​ตอนที่31 ตกปลาสองร้อยห้าสิบตัว   1/    
已经是第一章了
​ตอนที่31 ตกปลาสองร้อยห้าสิบตัว
ต๭นที่31 ตกปลาสองร้อยห้าสิบตัว คนคนนี้ใส่เสื้อสีดำทั้งตัว ใบหน้าของเขาที่สวมใส่แว่นกันแดดทำให้ปิดบังใบหน้าเกือบครึ่ง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังสัมผัสถึงความเย็นชาจากคนตรงหน้าได้อยู่ดีอีกทั้งบรรยากาศรอบๆตัวของเขาพาลให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก แค่เห็นแวบแรกวรินทรก็รู้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือปกเกศ ถ้าเธอจำไม่ผิดผู้ชายคนนี้เคยเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของทาวัตมาก่อน แต่ก่อนวรินทรเคยเห็นหน้าเขามาก่อนสองถึงสามครั้ง ดวงตาของวรินทรที่สว่างเป็นประกายยินดีทำให้ปกเกศรู้สึกเย็นสังหลังวาบ! “ฉันกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยค่ะ เมื่อครู่ฉันเห็นว่ามีบ่อเลี้ยงปลาอยู่ตรงนั้น พวกเรามาเล่นพนันกันเถอะ ใครแพ้ต้องโดนลงโทษ!” ปกเกศเม้มริมฝีปากแน่น! “ครับ”เขาได้แต่พยักหน้าอย่างจนปัญญา หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะแข่งกันจับปลาในบ่อ แต่ว่าเธอคงไม่คิดจะลงไปจับปลาถึงในบ่อจริงๆหรอกนะ? พวกเขาทั้งสองคนเดินมาถึงข้างบ่อปลาเจ้าปัญหาพร้อมอุปกรณ์จับปลาในมือก่อนจะลงมือจับปลากันอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงช่วงเวลายามเย็นท้องฟ้าเริ่มกลับกลายเป็นสีส้มพระอาทิตย์เริ่มตกลงไปในทะเลสาบช้าๆ ในใจของวรินทรรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ ปลาในถังของปกเกศล้วนแต่เป็นตัวใหญ่ แต่ในถังของเธอมีแต่ปลาตัวเล็กเท่านิ้วก้อยว่ายไปมาอย่างโดดเดี่ยวเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น มือที่จับคันเบ็ดตกปลาอยู่ก็เมื่อยไปหมดแล้ว แต่เมื่อมาคิดดูปลาที่แพงขนาดนี้ระดับความฉลาดคงอยู่เหนือปลาทั่วไปล่ะมั้ง นอกจากหน้าที่ต้องเสียไปเธอก็ไม่อยากเสียเงินเพิ่มหรอกนะ วรินทรเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม อีกไม่นานทาวัตก็คงกลับมาแล้ว ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ เธอเหลือบมองไปที่ปกเกศที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาตกปลาไปเรื่อยๆแบบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เธอจึงแอบเอาถังน้ำที่ใส่ปลาของอีกฝ่ายเทกลับไปในบ่อทันที จากนั้นหญิงสาวก็ตบมือแปะแปะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันกลับไปมองทาวัตที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงเอ่ยทักเบาๆ“ท่านประธาน” วรินทรนั่งยองๆอยู่ที่พื้นหลบสายตาของชายหนุ่มที่จ้องมาที่เธอ ปกเกศมองดูท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนของวรินทรตาปริบๆ “ได้ยินว่าพวกคุณสองคนกำลังแข่งกันอยู่หรือ”มือทั้งสองข้างของทาวัตล้วงอยู่ที่กระเป๋ากางเกง ดวงตาคมจ้องมองท่าทางของวรินทรอย่างสบายๆ “ค่ะ”วรินทรพยักหน้า รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าดูสดใส “ใครชนะล่ะ ทาวัตถามยิ้มๆ “ท่านประธานก็มาดูเองสิคะ! นี่คือถังของฉัน ส่วนนั้นของปกเกศ”วรินทรชี้ไปที่ถังน้ำของเธอและของปกเกศหน้าตาย “คุณวรินทรชนะ ผมแพ้ครับ”ไม่รอให้ทาวัตตัดสิน ปกเกศรีบก้มหน้ายอมแพ้วรินทรแต่โดยดี “ถ้าแพ้แล้วต้องโดนลงโทษนะคะ! เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ”วรินทรจ้องมองอีกฝ่ายเขม็งก่อนยิ้มออกมาอย่างร่าเริง “ครับ”จู่ๆปกเกศก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไหร่นัก ทาวัตเองก็ยิ้มกว้างยามมองไปที่ใบหน้าร่าเริงของอีกฝ่าย รอยยิ้มของวรินทรเป็นเหมือนโรคติดต่อที่ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกอยากยิ้มตามขึ้นมา เพราะงั้นเมื่อทาวัตมองเห็นรอยยิ้มนั้นของเธอจึงอดยิ้มตามขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “เบาใจหน่อย! ฉันก็ไม่ทำให้คุณลำบากใจแน่นอน แค่ตกปลาให้ได้สองร้อยห้าสิบตัวก็พอแล้วค่ะ”วรินทรยิ้มออกมาอย่างซุกซน ปกเกศแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อได้ยินจำนวนปลาที่ต้องตก แบบนี้ไม่เท่ากับว่าเธอจงใจแกล้งเขางั้นหรือ? “ปกเกศ ถ้าตกไม่ครบไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้านะ”ทาวัตเอ่ยกับปกเกศแบบไม่เห็นใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงร่างเล็กของวรินทรให้ลุกขึ้นและเดินจูงมืออีกฝ่ายกลับเข้าคฤหาสน์ วรินทรลอบมองมือบางของตัวเองที่ตกอยู่ในอุ้งมือใหญ่ของทาวัตก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อครู่ของเธอเปลี่ยนเป็นความวิตกกังวลและตกใจในทันที เมื่อครู่เธอทำอะไรไปนะ? หญิงสาวมองมือของเขาและของเธอที่ประสานกันนิ่งๆ เมื่อลองคิดดูแล้วการที่เธอรังแกคนของเขาเมื่อครู่เหมือนว่าเธอกำลังล้ำเส้นล่วงเกินเขาไหมนะ วรินทรก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง แต่ในสายตาของเขาเธอดูคล้ายกับเด็กตัวเล็กๆที่ทำความผิดเสียมากกว่า “ก้มหน้าก้มตาทำไม มากินข้าวได้แล้ว”วันนี้ทาวัตอารมณ์ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ในยามปกติคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถูกอาบด้วยแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้ามักจะทำให้รู้สึกถึงความโดดเดี่ยวอ้างว้างแต่ในวันนี้กลับต่างออกไปจากทุกที แสงแดดสีส้มในวันนี้กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นในใจของใครบางคน วรินทรยังคงยืนเก้ๆกังๆอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งป้าฉายเดินมาสะกิดเธอ หญิงวัยกลางคนส่งสายตาราวกับบอกให้เธอมานั่งที่ได้แล้ว วรินทรจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้อย่างว่าง่าย โต๊ะกินข้าวยาวมากโดยมีทาวัตนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะส่วนเธอนั่งอยู่ด้านขวามือของเขาทำให้ระยะห่างของทั้งคู่ใกล้ชิดกันมาก ใกล้เสียจนเธอได้กลิ่นมิ้นท์จางๆที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาได้เลยทีเดียว ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อขึ้นมาด้วยความเขินอาย วรินทรแอบลอบมองชายหนุ่มข้างกาย หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่ากวินได้ใบหน้าแบบนี้มาจากเขามากถึงเจ็ดแปดส่วน ว่าแต่ว่าเวลานี้กวินน้อยของเธอกำลังทำอะไรอยู่นะ? ด้านกวิน เด็กชายถือโอกาสที่สองวันนี้วรินทรไม่กลับบ้านโทรไปยังเบอร์ที่ถูกเขียนไว้ในกระดาษแผ่นเล็กที่เขาเจอมันฝังอยู่ในจี้ ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็จิ้มนิ้วป้อมๆลงกับแป้นพิมพ์แล็ปท็อป เพียงแต่เมื่อเขาโทรไปยังเบอร์โทรนั้นเพียงไม่นานมันก็ถูกสายปลายทางตัดสายทิ้งแทบจะทันที เด็กชายกวินมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มืดสนิทด้วยสีหน้างงงวย ดวงตากลมโตหันกลับมาจ้องหน้าจอแล็ปท็อปอย่างรวดเร็ว บนหน้าจอขึ้นเพียงข้อมูลบางส่วนจากเบอร์โทรศัพท์เมื่อครู่เท่านั้น แต่เมื่อลองนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้มารวบรวมเข้าด้วยกันเด็กชายก็พบว่าปลายสายอยู่ที่บ้านเก่าๆทางแถบตะวันตกที่แทบจะไม่มีใครรู้จัก ดูเหมือนจะเป็นที่หลบซ่อนเสียมากกว่า คนคนนั้นมีความระมัดระวังรอบคอบใช้ได้เลยทีเดียว เด็กชายกวินปิดแล็ปท็อปในมือเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ยังคงมืดสนิท ทันใดนั้นจู่ๆร่างป้อมก็กระโดดลุกขึ้นจากโซฟาวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว “หนูน้อย สถานที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักหรอกนะ ทำไมถึงมาคนเดียวได้ล่ะ แม่ของหนูไปไหนแล้วล่ะ?”รถแท็กซี่จอดห่างจากบ้านเก่าหลังหนึ่งเล็กน้อย คุณลุงขนขับรถเห็นบรรยากาศรอบบ้านหลังเก่าก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา เด็กชายกวินที่นั่งเรียบร้อยอยู่บนเบาะหลังคนขับเอ่ยขึ้น“อีกเดี๋ยวมามี้กับแดดดี้ของผมก็มาเจอกันที่นี่แล้วฮะ เด็กตัวเล็กๆอย่างผมมาที่นี่ต้องไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว แต่โชคดีที่แดดดี้ของผมสนิทกับคุณลุงตำรวจหลายคน มีแดดดี้คอยปกป้องผมอยู่ ผมไม่กลัวหรอกฮะคุณลุง” คำพูดนุ่มนวลไร้เดียงสาของเด็กน้อยทำให้คนฟังอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ คุณลุงขนขับรถเชื่อคำพูดของหนูน้อยหมดใจไม่คิดจะถามอะไรเพิ่มเติมอีก “นี่เงินฮะคุณลุง”เด็กชายกวินหยิบเงินร้อยหนึ่งออกมาจากกระเป๋า จำนวนเงินพอดิบพอดีไม่มากเกินหรือน้อยเกินไปจากนั้นร่างป้อมก็เปิดประตูและลงจากรถไป เมื่อจ่ายตังค์ลงไปจากรถเรียบร้อยแล้วเด็กน้อยก็ยืนส่งจนรถแท็กซี่คันนั้นไกลออกไปเรื่อยๆ เด็กชายกวินก็หันกายเดินไปทางทิศที่บ้านเก่าหลังนั้นตั้งอยู่ เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่าทึบไม่นานเท่าไหร่ เด็กชายกวินก็พบว่ามีบ้านหลังหนึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ บ้านหลังนี้ไม่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่รอบๆ ดูเหมือนไร้ผู้คนอาศัย แต่ในใจของกวินกลับรู้สึกว่าต้องมีใครบางคนอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้แน่นอน มือป้อมๆของเด็กชายปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามเสื้อผ้าเล็กน้อยก่อนจะกระชับกระเป๋าที่สะพายอยู่และเดินเข้าไปในบ้านเก่าทันที เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นจากชั้นล่างทำให้หลายๆคนที่หลบซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองลอบมองผู้มาใหม่อย่างเด็กชายกวินผ่านทาง กล้องวงจรปิดรู้สึกเหลือเชื่อและตกใจอย่างมาก พวกเขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่แอบเข้ามาในบ้านจะเป็นเพียงแค่เด็กชายตัวเล็กๆเพียงคนเดียว! ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสากวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างสนอกสนใจ ทำให้คนที่ซ่อนกายอยู่บนชั้นสองลอบถอนหายใจพลางหันมามองหน้ากัน จนกระทั่งพวกเขากันกลับมาดูภาพในกล้องวงจรปิดอีกครั้งก็พบว่าเด็กชายตัวเล็กๆเมื่อครู่หายไปจากจอภาพเสียแล้ว! พวกเขาเบิกตากว้างอย่างตกก่อนจะรีบค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของเด็กชายตัวน้อยจากกล้อง วงจรปิดเลยสักตัว หลายๆคนในห้องต่างรู้สึกตื่นตัวและเริ่มเข้าสู้โหมดจริงจังอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาเริ่มค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดอย่าง ละเอียดอีกครั้ง ตราบใดที่ยังไม่พบแม้แต่เงาของเด็กชายคนนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าเสี่ยงออกไปข้างนอกห้องนี้อย่างแน่นอน
已经是最新一章了
加载中