ตอนที่23 ผมจะไปส่ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่23 ผมจะไปส่ง
ต๭นที่23 ผมจะไปส่ง วรินทรไม่ใช่หญิงสาวผู้อ่อนแอที่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้งอยู่แล้ว! เธอมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะตวัดฝ่ามือเข้าที่หน้าอมันด้าอย่างแรง อมันด้าที่ตั้งหลักไม่ทันถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นสภาพอนาถ “กรี้ด!”อมันด้าไม่รู้ว่าการตบฉาดนี้จะทำให้จมูกที่ทำมาอย่างดีของเธอเบี้ยวหรือเปล่า อิงดาวและนวีนหัวเราะออกเสียงดังมาอย่างไม่อาจกลั้นได้อีกต่อไป วรินทรปัดฝุ่นที่มือทั้งสองข้าง ในใจของเธอไม่ได้รู้สึกดีนักหรอกที่ทำให้อีกฝ่ายล้มลงไปแบบนั้นกลับกันเธอกลับรู้สึกสงสารอีกฝ่ายด้วยซ้ำ อมันด้าค่อยๆลุกขึ้นมาจากพื้น เมื่อเธอเห็นว่าเสื้อผ้าชุดหรูของเธอเวลานี้เลอะเทอะสกปรกไปหมดก็กัดฟันกรอดกำหมัดแน่น ดวงตาตัวดจ้องวรินทรอย่างแค้นเคือง อีกฝ่ายทิ้งท้ายคำพูด “ฝากไว้ก่อนเถอะเดี๋ยวได้รู้กัน”ก่อนจะพุ่งตัวออกไปจากแผนกทันที “เก่งจังเลยวรินทร!”อิงดาวมองหน้าวรินทรอย่างเคารพนับถือ เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ หัวใจเธอก็มีความสุขจนแทบล้นปรี่ออกมา! วรินทรไม่มีความสุขแม้แต่นิดเดียว งานของเธอที่นั่งวาดแบบอยู่ตั้งนานเละไปหมดแล้ว “แบบร่างต้องส่งมอบให้หัวหน้าพรุ่งนี้เช้าแล้วด้วย อีกอย่างหัวหน้าธนชาติน่ะขึ้นชื่อเรื่องความโหดสุดๆไปเลย เอาอย่างนี้สิคนสวย เดี๋ยวพวกเราสองคนอยู่ช่วยเธอก่อนดีไหม”นวีนมองภาพที่ถูกน้ำหกจนเลอะไปหมดก็รู้สึกเสียดาย วรินทรยิ้มออกมาแบบไม่คิดอะไร“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจัดการได้สบายมาก พวกเธอทำงานเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลย ฉันทำงานเร็วอยู่แล้วล่ะ” “ไม่ต้องการให้เราอยู่ช่วยจริงหรือ”อิงดาวถามอย่างเป็นห่วง งานชิ้นนี้เธอเห็นวรินทรใช้เวลาร่างแบบอยู่นานทั้งวันเลยนะ อมันด้าช่างเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริงๆ! “ไม่เป็นอะไรจริงๆ ฉันทำได้คนเดียวสบายมาก”วรินทรหลุบตาลงกัดริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะหยิบกระดาษใบใหม่ขึ้นมาจากลิ้นชัดและเตรียมจะลงมือวาดแบบร่างใหม่อีกครั้ง อิงดาวและนวีนเห็นว่าเธอยืนกรานเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อถึงเวลาเลิกงานทั้งสองคนก็ออกจากแผนกไป การออกแบบครั้งแรกมักจะสื่อความรู้สึกของผู้ร่างออกมาได้แทบจะทั้งหมด แต่พอจะให้เธอมาเริ่มทำมันใหม่อีกครั้งเธอก็ไม่มีความรู้สึกแบบเดิมอีกแล้วนี่สิ วรินทรไม่มีแรงบันดาลใจเกิดขึ้นเสียแล้ว เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ วรินทรโทรศัพท์หากวินเพื่อไม่ให้ลูกชายของเธอเป็นห่วงก่อนจะเริ่มตั้งสมาธิให้ใจจดใจจ่อกับงานตรงหน้าอีกครั้ง “ท่านประธานครับ ได้เวลาแล้วจะไปเลยไหมครับ”เลขานิธูรถามพลางวางแฟ้มงานในมือลงบนโต๊ะทำงานของทาวัต ทาวัตนวดขมับบรรเทาความปวดก่อนจะเหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่าเวลานี้ใกล้จะหกโมงครึ่งแล้ว หากไม่ได้ทำโอทีแล้วล่ะก็พนักงานส่วนใหญ่ก็คงเดินทางกลับบ้านกันหมดแล้วสินะ เธอเองก็คงเหมือนกัน เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะโบกมือไล่ เลขานิธูรพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานท่านประธานอย่างนอบน้อม หลังจากที่ทาวัตนั่งเงียบๆอยู่สักพัก เขาก็เอื้อมมือไปปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะแล้วยืนขึ้นหยิบเสื้อนอกที่พาดไว้จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป ตกกลางคืน แสงไฟในตึกก็ค่อยๆดับลงไปทีละชั้นจนสุดท้ายเหลือเพียงแค่ชั้นที่วรินทรทำงานอยู่ เท่านั้นที่ยังเปิดไฟไว้สว่างจ้า ตอนที่เดินเข้ามาในลิฟต์ทาวัตตั้งใจจะกดลงไปชั้นหนึ่ง แต่เผลอแปปเดียวมือของเขาดันไปกดลิฟต์ชั้นสิบสองที่วรินทรทำงานเสียได้ ชายหนุ่มเหลือบมองตัวเลขบนแผงลิฟต์ด้วยใจเต้นระรัว เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย นัยน์ตาสีดำเป็นประกายเย็นเยียบแวบหนึ่งก่อนจะค่อยๆกลับมาเป็นปกติ เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นสิบสอง ทาวัตก็เดินออกมาจากลิฟต์ตรงไปที่แผนกออกแบบ วรินทรวางดินสอลงก่อนจะบิดกายขับไล่ความขบเมื่อย เมื่อปรายสายตาไปที่แผ่นกระดาษบนโต๊ะ ด้วยความเร็วระดับนี้กว่าเธอจะได้กลับถึงบ้านก็คงจะเกือบสามทุ่มเลยมั้ง บรรยากาศยามค่ำคืนค่อนข้างจะหนาวเย็น บานหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ก็มีสายล่มเย็นพัดเข้ามาเอื่อยๆ เย็นจนเธอถึงกับขนลุกชูชัน แต่เธอก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเดินไปปิดหน้าต่าง อีกอย่างแบบร่างของเธอก็ใกล้เสร็จแล้วด้วย ระหว่างที่หญิงสาวนั่งตัวสั่นอยู่นั้นก็มีเสื้อสูทคลุมมาบนร่างของเธอ จมูกของเธอได้กลิ่นมิ้นท์จางๆของใครบางคนที่แสนคุ้นเคยลอยเข้ามา วรินทรวางปากกาในมือก่อนจะเงยหน้ามองผู้มาใหม่ ทาวัต! เขากอดอกยืนจ้องเธออยู่เหนือเธอ แสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามายังชายหนุ่มทำให้ใบหน้าเขาดูนุ่มนวล นัยน์ตาคมของเขาดูลุ่มลึกขึ้นจนคนมองไม่ออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ แต่วรินทร์มองเห็นความอ่อนโยนบนใบหน้าของเขา “ท่านประธาน”วรินทรร้องเรียกเขาออกมาก่อนจะรีบร้อนลุกขึ้น เขาต้องเลิกงานกลับบ้านไปแล้วสิถึงจะถูก มาทำอะไรที่นี่กัน? สีหน้าของทาวัตเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีราวกับใบหน้าอ่อนโยนที่เธอเห็นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาอย่างไรอย่างนั้น เขาส่งเสียงฮึขึ้นจมูกก่อนจะเหลือบไปเห็นแบบร่างของเธอบนโต๊ะจึงเอ่ยถามเสียงเย็น“ยังทำงานไม่เสร็จ?” “ค่ะ”วรินทรยืนเกร็ง เธอไม่รู้ว่าควรวางสายตาไว้ตรงไหนดีจึงเลือกที่จะก้มหน้าก้มตาจ้อง ปลายเท้าของตัวเองแทน ทาวัตปรายตามองจนหยุดสายตาอยู่ที่ถังขยะข้างโต๊ะทำงานของเธอ ในนั้นมีกระดาษอยู่หลายใบซึ่งอาจจะเป็นงานที่หญิงสาวทำพลาดแล้วเจ้าตัวโยนลงถังขยะเอง แต่เมื่อมองพิจารณาดูดีๆแล้วเหมือนกับว่ามันถูกน้ำหกใส่จนใช้การไม่ได้มากกว่า “ทำงานของเธอต่อเถอะ” วรินทรมองตามชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัวจนกระทั่งร่างสูงของเขาเดินไปนั่งตรงโซฟาที่อยู่อีกด้านหนึ่ง แต่ครู่เดียวเท่านั้นเธอก็เลือกที่จะพับเก็บความสงสัยในใจก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับงานบนโต๊ะต่อ แบบยังวาดได้ไม่ถึงครึ่งเธอก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องอยู่ข้างหลังเธอ ไม่ต้องเสียเวลาคิดคนคนนั้นจะต้องเป็นทาวัตอย่างไม่ต้องสงสัย วรินทรถูกสายตาของเขาจ้องเสียจนเธอวางตัวไม่ถูก ในที่สุดหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นหันกลับไปมองเขา แต่ก็เห็นว่ามือของเขากำลังกางหนังสือพิมพ์พร้อมกวาดสายตาอ่านราวกับมีเรื่องน่าสนใจเสียเต็มประดา ตาของชายหนุ่มไม่ได้หันไปมองที่อื่นเลยด้วยซ้ำ วรินทรขมวดคิ้วงุนงงหรือเธอจะคิดไปเองนะ แล้วเธอก็ก้มหน้าทำงานต่อไป ทาวัตเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์มองตรงไปยังวรินทรที่ง่วนอยู่กับการทำงาน ชายหนุ่มค่อยๆยิ้มออกมาช้าๆ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศอึดอัดที่เกิดขึ้นทำให้วรินทรทำงานเสร็จในเวลาไม่ถึงสองทุ่มครึ่ง หลังจากจัดการโต๊ะทำงานเสร็จเรียบร้อย เธอก็ลุกขึ้นยืดบิดกายไล่ความขบเมื่อย แล้วจู่ๆเธอก้ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี อีกด้านหนึ่งทาวัตก็ยังคงอ่านหนังสือพิมพ์อย่างตั้งอกตั้งใจ วรินทรตั้งใจจะเอ่ยลาเขาสักคำแล้วค่อยออกจากแผนกไป แต่เมื่อเห็นว่าเขากำลังมีสมาธิใจจดใจจ่อกับหนังสือพิมพ์ตรงหน้าก็ไม่กล้ารบกวน เกิดเขาโมโหขึ้นมาแล้วเธอซวยแน่ “หากท่านประธานโกรธขึ้นมาทุกคนทั้งบริษัทต่างก็ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น”จู่ๆเธอก็เกิดนึกถึงคำพูดเมื่อเช้าของธนชาติขึ้นมาได้ วรินทรจึงยืนลังเลอยู่นานอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี ทาวัตแอบเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ลอบมองหญิงสาวชื่อวรินทร นัยน์ตาคมเข้มเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาจะคอยดูว่าวรินทรจะยืนเก้ๆกังๆไปจนถึงเมื่อไหร่ นาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้ใกล้จะสามทุ่มเข้าไปทุกทีแล้ว วรินทรย่นคิ้วมองไปทางทาวัต ชายหนุ่มรีบถอนสายตาก้มลงไปมองหนังสือพิมพ์ทันที สวมบทบาทว่าตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์เต็มที่ “ท่านประธานคะ ตอนนี้สามทุ่มแล้วนะ” วรินทรพูดขึ้นอย่างกังวลเล็กน้อย “อืม” ทาวัตเออออกับคำพูดของเธอก่อนจะทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ในมือต่อไป “คุณไม่กลับบ้านหรือคะ” วรินทรเห็นใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยก็รู้สึกร้อนรนมากขึ้น ทาวัตมีหรือจะไม่เข้าใจความหมายของเธอ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย หรือว่าเพราะมีคนรอกลับบ้านพร้อมเธอ หญิงสาวจึงดูร้อนรนแบบนี้ ในใจของเขารู้สึกคันยุบยิบขึ้นมา ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ในมือลงก่อนจะยืนเต็มความสูงและเดินออกไปทางประตู“ไปกันเถอะ” วรินทรรู้สึกโล่งใจในทันใด เธอนำแบบร่างที่วาดเสร็จแล้วยัดใส่กระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งตามเขาออกไป ภายในลิฟต์ ทาวัตยืนกอดอกเงียบๆ เธอไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ วรินทรแอบมองหลังของเขาตลอดเวลาที่อยู่ในลิฟต์ก่อนจะผุดรอยยิ้มขมขื่นออกมา เขาเป็นพ่อแท้ๆของกวิน ความลับข้อนี้ต่อให้ตายเธอก็จะไม่ยอมให้รั่วไหลออกมาเป็นอันขาด ติ๊ง! ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างแล้ว “ลาก่อนค่ะ ท่านประธาน”วรินทรพูดจบก็เดินนำออกจากลิฟต์ไปก่อนเลย ทาวัตดึงข้อมือของเธอไว้“เดี๋ยวผมไปส่ง”จากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรแปลกๆออกไปจึงเอ่ยออกมาต่อ“ตอนนี้ดึกมากแล้ว รถโดยสารคงหมดแล้วล่ะ” 
已经是最新一章了
加载中