ตอนที่83 ความลับไม่มีในโลก(2)
1/
ตอนที่83 ความลับไม่มีในโลก(2)
กำราบความรักของประธาน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่83 ความลับไม่มีในโลก(2)
๕อนที่83 ความลับไม่มีในโลก(2) มือที่กำลังง่วนอยู่ถึงกับชะงักขึ้นทันที เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยความประหลาดใจ ส่ายหัวอึกอักไปมาตอบว่า “ไม่......ไม่มี.........เป็นอะไรไปหรือคะ” “ไม่มีอะไร ก็คิดกลับไปว่าเมื่อก่อนหลายต่อหลายครั้งที่คุณต้องการจะพูดอะไรกับผม เวลานั้นงานยุ่งจึงไม่มีเวลาได้ฟัง ครั้งนี้นึกขึ้นมาได้ ก็คิดจะสอบถามดูครับ” ปยุตพูดจบแล้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พูดต่อไปอีกว่า “ ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆนะ” หัวใจของผลินเต้นไม่เป็นจังหวะ มองเห็นสีหน้าท่าทางของปยุตก็ไม่มีอะไรผิดปกติ พูดออกมาอย่างอึกอัก สองคำคือ “ ไม่มี” เขายิ้มอีกครั้ง และโน้มตัวไปจุมพิตบนหน้าผากของเธอ พูดอย่างอ่นโยนว่า “ไม่มี ก็ช่างมันเถอะ ผมไปก่อนนะ” “โอเค บ๊ายบาย” รอจนกว่าปยุตเดินออกจากห้อง ร่างของเธอกลับไร้เรี่ยวแรงล้มลงไปนั่งบนโซฟา หวนคิดถึงเมื่อครู่นี้ เขาถามเธออย่างมีความหมายนัย ลึกลับซับซ้อน เหมือนกับมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง ผลินมาถึงโรงเรียนอย่างคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งวันเธอจิตใจเหม่อลอย ในคาบสอนหนังสือก็ใจลอยบ่อยครั้ง เป็นการยากมากที่จะรอจนถึงเวลาเลิกเรียน เธอและชื่นใจเดินประกบคู่กันออกจากโรงเรียน ชื่นใจถามเธอว่า “ มีอะไรหรือเปล่า รู้สึกว่าเธออยู่ยังกับคนไร้วิญญาณ” เธอทั้งส่ายศรีษะทั้งพยักหน้าเหมือนคนเป็นใบ้ ไม่รู้ว่าจะตอบออกไปอย่างไร “มีเรื่องหรือไม่มีเรื่องล่ะ ทั้งส่ายหน้าทั้งพยักหน้า ใครจะไปรู้ว่าหมายความว่าอย่างไร” “ชื่นใจ” เธอหยุดเดินทันที พูดอย่างขึงขังว่า “ฉัน.......” ยังไม่ทันจะพูด เธอหับหลังกลับไป สอดสายตาไปรอบๆ “เธอเป็นอะไรกันแน่ พูดจากวนสับสนไม่มีหัวไม่มีหาง” “ทำไมรู้สึกว่า เหมือนมีคนคอยจ้องมองฉัน” ชื่นใจยิ้มอย่างเสียอารมณ์พูดว่า “ เธอเสียสติไปแล้วเหรอ ไม่ได้เป็นซุปเปอร์สตาร์ ใครจะต้องการแอบมองเธอห๊ะ” เธอถอนหายใจจูงมือชื่นใจพูดว่า “ พวกเราไปคุยกันที่บ้านของเธอเถอะ” ผลินมาถึงบ้านของชื่นใจ เล่าถึงคำพูดแปลกๆที่ปยุตพูดกับเธอเมื่อเช้าวันนี้ให้ชื่นใจฟังอีกรอบ ให้ชื่นใจช่วยวิเคราะห์คำพูดเหล่านี้ มีความหมายโดยนัยว่ายังไง ชื่นใจยักไหล่แสดงท่าทีไม่คิดเห็นอย่างนั้นพูดว่า “เธอเครียดไปหน่อยมั๊ย บางที เขาอาจจะ ถามขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ” “ถ้าเขาไม่ได้ถามขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจล่ะ” “เธอคิดว่าเขารู้อะไรมาหรือเปล่า ตั้งใจที่จะลองใจเธออย่างนั้นรึ” “ฉันมีลางสังหรณ์ว่าอย่างนั้น” “เป็นไปไม่ได้ ถ้าเขารู้เรื่องแล้ว เขาจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่นอน ไม่มีทางที่จะพูดคุยกับเธออย่างสบายใจได้หรอก” “แต่ว่าฉันรู้สึกมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง เป็นไปได้มั๊ยว่า......” “เป็นไปได้แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น” “ เมื่อวานขณะที่ฉันเขียนไดอารี่อยู่นั้น เขาเข้ามาในห้องไม่ทันตั้งตัว จากนั้นขณะที่ฉันลุกลี้ลุกลน ลืมล๊อคกุญแจลิ้นชักก่อนที่จะเข้าไปในห้องน้ำ เป็นไปได้มั๊ยว่าเวลานั้น เขาได้ดูข้อควาในสิ่งที่ไม่ควรดู” ชื่นใจผลักเธออย่างอารมณ์เสีย พูดว่า “เธอทำไมจนป่านนี้แล้วเขียนอะไรเป็นเด็กอย่างนี้อีกล่ะ ฉันพูดกับเธอกี่ครั้งกี่หนแล้ว สิ่งของชิ้นนั้นจะเก็บไว้ไม่ได้ เก็บไว้จะนำภัยพิบัติมาให้เธอ” ผลินเริ่มกังวล “เขาควรที่จะดูไปแล้วแน่ๆ สมควรทำอย่างไรดี” “ฉันคิดว่าคงจะยังไม่ได้อ่าน ถ้าเขาอ่านแล้ว เขาจะต้องสอบถามเธออย่างแน่นอน ไม่รอให้เวลาผ่านไปหนึ่งคืนโดยไม่ได้ถาม ช่วงเช้าก็ไม่ได้ถาม ยังมีคำพูดประโยคนั้นอีก ปยุตเขาไม่ใช้ผู้ชายมีความอดกลั้นมากพอ” แม้ว่าชื่นใจจะปลอบใจเธอ ผลินเองก็ยังคงไม่สบายใจ เธอก็ยังคงกระวนกระวายใจ เดินไปเดินมาในห้องพัก ชื่นใจมองดูผลินเดินไปมาจนเวียนศรีษะ ตะโกนเสียงดังพูดว่า “หยุดเดินได้มั๊ย ตาของฉันลายไปหมดจะเป็นลมอยู่แล้ว” “ไม่ได้ ฉันจะต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง ไม่สนใจว่าเขาจะอ่านหรือยังไม่ได้อ่าน คืนวันนี้ฉันต้องบอกความจริงกับเขา” เธอรีบเดินออกไปข้างนอก ชื่นใจรีบเดินตามเธออกมา ฉุดมือของเธอได้ที่ห้องชั้นล่างพูดว่า “ เธอบอกความจริงไม่ได้” ผลินตะโกนอย่างหงุดหงิดว่า “ปล่อยฉัน วันนี้ใครหน้าไหนอย่ามาห้ามฉัน ฉันใกล้ที่จะอกแตกตายอยู่แล้วล่ะ ฉันจำเป็นต้องบอกความจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟังให้ได้ จากนั้นก็ขอร้องเขายกโทษให้กับฉัน” “เธอบ้าไปแล้วหรือไง ถ้าปยุตรู้สิ่งที่เธอกระทำทั้งหมด เขาจะไม่มีทางให้อภัยเธอ เขาจะต้องอกแตกตายไปก่อนเธออย่างแน่นอน ถ้าเธอต้องการที่จะดูเขาอกแตกตายต่อหน้าต่อตา นั้นเธอก็ไปบอกความจริงกับเขาเถอะ” ผลินตัดสินใจอย่างเด็ดขาดวิ่งออกไป ชื่นใจฉุดรั้งเธอไว้อีกครั้งหนึ่ง พูดต่อว่า ”ฉันดูไปแล้วเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าทาตฤยังมีชีวิตอยู่นะ แม้ว่าปยุตจะยกโทษให้เธอเกี่ยวกับ เป้าหมายที่แท้จริงในการแต่งงานกันกับเขาเพื่อล้างแค้น เขาจะให้อภัยเธอมั๊ยเรื่อง10ปีก่อนที่เธอได้หมั้นหมายกับชเยศไว้ก่อนแล้ว” “มีการหมั้นหมายแล้วเป็นยังไง พวกเราถึงยังไงก็ยังไม่ได้แต่งงงานกัน” “พวกเธอทั้งสองถอนหมั้นกันแล้วหรือยัง การหมั้นหมายของพวกเธอทั้งสองถึงเวลานี้ยังไม่มีการถอนหมั้น เธอหมั้นหมายกับคนอื่นอยู่แล้วไปแต่งงานกับเขา เธอคิดว่าปยุตจะทำใจในความรักที่มีมลทินอย่างนี้ได้รึ” “ไม่สนใจว่ารับได้หรือรับไม่ได้ วันนี้ฉันจะต้องพูดออกมาให้ได้ ฉันจะต้องพูดออกมาให้ได้.....” ผลินข่มใจไม่อยู่ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ชื่นใจเองก็น้ำตาคลอเบ้า เธอโผเข้ากอดเธอไว้ พูดว่า ”ฉันไม่ใช่เป็นเพราะว่ากลัวเธอเลิกรากับปยุตแล้ว ไวภพจะมีโอกาสที่กลับมาคบกับเธอ เธอก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันเพียงรักและเป็นห่วงเธอมาก มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้ใจของปยุต ถ้าครั้งนี้บุ่มบ่ามทำให้สูญเสีย เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร” “ชื่นใจ ฉันสำนึกผิด สำนึกผิดแล้วจริงๆ เวลานั้นฉันถึงมีความคิดที่น่าขยะแขยงอย่างนั้น ทำไมคิดที่หลอกใช้ผู้ชายที่เคยผ่านความช้ำใจมาแล้ว ฉันมันเลวมากใช่มั๊ย ฉันช่างเป็นผู้หญิงที่เลวทรามมากจริงๆ” “นี้ไม่ใช่ความผิดของเธอ ขณะที่เธอเลือกเขานั้น ไม่รู้เลยว่าเขาเคยได้รับความบอบช้ำทางใจมามากแค่ไหน ถ้าหากเธอรู้จักเขาตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนกับที่รู้จักไวภพแล้ว เธอจะไม่เลือกเขาอย่างแน่นอน ความจริง ฉันเข้าใจ ทำไมเธอถึงไม่ยอมรับรักกับไวภพ เป็นเพราะว่าเธอไม่ต้องการทำร้ายจิตใจเขา ไม่ต้องการหลอกใช้เขา ดังนั้นจึงไม่รับรักเขา เธอที่ไม่มีความปราถนาที่จะทำร้ายจิตใจเพื่อนของตนเองอย่างเธอนั้น จะเรียกว่าหญิงเลวไม่ได้นะ” ผลินร้องห่มร้องไห้สงบใจไว้ใอยู่ เธอคุกเข่าลงบนพื้นดึงผมของตนเอง ในอดีตที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นรันทดเป็นยิ่งนัก แต่ว่าปัจจุบันจากนี้ต่อไป เธอกลับรู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นน่าขันเสียจริงๆ แท้จริงแล้ว ทั้งน่าขันทั้งน่ารันทด ไม่มีความจำเป็นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เฝ้ารอจนพื้นที่โดยรอบเงียบสงัดปลอดผู้คน ชายคนหนึ่งที่ซ่อนตัวในเงามืดตรงมุมถนน ถือเครื่องบันทึกเทปแล้วก็ออกไปอย่างพึงพอใจ ภายในร้านกาแฟที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ชุดามองดูคลิปวิดีโอที่ผ่านการตัดแต่งโดยผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างหน้า ตื่นเต้นจนต้องยิ้มออกมา เธอนำซองที่บรรจุเงินไว้แน่นมอบให้ชายคนนั้น ยิ้มอย่างมีความสุขพูดว่า “ ลำบากคุณแล้ว หวังว่าครั้งหน้าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกนะ” ชายคนนั้นรับเงินไว้ ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “โอเค พวกเราค่อยติดต่อกันอีกครั้งครับ” เธอดูคลิปวิดีโอที่จะทำให้ผลินต้องยืนอยู่บนปากเหวซ้ำแล้วซ้ำอีกจนพอใจ พูดออกมาอย่างเคืองแค้นว่า “ดูซิว่าครั้งนี้ เธอจะเล่นแง่อะไรอีกที่จะปกป้องชีวิตของตนเองไว้ได้” หลังจากผ่านบทเรียนความผิดพลาดจากครั้งก่อน ครั้งนี้เธอได้เรียนรู้อย่างดี ไม่ได้นัดผลินออกมาทำให้เขายอมถอยไปเสียเอง แต่ครั้งนี้ใช้วิธีส่งคลิปวีดิโอ ทางพัสดุไปยังคฤหาสน์นภาโดยไม่ระบุชื่อ วันเสาร์ช่วงเที่ยง ปาณีมาจากโรงเรียนกลับถึงบ้าน แม่ของเธอถามอย่างประหลาดใจว่า “ทำไมถึงกลับมาเวลานี้ล่ะ” เธอแอ่นก้นนั่งลงบนโซฟา พูดออกมาอย่างหงุดหงิดว่า “เล่นบาสเก็ตบอลช่วงเช้า เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด” “นักศึกษามหาลัยอย่างพวกเธอไม่เรียนหนังสือกันแล้วหรือไง ตอนเช้าเล่นบาส ตอนเย็นกลับมาพักผ่อน” “ อ่ายหย๋า ยุคสมัยนี้แล้ว นักศึกษาคนไหนยังดูหนังสืออีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ปีสี่แล้ว นักเรียนปีสี่ หากดูหนังสือจะถุกคนอื่นหัวเราะเยาะได้ว่าเจ้าหนอนหนังสือซิคะ” “แม่เห็นพี่สะใภ้ของเธอยังดูหนังสือแทบทั้งวัน ยังไปกลายเป็นหนอนหนังสือเลยไม่ใช่รึ” “พี่สะใภ้เค้าต้องสอนหนังสือให้นักเรียน ลูกสอนหนังสือให้นักเรียนซะที่ไหน” “อ่าย ลูกไม่ต้องสอนหนังสือให้นักเรียน หลังจากลูกจบการศึกษาแล้ว จะนั่งกินนอนกินก็ได้อย่างนั้นซิ” ปาณีหมดความอดทนเบิกตากว้างมองไปที่แม่ของเขาพูดว่า “ครอบครัวของเรามีทรัพย์สินมากมาย ลูกนั่งกินนอนกิน 3ชั่วอายุคน ไม่ใช่ว่าจะกินหมดหรอกนะ” “ลูกเนี่ย ถ้าลูกได้อย่างพี่สะใภ้เค้าสักครึ่งนึง แม่ก็นอนตายตาหลับแล้วล่ะ” “นั้นลูกก็ยิ่งทำให้ไม่ได้แน่ มิฉะนั้นแม่จะรีบหลับตาไปเสียก่อน” นายหญิงใหญ่ ถูกลูกสาวพูดเถียงคำไม่ตกฟาก หงุดหงิดจนปวดหัว ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ แม่ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับลูก มีเวลาไปหลับพักผ่อนสักงีบดีกว่ามาต่อล้อต่อเถียงกับลูกเสียอีก” “ก็ใช่ ลูกก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน แม่ ก็ควรจะคิดได้นานแล้วนะ” ห้องรับแขกอันใหญ่โตเหลือเพียงปาณีนั่งอยู่ลำพัง เธอรู้สึกเบื่อๆจึงหยิบเครื่องเล่นเกมส์ออกมาเล่นเกมส์ รปภ.ด้านนอกประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ คุณหนู มีพัสดุถึงนายน้อย ต้องการให้ท่านเซ็นต์รับด้วยตนเองจะทำยังไงดีครับ” เธอเงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้านพูดว่า “คุณก็เซ็นชื่อแทนเขาและนำมาซิ” “ได้ครับ” รปภ.วิ่งรุดออกไป สักครู่วิ่งกลับมา ในมือถือพัสดุชิ้นหนึ่งที่บรรจุไว้อย่างมิดชิด ยื่นให้ปาณีอย่างนอบน้อมพูดว่า ” คุณหนู เชิญรับไว้” “วางไว้ตรงนั้นเถอะ” เธอไม่ชำเลืองแม้สักนิดเดียว ก็สั่งให้เขาวางพัสดุชิ้นนั้นไว้บนโต๊ะ สองชั่วโมงผ่านไป เครื่องเล่นเกมส์แบตฯหมด เธอบิดขี้เกียจลุกขึ้นมา เหลือบไปเห็นพัสดุบนโต๊ะ บ่นพึมพำอย่างแปลกใจ ว่า “ยังมีคนส่งของให้พี่ชายของเราอีกรึ มาจากต่างดาวหรือเปล่าเนี่ย” “เป็นอะไรกันนะ เหมือนจะดูเบาๆ น่าจะไม่ใช่ของสำคัญอะไร...” เธอเหลือบซ้ายมองขวาอยู่พักนึง ก็สะกดความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้ ก็หยิบกรรไกรขึ้นมาเปิดดู ในกล่องมีเพียงแผ่นซีดีวางอยู่ตรงกลาง สิ่งของอย่างอื่นนั้นไม่มี ปาณีอดไม่ได้ที่จะจับมันโยนทิ้งอย่างเสียอารมณ์พูดว่า “ แผ่นซีดีแผ่นเดียว บรรจุซะมิชิดแน่นหนา ฉันคิดว่าเป็นของล้ำค่าอะไรเชอะ” เธอลุกขึ้นไปห้องครัวเพื่อหาอะไรมาทานและเดินกลับมายังห้องรับแขก เบื่อๆก็หยิบแผ่นซีดีแผ่นนั้นยัดใส่เข้าไปในเครื่องเล่น DVD โดยไม่คิดอะไร เฝ้ารอรายการในแผ่นซีดีที่กำลังฉายนั้นจะทำให้ความสนุกสนานหมดไป เพียงแค่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ซีดีแผ่นนั้นจริงๆแล้ว....... แอปเปิ้ลที่กำลังเคี่ยวอยู่ในปากพลันติดอยู่ในลำคอ สองตาของปาณีจ้องมองดูหน้าจอทีวีอย่างไม่ละสายตา ตัวทั้งตัวแข็งทื่อ ราวกับหุ่นไม้ ผ่านไปพักใหญ่เธอถึงจะมีปฏิกริยาตอบสนอง วิ่งพรวดพราดไปข้างโทรทัศน์หยิบซีดีแผ่นนั้นออกมาทันที ในมือถือแผ่นซีดี เธอไม่สามารถบรรยายความรู้สึกตนเองในขณะนี้ได้ ตกตะลึง ประหลาดใจ อ่อนเพลีย สับสน วุ่นวายใจไปหมด
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่83 ความลับไม่มีในโลก(2)
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A