ตอนที่ 36 กล้ากัดเขางั้นหรือ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 36 กล้ากัดเขางั้นหรือ
ต๭นที่ 36 กล้ากัดเขางั้นหรือ ทันใดนั้นเองเธอก็นึกอะไรบางอย่างออกก่อนจะกัดริมฝีปากของเขาอย่างแรงครั้งหนึ่ง มือบางผลักเขาออกทันที ร่างบอบบางของหญิงสอบนั่งหอบหายใจอยู่บนพื้น ทาวัตยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่ว่าวรินทรจะพยายามผลักหรือปลุกเขาแค่ไหนเขาก็ยังคงนอนนิ่งอยู่แบบนั้น วรินทรตกใจก่อนจะรีบเอานิ้วยื่นไปอังใต้จมูกเขาก่อนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขายังหายใจอยู่ เธอลุกขึ้นก่อนมองไปรอบๆ “เกศ ฉันรู้นะว่าคุณอยู่แถวนี้” ปกเกศเดินออกมาจากความมืดทั้งการแต่งกายของเขาก็ดำสนิทไปทั้งตัวทำให้บรรยากาศรอบๆตัวเขาดูเย็นเยียบไม่น่า เข้าใกล้เลยสักนิด “คุณวรินทร” “พาคุณชายของคุณกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วก็จำไว้ด้วยว่าคืนนี้ฉันไม่เคยมาที่นี่มาก่อน” วรินทรชี้นิ้วไปทางร่างสูงของทา วัตที่นอนหลับสนิทอยู่บนพื้น พากลับมา? จู่ๆปกเกศก็รู้สึกสงสารเห็นอกเห็นใจทาวัตที่นอนเมาอยู่บนพื้นหญ้าขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดก็ก็ทำได้เพียงพยัก หน้ายอมรับฟังคำสั่งแต่โดยดี ภายในคฤหาสน์เช้าวันที่สอง ทาวัตถูกแสงแดดยามเช้าส่องเข้ามารบกวนการนอนของเขาจนต้องยอมลุกขึ้นมาในที่สุด พอดีกับที่ป้าฉายเดินเข้ามาใน ห้องของชายหนุ่มพอดี “คุณชายตื่นแล้วหรือคะ ดื่มชาแก้เมาค้างหน่อยนะคะ จะได้ดีขึ้น” ป้าฉายเอ่ยด้วยความเคารพก่อนจะยกชามาวางไว้ที่ โต๊ะข้างๆ “วางไว้ก่อน” “ค่ะ” ป้าฉายก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะกันกายออกไปพร้อมถาดในมือ หลังจากทาวัตล้างเนื้อล้างตัวเสร็จแล้วเขาก็กลับออกมาพร้อมชุดคลุมอาบน้ำ ร่างสูงเดินไปนั่งบนโซฟากลางห้อง นิ้วเรียว ของเขาแตะเบาๆบนริมฝีปากที่ถูกกัดก่อนจะทำสีหน้าเหยเก “ปกเกศ” เขาเรียกเสียงเบา ปกเกศเดินออกมาจากความมืดก่อนจะโค้งคำนับให้เขา “คุณชาย” “เมื่อวานผมนอนที่ไหน?” ใครกันที่กัดริมฝีปากของเขา? หรือว่าเมื่อคืนหลังจากที่เขาไปสวนทรายเขาก็ไปต่อที่ทาวเวอร์บันเทิงงั้นหรือ? ทั้งยังหาเด็กมานอนด้วย? “คุณชายไปส่วนทรายมาเมื่อคืนครับแล้วก็เมามาก คุณวรนิทรก็อยู่กับคุณชายนะครับ” ปกเกศตอบไปตามความจริง อยู่ต่อหน้าทาวัตเขาไม่เคยมีความลับกับเจ้านายดังนั้นเขาจึงเลือกหักหลังวรินทรดีกว่า อยู่กับวรินทร? ก่อนที่ชายหนุ่มจะจำได้ว่าเมื่อคืนเขาโทรศัพท์เรียกวรินทรมาพบ แสดงว่าเรื่องเมื่อคืนเขาไม่ได้คิดไปเองสินะ “นายเห็นอะไรบ้าง?” ใบหน้าของทาวัตดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ปกเกศเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เขาเห็นให้ทาวัตฟังอย่างละเอียดแต่เมื่อหันมามองสีหน้าของเจ้านายหนุ่มที่ค่อยๆคล้ำลงเขา ก็ตกใจจนหยุดเล่าต่อทันที ทาวัตลูบแผลบนริมฝีปากอย่างแผ่วเบาก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา ผู้หญิงคนนี้จะใจกล้าเกินไปแล้วถึงกับกล้ากัดเขางั้นหรือ? ทั้งยังให้ปกเกศเป็นคนแบกเขากลับอีกด้วย ดี ดีมาก! หน้าบริษัท CR กรุ๊ปมีสาวร่างบอบบางเดินสง่างามลงมาจากโรลส์รอยซ์ ผู้หญิงคนนั้นก็คือวาดฝันนั่นเอง วาดฝันเดินเข้ามาในบริษัท CR กรุ๊ปโดยที่หญิงสาวไม่ได้ตรงไปขึ้นลิฟต์ทันทีแต่ร่างบอบบางของเธอกลับเดินไปที่ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์จนกระทั่งทราบว่าวรินทรทำงานอยู่ชั้นสิบสอง เธอจึงเดินไปขึ้นลิฟต์ ที่แผนกออกแบบ เนื่องจากอิงดาวป่วยเป็นไข้หวัดจึงจำเป็นต้องหยุดงานชั่วคราว นวีนเองก็ตัดสินใจลางานเพื่อไปดูแลเธอ ที่บ้าน ส่วนอมันด้าก็คอยติดตามอยู่ข้างกายธนชาตมาตลอดช่วงหลายวันมานี้ทำให้เธอเข้ามาที่แผนกน้อยครั้ง ในแผนกออกแบบที่กว้างขวางแห่งนี้จึงเหลือเพียงแค่วรินทรคนเดียวเท่านั้น ในเวลานี้วรินทรใส่หูฟังฮัมเพลง ในมือก็ถือดินสอวาดร่างแบบอย่างสบายอกสบายใจ เมื่อวาดฝันเดินผ่านประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงฮัมเพลงของวรินทร มุมปากก็กระตุกยิ้มก่อนเรียวขาที่สวมรองเท้าส้นสูงจะ ค่อยๆย่างกรายเข้าไปใกล้ ปัง! วาดฟันหยิบแฟ้มงานและกระดาษเอกสารต่างๆกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังมาก พอดีกับช่วงที่เพลงกำลัง ถูกเปลี่ยนทำให้วรินทรตกใจสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันกลับมามอง ที่แท้ก็คือวาดฝันนี่เอง “เธอมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ” วรินทรถอดหูฟังและเก็บคืนลิ้นชักก่อนจะหยิบแฟ้มและเอกสารพวกนั้นขึ้นมาจัดระเบียบ “เธอไม่รู้จริงๆน่ะหรือว่าฉันมาทำอะไรที่นี่?” วาดฝันกอดอกก่อนจะยิ้มเย็นปรายตามองอีกฝ่ายเหยียดๆ “พูดจาน่าขำไปได้ หนึ่งเธอไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของฉัน สองฉันไม่ใช่แม่ของเธอเสียหน่อยถึงได้รู้ว่าเธอเสนอหน้ามาทำอะไร ที่นี่น่ะ” วรินทรเงยหน้ามองเธอก่อนจะพูดกับอีกฝ่ายช้าๆชัดๆ วาฝันยิ้มเย็น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ปากของนังผู้หญิงคนนี้ก็ยังร้ายกาจกว่าเธอไม่เปลี่ยน “เอาแม่พรรคนั้นของเธอมาเปรียบเทียบกับคุณหนูอย่างฉันนี่นะ? คนอย่างเธอนับว่าเป็นตัวอะไรได้ล่ะ? ก็แค่ได้ชื่อว่าเป็น คุณหนูใหญ่แห่งบ้านพูลสวัสดิ์เท่านั้น เธอคิดว่าเธอยังยิ่งใหญ่เหมือนสมัยก่อนหรือไงกัน?” “เอ? แล้วคนอย่างเธอนับว่าเป็นตัวอะไรได้งั้นหรือ?” วรินทรเลิกคิ้วถามยิ้มๆ “คนอย่างฉันต้องนับเป็นตัวได้อยู่แล้ว!” วาดฝันโต้ตอบกลับทันที “ที่แท้คุณหนูรองวาดฝันก็นับเป็น ‘ตัว’ นี่เอง ฮ่าฮ่า ช่างเป็นเรื่องที่น่าขำสิ้นดี” คำพูดของวรินทรที่ตอกกลับมาทำให้คุณหนู รองอย่างเธอถึงกับกัดฟันกรอด ปะทะฝีปากกับวรินทรไม่ว่าเมื่อไหร่เธอก็เป็นฝ่ายแพ้อยู่เรื่อย เมื่อวาดฝันถูกวรินทรหลอกด่าใบหน้าก็เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว “เธอต่างหากที่เป็นตัว!” วาดฝันมองหน้าวรินทรอย่างรังเกียจก่อนจะยกฝ่ามือขึ้น วรินทรจับข้อมือของอีกฝ่ายไว้ได้ทันก่อนจะยิ้มเย็น “เธอรู้ว่าถ้ามาหาเรื่องฉันที่นี่ฉันจะไม่สามารถตอบโต้อะไรได้สินะ เสีย สติไปแล้วหรือไง? หรือว่าบ้านพูลสวัสดิ์ไม่ยอมเจียดเงินมาจ่ายค่ารักษาโรคบ้าของเธอกันแน่นะ?” “เธอ! อย่าลืมว่าเธอก็นามสกุลพูลสวัสดิ์เหมือนกัน!” วาดฝันบิดมือออกจากการเกาะกุมก่อนจะเตะเข้าที่ท้องน้อยของวรินทรอย่างไร้ความปราณี วรินทรหลบทันแต่ก็ถูกเท้าของอีกฝ่ายกระแทกเข้าที่น่องอยู่ดี วรินทรโมโหจนสติขาดผึ่ง ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหากันนักนะ? ท้ายที่สุดเรื่องราวก็จบลงด้วยการที่วาดฝันแบกใบหน้าที่บวมแดงข้างหนึ่งขึ้นไปฟ้องทาวัตถึงห้องทำงานส่วนตัว วรินทรปรบมือเล็กน้อยสองสามครั้งก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ด้านวาดฝันก็เปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของทาวัตโดยที่ ไม่บอกไม่กล่า “พี่ทาวัต!” ทาวัตขมวดคิ้ว ส่งเสียงอืมออกมาน้ำเสียงไม่ทุกข์ไม่ร้อน ในใจวาดฝันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้ที่ถูกรังแกก่อนจะเลียนแบบท่าทางของวรินทรเมื่อก่อนโดยการวิ่งไปหยุดอยู่ ตรงหน้าทาวัตก่อนจะเอ่ยเสียงออดอ้อน “พี่ทาวัตรู้ไหมคะว่าเมื่อครู่ฉันถูกพนักงานของพี่ตบหน้ามา” “งั้นหรือ? แต่ดูท่าทางของเธอที่ยังวิ่งเต้นได้แบบนี้แสดงว่าคนคนนั้นคงออกแรงไม่พอสินะ” ทาวัตยังคงก้มลงอ่านเอกสาร ในมือโดยไม่แม้แต่จะหันหน้าขึ้นมามอง “พี่ทาวัตดูหน้าของฉันสิคะ บวมขนาดนี้ฉันจะกล้าไปพบหน้าคนอื่นได้อย่างไรกัน?” วาดฝันใช้ความกล้ามากขึ้นโดยการ ปีนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานของชายหนุ่มพร้อมเอานิ้วชี้ให้อีกฝ่ายเห็นถึงใบหน้าบวมแดงของตัวเอง เธอจงใจที่จะไม่บอกให้ทาวัตรู้ว่าใครเป็นคนตบเธอก็เพียงเพราะต้องการให้ทาวัตไล่วรินทรออกเสีย ถ้าทำสำเร็จก็เท่ากับ ว่าเธอสามารถแก้แค้นวรินทรได้อย่างเจ็บแสบ ทาวัตวางปากกาในมือลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของวาดฝันที่ตอนนี้บวมแดงจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ริมฝีปากของ เขากระตุกยิ้ม ใบหน้าของวาดฝันแดงเป็นปื้น จู่ๆทาวัตก็เอ่ยคำพูดที่เหมือนใบมีดทิ่มแทงเข้าสู่หัวใจของเธออย่างแรง “ถ้าพนักงานของผมเป็นอะไรไป คุณหนูรองก็อย่าลืมจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยนะครับ” ก่อนที่ทาวัตจะก้มหน้าอ่าน เอกสารในมือต่อ คำพูดของทาวัตทำให้วาดฝันรู้สึกเจ็บเสียยิ่งกว่าตอนที่เธอถูกวรินทรตบหน้าเสียอีก “คุณรู้หรือคะว่าคนที่ตบฉันคือใคร?” ทาวัตยังคงไม่สนใจเธอ วาดฝันกัดฟันก่อนเอ่ยชื่อออกมาอย่างแค้นเคือง “วรินทร!” จู่ๆทาวัตก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเลิกคิ้วถาม “คุณบอกว่าคนที่ตบหน้าคุณคือวรินทร?” วาดฟันพยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นว่าทาวัตมองรอยตบบนใบหน้าเธอนิ่งๆในใจก็รู้สึกยินดีขึ้นมา ทาวัตแค่แค่นหัวเราะออกมาก่อนจะเอนกายพิงเบา ริมฝีปากของเขาค่อยๆผุดยิ้มขึ้นมา “วาดฝัน การที่วรินทรตบหน้าคุณ แต่คุณกลับวิ่งมาฟ้องผมนี่ ไม่รู้สึกว่ามันน่าขำไปหน่อยหรือไง” 
已经是最新一章了
加载中