ตอนที่22 หนามยอกเอาหนามบ่ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่22 หนามยอกเอาหนามบ่ง
ต๭นที่22 หนามยอกเอาหนามบ่ง ทันใดนั้นทั้งนวีนและอิงดาวต่างก็จ้องมองเธอเป็นตาเดียว วรินทรรู้สึกผิดขึ้นมาทันที จริงๆแล้วเธอก็เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเช่นกันแต่กระนั้นเธอก็ยังแอบรู้สึกว่าการที่เธอเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพราะใช้เส้นสายเข้าช่วย “ฉันส่งเรซูเม่เข้ามาน่ะค่ะ หลังจากนั้นก็เข้าสัมภาษณ์กับกรรมการและท่านประธาน หลังจาก ผ่านสัมภาษณ์ฉันก็เข้ามาเริ่มงานวันนี้นี่ล่ะค่ะ”วรินทรมองพวกเธออย่างไร้เดียงสา แม้ว่าอิงดาวและนวีนจะยังมีคำถามที่ต้องการถามออกไปอยู่แต่ก็ประจวบเหมาะกับที่อมันด้าเข้ามาที่แผนกเสียก่อน วันนี้หญิงสาวใส่ชุดเดรสสั้นแขนกุดของChanel สวมรองเท้าส้นสูงจนเรียวขาที่ยาวอยู่แล้วดูยาวมากขึ้นไปอีก ในมือถือกระเป๋าหนังทำมือของGucci ใบหน้าสวยถูกแต่งอย่างพิถีพิถันจัดเต็ม หญิงสาวเดินโอดฉวมจนมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง ดวงตาที่ถูกแต่งแต้มตวัดสายตามาพบวรินทรที่นั่งอยู่ก็กระตุกยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะนั่งลงประจำที่ของตัวเอง วรินทรและอิงดาวสบตากันเงียบๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี วรินทรง่วนอยู่กับการร่างแบบตลอดช่วงเช้า จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงพักเที่ยง ทมันด้าเป็นคนแรกที่เดินออกจากแผนกไป อิงดาวจึงมีโอกาสได้ถอนหายใจออกมาได้อย่างโล่งอก“นางมารไปเสียที วรินทรพวกเราก็ไปกินข้าวกันเถอะ” “ก็ดีนะ ไปไหนกันล่ะ ”วรินทรปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นมาถาม “ก็ต้องเป็นห้องอาหารของบริษัทอยู่แล้ว ยังจะไปที่ไหนได้ล่ะ”อิงดาวหัวเราะขำก่อนลากแขนวรินทรออกเดิน ห้องอาหารของบริษัทงั้นหรือ วรินทรชะงักไปครู่หนึ่ง ถ้าเกิดเจอทาวัตเข้าเธอจะทำอย่างไรดี หญิงสาวแสดงอาการลุกลี้ลุกลนออกมา “ดาว เธอว่าพวกเราจะเจอท่านประธานหรือเปล่า”วรินทรลองถามหยั่งเชิงดู “ท่านประธานไม่เคยลงมากินที่ห้องอาหารบริษัทหรอก เขามักจะไปกินข้าวเที่ยงที่ห้องอาหารของโรงแรมฮวงเซิงสากลที่อยู่ตรงข้ามนั่นน่ะ”เมื่ออิงดาวพูดจบเธอก็หันไปมองที่โต๊ะทำงานของนวีนซึ่งบัดนี้ว่างเปล่า “นวีนคงมีนัดอีกตามเคย นี่ล่ะน้าที่เขาบอกว่าลูกชายที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป” ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกดลงไปชั้นห้องอาหาร “เธอสนิทกับนวีนมากเลยหรือ”วรินทรยิ้มคำกับคำพูดก่อนหน้านี้ของอิงดาว ถ้าพูดจาหยอกล้อเล่นกันได้ขนาดนี้ก็คงสนิทกันในระดับหนึ่งเลยล่ะนะ “ฉันกับเขาโตมาด้วยกัน สมัยก่อนเขาน่ะวิ่งตามตูดฉันทุกวันเลยนะ”อิงดาวพูดขึ้นอย่างเหม่อลอย ดูเหมือนว่าเธอจะคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่ก็ไม่อาจรู้ วรินทรยืนนิ่งๆมองดูตัวเลขในลิฟต์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เธอเองก็อดคิดอะไรฟุ้งซ่านขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน หญิงสาวเม้มปากแน่น ห้องอาหารของบริษัทครอบครองพื้นที่ทั้งชั้นทำให้มีพื้นที่กว้างมาก ทำให้จุโต๊ะรับประทานอาหารแบบกลมไว้ได้จำนวนมาก แม้ว่านี่จะเป็นช่วงเวลากลางวันแต่ห้องอาหารก็ยังคงเปิดไฟสีส้มสว่างทำให้บรรยากาศในห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น พวกเธอทั้งสองคนเดินหาจนได้ที่นั่งที่เงียบสงบที่หนึ่ง ระหว่างที่เดินหาที่นั่งเธอก็ได้ยินเสียงพนักงานคนอื่นซุบซิบนินทาถึงเรื่องที่วรินทรได้ผ่าน‘ประตูมังกร’เข้าไปห้องประธานมาเมื่อวาน อาหารของบริษัท CR กรุ๊ปอยู่ในระดับยอดเยี่ยม หลังมื้ออาหารก็ยังมีผลไม้ให้ล้างปากอีกด้วย แน่นอนว่าหากไม่มีคนมาคอยนินทาเธอลับหลังอยู่ล่ะก็เธอก็คงจะดื่มด่ำกับมื้อเที่ยงของเธอได้มากกว่านี้ แต่นี่เธอกลับกินอาหารไม่ลงแม้แต่คำเดียว น่ากลัวเกินไปแล้ว! เพราะหญิงสาวมัวแต่ก้มหน้าก้มตาจนแทบจะทิ่มลงไปในจานขาวของตน วรินทรจึงไม่ทราบว่าบัดนี้ภายในห้องอาหารเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งอิงดาวยกเท้าเตะเข้าที่เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะเธอจึงเงยหน้าขึ้นมาในที่สุด วรินทรเห็นว่าเวลานี้คนตรงหน้าเธอกลายเป็นทาวัตไปเสียแล้ว ส่วนอิงดาวถูกสายตาเย็นเยียบของท่านประธานที่ส่งมาทำให้ต้องยอมเลี่ยงออกไป ทาวัตกำลังยกสองมือขึ้นกอดอกและมองดูเธอที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาด้วยสายตาเกียจคร้าน แม้ว่าจะเป็นแค่การนั่งธรรมดาๆแต่ท่าทางของเขาก็แฝงไปด้วยความสง่างามตั้งแต่เกิด ให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นเทพองค์หนึ่งที่สามัญชนอย่างพวกเธอไม่กล้าหลบหลู่ ”ท่าน ท่านประธาน?” วรินทรจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ก็ไหนอิงดาวบอกกับเธอว่าแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยลงมากินอาหารที่นี่ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ ทาวัตขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ดวงตาของเขาเย็นชาขึ้นทำให้วรินทรตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับตัว ผู้คนรอบข้างถูกเลขาของทาวัตไล่ออกไปจนหมด เวลานี้ทั้งห้องอาหารเหลือเพียงแค่เธอกับเขาแค่สองคน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกพักเที่ยงเธอจะต้องไปหาฉันที่ห้องอาหารของโรงแรมฮวงเซิงสากลที่อยู่ชั้นสอง”ทาวัตจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นแต่มันก็แอบแฝงไปด้วยด้วยความนุ่มนวลอยู่ในนั้น “ไปทำไมคะ”วรินทรถามขึ้นอย่างอดไม่ได้แม้ว่าจะรู้ว่าบางทีทาวัตอาจจะไม่ยอมบอกเธอก็ตาม “หากเธอมาช้าหรือไม่ยอมมานั่นก็เป็นความเสี่ยงที่เธอเลือกเอง”ทาวัตไม่คิดจะตอบคำถามเธออย่างที่คิด เมื่อเขาพูดธุระของตัวเองจบก็เดินจากไปพร้อมเลขาประจำตัวของเขา วรินทรนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้นนานสองนานจึงจะเริ่มตั้งสติได้ หญิงสาวใช้ตะเกียบของตนทิ่มเข้าไปในชามข้าวของตนเองอย่างแรงราวกับกำลังระบายอารมณ์ ทำไมเธอถึงเป็นคนไร้ศักดิ์ศรีอย่างนี้นะ เอาแต่ปล่อยให้เขาเจ้ากี้เจ้าการสั่งนู่นสั่งนี่อยู่นั่น เมื่อกลับมาถึงแผนก นอกจากอมันด้าที่ยังไม่กลับเข้ามาแล้วทั้งอิงดาวและนวีนต่างก็กลับมากันแล้ว วรินทรเห็นว่าพวกเขาสองคนจ้องมาที่เธออย่างสำรวจปนอยากรู้อยากเห็น เธอก็ถามขึ้นอย่างสงสัย “ทำไมหรือ” อิงดาวปรายตามองไปที่ประตูอย่างรวดเร็วราวกับดูต้นทาง นวีนก็หรี่ตามองเธออยากจับผิด “รีบบอกมาเดี๋ยวนี้ว่าทำไมท่านประธานถึงต้องเจาะจงลงไปที่ห้องอาหารหาเธอด้วย พวกเธอสองคนรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม” เหงื่อของวรินทรแตกพลั่กรีบปฏิเสธออกไปทันที เธอไม่อยากให้พวกเขาคิดว่าที่เธอได้ทำงานที่นี่เป็นเพราะใช้เส้นสายของทาวัตช่วยจึงเข้ามาทำงานที่บริษัท CR กรุ๊ปได้เพราะมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหายได้ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงภาพพจน์ของเธอด้วย “พวกเธอคิดมากไปแล้ว ท่านประธานก็แค่ห่วงใยถามไถ่พนักงานใหม่ตามมารยาทก็เท่านั้น” วรินทรเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะป้อนรหัสเข้าเครื่องพร้อมกับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ ตั้งแต่พวกเราทำงานที่นี่มาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเห็นท่านประธานใส่ใจพนักงานที่นี่เลยสักคน วันนี้แค่เห็นท่าทีของท่านประธานก็มองออกได้ทันทีว่าพวกเธอสองคนต้องรู้จักกันมาก่อนอย่างแน่นอน ตอนนี้เรื่องของเธอกับท่านประธานเมื่อช่วงเที่ยงแพร่กระจายไปทั้งบริษัท CR กรุ๊ปแล้วล่ะ” “ได้เวลาทำงานแล้วล่ะ!”วรินทรก้มหน้าก้มตาวาดร่างแบบในกระดาษสีขาวบนโต๊ะทำงานราวกับตั้งใจนักหนา อิงดาวและนวีนสบตากันกันก่อนจะยักไหล่แล้วก็แยกย้ายกันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง แม้ว่าวรินทรจะวาดแบบออกมาได้ไม่เร็วนัก แต่ความคิดและจินตนาการของเธอก็หลั่งไหล่เข้ามาในสมองเธออย่างต่อเนื่อง “ว้าย! ขอโทษจริงๆนะคะ ฉันไม่ระวังเผลอสะดุดทำน้ำหกใส่คุณเสียได้”หูของเธอได้ยินเสียงแหลมของอมันด้าที่แสร้งทำเป็นขอโทษขอโพยเธอทั้งๆที่เสียงของหล่อนเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยสะใจ วรินทรมองกระดาษร่างแบบของตนที่ตอนนี้ถูกน้ำหกเลอะจนภาพมันเบลอไปหมด เธอรู้สึกราวกับถูกอีกฝ่ายตีแสกหน้าก็ไม่ปาน “ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ คงต้องรบกวนให้คุณวาดมันใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ แต่เวลาก็เหลืออยู่ไม่เยอะแล้วด้วยสิ ท่าทางวันนี้คุณคงต้องอยู่ทำโอทีแล้วล่ะค่ะ”นัยน์ตาของอมันด้าวาววับเต็มไปด้วยพิษสง มุมปากกระตุกยิ้มชั่วร้าย วรินทรกระตุกยิ้มก่อนจะหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะทำงานของเธอสาดไปที่อมันด้า เมื่อสาดน้ำเสร็จวรินทรก็แกล้งทำเป็นมองอีกฝ่ายอย่างตกอกตกใจ“ว้าย ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เมื่อครู่มือของฉันลื่นน่ะค่ะ เลยเผลอทำน้ำกระเด็นใส่หน้าคุฯเสียนี่ ดูแล้ว คงต้องรบกวนคุณไปแต่งหน้าใหม่แล้วล่ะค่ะ” เมื่อพูดจบวรินทรก็ยังคงตีสีหน้าใส่ซื่อราวกับว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ อิงดาวและนวีนมองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าต่างก็กลั้นขำไม่กล้าส่งเสียงออกมา ปกติมีแต่อมันด้าที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาเห็นว่าอมันด้าถูกคนอื่นเอาคืน! ความรู้สึกนี้ บอกได้คำเดียวเลย สะใจ! ถ้าน้ำที่วรินทรสาดออกไปเป็นเพียงแค่น้ำเปล่าจะไม่เป็นอะไรเลย แต่นี่น้ำที่เธอสาดดันเป็นนมเสียนี่ ตอนนี้ขนตาปลอมของอมันด้าหลุดออกมาติดอยู่ที่ใบหน้าที่เครื่องสำอางค์เริ่มเปรอะเปื้อน น้ำนมสีขาวยังคงไหลลงมาจากผมของเธอเรื่อยลงมาถึงใบหน้าประกอบกับบลัชออนสีแดงของเธอที่เริ่มเลอะไปทั่วหน้า มันช่างน่าอายจริงๆ “เธอ เธอกล้าสาดนมใส่หน้าฉันหรือ!”อมันด้ามองวรินทรด้วยสายตาอาฆาตแค้นก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นตบหน้าวรินทรหนึ่งฉาด วรินทรมีหรือจะยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียว ไหนๆเธอก็มีปัญหากับอีกฝ่ายไปแล้วเธอก็ไม่มีวันยอมเป็นฝ่ายถูกรังแกแต่เพียงผู้เดียวแน่นอน 
已经是最新一章了
加载中