาที่ห้องหนังสือของปยุต เปิดลิ้นชักกลาง ในนั้นมีเอกสารมากมาย เธอพลิกดูไปมา ทันใดนั้นก็เห็นรูปที่ด้านล่างของลิ้นชัก หยิบมันขึ้นมาดู พบว่ามันเป็นรูปของคนสามคน คนทางซ้ายคือปยุต ตรงกลางคือจันทร และทางขวา...ทางขวา... เธอปิดปากของเธอด้วยความตกตะลึง จ้องไปที่ผู้ชายกับกีตาร์บนหลังทางขวามือนั่น นี่ไม่ใช่นักร้องนำที่เธอเจอในปารีสเมื่อวันก่อน ชนุตร์ แซ่อี้หรอกเหรอ “เป็นเขาได้ยังไง ทำไมถึงเป็นเขาได้” ผลินเป็นอัมพาตทรุดลงบนเก้าอี้สำนักงานของปยุต มือที่ถือรูปนั้นสั่นอย่างไม่อาจห้ามได้ ถ้าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของปยุต งั้นก็คือธรรศที่พาจันทรไป? ธรรศ...ชนุตร์ แซ่อี้...ชนุตร์ก็คือธรรศ ธรรศ...เธอปิดปากของเธออีกครั้ง หัวใจเต้นแรง โลกใบนี้กว้างใหญ่ แต่ทำไมเธอถึงได้พบญาติที่หายตัวไปของปยุต เธออยู่ในความสับสน จะทำเช่นไรดี จะบอกให้ปยุตรู้ดีหรือเปล่าว่าได้เจอกับธรรศ ผลินตกลงสู่ห้วงแห่งการต่อสู้ของความสับสันวุ่นวาย เธอไม่เคยคิดฝันถึงมัน การที่อยู่ในกรุงปารีสจะได้พบกับคนที่ไม่ควรพบ ถ้าอย่างนั้น ธรรศอยู่ในกรุงปารีส ไม่แน่ว่าจันทรก็อยู่ในเมืองนั้นด้วยใช่ไหม เธอจะบอกกับปยุตอย่างไรดี เขาจะไปหาเธอที่นั่นหรือเปล่า ก็คงน่าจะต้องไป ศักดิ์ศรีของผู้ชายคนหนึ่งถูกทรยศย่ำยีหักหลังโดยผู้หญิงที่เขารักและน้องชายสุดที่รักของเขา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับตัวเองก็คงจะต้องไปที่นั่นแน่... แล้วหลังจากนั้นล่ะ ถ้าได้เจอกับจันทรแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มันจะสามารถลบออกโดยง่ายเหมือนการลบรอยสักนั่นหรือไม่ หัวใจที่แข็งแกร่งของเขาจะสั่นคลอนหรือเปล่า ผลินไม่เคยกังวลอะไรเช่นนี้มาก่อน คิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า เธอตัดสินใจสารภาพกับแม่สามีก่อน เพื่อดูสิ่งที่แม่สามีจะพูด เธอลงมาข้างล่าง แม่สามีกำลังนั่งหลับตาฟังเพลงโอเปร่า “แม่คะ” เธอร้องเรียกเบา ๆ คุณนายท่านลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยถาม “มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” “ฉันมีบางอย่างจะบอกคุณค่ะ” “อะไรเหรอ” “ที่ไปปารีส ฉันเจอผู้ชายคนหนึ่ง” “ใครเหรอ” ใบหน้าของคุณนายท่านนิ่งไปเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีลางสังหรณ์ว่าเธอจะพูดอะไร “หลานชายของคุณ ธรรศ” “เธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นหลานชายของฉัน เธอไม่น่าจะเจอเขาได้” ผลินเล่าเรื่องราวที่ได้พบกับชนุตร์ แซ่อี้ และรูปที่ได้เห็นในห้องหนังสือของปยุต เมื่อได้ยินเธอพูดจบ คุณนายท่านก็ถอนหายใจเข้าลึก
已经是最新一章了
加载中