ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง
1/
ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง
หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง
ตนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง? ตั้งแต่เล็กจนโตเขายังไม่เคยโดนใครทำร้ายร่างกายหนักขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะอีกฝ่ายเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งด้วยแล้ว ยายผู้หญิงคนนี้ทำลายความภาคภูมิใจของเขาแทบไม่เหลือชิ้นดี ใบหน้าของมษยาหวาดกลัวจนซีดเผือดไปหมด หญิงสาวคิดไม่ถึงว่าอารมณ์เยงชั่ววูบของตัวเองจะนำเรื่องยุ่งยากมาให้เธอขนาดนี้ อีกอย่างคนกลุ่มนี้ก็ดูจะมีอิทธิพลมากอีกด้วย เธอเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศแค่วันเดียวก็หาเรื่องใส่ตัวเข้าเสียแล้ว ทำไมเธอถึงได้เป็นคนดวงจู๋ขนาดนี้นะ! แถมตอนนี้เธอยังโดดเดี่ยวไร้พรรคพวกอีกด้วย ในตอนนั้นเองที่มีเสียงนุ่มๆของใครบางคนลอยมาจากด้านหลังเธอ “ขออภัยที่ต้องเสียมารยาทกับทุกคนด้วยนะครับที่น้องสาวผู้ดื้อรั้นของผมทำเรื่องไว้หายนะขนาดนี้ ได้โปรดอย่าถือสาเธอเลยนะครับ” ใบหน้าซีดเผือดของมษยาเปลี่ยนเป็นดีใจ เธอรีบหันหน้าไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งค่อยๆเดินออกมาจากมุมห้อง เขาสวมใส่เสื้อสูทสีขาวทั้งตัว รองเท้าสีดำเงา ร่างกายของชายหนุ่ม แสดงออกถึงความสง่างามและมีออร่า เปร่งประกายราวกับพระทิตย์ขนาดย่อมๆเลยทีเดียว แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้ยิ้มแต่ก็สามารถรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเขาได้ไม่ยาก เขาเป็นหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเลยล่ะ เหมือนนายแบบในนิตยสารชื่อดังอย่างไรอย่างนั้น เป็นเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นผู้ชายที่หล่อทุกสามร้อยหกสิบองศาจริงๆ ตอนที่เห็นหน้าของผู้ชายคนนี้ครั้งแรกวรินทรรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอีกฝ่ายมาก ใบหน้าแบบนี้เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน “พี่คะ!” มษยาร้องอย่างดีใจก่อนวิ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของดวิษ ดวิษตกใจอยู่บ้างแต่มือหนาของเขาก็ยกขึ้นมาลูบหัวเธอเบาๆ เขามองไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างหน้าเขาด้วยดวงตาที่เป็นประกายวาบ ทาวัตรับรู้ถึงสายตาที่ดวิษมองมาที่เขาอย่างเปิดเผย เขาขมวดคิ้วก่อนจะมองตอบด้วยดวงตาเย็นยะเยือก “ไม่จำเป็นต้องขออภัยหรอกครับ ขอโทษก็พอ” นิพิฑจ้องหน้าดวิษอยู่หลายวินาที แม้แต่ปารย์เองก็ยังจ้องอีกฝ่ายเช่นกัน ในเวลาแบบนี้เขาก็ไม่คิดจะเสียเวลาลงไปทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้อีก มษยามองหน้าดวิษอย่างขอความเห็นใจ ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววไม่ยินยอม แต่ท้ายที่สุดร่างเล็กก็เดินไปข้างหน้าปราย์อย่างมั่นคงและนิ่งสงบ “เรื่องเมื่อสักครู่ฉันขอโทษคุณจริงๆนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ” ใบหน้าของปารย์ดำคล้ำ เขาไม่ได้รู้สึกดีขึ้นกลับคำขอโทษของเจ้าหล่อเลยสักนิด ผู้หญิงน่าตายคนนี้ ใบหน้าของเธอไม่ได้รู้สึกผิดต่อเขาเลยด้วยซ้ำเหมือนเธอแค่ต้องการขอโทษให้ปัญหามันจบๆไปก็เท่านั้น “ไม่เป็นไรครับ แค่รีบพาผู้หญิงคนนี้ออกไปให้ไกลจากสายตาผมก็พอ” ปารย์เผยรอยยิ้มเย้ยหยัน เขาการมองเธอเหมือนกับมองดูผู้ป่วยที่ยังไม่ได้ทานยาอย่างไรอย่างนั้น เขาจะถือเสียว่าวันนี้ได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ก็แล้วกัน ผู้หญิงที่ดูดีไม่จำเป็นต้องเป็นกุลสตรีเสมอไป บางทีพวกเธอยังปากร้ายอีกด้วย มษยาโกรธจนหน้ามืดไปหมด เธอยังอยากพูดอะไรออกมาอีกแต่ดวิษกลับดึงเธอไว้เสียก่อน ทำให้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากยอมล่าถอยแต่โดยดี “งั้นก็ขอบคุณมากนะครับ” ดวิษเผยรอยยิ้มน้อยๆออกมาก่อนจะดึงร่างเล็กของมษยาให้ตามเขาออกไป ในช่วงที่เขาเดินผ่านร่างของวรินทร ความโค้งของริมฝีปากของเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาทันที รอยยิ้มนั้นเหมือนแสงอาทิตย์ที่สว่างไสวทำให้คนมองรู้สึกอบอุ่น ทำเอาวรินทรตาพล่าเล็กน้อย ร่างกายของเธอหันกลับไปมองสองพี่น้องอย่างไม่รู้ตัวจนกระทั่งร่างของทั้งสองหายออกไปจากสายตา จิตใจของเธอว้าวุ้นไปหมด เธอคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้นจริงๆนะเนี่ย “พี่คะ พี่รู้ไหมว่าว่าผู้ชายเมื่อครู่เขาเป็นโรคจิตจริงๆนะคะ! ทำไมยังต้องให้ฉันขอโทษเขาด้วย” มษยาดึงแขนดวิษอย่างกระเง้ากระงอด หญิงสาวยู่ปากอย่างไม่พอใจ “น้องนี่นะ ทำไมซนขนาดนี้ พี่คลาดสายตาแปปเดียวก็หายไปแล้ว” ดวิษเอื้อมมือไปบีบจมูกรั้นของน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ น้ำเสียงนุ่มๆของเขาอ่อนโยนเหมือนสายน้ำต่างจากสถานการณ์เมื่อครู่ราวกับคนละคน แม้ว่าจะเป็นโทนเสียงนุ่มๆเหมือนกันแต่ฟังอย่างไรก็แตกต่างกันอยู่มาก “เอ่อ พี่คะ แล้วผู้หญิงที่พี่อยากเจอ พี่พบเธอแล้วหรือยังคะ” มษยาถามดวิษขึ้นอย่างแปลกใจ เธอรู้มาว่าดวิษมีผู้หญิงที่ เขาชอบมากอยู่คนหนึ่ง ตอนที่พี่ชายของเธอเรียนอยู่ที่อังกฤษเขามักจะนั่งจ้องรูปถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเช้ากลางวันเย็น ดังนั้นมษยาจึงมั่นใจมากว่าพี่ชายของเธอต้องตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นคนงามมาจากบ้านไหนถึงได้มีความสามารถทำให้พี่ชายของเธอหลงไหลได้ปลื้มถึงขนาดนี้ ดวิษพยักหน้าเบาๆ “อืม” “งั้นก็ดีสิคะ งั้นเมื่อไหร่ฉันจะได้พบเธอคนนั้นล่ะคะ?” “ครั้งหน้าแล้วกัน...” ขณะที่สองพี่น้องเดินไกลออกไป เสียงของพวกเขาก็ค่อยๆไกลออกไปเรื่อยๆจนไม่ได้ยินเสียงสนทนาของพวกเขาอีก เมื่อกลับมาถึงห้องคาราโอเกะ ปารย์ก็ทำราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ชายหนุ่มยังคงนั่งกินนั่งดื่มได้เป็นปกติราวกับเมื่อครู่คนที่ถูกทำร้ายร่างกายเป็นคนอื่นไม่ใช่เขา เพียงแต่ว่าวรินทรและพวกเขาต่างรู้ดีว่าปารย์ไม่ได้แกล้งเป็นคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรอก แต่เขาเป็นคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่แล้วจริงๆ เขาก็เป็นคนใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าวันนี้ดวงของทาวัตจะดีเป็นพิเศษ เพราะทุกๆครั้งแต่จับไพ่เขาก็จะได้เป็นคิงอยู่ตลอด วรินทรเองก็มือไวแอบสลับเปลี่ยนไพ่ในมือของทาวัตเสียทุกครั้ง มีแต่ปารย์ที่น่าสงสารถูกลงโทษอยู่ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้พื้นที่จำกัดอยู่แค่ภายในห้องเล็กๆนี่เท่านั้น ถ้ารอบนี้เป็นเขาที่ต้องโดนลงโทษอีก เขาก็ไม่ไหวแล้วจริงๆนะ แต่ครั้งนี้ปารย์ฉลาดขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้าหากว่าคำสั่งของวรินทรมันไร้สาระเกินไปเขาก็ยอมดื่มไวน์สามแก้วแต่โดยดี แต่ให้ ทุกครั้งดื่มไวน์สามแก้วที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงตลอด ต่อให้เป็นคนที่คอแข็งแค่ไหนก็ทนไม่ไหวอยู่ดี แต่ในสายตาของวรินทรเขาก็เป็นคนโง่อยู่ดี ถ้าครั้งแรกเขายอมดื่มไวน์สามแก้วแต่โดยดีก็คงไม่ต้องระเห็จออกไปข้างนอก ทั้งกอดทั้งจูบทั้งบอกรักเสาอยู่ข้างนอกให้คนผ่านมากระทืบเข้าหรอก “มา! ต่อเลย! ฉันไม่เชื่อว่าคืนนี้ทั้งวันจะไม่มีดวงดีเลยสักครั้ง!” ตอนนี้ปารย์เริ่มเมามากแล้ว เขาหยิบไพ่ใบหนึ่งออกมา จากสำรับก่อนจะโยนลงบนโต๊ะอย่างไม่เสียเวลามอง ไพ่คิง! “ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าฉันยังต้องเหลือความดวงดีไว้อยู่บ้าง เร็วเขา พวกนาย เปิดพ่ออกมาเดี๋ยวนี้!” ปารย์ยิ้มหัวเราะ ออกมาเสียงดัง เขาชี้ไม้ชี้มือไปที่สี่คนตรงข้าม เขามีความสุขจนหัวเราะออกมาเสียงดัง วรินทรเม้มปาก เธอแอบชำเลองมองไพ่ในมือของทาวัต ในใจก็ภาวนาว่าเธอคงไม่ได้ดวงซวยขนาดนั้นหรอกใช่ไหม เมื่อไพ่ในมือถูกวางลง วรินทรถึงกับอ้าปากค้าง ถ้าวันนี้เธอซื้อล็อตเตอรี่ต้องถูกโชคครั้งใหญ่แน่นอน สองโพดำ! ในมือของเธอคือแปดโพดำ เป็นดอกเดียวกันพอดี ทันใดนั้นในหัวของวรินทรก็นึกถึงคำพูดที่ผู้ใหญ่สอนสืบต่อกันมา กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง เธอได้แต่หวังว่าปารย์จะไม่สั่งให้เธอออกไปกอดจูบลูบคลำต้นไม้ใหญ่ข้างนอกก็พอ... “เทคนิคการจูบของรุ่นพี่พวกเราเป็นอย่างไรบ้าง?” ดวงตาของปารย์เป็นประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวยามที่เขามองเห็นไพ่ของทั้งสองคนมีดอกเดียวกัน วรินทรกระแอมไอ ในหัวนึกไปถึงรสจูบของเขาในวันนั้นที่ชายหนุ่มเมาก่อนจะเม้มปากตอบออกมาแผ่วเบา “ก็เฉยๆ” คำพูดธรรมดาเพียงสามคำทำให้สีหน้าของทาวัตหมองคล้ำลง ดวงตาคมจ้องไปที่วรินทรนิ่งๆแต่ฉายแววลึกล้ำ นิพิฑรู้สึกว่าตัวเขาเองควรขยับออกห่างจากทาวัตสักหน่อย แต่การทำเช่นนั้นก็เท่ากับว่าร่างสูงของเขาขยับเข้าไปใกล้คาร่ามากขึ้น เพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้เธอได้กลิ่นน้ำหอมของเขาได้ชัดขึ้น ใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวแดงก่ำ “ตลอดห้าปีที่ผ่านมาตอนเธอใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก เธอคิดถึงใครมากที่สุด?” ปารย์ยังคงถามต่อไป แม้ว่าเขาจะเมาอยู่แต่ ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตากดดันจากทาวัตได้ สายตาคมที่มองเขาเหมือนกับจะยิงให้เป็นพรุนทำให้เขาไม่กล้าถามคำถามที่รุนแรงเกินไปนัก คาร่าหันมามองวรินทรอย่างแปลกใจ ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนรักคำตอบย่อมต้องเป็นทาวัตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมาคำตอบจะยังเหมือนเดิมไหมนะ? ทาวัตถือแก้วไวน์ไว้ในมือ ใบหน้าของชายหนุ่มยังคงเฉยเมยไม่แสดงออก ดวงตาคมเหลือมองใบหน้าด้านข้างของวรินทรที่ตอนนี้ทำสีหน้าลำบากใจ ในใจของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังอยู่บ้าง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A